สำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ว่าใครก็คงอยากจะเก็บภาพสุดน่าประทับใจเอาไว้ ในทุกๆ ที่ที่ไปเบือน แม้แต่กิจกรรมทางน้ำอย่างการ ดำน้ำ ลงไปชมภาพธรรมชาติสวยๆ ใต้ทะเล ทำให้ “กล้องถ่ายใต้น้ำ” เป็นทางเลือกที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะแม้ว่ากล้องโดยทั่วไปในสมัยนี้ มักจะมีฟังก์ชันกันน้ำเป็นปกติ (แม้กระทั่งมือถืออย่าง สมาร์ทโฟน ด้วย) แต่สำหรับการดำดิ่งลงไปในความลึกหลายเมตร แรงดันน้ำจะยิ่งทำให้กล้องเสี่ยงต่อการชำรุดคามือเราได้ การเลือกใช้กล้องที่รองรับการใช้งานใต้น้ำโดยเฉพาะจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ส่วนจะเลือก “กล้องถ่ายใต้น้ำ ยี่ห้อไหนดี” มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง บทความนี้เราคัดมาถึง 10 รุ่นด้วยกัน
วิธีเลือกกล้องถ่ายใต้น้ำ
ในการจะเลือกกล้องถ่ายใต้น้ำ ยี่ห้อไหนดีนั้น มีองค์ประกอบที่เราสามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา เพื่อให้ได้รุ่นที่ตรงกับการใช้งานและมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึงเหมาะสมกับงบประมาณที่เรามีด้วย
1. เลือกจากประเภทของกล้อง
ประเภทของกล้องถ่ายใต้น้ำที่เป็นที่นิยมแบบแพร่หลาย จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ กล้องประเภท “Action Camera” กล้องขนาดเล็กที่เน้นการใช้งานที่รวดเร็วทันใจและพกพาสะดวก กับแบบ “Compact” ที่เป็นกล้องขนาดใหญ่แบบดั้งเดิม ซึ่งในปัจจุบัน กล้องแบบ Action Camera จะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษในหมู่นักท่องเที่ยวสายลุย เนื่องจากพกพาง่ายและใช้งานง่ายนั่นเอง ส่วนกล้อง Compact จะไม่ค่อยได้รับความนิยมมากแล้ว เพราะปัจจุบันมีกล้องที่คุณภาพสูงกว่านี้ออกมาทดแทนอยู่หลายรุ่น แต่ก็ยังมีคนที่ใช้กล้อง Compact เพื่อนถ่ายใต้น้ำกันอยู่ เนื่องมาจากความทนทานสูงที่สูงกว่ากล้องแบบอื่นๆ มาก
2. เลือกกล้องถ่ายใต้น้ำจากความคมชัด
หากต้องเก็บภาพใต้น้ำให้สวยงามตรงใจเราที่สุด ก็ต้องเลือกที่ ประสิทธิภาพความคมชัดในการเก็บภาพของกล้องเป็นหลัก สำหรับกล้องถ่ายใต้น้ำ ก็มีหน่วยวัดระดับความคมชัดไม่ต่างจากกล้องประเภทอื่นๆ เช่น ระดับความชัดในการเก็บภาพนิ่ง จะวัดเป็นค่า “เมกะพิกเซล (Megapixel)” หรือ MP โดยกล้องทั่วไปในปัจจุบัน จะมีระดับความชัดอยู่ที่ 10-20 MP เป็นมาตรฐาน ส่วนระดับความชัดในการบันทึกวิดีโอ กล้องจะแบ่งค่าความชัดออกเป็น 2 แบบ คือระดับความชัด ที่มีหลายระดับ เช่น HD, QHD, 2K, 4K เป็นต้น (ปัจจุบันระดับมาตรฐานจะอยู่ที่ 4K) และ ความเร็วในการประมวลผลภาพ หรือ Fps ที่ไว้รองรับระดับความคมชัดของกล้องอีกที โดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 30-120fps อยากได้ความคมชัดขนาดไหนก็เลือกได้ตามสะดวก
