เมื่อสมาร์ทโฟนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ที่ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง ค้นหาข้อมูล เล่นโซเชียลมีเดีย ถ่ายรูป บันทึกวิดีโอ ทำธุรกรรมทางการเงิน ทำให้ต้องใช้งานบ่อยและนานขึ้น แบตเตอรี่ก็ต้องมีความจุสูงขึ้น แต่ยังไงก็ยังจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมมือถืออย่างสายชาร์จที่แนวโน้มในอนาคตอาจเป็นอุปกรณ์ที่ต้องซื้อแยกต่างหาก หรือไม่ก็ซื้อมาแทนเส้นที่ชำรุด ซึ่งปัจจุบันสายชาร์จที่ใช้เริ่มเปลี่ยนมาเป็นสายชาร์จ Type-C ที่มีคุณสมบัติเด่นหลายประการเมื่อเทียบกับแบบเดิม ส่วนสายชาร์จ Type-C ยี่ห้อไหนดี และจะเลือกอย่างไรนั้นบทความนี้มีคำตอบ
สายชาร์จ Type-C ดีอย่างไร?
เริ่มต้นจากการทำความรู้จักสายชาร์จแบบนี้กันก่อนว่ามีข้อดีอย่างไรบ้างทำไมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ จึงเปลี่ยนมาใช้การชาร์จผ่านพอร์ต USB Type-C ซึ่งจุดเด่นของของสายชาร์จแบบนี้ก็คือ
1. ความเร็วในการชาร์จและถ่ายโอนข้อมูล
เรื่องแรกเลยที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของสายชาร์จ Type-C ก็คือความเร็วในการชาร์จรวมถึงการถ่ายโอนข้อมูลจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่หากเทียบกับการชาร์จแบบเดิมแล้วเร็วกว่ามาก เพราะให้กำลังไฟที่มากกว่า รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบต่าง ๆ และถือเป็นระบบการชาร์จที่เข้ากันได้กับอุปกรณ์หลากหลายประเภททั้งในปัจจุบันและอนาคต
2. เป็นระบบการชาร์จมาตรฐานใหม่รองรับอุปกรณ์หลากหลาย
สายชาร์จ Type-C จัดได้ว่าเป็นมาตรฐานใหม่ที่มาช่วยให้ระบบการชาร์จมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งอย่างที่บอกไปแล้วว่าด้วยความเร็วที่มากกว่า ถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วกว่าตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันทำให้ทางผู้ผลิตอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หูฟัง หรืออื่น ๆ หันมาใช้มาตรฐานนี้กันมากขึ้น สายชาร์จ Type-C จึงเป็นอุปกรณ์ที่ควรมีติดตัวไว้เพราะเพียงเส้นเดียวก็สามารถใช้ชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากมายหลายอย่างด้วยกัน
3. ความปลอดภัยที่สูงกว่า
การใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เรื่องของความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง ซึ่งสายชาร์จ Type-C นั้นเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่แม้จะรองรับกำลังไฟที่สูง ชาร์จและถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว แต่ก็มีปัญหาความร้อนที่น้อยกว่า มีความเสถียรสูง หรือบางรุ่นยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยในการจัดการกำลังไฟอัตโนมัติเพื่อให้เหมาะสมกับอุปกรณ์แต่ละประเภทอีกด้วย
4. ใช้ได้กับสินค้าจากผู้ผลิตแทบทุกแบรนด์
ข้อดีอีกอย่างของสายชาร์จ Type-C ก็คือไม่ว่าคุณจะใช้อุปกรณ์จากค่ายไหนทั้ง Samsung, HUAWEI, Oppo, Vivo, Redmi, Xiaomi, Realme หรืออื่น ๆ ก็สามารถใช้ด้วยกันได้หากเป็นพอร์ต USB Type-C รวมถึงรองรับได้ครบทุกช่วงราคาตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับเรือธงของแต่ละค่าย พกเส้นเดียวชาร์จได้แทบทุกยี่ห้อเลยล่ะ
