เครื่องปริ้น (Printer) ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องมีในทุกสำนักงาน หรือบางบ้านก็อาจมีเครื่องปริ้นเอาไว้ใช้ส่วนตัว ซึ่งในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปมากทำให้เครื่องปริ้นมาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานมากมายให้ได้เลือกใช้กัน อาทิสามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายกับเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อปริ้นงานได้ สั่งงานจากสมาร์ทโฟนได้ ความเร็วในการพิมพ์ที่มากขึ้น ใครกำลังมองหาเครื่องพิมพ์เอาไว้ใช้งานลองมาดู 10 รุ่น เครื่องปริ้น ยี่ห้อไหนดี ที่เราคัดมานี้ดูว่าจะถูกใจรุ่นไหน
วิธีเลือกเครื่องปริ้นที่เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเอง
ปัจจุบันเครื่องปริ้นมีหลากรุ่นหลายราคา หลายยี่ห้อ คุณสมบัติก็แตกต่างกันออกไป แล้วจะเลือกอย่างไรล่ะ เรารวมเคล็ดลับในการเลือกเครื่องปริ้นมาให้แล้วไปดูกันเลย
1. เลือกจากประเภทของเครื่องปริ้น
ก่อนอื่นเลยเราต้องดูว่าเครื่องปริ้นแบบไหนที่น่าจะเหมาะกับการใช้งานของเรา ซึ่งหลักๆ แล้วจะมีอยู่ 2 แบบด้วยกันคือ
- เครื่องปริ้นแบบเลเซอร์ (Laser Printer) หากเป็นการใช้งานหนักต้องการคุณภาพการพิมพ์ที่ดีความรวดเร็วสูง ปริ้นเตอร์แบบนี้ถือว่าตอบโจทย์ โดยส่วนใหญ่นิยมใช้กันในสำนักงานเป็นหลัก เพราะต้องมีการพิมพ์เอกสารจำนวนมาก ส่วนในเรื่องการพิมพ์ภาพนั้น อาจจะพิมพ์ได้แต่ไม่ใช่ฟังก์ชันหลักของ Laser Printer ทั้งนี้ค่าบำรุงรักษาและราคาหมึกโดยเฉลี่ยแล้วจะสูงกว่าอีกแบบ
- เครื่องปริ้นแบบอิงค์เจ็ท (Inkjet Printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่เหมาะกับการพิมพ์ภาพหรือเอกสารที่ต้องการความคมชัดและรายละเอียดค่อนข้างสูง หรือหากต้องการเอกสารขาวดำก็สามารถตั้งค่าได้เช่นกัน จุดเด่นของเครื่องปริ้นแบบนี้ก็คือต้นทุนของหมึกจะต่ำกว่าแบบเลเซอร์ กินพลังงานไม่มาก ราคาก็ถือว่าไม่แพง แต่ก็ต้องมาดูในรายละเอียดของฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย เพราะมีการผลิตออกมาหลายช่วงสเปคและราคาด้วยกัน
2. งบประมาณ
เรื่องสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องปริ้น ยี่ห้อไหนดี ก็คือ งบประมาณที่เรามีอยู่นั่นเอง ซึ่งหากมีงบที่จำกัดเราควรเลือกรุ่นที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของเราได้ก็พอ ไม่ต้องมองที่ฟังก์ชันเสริมอย่างการเชื่อมต่อไร้สาย การควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน การสแกนเอกสาร ถ้าต้องการพิมพ์แค่เอกสารก็อาจจะเลือกแค่เครื่องปริ้นขาวดำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ควรเลือกรุ่นที่ราคาถูกจนเกินไปเพราะคุณภาพอาจจะต่ำและไม่ทนทานมากพอก็ได้