3. เลือกกล้องถ่ายใต้น้ำจากระดับความลึกของการกันน้ำ
จุดประสงค์ของการใช้กล้องถ่ายใต้น้ำก็คือ การลงไปเก็บภาพข้างใต้ทะเล ในระดับความลึกจากผิวน้ำลงมาหลายเมตร และแต่ละคนก็จะมีระดับความลึกของน้ำที่ตัวเองต้องการลงไปไม่เท่ากัน บางคนต้องการแค่ชมปะการังสวยๆ เพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น แล้วก็มีหลายคนที่ชอบดำดิ่งลึกไปกว่า 10-15 เมตร ก็มีเช่นกัน ซึ่งกล้องแต่ละรุ่น ก็จะมีระดับการกันน้ำลึกที่ไม่เท่ากัน บางรุ่นถูกสร้างมาเพื่อรองน้ำในระดับที่ไม่ลึกมากเท่านั้น หากลูกลงไปเกินกว่าที่ข้อมูลของกล้องระบุไว้ ก็อาจเสี่ยงต่อการชำรุดได้
4. เลือกกล้องถ่ายใต้น้ำจากความจุของแบตเตอรี่
การใช้งานกล้องนอกสถานที่เป็นเวลานานๆ ความจุของแบตเตอรี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่สำคัญ ซึ่งโดยทั่วไป กล้อง Compact มักจะมีความจุของแบตเตอรี่มากกว่ากล้องแบบ Action Camera เนื่องจากกล้อง Action Camera เป็นกล้องที่มีขนาดค่อนข้างเล็กกะทัดรัด ทำให้ความจุของแบตเตอรี่จึงต้องเล็กไปตามขนาดของกล้องด้วย จึงถือเป็นจุดที่ต้องแลกมากับความสะดวกสบายในการใช้งาน คือการใช้งานที่ไม่ยาวมากและต้องชาร์จไฟอยู่บ่อยๆ และเป็นเหตุผลตามมาที่ว่าทำไม กล้อง Compact ยังคงนิยมอยู่ เนื่องจากความจุของแบตเตอรี่ที่สูงกว่านั่นเอง ตรงนี้เราจึงควรต้องพิจารณาให้ดี โดยเทียบกับฟังก์ชัน และประสิทธิภาพด้านอื่นของกล้องให้เหมาะสม
5. เลือกกล้องถ่ายใต้น้ำจากยี่ห้อและราคา
ข้อสุดท้ายก็คือการเลือกจากยี่ห้อและราคาที่เหมาะสมกับความต้องการของเรา อาทิ GoPro, DJI, SJCAM, Insta360, Olympus, RICOH หรือแบรนด์ทางเลือกอย่าง AKASO และ Keelead เป็นต้น สนนราคาก็ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันการทำงาร รวมถึงชื่อเสียงของแบรนด์ มีตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่น ทั้งนี้อย่าลืมตรวจสอบระยะเวลาและเงื่อนไขในการรับประกันสินค้าร่วมด้วยทุกครั้ง
กล้องถ่ายใต้น้ำ ยี่ห้อไหนดี
สำหรับคนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกกล้องถ่ายใต้น้ำ ยี่ห้อไหนดี หรือว่ามีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง ลองมาดู 10 รุ่นที่เราคัดมานี้ดู ว่ารุ่นไหนที่น่าจะลงตัวกับความต้องการของคุณมากที่สุด
1. กล้องถ่ายใต้น้ำ GoPro HERO9 Black
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| กล้องประเภท Action Camera คุณภาพแถวหน้า | ราคาโดยประมาณ 15,999 บาท |
