
แฟลชไดร์ฟ (Flash Drive) คืออุปกรณ์จัดเก็บและถ่ายโอนข้อมูลที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีความสะดวกในการพกพา สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์แสดงผลอื่นๆ ได้หลายอย่าง ปัจจุบันแฟลชไดร์ฟนั้นมีการพัฒนาจนสามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้น และลดข้อจำกัดการใช้งานลง รวมถึงมีแฟลชไดร์ฟ OTG (On The Go Flash Drive) อุปกรณ์เสริมมือถือที่สามารถใช้เชื่อมต่อและย้ายข้อมูลจากสมาร์ทโฟนได้ จากเดิมที่ไม่สามารถทำได้ ทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้น ใครมองหาอุปกรณ์นี้และยังไม่รู้จะเลือกแฟลชไดร์ฟ OTG ยี่ห้อไหนดี ตามมาเลยเพราะบทความนี้เรามีมาให้เลือกกันอย่างจุใจ
แฟลชไดร์ฟ OTG คืออะไร?
แฟลชไดร์ฟ OTG เป็นอุปกรณ์จัดเก็บและถ่ายโอนข้อมูลที่มีหลักการทำงานไม่ต่างจากแฟลชไดร์ฟทั่วไปที่เราใช้กันอยู่ แต่จะมีพอร์ตการเชื่อมต่อที่พัฒนาขึ้นมาให้สามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ เนื่องจากในปัจจุบันเรามักมีไฟล์สำคัญมากมายเก็บเอาในสมาร์ทโฟน ซึ่งแฟลชไดร์ฟทั่วไปไม่สามารถเชื่อมต่อได้โดยตรง โดยแฟลชไดร์ฟ OTG จะมากับพอร์ตที่รองรับสมาร์ทโฟนฝั่ง Android ทั้งพอร์ต Micro USB และ USB Type C รวมถึงพอร์ต Lightning ในอุปกรณ์บนระบบปฏิบัติการ iOS ด้วย ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายในการจัดเก็บข้อมูลและทำให้เครื่องของเราไม่หนักจนเกินไป จนส่งผลต่อความเร็วในการประมวลผล
วิธีการเลือกแฟลชไดร์ฟ OTG
ปัจจุบันแฟลชไดร์ฟ OTG ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จึงมีการผลิตออกมาขายหลายรุ่นหลายยี่ห้อด้วยกัน ซึ่งการจะเลือกแฟลชไดร์ฟ OTG ยี่ห้อไหนดีนั้นมีหลายเรื่องที่เราต้องพิจารณาเพื่อให้ได้รุ่นที่ตรงกับการใช้งานของเรามากที่สุด ซึ่งสิ่งที่เราสามารถใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกได้นั้นประกอบไปด้วยเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. เลือกแฟลชไดร์ฟ OTG จากความเข้ากันได้ของอุปกรณ์
ลักษณะของแฟลชไดร์ฟ OTG ก็คือปลายด้านหนึ่งจะเป็นพอร์ต USB และปลายอีกด้านจะเป็นพอร์ตที่เอาไว้เชื่อมต่อกับแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน ซึ่งสิ่งที่เราต้องดูเป็นอันดับแรกก็คือความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ เพราะไม่เช่นนั้นซื้อมาแล้วอาจจะใช้งานไม่ได้ เป็นการสิ้นเปลืองและเสียเวลาด้วย โดยหากเป็นอุปกรณ์ฝั่ง Android ต้องเลือกที่ปลายอีกฝั่งเป็น Micro USB หรือ USB Type C ส่วนอุปกรณ์ iOS ต้องเป็นพอร์ตแบบ Lightning อย่างไรก็ตามแฟลชไดร์ฟ OTG หลายรุ่นนั้นสามารถใช้ได้กับทั้ง iOS และ Android ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าน่าสนใจ
2. เลือกแฟลชไดร์ฟ OTG จากความจุและความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล
แน่นอนว่าการจะเลือกแฟลชไดร์ฟ OTG ยี่ห้อไหนดีสิ่งสำคัญที่เราต้องพิจารณาก็คือความจุหรือพื้นที่เก็บข้อมูล โดยมีให้เลือกตั้งแต่ 32 GB, 64 GB, 128 GB, 256 GB, 512 GB หรือ 1 TB ส่วนจะเลือกความจุแค่ไหนก็ขึ้นกับไฟล์ที่จะทำการจัดเก็บโดยควรเผื่อพื้นที่เอาไว้เล็กน้อย ทั้งนี้ยิ่งความจุสูงราคาก็ยิ่งสูงตามไปด้วย และนอกจากเรื่องของความจุแล้วยังควรที่จะต้องดุที่ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลด้วย ซึ่งควรเลือกที่เป็น USB 3.0 หรือ USB 3.1 ที่ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็วกว่า USB 2.0 จะช่วยให้เราย้ายไฟล์ภาพหรือวิดีโอได้รวดเร็วขึ้น
3. เลือกแฟลชไดร์ฟ OTG จากขนาดและดีไซน์
ความสวยงามยังคงเป็นปัจจัยที่หลายคนให้ความสำคัญ โดยแฟลชไดร์ฟ OTG แต่ละยี่ห้อก็พยายามที่จะผลิตออกมาให้มีความโดดเด่นทั้งสีสันและรูปทรง รวมถึงลูกเล่นในการออกแบบ เช่นสามารถใช้คล้องกับพวงกุญแจได้ มีฝาครอบป้องกันความเสียหาย ซึ่งเราไม่ควรเลือกแบบที่มีขนาดใหญ่หรือเล็กเกินไป เพราะหากเล็กมากก็อาจหล่นหายได้ง่าย ใหญ่มากก็พกพาลำบาก นอกจากนี้ยังควรเลือกแฟลชไดร์ฟ OTG ที่ผลิตด้วยวัสดุที่มีความทนทานและระบายความร้อนได้ดีเพื่อป้องกันความเสียหายระหว่างการใช้งาน
4. เลือกแฟลชไดร์ฟ OTG จากฟังก์ชันการใช้งาน
ฟังก์ชันการใช้งานเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยเราตัดสินใจได้ว่าจะเลือกแฟลชไดร์ฟ OTG ยี่ห้อไหนดีเอามาไว้ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น ยี่ห้อ SanDisk จะมี Memory Zone ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงและจัดการไฟล์ได้ง่ายขึ้น, แฟลชไดร์ฟ OTG ของ Apacer รองรับแอปพลิเคชัน iFileBridge ช่วยจัดการข้อมูล หรือของ Kingston ที่สามารถแชร์ไฟล์ผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้เป็นต้น
5. เลือกแฟลชไดร์ฟ OTG จากยี่ห้อและการรับประกัน
และข้อสุดท้ายที่จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้แฟลชไดร์ฟ OTG ที่มีคุณภาพสมราคาก็คือการเลือกซื้อจากแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน และเป็นที่รู้จัก อาทิ แฟลชไดร์ฟ OTG จากยี่ห้อ SanDisk, iDrive, HUAWEI, Apacer, Kingston, Kingdo, LG, Cosmo เป็นต้น ทั้งนี้ต้องไม่ลืมตรวจสอบระยะเวลาและเงื่อนไขในการรับประกันสินค้าร่วมด้วยทุกครั้งเผื่อเกิดปัญหาในการใช้งานขึ้น ซึ่งบางอย่างเราสามารถเคลมได้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
แฟลชไดร์ฟ OTG ยี่ห้อไหนดี
สำหรับใครที่กำลังมองหาแฟลชไดร์ฟ OTG เอาไว้ใช้งาน แต่ยังไม่รู้ว่ามีรุ่นไหน ยี่ห้อใด ที่น่าสนใจบ้าง ตามาเลยเพราะเราได้คัดสรรมาให้คุณได้เลือกถึง 10 รุ่นจากแบรนด์ชั้นนำ ในราคาและความจุที่คุณสามารถเลือกได้ตามการใช้งานของตัวเอง
1. แฟลชไดร์ฟ OTG: SanDisk Ultra Dual Drive Luxe 32 GB

จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ดีไซน์สวยงาม ติดกับพวงกุญแจได้ | ควรตรวจสอบเงื่อนไขการจัดส่งและรับประกันก่อนซื้อ |
USB 3.1 Gen 1 ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว | ใช้กับอุปกรณ์ในระบบปฏิบัติการ Android |
มี SanDisk Memory Zone ช่วยจัดเก็บไฟล์ | |
รับประกันนาน 5 ปี |
มาเริ่มต้นรายชื่อ แฟลชไดร์ฟ OTG ยี่ห้อไหนดีของเรากันเลยกับ SanDisk Ultra Dual Drive Luxe ตัวเลือกจากแบรนด์ที่หลายคนไว้วางใจ มาพร้อมดีไซน์ที่สวยทันสมัยพกพาสะดวก สามารถใช้ร่วมกับพวงกุญแจได้ ออกแบบมาให้หมุนได้และป้องกันตัวเชื่อมต่อชำรุด โดยรองรับทั้ง USB Type-A และ USB Type-C ถ่ายโอนข้อมูลได้ถึง 150 MB/s ด้วยพอร์ต USB 3.1 Gen 1 มีระบบสำรองไฟล์ภาพอัตโนมัติด้วยแอปพลิเคชัน SanDisk Memory Zone รองรับทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต มีความจุให้เลือกตั้งแต่ 32 GB ไปจนถึง 1 TB และยังรับประกันให้นานถึง 5 ปีอีกด้วย
2. แฟลชไดร์ฟ OTG: iDrive iDiskk Pro LK-813

จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ใช้งานได้แบบ 3in1 ทั้ง iOS และ Android | ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ทุกครั้ง |
สามารถแชร์ไฟล์ไปยังโซเชียลมีเดียได้ | |
รองรับแอปพลิเคชัน iDiskk Pro | |
จัดเก็บไฟล์ในแฟลชไดร์ฟได้โดยตรง |
ต่อกันด้วย iDrive iDiskk Pro LK-813 แฟลชไดร์ฟ OTG แบบ 3in1 ซื้อตัวเดียวใช้ครบทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในระบบปฏิบัติการ Android และ iOS เชื่อมต่อได้กับ Mac OS X และ Windows XP ขึ้นไป มีครบทั้งพอร์ต Micro USB, USB Type-C และ Lighting รองรับแอปพลิเคชัน iDiskk Pro ทำให้จัดระเบียบและค้นหาไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว จัดเก็บไฟล์ภาพ เสียง วิดีโอ ลงในแฟลชไดร์ฟได้โดยตรง รองรับการแชร์ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เป็นรุ่นยอดนิยมรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้
3. แฟลชไดร์ฟ OTG: HUAWEI

จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
มีความจุตั้งแต่ 32 GB ถึง 512 GB | ใช้ได้กับอุปกรณ์ในระบบปฏิบัติการ Android |
ขนาดกะทัดรัด สะดวกต่อการพกพา | รองรับอินเทอร์เฟซ USB Type-C และ USB 2.0 |
ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว | |
เคสหมุนได้ 360 องศา ช่วยปกป้องข้อต่อระหว่างพอร์ต |
มาที่แฟลชไดร์ฟ OTG จากทางผู้ผลิตอย่าง HUAWEI กันบ้าง รุ่นนี้ถือว่ามาพร้อมมาตรฐานที่วางใจได้ของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่รายหนึ่งของวงการ มีความจุให้เลือกตั้งแต่ 32 GB, 64 GB, 128 GB, 256 GB และ 512 GB สามารถใช้งานกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android ที่ใช้อินเทอร์เฟซแบบ USB Type-C และ USB 2.0 ออกแบบมาให้มีขนาดเล็กกะทัดรัดสะดวกต่อการพกพาและใช้งาน เคสหมุนได้ 360 องศา ช่วยปกป้องข้อต่อระหว่างพอร์ต มาในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป
4. แฟลชไดร์ฟ OTG: HP รุ่น 3 in 1

จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เก็บข้อมูลได้สูงสุด 1TB | ไม่ควรปิดเครื่องในขณะที่ใช้งาน |
ถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว | เมื่อโอนข้อมูลเรียบร้อยแล้วควรถอดเก็บทันที |
เชื่อมต่อง่าย | |
ใช้ได้ทั้งระบบ Android, iOS, macbook และ Tablet |
มาต่อกันที่แฟลชไดร์ฟ OTG HP รุ่น 3 in 1 ที่ใช้งานได้สะดวกสบาย เพราะมาพร้อมหัวเสียบ iPhone, Android และหัวเสียบ USB สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ สำหรับรุ่นนี้มีความจุสูงสุดถึง 1TB ที่ช่วยให้คุณ Backup ข้อมูลสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปถ่าย ,วิดีโอ หรือแม้แต่เพลงโปรดไว้ได้อย่างจุดใจ ทางด้านความปลอดภัยนั้นสามารถตั้งรหัสผ่านเหมือน Touch ID ได้ ใช้งานง่ายมาก
5. แฟลชไดร์ฟ OTG: Basike

จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ขนาดกะทัดรัด มาพร้อมฝาปิดในตัว | ใช้กับมือถือและแท็บเล็ตที่มีพอร์ต USB type C |
ถ่ายโดนข้อมูลข้ามแพลตฟอร์มได้อย่างรวดเร็ว | มี 2 ขนาด 32GB และ 64GB |
ใช้พอร์ต USB2.0 + USB type C | |
เพิ่มพื้นที่ความจำในมือถือได้ทันที |
สำหรับ แฟลชไดร์ฟ OTG Basike ตอบโจทย์แฟลซไดร์ฟ OTG ยี่ห้อไหนดีที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพในการถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ขนาดกะทัดรัดน่าใช้ด้วยดีไซน์ Push and Pull ที่เป็นฝาปิดในตัว หมดปัญหาฝา USB หายได้อย่างตรงจุด สำหรับรุ่นนี้ใช้ได้กับมือถือและแท็บเล็ตแอนดรอยที่ใช้พอร์ต Type C ดังนั้นก่อนสั่งซื้อออนไลน์ควรเช็คให้ชัวร์ก่อนว่ามือถือหรือแท็บเล็ตของคุณใช้พอร์ตแบบไหนกันแน่
6. แฟลชไดร์ฟ OTG: Kingdo 2 in 1 Micro USB OTG

จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ผลิตด้วยโลหะผสมสังกะสี สวยและทน | สำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต Android |
มีให้เลือกในความจุ 32 GB, 64 GB และ 128 GB | เชื่อมต่อผ่าน Micro USB |
ใช้งานได้แบบ 2 in 1 | |
ใช้ห้อยกับพวงกุญแจได้ |
ใครมองหาแฟลชไดร์ฟ OTG ราคาเบาๆ Kingdo 2 in 1 Micro USB OTG เป็นตัวเลือกที่อาจจะโดนใจคุณก็เป็นได้ โดยสามารถใช้งานได้แบบ 2 in 1 จะเป็นแฟลชไดร์ฟ OTG หรือ แฟลชไดร์ฟธรรมดาก็ได้ มีให้เลือกตั้งแต่ความจุ 32 GB, 64 GB และ 128 GB รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ในระบบปฏิบัติการ Android ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เชื่อมต่อกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้ทั้ง Windows / Mac OS / Linux รองรับอินเทอร์เฟซ Micro USB และ USB 2.0 รุ่นนี้ผลิตด้วยวัสดุโลหะผสมสังกะสี สวยและทน ออกแบบมาให้ใช้แขวนกับพวงกุญแจได้
7. แฟลชไดร์ฟ OTG: LG รุ่น U38 32GB

จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ดีไซน์สวยงาม มีให้เลือกหลายสี | รองรับอินเทอร์เฟซ Micro USB และ USB 2.0 |
มีคุณสมบัติในการกันน้ำกันฝุ่น | ใช้กับอุปกรณ์ Android |
ชิปคลาส A ความแม่นยำสูง | |
ใช้แขวนกับพวงกุญแจได้ |
รุ่นที่ 7 ในรายชื่อ แฟลชไดร์ฟ OTG ยี่ห้อไหนดีของเราเป็นผลิตภัณฑ์จากทาง LG บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของวงการที่มีอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลมาให้ใช้ด้วยเช่นกัน โดย LG รุ่น U38 มาพร้อมความจุ 32 GB รองรับอินเทอร์เฟซ Micro USB และ USB 2.0 ใช้งานได้กับอุปกรณ์ในระบบปฏิบัติการ Android ได้อย่างหลากหลาย ช่วยลดภาระการพกพาอุปกรณ์เชื่อมต่อหลายชิ้น ตัวนี้ดีไซน์สวยงามทันสมัย มีคุณสมบัติในการกันน้ำกันฝุ่น สามารถเลือกสีได้หลายสีทั้ง สีเขียว สีดำ สีชมพู สีขาว สีน้ำเงิน ใช้ชิปคลาส A ความแม่นยำสูง พ่วงมาด้วยระบบป้องกันไวรัสในตัว แถมสนนราคายังไม่แพงอีกด้วย
8. แฟลชไดร์ฟ OTG: Cosmo 4in1

จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ใช้งานได้แบบ 4in1 | รองรับอินเทอร์เฟซ USB Type-C, Micro USB, USB 2.0 และ Lighting |
วัสดุคุณภาพดี สีสันสวยงาม | การใช้งานกับ iOS อาจไม่เสถียรนัก |
เคสหมุนได้ ช่วยปกป้องข้อต่อ | |
สามารถแขวนกับพวงกุญแจได้ |
แฟลชไดร์ฟ OTG Cosmo 4in1 เป็นอีกรุ่นที่น่ารับเอาไว้พิจารณาเพราะใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์ด้วยอินเทอร์เฟซ USB Type-C, Micro USB, USB 2.0 และ Lighting ช่วยในการเพิ่มพื้นที่ในการเก็บข้อมูลให้กับคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ใช้เล่นสื่อในรถยนต์ มีให้เลือกในความจุ 32 G B, 64 GB และ 128 GB ใช้ชิปหน่วยความจำจาก Sandisk ที่มีความเสถียรสูง ใช้งานง่ายแบบ Plug and Play ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพสูง มีฝาครอบป้องกันข้อต่อ เคสสามารถหมุนได้ และยังใช้แขวนกับพวงกุญแจป้องกันการหล่นหายได้ด้วย
9. แฟลชไดร์ฟ OTG: SanDisk iXpand Flash Drive Flip

จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ขั้วต่อ USB 3.1 Gen 1 ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว | ใช้สำหรับ iPhone และ iPad |
รองรับ SanDisk iXpand Drive | รองรับอินเทอร์เฟซ USB Type-A และ Lighting |
มีระบบเข้ารหัสไฟล์เพื่อความปลอดภัย | |
สำรองไฟล์ภาพและคลิปอัตโนมัติ |
อีกรุ่นที่ขาดไม่ได้ในลิสต์ แฟลชไดร์ฟ OTG ยี่ห้อไหนดีก็คือ SanDisk iXpand Flash Drive Flip อุปกรณ์สำรองและย้ายข้อมูลสำหรับ iPhone และ iPad ประสิทธิภาพและมาตรฐานสูงคุ้มค่าตัว มีให้เลือกในความจุ64 GB, 128 GB และ 256 GB มาพร้อมฝา Flip ช่วยปกป้องข้อต่อและป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า รองรับอินเทอร์เฟซ USB Type-A และ Lighting ขั้วต่อ USB 3.1 Gen 1 ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว รองรับแอปพลิเคชัน SanDisk iXpand Drive สามารถบันทึกไฟล์ได้โดยตรง สำรองไฟล์ภาพและคลิปอัตโนมัติพร้อมเข้ารหัสความปลอดภัย สินค้ารับประกัน 2 ปีจากศูนย์ Synnex
10. แฟลชไดร์ฟ OTG: Kingston Data Traveler 70

จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
มาตรฐาน USB 3.2 Gen 1 ถ่ายโอนไฟล์ได้รวดเร็ว | รองรับอินเทอร์เฟซ USB Type-C |
มีให้เลือกในรุ่น 32 GB, 64 GB และ 128 GB | ใช้สำหรับอุปกรณ์ Android |
ผลิตด้วยวัสดุที่แข็งแรงทนทาน | |
รับประกันและสนับสนุนทางเทคนิค 5 ปี |
ปิดท้ายรายชื่อ แฟลชไดร์ฟ OTG ยี่ห้อไหนดีของเรากันด้วย Kingston Data Traveler 70 แฟลชไดร์ฟจากแบรนด์อันดับต้นๆ ของวงการที่หลายคนไว้วางใจและไม่เปลี่ยนใจไปซื้อยี่ห้ออื่นมาใช้ มีให้เลือกในรุ่นความจุ 32 GB, 64 GB และ 128 GB รองรับอินเทอร์เฟซ USB Type-C และ มาตรฐาน USB 3.2 Gen 1 ช่วยให้สามารถถ่ายโอนไฟล์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เทียบกับ USB 2.0 แล้วเร็วกว่าถึง 10 เท่าเลยทีเดียว สามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต รุ่นนี้ยังรับประกันสินค้าและสนับสนุนทางเทคนิคนานถึง 5 ปีอีกด้วย
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
และทั้งหมดนี้ก็คือรายชื่อแฟลชไดร์ฟ OTG รุ่นน่าใช้จากแบรนด์ชั้นนำไม่ว่าจะเป็น SanDisk, iDrive, HUAWEI, Apacer, Kingston, Kingdo, LG และ Cosmo ตัวช่วยสำหรับการจัดเก็บและโอนย้ายข้อมูลจากสมาร์ทโฟน โดยเราคัดมาให้ทั้งรุ่นที่ใช้กับอุปกรณ์ iOS และ Android บางตัวสามารถใช้ได้ทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการ สนนราคาและความจุรวมถึงคุณสมบัติก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งการจะเลือกแฟลชไดร์ฟ OTG ยี่ห้อไหนดีนั้นก็อยู่ที่การใช้งานและปริมาณข้อมูลของเราเป็นหลัก ที่สำคัญอย่าลืมตรวจสอบความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ก่อนซื้อทุกครั้งครับ