3. คุณภาพและความเร็วในการพิมพ์
การจะเลือกว่าเครื่องปริ้น ยี่ห้อไหนดีที่ตรงตามความต้องการของเราสิ่งที่ต้องคำนึงถึงนั้นก็คือ คุณภาพและความเร็วในการพิมพ์ ซึ่งจะถูกกำหนดด้วยค่า dpi หรือความละเอียดว่ามีกี่จุดต่อนิ้ว ยิ่งค่า dpi สูงความละเอียดก็จะสูงตามไปด้วย ทั้งนี้อาจเลือกที่มีค่า dpi สูงแล้วค่อยมาปรับการตั้งค่าลดลงก็ได้ในกรณีที่ต้องการงานที่ไม่เน้นความละเอียด ส่วนความเร็วในการพิมพ์นั้นก็ต้องดูว่าใน 1 นาที สามารถพิมพ์ภาพหรือเอกสารได้มากน้อยเพียงใด ที่ความละเอียดเท่าไหร่ เป็นต้น โดยถ้าเน้นปริมาณเยอะๆ เครื่องปริ้นแบบเลเซอร์จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
4. การเชื่อมต่อ
เครื่องปริ้นในปัจจุบันสามารถเลือกรูปแบบการเชื่อมต่อได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อผ่านสายเคเบิ้ลและพอร์ต USB ที่ใช้งานกันมาตั้งแต่อดีตหรือการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่มาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้มากขึ้น โดยเชื่อมต่อผ่านพอร์ต Ethernet หรือ Wi-Fi สามารถสั่งงานได้ทันทีจากอุปกรณ์ที่อยู่ในระยะ หรือบางรุ่นยังสามารถควบคุมการทำงานผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตจากแอพของทางผู้ผลิตได้อีกด้วย
5. เลือกจากต้นทุนค่าใช้จ่าย
หากเป็นการใช้งานในสำนักงานเรื่องที่ควรต้องพิจารณาประกอบก็คือต้นทุนค่าใช้จ่ายเทียบกับผลลัพธ์การพิมพ์ที่ได้ ซึ่งเป็นการคำนวณจากจำนวนแผ่นที่พิมพ์ได้เทียบกับค่าหมึกปริ้นในแต่ละรอบ โดยเครื่องปริ้นแต่ละรุ่นก็จะมีสเปคในส่วนนี้มาให้เราได้ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ทั้งนี้ประเภทของหมึกพิมพ์นั้นก็มีผลเช่นกัน หลักๆ แล้วหมึกที่ใช้เติมจะมีด้วยกัน 4 แบบคือ
- หมึกแบบตลับรวมสี มาพร้อมกับตัวเครื่องภายในบรรจุตลับหมึกสีดำและตลับหมึกสี มีราคาค่อนข้างสูง หากหมึกไหนหมดต้องเปลี่ยนทั้งตลับ
- หมึกตลับแยกสี คล้ายกันกับแบบแรกแต่มีข้อดีคือเมื่อมีการแยกสีทำให้ดูแลรักษาง่าย ตลับสีไหนหมดก็เปลี่ยนแค่สีนั้น
- หมึกตลับแบบโทนเนอร์ เหมาะกับการใช้งานที่ต้องพิมพ์เยอะ พิมพ์บ่อย หมึกเยอะกว่า เปลี่ยนง่าย มักใช้กับเครื่องปริ้นเลเซอร์ ราคาค่อนข้างแพงแต่ก็คุ้มค่าหากนำมาใช้ในสำนักงาน
- Ink Tank สำหรับคนที่ใช้งานเครื่องปริ้นเป็นประจำและต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ลงทุนครั้งเดียวแต่คุ้มค่าอิงค์แท้งค์คือตัวเลือก เพราะเปลี่ยนหรือเติมหมึกได้ง่าย ต้นทุนต่อแผ่นต่ำกว่าเมื่อเทียบกับหมึกแบบอื่น
6. ฟังก์ชันการทำงาน
