มือถือ Xiaomi รุ่นไหนดี เล่นเกมได้ ถ่ายรูปสวย สเปคแรง 2024

เมื่อเอ่ยชื่อของผู้ผลิตอย่าง Xiaomi ปัจจุบันต้องบอกว่าเป็นแบรนด์ที่มีความน่าสนใจมากรายหนึ่งก็ว่าได้ โดยมีผลิตภัณฑ์มากมายหลายรูปแบบให้ได้เลือกใช้กัน อาทิ เครื่องฟอกอากาศ, กล้องวงจรปิด, อุปกรณ์สมาร์ทโฮม, ของใช้ในบ้าน, จอคอม, สมาร์ททีวี, กล่อง Android, mi band และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่คุ้นเคยกันดีก็โทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนนั่นเอง

โดยจุดเด่นของมือถือจาก Xiaomi ก็คือคุณภาพที่ให้มาเกินราคา และสเปคที่หากเทียบกับค่ายอื่นแล้วถือว่ามีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ในช่วงระดับเดียวกัน ซึ่งหลายครั้งผู้ผลิตรายนี้เป็นผู้นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาสู่วงการ อาทิ กล้องถ่ายรูปความละเอียด 108 ล้านพิกเซล, ระบบการชาร์จเร็ว 120W ในส่วนของกล้องถ่ายรูปมือถือนั้น Xiaomi พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วทั้งเรื่องความคมชัดและฟังก์ชันการทำงาน สำหรับใครที่สนใจค่ายนี้อยู่แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือก มือถือ Xiaomi รุ่นไหนดี วันนี้เราคัดมาให้คุณได้พิจารณากันถึง 10 รุ่นด้วยกัน

วิธีเลือกมือถือ Xiaomi

มือถือ Xiaomi นั้นมีให้เลือกหลากรุ่นหลายราคาด้วยกัน สเปคและฟังก์ชันการทำงานก็แตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนจะไปดูว่ามือถือ Xiaomi รุ่นไหนดีที่น่าจะเหมาะกับคุณเรามาดูวิธีเลือกซื้อกันเพื่อใช้เป็นแนวทางช่วยในการตัดสินใจ

1. เลือกมือถือ Xiaomi จากซีรีส์และงบประมาณที่มี

มือถือ Xiaomi ที่วางขายในปัจจุบันแบ่งออกเป็นระดับต่างๆ หลายระดับด้วยกัน รวมถึงยังมีผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ลูกของ Xiaomi ให้เลือกอีกด้วย โดยแต่ละซีรีส์ราคาก็จะแตกต่างกันออกไป มาดูกันว่ามีซีรีส์ไหนบ้าง

• Mi Series หรือรุ่นเรือธงของค่าย ที่แน่นอนว่าสเปคต่างๆ นั้นย่อมจัดเต็มที่สุดทั้งในส่วนของการประมวลผล การถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ ฟังก์ชันการทำงาน คุณสมบัติของหน้าจอ รวมถึงวัสดุตัวเครื่องด้วย
• Mi T Series เป็นรุ่นที่คุณสมบัติจะคล้ายกับเรือธงตัวท็อปแต่มีการปรับสเปคบางอย่างลง เช่น ความละเอียดของกล้องถ่ายรูป, ความคมชัดและชนิดของหน้าจอ, วัดสุตัวเครื่อง แต่โดยรวมแล้วยังถือว่าใช้งานได้ดีแทบทุกด้าน
• Mi Lite Series น้องเล็กที่มากับราคาประหยัดที่สุด โดยสเปคต่างๆ จะลดลงมากจากรุ่นหลักเพื่อให้ขายได้ในราคาที่ต่ำลง ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต, กล้อง, เซ็นเซอร์ต่างๆ, ประเภทและความคมชัดของหน้าจอ, อัตราการรีเฟรชหน้าจอ, การเชื่อมต่อสัญญาณ หรือความจุของแบตเตอรี่
• แบรนด์ลูก Redmi แยกออกมาเพื่อทำตลาดมือถือในระดับ Entry Level และระดับ Mid-Range มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นแต่ยังตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้อย่างครบครัน
• แบรนด์ลูก POCO แยกออกมาเพื่อเน้นการทำตลาดมือถือตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับเรือธง รวมถึงมือถือเล่นเกม จุดเด่นคือการมากับชิปเซ็ตที่แรง แต่ขายในราคาต่ำกว่าค่ายอื่นด้วยการตัดสเปคอื่นๆ ลง แต่ในภาพรวมแล้วยังถือว่าใช้งานได้อย่างน่าพอใจ