| ความคมชัดการถ่ายภาพ 23.6 MP | |
| ความคมชัดการบันทึกวิดีโอ 4K | |
| ระดับกันน้ำลึก 10 เมตร |
เริ่มต้นรายชื่อกล้องถ่ายใต้น้ำ ยี่ห้อไหนดีของเรากันด้วย GoPro HERO9 Black จากแบรนด์แถวหน้าของวงการ ซึ่งรุ่นนี้ยังคงมาพร้อมกับสเปกดีงามตามมาตรฐานของ GoPro ทุกรายละเอียด โดยมาในรูปแบบของกล้องแบบ Dual Screen สองหน้าจอทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตามสมัยนิยม พร้อมกับความละเอียดภาพสูงกว่า 23.6 MP และสามารถเลือกถ่ายวิดีโอด้วยความละเอียดหลายระดับ ตั้งแต่ 1080p ไปจนถึง 4K เลย และยังมี Hypersmooth 3.0 ป้องกันการสั่นของภาพได้อย่างแม่นยำ สามารถทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้ภาพที่สวยงามและนิ่งสนิทในทุกระดับความลึกแน่นอน
2. กล้องถ่ายใต้น้ำ DJI ACTION 2 Dual-Screen Combo
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| กล้องประเภท Action Camera | ราคาโดยประมาณ 14,799 บาท |
| ความคมชัดการถ่ายภาพ 12 MP | |
| ความคมชัดการบันทึกวิดีโอ 4K/120fps | |
| ระดับกันน้ำลึก 10 เมตร | |
| แบตเตอรี่ 580 mAh |
DJI เป็นอีกแบรนด์ผู้ผลิตกล้อง Action Camera ที่มีดีไซน์และการใช้งานเป็นเอกลักษณ์ ด้วยขนาดที่เล็กแต่ฟังก์ชันใหญ่เกินตัว สามารถพกพา ติดกับรถ ติดกับหมวกได้ โดย DJI ACTION 2 Dual-Screen Combo มาพร้อมกับความละเอียดภาพสูงถึง 12 MP กับความละเอียดววิดีโอระดับ 4K พร้อมกับลูกเล่นในการใช้งานอีกหลายอย่าง พ่วงมาด้วย Horizon Steady ระบบกันสั่นตัวใหม่ที่นิ่งขึ้น แบตเตอรี่ใช้สูงสุด 70 นาที กันน้ำได้ 10 เมตร หรือ 60 เมตร เมื่อใช้เคสกันน้ำ ใครเป็นนักเดินทางสายสร้างสรรค์ นี่คือรุ่นที่ควรต้องมี
3. กล้องถ่ายใต้น้ำ SJCAM รุ่น SJ4000 Air
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| กล้องประเภท Action Camera | ราคาโดยประมาณ 1,475 บาท |
| ความคมชัดการถ่ายภาพ 16 MP | |
| ความคมชัดการบันทึกวิดีโอ 4K/30fps | |
| ระดับกันน้ำลึก 30 เมตร | |
| แบตเตอรี่ 900 mAh |
หากถามว่ากล้องถ่ายใต้น้ำ ยี่ห้อไหนดีที่ราคาจับต้องได้ ต้องตัวนี้เลย กับกล้องกันน้ำ SJCAM SJ4000 Air โดยมากับความชัดสูงถึง 16 MP พร้อมกับบันทึกวิดีโอความคมชัดระดับ 4K ทั้งตัวดีไซน์ที่เน้นให้สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ อย่าง ขาตั้งกล้อง หรือ ติดตั้งบนหมวก ได้ง่ายโดยไม่ต้องดัดแปลงเพิ่ม รุ่นนี้มี Wi-Fi ในตัว รองรับการใช้งานแบบไร้สาย พร้อมโหมด WDR ที่ช่วยให้ได้ภาพที่คมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน ใช้งานง่ายด้วยหน้าจอสีแบบ LCD ขนาด 2 นิ้ว มี Waterproof Housing ทำให้สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 30 เมตร สำหรับผู้เริ่มต้นและอยากได้กล้องราคาไม่แพงตัวนี้ตอบโจทม์เลยล่ะ