วิธีเลือก สายชาร์จ Type-C ยี่ห้อไหนดี
รู้ข้อดีของ สายชาร์จ Type-C กันไปแล้ว คราวนี้เรามาดูเคล็ดลับดี ๆ กันว่าควรที่จะพิจารณาเรื่องใดบ้างในการเลือกสายชาร์จ Type-C ยี่ห้อไหนดีเพื่อเอาไว้ใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจ
1. เลือกสายชาร์จ Type-C ของแท้
ข้อแรกเลยที่สำคัญมาก ๆ ในการพิจารณาเลือกสายชาร์จ Type-C ก็คือควรเลือกใช้ของแท้ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 แบบก็คือ สายแท้จากผู้ผลิตโดยตรง เช่น สายชาร์จ Samsung, สายชาร์จ Oppo หรือสายชาร์จ OnePlus เพราะถูกผลิตขึ้นมาให้มีความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ของยี่ห้อหรือรุ่นนั้น ๆ มากที่สุด มีกำลังไฟที่เหมาะสม มีเทคโนโลยีเฉพาะที่ช่วยให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย ส่วนอีกแบบก็คือสายชาร์จจากผู้ผลิตรายอื่นที่ได้มาตรฐาน เช่น AUKEY, UGREEN หรือ eloop เป็นต้น โดยควรเลี่ยงสายชาร์จปลอมหรือราคาถูกเกินไป เพราะไม่คุ้มเลยหากนำมาใช้แล้วทำให้เครื่องชำรุดตามมา
2. เลือกจากเทคโนโลยีและความเร็วในการชาร์จ
สายชาร์จ Type-C ในปัจจุบันมักมากับความเร็วในการชาร์จและเทคโนโลยีที่แตกต่างกันออกไป โดยขึ้นกับกำลังวัตต์และกระแสไฟฟ้า เช่น 5V/6A (30 W) ที่ให้ความเร็วในการชาร์จค่อนข้างสูง ซึ่งเทคโนโลยีในการชาร์จนั้นก็จะมีชื่อเรียกและคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เช่น SuperVOOC Charge, SuperCharge, Warp Charge, Quick Charge, Power Delivery (PD), Turbo Charge, Adaptive Fast Charging เป็นต้น แต่ละแบบก็จะให้กำลังไฟและความเร็วในการชาร์จรวมถึงการถ่ายโอนข้อมูลที่แตกต่างกันออกไป
3. เลือกจากอินเตอร์เฟสหรือพอร์ตการเชื่อมต่อ
สายชาร์จ Type-C ที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน หากสังเกตให้ดีหลัก ๆ จะมี 2 แบบด้วยกันคือ สายชาร์จแบบ USB Type-A to USB Type-C ที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรืออื่น ๆ ที่เป็นพอร์ตแบบเก่าได้ แต่ความเร็วในการชาร์จและถ่ายโอนข้อมูลจะต่ำกว่า มีราคาถูกกว่า กับอีกแบบคือสายชาร์จแบบ USB Type-C to USB Type-C ที่รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ รวมถึงชาร์จและถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วกว่าด้วย ราคาก็ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีการชาร์จว่ารวดเร็วมากน้อยแค่ไหน
4. เลือกจากความยาวของสาย
ความยาวของสายชาร์จ Type-C ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เราต้องคำนึงถึงในการจะเลือกว่า สายชาร์จ Type-C ยี่ห้อไหนดี หรือรุ่นไหนที่เหมาะกับการใช้งานของเรา เช่นหากนำมาใช้สำหรับชาร์จกับ Power Bank อาจใช้ความยาว 25-30 เซนติเมตร แต่ถ้าต้องการขนาดมาตรฐานก็อยู่ที่ 90-120 เซนติเมตร หรือใครต้องการความยาวมากเป็นพิเศษก็มีให้เลือกที่ 2-3 เมตร เลยทีเดียว นอกจากนี้จากมีสายชาร์จบางรุ่นที่มาพร้อมกับหัวชาร์จแบบงอ 90 องศาที่ช่วยให้สามารถใช้งานในแนวนอนสำหรับการเล่นเกมหรือชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ในขณะชาร์จไฟได้ด้วย