2. เลือกมือถือ Xiaomi จากการประมวลผล

มือถือแต่ละระดับก็จะมีความเร็วในการประมวลผลที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งองค์ประกอบที่สำคัญนั้นก็จะประกอบไปด้วย

• ชิปเซ็ตประมวลผล คือส่วนที่ส่งผลกับความเร็วในการทำงานของเครื่องโดยตรง โดยเฉพาะกับคนที่ชอบเล่นเกม ซึ่งมือถือ Xiaomi นั้นจะมีทั้งรุ่นที่ใช้บริการจากฝั่งของ Qualcomm และ MediaTek ยิ่งเป็นซีรีส์ที่สูงความเร็วก็จะยิ่งสูงขึ้น แต่ราคาก็แพงขึ้นด้วยเช่นกัน เช่น Snapdragon 800 Series ก็จะทำงานได้ดีกว่า Snapdragon 700 Series เป็นต้น
• หน่วยความจำ RAM และ พื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่อง ถือว่าสำคัญไม่แพ้ชิปเซ็ตประมวลผล เป็นเรื่องแรกๆ ที่เราต้องให้ความสำคัญ โดยยิ่งชิปเซ็ตแรง RAM สูง ROM หรือพื้นที่เก็บข้อมูลเยอะ เครื่องก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับเบื้องต้นควรเลือกมือถือ Xiaomi ที่มี RAM 4 GB และ ROM 64 GB ขึ้นไป โดยสูงสุดตอนนี้คือรุ่นที่มี RAM ถึง 12 GB และ ROM 512 GB เลยทีเดียว

3. เลือกมือถือ Xiaomi จากกล้องถ่ายรูป

การจะเลือกมือถือ Xiaomi รุ่นไหนดีนั้น เชื่อว่าหลายคนให้ความสำคัญกับความสามารถในการถ่ายรูป เพราะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในปัจจุบัน โดยมือถือยี่ห้อนี้มีกล้องหลังความละเอียดสูงสุดถึง 108 ล้านพิกเซล สามารถนำมาถ่ายภาพนิ่งและคลิปวิดีโอลงโซเชียลมีเดียสร้างคอนเทนต์ปังๆ ได้อย่างสบาย ส่วนรุ่นรองลงมาก็จะมีความละเอียดของกล้องหน้าและกล้องหลังลดลงไปตามระดับของรุ่น ซึ่งนอกจากความละเอียดแล้วเรายังต้องพิจารณาฟังก์ชันในการถ่ายภาพร่วมด้วย เช่น สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี, ถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันได้, ความละเอียดของวิดีโอที่บันทึก, การถ่ายภาพมาโคร หรือ ความสามารถในการซูม เป็นต้น

4. เลือกมือถือ Xiaomi จากดีไซน์และหน้าจอ

ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผลเป็นสิ่งที่เราสามารถมองเห็นได้ทันที ซึ่งความละเอียดเริ่มต้นนั้นจะอยู่ที่ HD หรือ HD+ ไปจนถึง Full HD, Full HD+ และ QHD ยิ่งหน้าจอมีความละเอียดมากก็ยิ่งให้ภาพที่คมชัด ส่วนประเภทของหน้าจอในปัจจุบันหลักๆ จะมีแบบ LCD และ OLED ทั้งนี้นอกจากความละเอียดแล้วยังมีเรื่องอื่นๆ ที่สามารถนำมาช่วยในการตัดสินใจ เช่น อัตราการรีเฟรชหน้าจอที่ส่งผลกับกราฟิก มีตั้งแต่ 60Hz ไปจนถึง 120Hz, คุณสมบัติในการลดแสงสีฟ้า, มาตรฐานความปลอดภัย, ขนาดของหน้าจอที่เราต้องการ ในส่วนของดีไซน์ก็จะเป็นเรื่องของขนาดและน้ำหนัก วัสดุตัวเครื่อง รอยบากหรือรูบนหน้าจอ รวมถึงความทนทานด้วย