4. กล้องถ่ายใต้น้ำ Insta360 ONE RS twin edition
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| กล้องประเภท Action Camera | ราคาโดยประมาณ 19,500 บาท |
| ความคมชัดการถ่ายภาพ 18 MP (เลนส์คู่) / 12 MP (เลนส์มุมกว้าง) | |
| ความคมชัดการบันทึกวิดีโอ 4K/60fps | |
| ระดับกันน้ำลึก 5 เมตร | |
| แบตเตอรี่ 1,190 mAh |
สำหรับคนที่ชอบอุปกรณ์ที่มีฟังก์ชันอเนกประสงค์ในตัวเอง นี่คือรุ่นที่คุณต้องโดนใจอย่างแน่นอน สำหรับกล้องจากแบรนด์ Insta360 รุ่น ONE RS Twin Edition แบรนด์กล้อง Action Camera ที่โดดเด่นมากในความล้ำของดีไซน์ โดยรุ่นนี้มาในรูปแบบของชุด Kit ที่สามารถ ถอดประกอบ แยกชิ้น ส่วนต่างๆ ของกล้องได้ สามารถสลับตำแหน่งของโมดูลเพื่อเลือกใช้งานตามที่เราต้องการได้เหมือนต่อเลโก้ พร้อมกับความคมชัดของภาพที่ 18 MP (หากใช้เลนส์มุมกว้างจะเป็น 12 MP) ถือเป็นกล้องอเนกประสงค์ที่ใช้ได้สนุกถูกใจคนชอบอะไรแนว ๆ แน่นอน
5. กล้องถ่ายใต้น้ำ GoPro Hero 10 Action Camera
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| กล้องประเภท Action Camera | ราคาโดยประมาณ 23,990 บาท |
| ความคมชัดการถ่ายภาพ 23 MP | |
| ความคมชัดการบันทึกวิดีโอ 5.3 K/60fps | |
| ระดับกันน้ำลึก 10 เมตร | |
| แบตเตอรี่ 1,720 mAh |
อีกหนึ่งรุ่นของกล้องจาก GoPro ในลิสท์ กล้องถ่ายใต้น้ำ ยี่ห้อไหนดี นี้ และเป็นพี่น้องคลานตามกันมากับรุ่น HERO 9 นั่นก็คือ “HERO 10 Action Camera” ที่อัปเกรดประสิทธิภาพการใช้งานขึ้นไปอีกขั้น ด้วยความคมชัดของภาพสูงมากถึง 23 MP กับความคมชัดของวิดีโอที่บันทึกได้สูงสุดถึง 5.3K ที่ใช้งานร่วมกับระบบกันภาพสั่นรุ่นใหม่อย่าง Hypersmooth 4.0 ได้อย่างดีเยี่ยม ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของกล้อง Action Camera ที่รุ่นอื่นๆ เทียบได้ยากก็ว่าได้ แม้ราคาอาจจะสูงด้วยฟังก์ชันที่จัดเต็ม แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเพราะสามารถช่วยสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพได้อย่างน่าประทับใจ
6. กล้องถ่ายใต้น้ำ Olympus Tough TG-6
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| กล้องประเภท Compact | ราคาโดยประมาณ 18,490 บาท |
| ความคมชัดการถ่ายภาพ 12 MP | |
| ความคมชัดการบันทึกวิดีโอ 4K/30fps | |
| ระดับกันน้ำลึก 15 เมตร | |