5. ดีไซน์ วัสดุและความทนทาน
ความสวยงามและความทนทานก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งดีไซน์ของสายชาร์จ Type-C นั้นนอกจากความยาวแล้วยังมีสีสันและลูกเล่นการออกแบบที่แตกต่างกันออกไป แล้วแต่ว่าใครชอบสีไหนเป็นพิเศษ บางรุ่นยังมากับลวดลายลิขสิทธิ์ที่ผลิตออกมาในจำนวนจำกัดให้ได้สะสมกัน หรือสามารถใช้ได้กับหัวชาร์จหลายแบบโดยมีสายแยกออกจากสายหลัก ส่วนในเรื่องความทนทานนั้นควรเลือกสายแบบไนลอนถักที่แข็งแรง ทนต่อการบิดงอได้ดี ไม่พันกันง่าย และเลือกวัสดุหัวชาร์จที่มีความยืดหยุ่นแต่ทนทาน เพื่ออายุการใช้งานที่นานขึ้น
6. ยี่ห้อ ราคา และการรับประกันสินค้า
สุดท้ายแต่ก็สำคัญในการพิจารณาเลือกสายชาร์จ Type-C ยี่ห้อไหนดี ก็คือราคา ยี่ห้อ และการรับประกันหลังการขาย โดยสายชาร์จนั้นมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันขึ้นกับคุณสมบัติและความสามารถในการชาร์จ ส่วนยี่ห้อนั้นสามารถเลือกได้จากยี่ห้อของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต และยี่ห้ออื่นที่ได้มาตรฐาน โดยหากเป็นของแท้มักมีการรับประกันมาให้อย่างน้อย 6 เดือน ถึง 1 ปี ขึ้นไป
แนะนำ 10 อันดับ สายชาร์จ Type-C ยี่ห้อไหนดี
ทำความรู้จักข้อดีและวิธีการเลือกสายชาร์จ Type-C กันไปแล้ว คราวนี้เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลยว่ามีสายชาร์จรุ่นไหนจากยี่ห้อใดที่น่าสนใจบ้าง โดยเราคัดมาให้คุณเลือกถึง 10 รุ่นด้วยกัน
1. สายชาร์จ Type-C AUKEY AKC3-4 Series รุ่น CB-AKC2
เปิดลิสต์รายชื่อสายชาร์จ Type-C ยี่ห้อไหนดี กันด้วย AUKEY AKC3-4 Series รุ่น CB-AKC2 สายชาร์จคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำของวงการ รุ่นนี้ชูจุดเด่นด้วยสายที่ผลิตจากวัสดุ Kevlar เกรดเดียวกับที่ใช้ทำเสื้อกันกระสุน ผ่านการทดสอบความทนทานต่อการบิดงอมากถึง 50,000 ครั้ง สายหุ้มทำจากไนลอนถัก 3 ชั้น เสริมความแกร่งขึ้นอีกระดับช่วยยืดอายุการใช้งาน และยังดูหรูหรามีสไตล์อีกด้วย ความยาวสายมีให้เลือกที่ 1.2-2 เมตร มีคุณสมบัติในการกระจายความร้อนได้ดี ไม่พันกันง่าย หัวชาร์จทำจากอลูมิเนียมเกรดพรีเมียมไม่หักง่าย รองรับกำลังไฟ 5V/3A ช่วยให้ชาร์จได้เร็วขึ้น ใช้ได้กับอุปกรณ์จากหลายแบรนด์ ในราคาที่จับต้องได้
2. สายชาร์จ Type-C Xiaomi Mi Type-C Braided Cable
ต่อกันด้วยสายชาร์จ Type-C Xiaomi Mi Type-C Braided Cable รุ่นนี้มาในสีดำและสีแดง ความยาวอยู่ที่ 100 เซนติเมตร ออกแบบมาให้ไม่พันกัน จุดเด่นของยี่ห้อนี้คือราคาที่ไม่แพงมากแต่ให้คุณภาพที่น่าพอใจ โดยมากับวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยและ TPE แข็งแรงทนทาน ไม่หักง่าย สายภายนอกเป็นไนลอนถักช่วยปกป้องได้ดีขึ้น หัวชาร์จทนทาน รองรับกระแสไฟสูงสุด 5V / 2A รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว ใช้ได้ทั้ง USB 2.0 และ 3.0 Type-C ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดอยู่ที่ 480Mbps ช่วยให้ย้ายไฟล์ไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อย่งรวดเร็ว และยังมีการประกันศูนย์ไทยให้อีก 6 เดือนด้วย