5. เลือกมือถือ Xiaomi จากฟังก์ชันการทำงาน

ฟังก์ชันการทำงานคือองค์ประกอบสำคัญเช่นกันเพราะช่วยให้เราใช้งานมือถือได้อย่างสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว, รองรับการเชื่อมต่อ 5G, มีโหมดเร่งประสิทธิภาพในการเล่นเกม, โหมดการใช้งานกลางคืน, โหมด Adaptive Sync ปรับรีเฟรชเรตอัตโนมัติ, มี มี IR blaster ใช้เป็นรีโมตได้, แถมโปรแกรมตัดต่อมาในเครื่อง, รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอก, สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้ หรือมีระบบจดจำใบหน้า เป็นต้น ซึ่งการจะเลือกใช้ก็ขึ้นกับการใช้งานรวมถึงงบประมาณที่มีด้วย

มือถือ Xiaomi รุ่นไหนดี

หลังจากทำความรู้จักกับมือถือ Xiaomi พร้อมวิธีการเลือกใช้กันไปแล้ว คราวนี้เรามาดูกันเลย มือถือ Xiaomi รุ่นไหนดีที่น่าจะโดนใจคุณมากที่สุด โดยเราคัดมาให้เลือกกันถึง 10 รุ่น จากทุกซีรีส์ของผู้ผลิตรายนี้

1. มือถือ Xiaomi รุ่น Xiaomi 13 Pro

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คนะนำ
ขนาดหน้าจอ LTPO OLED 6.73 นิ้ว	กันน้ำได้ที่ระดับ IP68
การแสดงผลหน้าจอ WQHD+ (Resolution 1440 x 3200)
RAM LPDDR5X 12 GB / พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 256 GB / 512 GB (UFS 4.0)
ความละเอียดกล้องหน้า 32 MP / กล้องหลัง 50.3 MP / Leica 50 MP
เลนส์ Leica เสริมลูกเล่นภาพถ่ายได้อย่างสะดวกและหลากหลาย

แน่นอนว่าตอนนี้ถ้าถามว่ามือถือ Xiaomi รุ่นไหนดี ก็คงต้องตอบว่า Xiaomi 13 Pro เรือธงรุ่นล่าสุดของค่ายระดับพรีเมียม ที่คุณภาพสูงในทุกๆ ฟังก์ชันการใช้งาน โดยเฉพาะใครเป็นสายชอบถ่ายภาพ หรือวิดีโอ นี่คือรุ่นที่เกิดมาเพื่อคุณโดยแท้เลย กับความพิเศษคือตัวกล้องหลัง ที่เสริมความคมชัดด้วยเลนส์ของ Leica ที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วในคุณภาพ ที่ดีแทบจะเป็นอันดับต้นๆ ของโลกในขณะนี้ รุ่นนี้ได้เลนส์ Optical เทเลโฟโต้ ความคมชัดสูง 50 ล้านพิกเซล ที่สามารถเก็บภาพระดับ 4K ได้อย่างง่ายดาย และด้วยหน่วยประมวลระดับ Snapdragon 8 Gen 2 ที่ถือเป็นตัวแรงในยุคนี้ ยิ่งทำให้ประมวลภาพถ่ายคุณภาพสูง ส่วนลูกเล่นการใช้งานหรือการเล่นเกมก็จัดเต็มไม่ให้เสียชื่อเรือธงแน่นอน