| แบตเตอรี่ 1,350 mAh |
ย้ายฝั่งมาดูกล้อง Compact กันบ้าง กับกล้องจากแบรนด์ที่คนเล่นกล้องคุ้นเคยกันดีอย่าง Olympus ในรุ่น Tough TG-6 โดยมาพร้อมกับสเปกที่สูง พร้อมใช้งานทุกสถานการณ์ ด้วยจุดเด่นที่ความแข็งแรงทนทาน สามารถกันน้ำในระดับที่ลึกได้มากถึง 15 เมตร นอกจากกันน้ำแล้ว ยังกันได้ทั้งฝุ่นผง การตกกระแทก และแสงแดดจัดๆ สามารถรับมือกับสภาพแวดล้อมได้ทุกรูปแบบ นอกจากในแง่ความทนทานสมชื่อรุ่นแล้ว ประสิทธิภาพการใช้งานก็ดีไม่แพ้กัน ด้วยความละเอียดภาพถึง 12 MP ใช้เซ็นเซอร์แบบ High-speed back-illuminated CMOS ผสานหน่วยประมวลผลรุ่นล่าสุด เรียกได้ว่ามีดีทั้งภายนอกและภายในเลยทีเดียว
7. กล้องถ่ายใต้น้ำ AKASO Brave 7
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| กล้องประเภท Action Camera | ราคาโดยประมาณ 4,750 บาท |
| ความคมชัดการถ่ายภาพ 20 MP | |
| ความคมชัดการบันทึกวิดีโอ 4K/30fps | |
| ระดับกันน้ำลึก 5 เมตร | |
| แบตเตอรี่ 1,350 mAh |
มาต่อกันที่ กล้องถ่ายใต้น้ำ AKASO Brave 7 กล้อง Action Camera ในราคาเบาๆ แต่ใช้งานได้อย่างครบครัน มาพร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ Dual Screen 2 หน้าจอ ที่มีฟังก์ชัน “ไมโครโฟน” สามารถรองรับการสั่งการด้วยเสียงได้ เป็นระบบที่กล้องหลายรุ่นไม่มี ทนทานด้วยการกันน้ำลึกได้ 5 เมตร เหมาะกับการทำคอนเทนต์ผจญภัย ถ่ายงานใต้น้ำ ด้านความคมชัดให้ความละเอียดภาพนิ่งถึง 20 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอได้ระดับ 4K ดีไซน์กล้องออกแบบมาให้สามารถจับได้กระชับมือ น้ำหนักเบา เทียบสเปกกับราคาแล้วถือว่าคุ้ม
8. กล้องถ่ายใต้น้ำ RICOH WG-60
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| กล้องประเภท Compact | ราคาโดยประมาณ 19,200 บาท |
| ความคมชัดการถ่ายภาพ 16 MP | |
| ความคมชัดการบันทึกวิดีโอ Full HD/1080p | |
| ระดับกันน้ำลึก 14 เมตร | |
| แบตเตอรี่ 925 mAh |
ใครชอบกล้องดีไซน์เท่ ล้ำ โฉบเฉี่ยว มากเป็นพิเศษ RICOH WG-60 เป็นอีกรุ่นในรายชื่อกล้องถ่ายใต้น้ำ ยี่ห้อไหนดีของเราที่คุณน่าจะถูกใจ โดยมากับดีไซน์ที่สวยล้ำคล้ายกับนาฬิกา G-Shock ซึ่งนอกจากความเท่แล้ว สเปกการใช้งานก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ทั้งระดับความคมชัดของภาพถึง 16 MP และความละเอียดวิดีโอระดับ Full HD 1080p ที่แม้จะไม่ได้คมกริบระดับ 4K แต่ก็ถือว่าชัดมากพอสำหรับการบันทึกภาพใต้น้ำ ในด้านประสิทธิภาพถือว่าตามมาตรฐานของกล้อง Compact ทั่วไป แต่ในด้านความเท่แล้ว บอกได้เลยว่าเหนือกว่ากล้องรุ่นอื่นๆ แน่นอน