ฟังก์ชันการทำงานของเครื่องปริ้นก็เป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยเราตัดสินใจได้ว่าเครื่องปริ้นยี่ห้อไหน หรือรุ่นไหน ที่ลงตัวกับความต้องการของเรามากที่สุด บางรุ่นนั้นเป็นเครื่องปริ้นแบบ All-in-One หรือ AIO ที่สามารถทำได้มากกว่าพิมพ์งาน เช่น สแกนเอกสาร, ส่ง Fax, พิมพ์สองหน้าได้, ป้อนเอกสารอัตโนมัติ, เชื่อมต่อแบบไร้สายได้, เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ ทั้งนี้ยิ่งทำได้หลายอย่างหรือคุณภาพการพิมพ์สูงเท่าไหร่ ราคาก็ยิ่งแพงตามไปด้วย
7. ยี่ห้อและการรับประกัน
ข้อสุดท้ายในการเลือกเครื่องปริ้นก็คือตรวจสอบเรื่องการรับประกันว่าครอบคลุมในส่วนไหนบ้าง ระยะเวลานานเท่าไหร่ เพราะเครื่องปริ้นนั้นมีโอกาสชำรุดสูงพอสมควร หลายครั้งต้องส่งเข้าศูนย์กินเวลานาน จึงต้องตรวจสอบเงื่อนไขให้ดี ทั้งนี้แนะนำว่าควรเลือกยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน อาทิ Canon, Epson, Brother หรือ HP เป็นต้น
10 อันดับ เครื่องปริ้น ยี่ห้อไหนดี
เราได้ทราบถึงวิธีเลือกเครื่องปริ้นไปแล้วว่าต้องพิจารณาจากสิ่งใดบ้าง คราวนี้เรามาดูกันเลยว่า เครื่องปริ้น ยี่ห้อไหน รุ่นใด ที่น่าใช้บ้าง โดยเราคัดมาหลายสเปคและราคาเพื่อให้คุณใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจ
1. HP Deskjet 2333
เปิดรายชื่อเครื่องปริ้น ยี่ห้อไหนดี กันด้วย HP Deskjet 2333 เครื่องพิมพ์ราคาประหยัด ตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานได้ครบถ้วนจากแบรนด์คุณภาพที่อยู่คู่วงการคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงมาอย่างยาวนาน ตัวนี้เป็นเครื่องพิมพ์ อิงค์เจท ที่รวบรวมเอาคุณสมบัติเด่นเข้าไว้ด้วยกันในราคาที่เป็นมิตร สามารถใช้งานได้ทั้งการพิมพ์งาน ถ่ายเอกสาร สแกนเอกสาร หรือสแกนเป็นไฟล์ PDF ได้ พิมพ์เอกสารขาวดำได้สูงสุด 20 แผ่นต่อนาที ควบคุมการใช้งานง่ายผ่านปุ่มควบคุม 5 ปุ่ม บนตัวเครื่อง มีพอร์ต USB ในตัว เหมาะกับการใช้งานส่วนบุคคลหรือ Home Office สวย ถูก ดี รุ่นนี้เลย
2. Epson EcoTank L14150 A3+
ต่อกันเลยกับ Epson EcoTank L14150 A3+ เครื่องปริ้นแบบ AIO ที่สามารถทำได้ทั้งงานพิมพ์ถ่ายเอกสาร และสแกน แนวราบที่ขนาดสูงสุด Legal (F14) ใช้เทคโนโลยีหัวพิมพ์ PrecisionCore ตั้งค่าสูงสุดได้ 38 แผ่นต่อนาที พิมพ์ปกติ 17 แผ่นต่อนาที ออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด สวยงาม ติดตั้ง Ink Tank ภายใน ขวดหมึกป้องกันการหกเลอะเทอะ สามารถใช้งานได้มากสุด 7,500 หน้าสำหรับงานขาวดำ และ 6,000 หน้าสำหรับพิมพ์สี รองรับการเชื่อมต่อด้วย Ethernet และ Wi-Fi Direct เชื่อมต่อได้ 8 อุปกรณ์ ใช้งานร่วมกับ Epson Connect สั่งพิมพ์ได้จากทุกที่ รองรับการพิมพ์จาก Cloud Storage อุ่นใจด้วยการรับประกันถึง 2 ปี หรือ 80,000 แผ่น งานสร้างจัดว่าคุ้มค่าทีเดียว
3. Canon SELPHY CP1300