2. มือถือ Xiaomi รุ่น Xiaomi 12T

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดหน้าจอ 6.67 นิ้ว	ไม่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ
การแสดงผลหน้าจอ CrystalRes OLED 1.5K (Resolution 2712×1220)	ตัวเครื่องค่อนข้างมีน้ำหนัก
CPU Mediatek Dimensity 8100 Ultra
RAM 8 GB / พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 256 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 20 MP / กล้องหลัง 108 MP OIS / 8 MP Ultrawide
แบตเตอรี่ 5000 mAh

เป็นอีกรุ่นที่โดดเด่นในด้านการถ่ายภาพ แม้จะไม่ได้มีเลนส์รูปแบบพิเศษเหมือนรุ่นที่แล้ว แต่ก็มาพร้อมกับคุณภาพของกล้องหลังตัวหลักในระดับที่สูงกว่ารุ่นทั่วๆ ไปเยอะมาก ด้วยความคมชัดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล! ถือว่าน่าจะสูงที่สุดแล้วในบรรดากล้องมือถือของ Xiaomi ทำให้สามารถเก็บทั้งภาพและวิดีโอในระดับความคมชัดสูงได้ในทุกๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน ก็สามารถเก็บได้ทุกๆ รายละเอียด บวกกับการแสดงหน้าจอ CystalRed OLED ที่สามารถให้รายละเอียดสีแสงที่มีความสดใส และสามารถใช้งานได้ยาวนาน โดยไม่ต้องกลัวเครื่องร้อนเกินไป ด้วยตัวเครื่องที่ออกแบบมาให้สามารถระบายความร้อนได้ดีเป็นพิเศษ ถือเป็นเครื่องที่อึดและทนทาน ให้เราสามารถนำไปใช้ถ่าย Vlog นอกสถานที่ หรือใช้ถ่ายหนังสั้นเรื่องนึงได้แบบสบายๆ

3. มือถือ Xiaomi รุ่น Redmi Note 12 Pro 5G

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดหน้าจอ 6.67 นิ้ว	ไม่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ
การแสดงผลหน้าจอ OLED FHD+ (Resolution 2400×1080)
CPU MediaTek Dimensity 1080
RAM 8 GB / พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 256 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 16 MP / กล้องหลัง 50 MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh

สำหรับคนที่ยังลังเลว่า มือถือ Xiaomi รุ่นไหนดี ที่มีสเปกแบบไม่มากไปไม่น้อยไป รุ่นนี้น่าจะตอบโจทย์ โดยมาพร้อมกับกล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล และกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล ให้สามารถเก็บรายละเอียดของสิ่งต่างๆ ที่เห็นบนหน้าจอได้อย่างเนียนกริบ โดยเฉพาะแสงต่างๆ ด้วยรูรับแสงที่กว้าง f/1.88 โดยเฉพาะเมื่อถ่ายภาพในเวลากลางคืน หรือที่ที่มีแสงน้อย เราจะสามารถเห็นจุดเด่นตรงนี้ได้อย่างชัดเจนมาก พร้อมกับระบบ OIS หรือ ระบบป้องกันภาพสั่น ทำให้แม้คุณจะเป็นคนมือไม่นิ่ง ก็สามารถถ่ายภาพให้สวยแบบไร้เบลอได้แบบไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

4. มือถือ Xiaomi รุ่น POCO M3 Pro 5G

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว	ไม่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ
การแสดงผลหน้าจอ FHD+ Dot Display (Resolution 2400×1080)
CPU MediaTek Dimensity 700
RAM LPDDR4X 4-6 GB / พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 64-128 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 8 MP / กล้องหลัง 48 MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh
ดีไซน์และสีสันมีความทันสมัย เข้ากับสไตล์คนรุ่นใหม่