9. กล้องถ่ายใต้น้ำ Keelead รุ่น K80
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| กล้องประเภท Action Camera | ราคาโดยประมาณ 7,250 บาท |
| ความคมชัดการถ่ายภาพ 20 MP | |
| ความคมชัดการบันทึกวิดีโอ 4K/60fps | |
| ระดับกันน้ำลึก 5 เมตร | |
| แบตเตอรี่ 1,350 mAh |
กล้องถ่ายใต้น้ำ Keelead รุ่น K80 เป็นกล้อง Action Camera ในแบบที่ให้ความรู้สึกคลาสสิกย้อนยุค มาในขนาดที่กำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่ ตัวเครื่องที่เป็นสีดำและมาในทรงที่ดูเหมือนกับกล้องยุคเก่า แบบที่มองผ่านๆ อาจนึกว่าเป็นกล้อง Compact ได้เลย รุ่นนี้มาพร้อมกับความละเอียดคมชัดของภาพถึง 20 MP และสามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K ได้ด้วยความเร็วถึง 60fps ซึ่งถือว่าสูงพอสมควร (ไม่เท่า GoPro แต่ก็สูงกว่ากล้อง Action หลายรุ่นๆ ที่ราคาเท่ากัน) ที่สำคัญคือราคาไม่แพงจนเกินไปด้วย
10. กล้องถ่ายใต้น้ำ Insta360 Go 2
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| กล้องประเภท Action Camera | ราคาโดยประมาณ 13,200 บาท |
| ความคมชัดการถ่ายภาพ 9 MP | |
| ความคมชัดการบันทึกวิดีโอ QHD/144fps | |
| ระดับกันน้ำลึก 4 เมตร | |
| แบตเตอรี่ 1,100 mAh |
ปิดท้ายลิสท์กล้องถ่ายใต้น้ำ ยี่ห้อไหนดีกันด้วยกล้องดีไซน์ล้ำๆ จากแบรนด์ Instra360 อีกสักรุ่น ต้องบอกว่าแบรนด์นี้ขยันทำกล้องดีไซน์แหวกแนวออกมาจนยากจะมองข้าม โดย Insta360 Go 2 ในทรงโค้งมน มีขนาดที่เล็กมาก เพียงไม่เกินนิ้วโป้งเท่านั้น จนหลายคนอาจจะรู้สึกแปลกใจว่า เล็กขนาดนี้ มันจะใช้งานได้เทียบเท่ากล้อง Action รุ่นอื่นจริงหรือ? แต่บอกได้เลยว่า สเปกกล้องสูงกว่าที่เห็นภายนอกมาก ทั้งความละเอียดภาพ 9 MP ที่ถือว่าสูงมากสำหรับเลนส์ที่เล็กแค่นี้ และความละเอียดวิดีโอระดับ QHD พร้อมกับรูปแบบการใช้งานที่ไม่ซับซับซ้อน ใครชอบงานดีไซน์ที่มาพร้อมประสิทธิภาพรุ่นนี้ใชเลย
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
และทั้งหมดนี้ก็คือ 10 รุ่นในรายชื่อกล้องถ่ายใต้น้ำ ยี่ห้อไหนดี ที่เราคัดมาฝากกันจากแบรนด์ชั้นนำไม่ว่าจะเป็น GoPro, DJI, SJCAM, Insta360, Olympus, RICOH หรือแบรนด์ทางเลือกอย่าง AKASO และ Keelead โดยแม้เราจะจั่วหัวข้อว่าเป็นกล้องถ่ายใต้น้ำ แต่จริงๆ แล้ว กล้องเหล่านี้ ยังสามารถใช้งานได้ในทุกๆ สถานการณ์เลย ไม่จำกัดว่าจะต้องใช้แค่ในน้ำเท่านั้น เพราะแต่ละรุ่นล้วนถูกออกแบบมาเพื่อการออกผจญภัยท่องโลกกว้างอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวสายดำน้ำหรือไม่ นี่คือไอเทมที่ควรมีติดตัวเอาไว้สักรุ่น