3. สายชาร์จ Type-C Vention USB Type-C to USB-C Cable PD 60W
ใครมองหา สายชาร์จ Type-C คุณภาพดีราคาสมเหตุสมผลเอาไว้ใช้งาน Vention USB Type-C to USB-C Cable PD 60W ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว โดยรองรับการชาร์จ Power Delivery 60W ชาร์จเร็วมากขึ้น รองรับการถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 480 Mbps ตัวสายผลิตจากไนลอนถักเพิ่มความแข็งแรงทนทาน ลดอาการบิดงอของสาย มาพร้อมความยาวกำลังดีที่ 150 เซนติเมตร หัวชาร์จเป็นอลูมิเนียมไม่หักง่ายจนเกินไป ตอบโจทย์การใช้งานได้ครบครันในราคาสบายกระเป๋า
4. สายชาร์จ Type-C UGREEN USB-C to USB Type-C
พูดถึงสายชาร์จ Type-C ยี่ห้อไหนดี ก็ต้องมีรายชื่อของ UGREEN ติดเข้ามาในลิสต์ด้วย ไม่เช่นนั้นจะไม่สมบูรณ์ เพราะยี่ห้อนี้ก็ถือว่ามากับมาตรฐานที่วางใจได้ในเรื่องของอุปกรณ์ชาร์จและต่อพ่วงแบบต่าง ๆ ซึ่งรุ่นนี้เป็นสายชาร์จแบบ USB-C to USB Type-C ความยาว 200 เซนติเมตร รองรับการชาร์จแบบ PD กำลังไฟ 20V/5A ช่วยให้ชาร์จได้อย่างรวดเร็ว ถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้ที่ 480 Mbps สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์มากมายหลายแบบ เข้ากันได้กับหลายยี่ห้อไม่ว่าจะเป็น HUAWEI, Samsung, Oppo, Vivo, LG, Microsoft, Dell และอื่น ๆ อีกมากมาย
5. สายชาร์จ Type-C ROCK Z20 PD 20W
เอาใจสายเกมกันบ้างกับสายชาร์จ Type-C Rock ROCK Z20 PD 20W ที่ครบถ้วนทั้งการออกแบบ วัสดุที่ใช้ และความสามารถในการชาร์จ จุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือชิปอัจฉริยะในตัว ควบคุมอุณหภูมิให้ต่ำ ช่วยกระจายความร้อน แต่ไม่ลดความเร็วในการชาร์จ ไม่ทำให้แบตเตอรี่เสียหายแม้จะชาร์จเป็นเวลาระยะยาว วัสดุภายนอกก็เป็นระดับไฮเอนด์ รองรับการชาร์จเร็วทั้ง QC 2.0, QC 3.0 และ QC 4.0 กระแสไฟ 20W/3A ถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 480 Mbps วัสดุที่ใช้ผลิตเป็นสายไนลอนถัก, TPE และทองแดง มีคุณสมบัติในการระบายความร้อนที่ดี ทนทานต่อการบิดงอ ดัด ยืด เรียกว่าเหมาะกับเกมเมอร์เอามาก ๆ
6. สายชาร์จ Type-C Baseus USB Type-C to USB Type-C 5A 100W 4.0
สายชาร์จ Type-C ยี่ห้อ Baseus ตัวนี้เป็นแบบ USB Type-C to USB Type-C ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย และความสามารถในการจ่ายไฟสูงถึง 100W ช่วยเพิ่มความเร็วในการชาร์จมากขึ้น รองรับการชาร์จโปรโตคอล Power Delivery ใช้งานได้กับอุปกรณ์หลายอย่างทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กล้องถ่ายรูป แบตเตอรี่สำรอง เชื่อมต่อและถ่ายโอนข้อมูลได้สะดวกรวดเร็ว ใช้วัสดุอลูมิเนียม, TPE และไนลอนถัก ทำให้มีความแข็งแรงทนทาน ไม่หักงอ ทั้งสายและหัวชาร์จ มาในราคาที่น่ามีติดกระเป๋าไว้
7. สายชาร์จ Type-C eloop รุ่น Orsen S6
สายชาร์จ Type-C eloop รุ่น Orsen S6 ก็น่าสนใจไม่แพ้รุ่นอื่น เพราะยี่ห้อนี้ถือว่าทำสายชาร์จออกมาน่าใช้มีทั้งความสวยงาม ทนทาน และประสิทธิภาพในการชาร์จ มาพร้อมความยาว 150 เซนติเมตร ใช้ชิพ E-Mark ที่จ่ายไฟได้คงที่มากขึ้น รองรับการชาร์จเร็วผ่าน QC 3.0 / QC 4.0 PD 100W (Max) ถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุด 480Mbps วัสดุหุ้มสายเป็นไนลอนถัก แข็งแรงทนทาน ลดการหักและบิดงอ ส่วนหัวชาร์จหุ้มด้วยวัสดุอลูมิเนียม รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย มีการรับประกันสินค้าให้ 1 ปี