มาดูรุ่นระดับรองลงมาจากซีรีส์ POCO กันบ้างครับ โดย POCO M3 Pro 5G มากับดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม ทั้งรูปทรงสีสัน เหมาะกับคนรุ่นใหม่อย่างมาก กับสเปกที่คุ้มเกินราคา โดยเฉพาะคนที่ชอบเล่นเกม จำพวก ROV หรือ LOL ทั้งหลาย ด้วยการแสดงผลหน้าจอที่มากับลูกเล่น “Dynamic Switch” ที่สามารถปรับค่า Hz ของหน้าจอได้โดยอัตโนมัติ ไปตามเกมที่เราเล่น หรือสื่อบันเทิงที่กำลังชมอยู่ เพื่อให้สามารถประมวลผลได้อย่างเหมาะสม ไม่เกิดอาการค้างหรือดีเลย์ขึ้น รวมถึงคุณภาพของกล้องหลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ที่ไม่ได้น้อยหน้ารุ่นอื่นๆ

5. มือถือ Xiaomi รุ่น Xiaomi 11T Pro

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดหน้าจอ 6.55 นิ้ว	ไม่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ
การแสดงผลหน้าจอ FHD+ AMOLED DotDisplay
CPU Qualcomm Snapdragon 778G
RAM 6-8 GB / พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 128-256 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 20 MP / กล้องหลัง 64 MP
แบตเตอรี่ 4250 mAh
ดีไซน์เน้นความแวววาวด้วยสีเมทัลลิกดูหรูหรา

มาดูมือถือ Xiaomi ในรุ่น Lite กันบ้าง ตัวนี้เน้นรูปทรงบาง ๆ น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับคนที่ชอบมือถือทรงเรียบๆ รุ่นนี้มาพร้อมกับขนาดที่บางเฉียบ เพียงแค่ 6.81 มม. เท่านั้นเอง แม้ตัวเครื่องจะบาง แต่ฮาร์ดแวร์ภายในถือว่าไม่ธรรมดาเลย ด้วยชิปหน่วยประมวลผลกลาง Snapdragon 778G ที่มีประสิทธิภาพในการประมวลผลด้านภาพสูงมาก สามารถรองรับเกมกราฟิกดีๆ ได้เป็นอย่างดี และแสดงผลผ่านหน้าจอ FHD+ DotDisplay ที่เน้นการตัดสีแสง ควบคุมปริมาณแสงสีฟ้าบนหน้าจอ ให้เราสามารถจ้องจอได้อย่างสบายตา กับกล้องหลังขนาด 64 ล้านพิกเซล ถือเป็นรุ่นที่รองรับการใช้งานหลายๆ ด้านได้ดีอีกรุ่นเลยล่ะ

6. มือถือ Xiaomi รุ่น Redmi 12C

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดหน้าจอ 6.71 นิ้ว / น้ำหนัก 0.37 Kg	ไม่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ
การแสดงผลหน้าจอ HD+ (Resolution 720×1650)
CPU MediaTek G85 (MT6769CZ)
ความละเอียดกล้องหน้า 5 MP / กล้องหลัง 50 MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh
ดีไซน์มีพื้นผิวที่สวยเป็นเอกลักษณ์ สีสันดูน่ารัก

หากถามว่า มือถือ Xiaomi รุ่นไหนดีที่น่าใช้ในเวลานี้ Xiaomi 12 คือตัวเลือกระดับเรือธง ที่แม้จะเน้นเรื่องการถ่ายภาพแต่สเปคอื่นๆ ก็เข้าขั้นสมบูรณ์แบบ มาพร้อมกล้องหน้า 32 MP มี Selfie Night Mode กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 50+13+5 ล้านพิกเซล มีฟีเจอร์เด่นเช่น One-Click AI Cinema, ระบบ ProFocus, ถ่ายวิดีโอที่ระดับ 8K UHD, โหมด Ultra Night Video ที่ทำให้ทุกเรื่องของการทำคอนเทนต์จบในเครื่องเดียว หน้าจอของรุ่นนี้มาในขนาด 6.28 นิ้ว ค่า Refresh Rate สูงถึง 120Hz รองรับ HDR10+ และ Dolby Vision รองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอ ขุมพลังจัดเต็มด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 พร้อม AI Engine และฟังก์ชัน Game Turbo แบตเตอรี่ให้มา 4,500 mAh รองรับชาร์จเร็ว 67W ชาร์จไร้สาย 50W ระบบเสียงเป็นลำโพงคู่จาก Harman Kardon งานดีแบบนี้ยากที่จะปฏิเสธเลยล่ะ

7. มือถือ Xiaomi รุ่น POCO F5

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดหน้าจอ 6.67 นิ้ว	ไม่กันน้ำ
การแสดงผลหน้าจอ FHD+ Flow AMOLED DotDisplay (Resolution 2400×1080)
CPU Qualcomm Snapdragon 7+ Gen 2 (4 nm)
ความละเอียดกล้องหน้า 16 MP / กล้องหลัง 64 MP
RAM 8-12 GB / พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 256 GB
แบตเตอรี่ 5000 mAh
ดีไซน์ตัวเรื่องมีรูปทรงที่หนาจับได้เหมาะมือ

มือถืออีกรุ่นจากซีรีส์ POCO ที่มาในรูปทรงหนาแบบถือได้เต็มไม้เต็มมือ สำหรับใครที่เบื่อสมาร์ตโฟนรูปทรงบางๆ มาลองดูรุ่นนี้กันครับ ถือเป็นรุ่นที่เน้นการใช้งานด้วยความเร็วทันใจอีกรุ่น ด้วยหน่วยประมวลผลกลาง Snapdragon 7+ Gen 2 รุ่น 4 nm ที่มาพร้อมกับความเร็วในการประมวลผลที่เร็วทันใจถึง 2.91GHz หายห่วงในเรื่องการใช้งานว่าไม่มีอาการห่วงหรืออืดเกิดขึ้นแน่นอน พร้อมกับเทคโนโลยีการดีไซน์หน้าจอและฝาเครื่อง เรียกว่า LiquidCool 2.0 ของเหลวที่ช่วยทำให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น ติดอยู่บริเวณตัวเครื่อง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของ Xiaomi เอง ที่ช่วยให้เครื่องสามารถรักษาอุณหภูมิให้ไม่สูงมากเกินไป แม้จะใช้งานหลายชั่วโมงแล้ว ในแง่ความอึด ทน ใช้งานได้นาน รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์อย่างแรงครับ

8. มือถือ Xiaomi รุ่น Redmi 10A

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดหน้าจอ 6.53 นิ้ว	ไม่มีคุณสมบัตในการกันน้ำ
การแสดงผลหน้าจอ HD+ DotDrop (Resolution 1600×720)
CPU MediaTek Helio G25
RAM LPDDR4X 2-4 GB / พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 32-128 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 5 MP / กล้องหลัง 13 MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh

Redmi 10A มือถือในรูปทรงโค้งมน สไตล์ ยูนิบอดี้ (Uni-Body) ที่ออกแบบส่วนโค้งของฝาเครื่องได้เป็นอย่างดี เข้ากันได้ลงตัวกับหน้าจอ Dot Drop ที่ให้รายละเอียดคมชัด และสามารถถนอมสายได้ดี พ่วงประสิทธิภาพในการประมวลผลที่เน้นความสะดวกใช้งาน และความรวดเร็ว ด้วยหน่วยประมวลผล MediaTek Helio G25 และโปรเซสเซอร์ Octa-Core ที่เน้นความเร็วสูงถึง 2.0GHz สามารถรองรับกระประมวลผลกราฟิกหรือการเก็บภาพความละเอียดสูงได้เป็นอย่างดี และยังล้ำด้วยฟังก์ชันการล็อกและปลดล็อกเครื่องด้วยการสแกนลายนิ้วมือ เพิ่มเข้ามาเป็นทางเลือกในการรักษาความปลอดภัย อาจจะมีจุดด้อยเล็กน้อยคือ กล้องหลังที่ระดับความชัดเพียง 13 ล้านพิกเซลเท่านั้น แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสเรื่องกล้องมาก การใช้งานส่วนอื่นๆ ก็นับว่าคุ้มราคาครับ