8. สายชาร์จ Type-C ZMI รุ่น AL873
ใครยังไม่แน่ใจว่าจะเลือก สายชาร์จ Type-C ยี่ห้อไหนดี ZMI รุ่น AL873 คืออีกตัวเลือกจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ที่ผู้ใช้วางใจ รุ่นนี้เป็นสายชาร์จแบบ Type-C to Lightning สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ของ Apple อย่าง iPhone และ iPad ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน MFi รองรับการชาร์จเร็วด้วยเทคโนโลยี PD กำลังไฟ 3A ตัวสายมีความยาว 100 เซนติเมตร หุ้มด้วยไนลอนถัก Polypropylene 16 เส้น เกรดเกราะทหาร ผ่านการทดสอบการหักงอมากกว่า 10,000 ครั้ง คอสายออกแบบมาให้ทนทานไม่หักง่าย มาพร้อมการรับประกันนานถึง 2 ปี
9. สายชาร์จ Type-C TOPK AC32
ต่อกันอีกรุ่นกับสายชาร์จ Type-C TOPK AC32 ที่มาในราคาเบา ๆ แต่คุณภาพคับแน่นสาย โดยเป็นสายชาร์จแบบ TOPK USB-A เป็น USB-C ที่รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์รุ่นเก่า ๆ ได้ จุดเด่นที่ทำให้หลายคนยากจะปฏิเสธรุ่นนี้ก็คือการมีไฟ LED แสดงแรงดันและกระแสไฟที่กำลังชาร์จอย่างชัดเจน ดูสวยและทันสมัยเข้ากับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว 5V / 3A เข้ากันได้กับระบบ Quick Charge 3.0 พ่วงมาด้วยความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดที่ 480 Mbps เรียกว่าทั้งชาร์จและซิงค์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ในราคาที่น่าจะถูกใจใครหลายคน
10. สายชาร์จ Type-C ANKER Powerline II USB-A to 3 in 1
ส่งท้ายรายชื่อ สายชาร์จ Type-C ยี่ห้อไหนดี กันด้วย ANKER Powerline II USB-A to 3 in 1 สายชาร์จคุณภาพจากยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในอันดับต้น ๆ ของโลก เป็นสายแบบครอบจักรวาลมีหัวข้างหนึ่งเป็น USB-A ส่วนอีกด้านมีทั้ง USB-C, micro USB และ Lightning ทำให้สามารถใช้ชาร์จและถ่ายโอนข้อมูลจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากมายแทบทุกยี่ห้อ โดยผ่านมาตรฐาน MFi ของ Apple รองรับการชาร์จแบบ QC / Power Delivery (PD) และ PowerIQ มาพร้อมความยาว 90 เซนติเมตร ผลิตจากวัสดุ Extra TPE มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการบิดงอได้ดี ผ่านการทดสอบถึง 18,000 ครั้ง งานดีแบบนี้แพงหน่อยแต่ก็ถือว่าคุ้ม
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
และนี่ก็คือ 10 รุ่น สายชาร์จ Type-C ยี่ห้อไหนดี ที่เราคัดมาให้คุณได้พิจารณากัน โดยในการจะเลือกว่าสายชาร์จเส้นไหนที่เหมาะกับเรามากที่สุดนั้นก็ต้องดูจากความจำเป็นในการใช้งาน งบประมาณที่มี จากนั้นก็ดูรายละเอียดของสายชาร์จอื่น ๆ ประกอบการตัดสินใจเช่น ความยาวของสาย ความเร็วในการชาร์จและการถ่ายโอนข้อมูล ดีไซน์ของสายชาร์จ หรือคุณสมบัติอื่น ๆ ร่วมด้วย ลองดูว่าใน 10 รุ่นนี้ สายชาร์จ Type-C รุ่นไหนที่น่าจะลงตัวกับคุณมากที่สุด