9. มือถือ Xiaomi รุ่น Redmi A1

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดหน้าจอ 6.52 นิ้ว	ไม่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ
การแสดงผลหน้าจอ HD+ DotDrop (Resolution 1600×720)
RAM LPDDR4X 2-3 GB / พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 32 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 5 MP / กล้องหลัง 8 MP
แบตเตอรี่ 5000 mAh

อีกรุ่นในกลุ่มราคาประหยัดที่ใส่สเปคมาได้อย่างน่าสนใจคือ Redmi 10C มือถือจอใหญ่เต็มตาเหมาะกับการดูหนังและเล่นโซเชียลมีเดียต่างๆ ด้วยขนาด 6.71 นิ้ว ความละเอียด HD+ ขอบจอบาง ดีไซน์ DotDrop มีติ่งสำหรับฝังกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กล้องหลังเป็นเลนส์คู่ ความละเอียด 50+2 ล้านพิกเซล มีฟิลเตอร์และโหมดการถ่ายภาพหลายแบบ รุ่นนี้ให้ชิปเซ็ตมาเป็นรุ่น Snapdragon 680 มี RAM ขนาด 4 GB รันบน Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 13 แบตเตอรี่ให้มาที่ความจุ 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18W เพียงพอกับการใช้งานประจำวัน มีให้เลือกในสี Graphite Gray, Ocean Blue และ Mint Green

10. มือถือ Xiaomi รุ่น Xiaomi 12 Pro

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดหน้าจอ 6.36 นิ้ว	กันน้ำกันฝุ่นได้ระดับ IP68
การแสดงผลหน้าจอ OLED HDR10+ (Resolution 1080×2400)
CPU Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
RAM 12 GB / พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 256 GB
ความละเอียดกล้องหน้า 32 MP / กล้องหลัง 50 MP
เลนส์ Leica เสริมลูกเล่นภาพถ่ายได้อย่างสะดวกและหลากหลาย

ปิดท้ายรายชื่อมือถือ Xiaomi รุ่นไหนดี กันด้วยมือถือไลน์หลัก อย่าง Xiaomi 13 ที่ถือเป็นรุ่นระดับรองลงมาจาก Xiaomi 13 Pro ของอันดับแรกนั่นเอง ทำให้ในด้านฟังก์ชันการใช้งาน และสเปกของมือถือ จะมีความคล้ายกันอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผล CPU หรือคุณภาพของตัวกล้องหลัง ที่ยึดใช้จุดเด่นเดียวกันคือเลนส์เทเลโฟโต้ของ Leica ที่สามารถใช้งานลูกเล่นในการบันทึกภาพนิ่ง หรือวิดีโอได้ในระดับที่ใกล้เคียงกัน ต่างกันเพียงแค่ การแสดงผลของหน้าจอ ขนาดของ RAM หรือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเท่านั้น ถือเป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับคนที่ต้องการ Xiaomi 13 แต่ยังมองว่ารุ่น Pro ราคายังแรงเกินไป รุ่นธรรมดาก็ถือว่าเป็นมือถือคุณภาพที่ใช้งานได้ดีคุ้มราคาเหมือนกันแน่นอน

บทส่งท้ายจากผู้เขียน

และทั้งหมดนี้ก็คือรายชื่อมือถือรุ่นน่าใช้จากแบรนด์ที่นับวันยิ่งน่าสนใจเพราะมีการพัฒนาตัวเองขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนก้าวขึ้นมาสู่แถวหน้าของวงการได้อย่างไม่เกรงกลัวค่ายใหญ่ โดยมีตัวเลือกอย่างหลากหลายในทุกช่วงราคาตั้งแต่ระดับเริ่มต้น ระดับกลาง ระดับเรือธง ไปจนถึงเกมมิ่งโฟน ส่วนการจะเลือกมือถือ Xiaomi รุ่นไหนดีนั้นก็อยู่ที่รูปแบบการใช้งาน ว่าเน้นในเรื่องการถ่ายภาพ การเล่นเกม ดูหนัง เล่นโซเชียลมีเดีย รวมถึงเลือกจากราคาที่ลงตัวกับงบประมาณที่มีของเรามากที่สุดด้วยครับ