เครื่องปริ้น ยี่ห้อ Canon นั้นมีจุดเด่นอยู่ที่การมีตัวเลือกที่หลากหลายครบทุกช่วงราคา และยังมากับเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดย Canon SELPHY CP1300 ก็เป็นอีกรุ่นที่ไม่ควรพลาด มาพร้อมดีไซน์สวยงามทันสมัย ในสีขาว ดำ และชมพู มีหน้าจอ LCD แบบปรับเอียงได้ขนาด 3.2 นิ้ว ใช้งานง่ายด้วยปุ่มควบคุมบนตัวเครื่อง สามารถสั่งงานแบบไร้สายผ่าน Mopria Print Service และ AirPrint ได้ สามารถพิมพ์ภาพจากมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา มีแบตเตอรี่เสริมที่พิมพ์ได้ 54 ภาพ ช่วยในการพกพาไปตามที่ต่างๆ มีโหมด Wi-Fi Shuffle Print เชื่อมต่อ 8 อุปกรณ์ และสร้างเป็นภาพคอลลาจใบเดียว พ่วงฟีเจอร์พิมพ์ภาพสติ๊กเกอร์พร้อมเคลือบกันละอองน้ำ ทำให้เก็บไว้ได้นาน ค่าตัวก็ถือว่าไม่แพงจนเกินไป
4. Brother HL-1110
Brother HL-1110 เครื่องปริ้นเลเซอร์ ราคาประหยัดที่เหมาะกับงานพิมพ์เอกสารขาวดำโดยเฉพาะ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ให้กับสำนักงาน มีขนาดเล็กกะทัดรัด แข็งแรงทนทาน แต่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ที่น่าเชื่อถือได้ ช่วยให้พิมพ์งานได้อย่างต่อเนื่องลดการติดขัดของกระดาษระหว่างใช้งาน ตลับหมึกและดรัมแยกออกจากกันทำให้ง่ายต่อการเปลี่ยนหมึกหรือซ่อมบำรุง รุ่นนี้สามารถพิมพ์ได้ถึง 20 หน้าต่อนาที ควบคุมการทำงานได้ง่ายด้วยปุ่มบนตัวเครื่อง มีไฟแสดงสถานะการทำงาน ใครหาเครื่องปริ้นราคาเบาๆ เน้นงานเอกสารขาวดำรุ่นนี้เลย
5. HP Neverstop Laser MFP 1200w
ถ้าไม่รู้จะเลือกเครื่องปริ้น ยี่ห้อไหนดี HP คือแบรนด์ที่หลายคนไว้วางใจ ซึ่งเจ้า HP Neverstop Laser MFP 1200w รุ่นนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับสเปคที่ให้มาอย่างสมราคา เป็นเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันที่ทำได้ทั้งพิมพ์ สแกน และถ่ายเอกสาร พิมพ์ขาวดำได้ที่ 20 แผ่นต่อนาที ตลับหมึกเป็นแบบโทนเนอร์ที่สามารถรีโหลดได้ง่าย คุณภาพการพิมพ์สูงถึง 600 x 600 x 2 dpi พร้อมเทคโนโลยีช่วยประหยัดหมึก ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย สั่งพิมพ์ได้ผ่าน Wi-Fi Direct รองรับ HP Smart ใช้งานผ่านมือถือสั่งงานได้ทั้งจาก Dropbox และ Google Drive หรือพิมพ์ไฟล์งานจากสมาร์ทโฟน ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านงานพิมพ์ได้อย่างลงตัว
6. Canon printer inkjet PIXMA G2010
Canon printer inkjet PIXMA G2010 เครื่องปริ้นแบบมัลติฟังก์ชันที่ทำได้ทั้งการถ่ายเอกสาร สแกน และพิมพ์ เหมาะกับการพิมพ์ในจำนวนมาก ช่วยลดต้นทุนต่อแผ่น ความเร็วในการพิมพ์ขนาด A4 ขาวดำ 8.8 ภาพ/นาที พิมพ์สี 5 ภาพ/นาที เชื่อมต่อผ่าน USB 2.0 หมึก 1 ชุดสามารถพิมพ์ได้ประมาณ 7,000 แผ่น มาพร้อมแท้งค์ในตัวแบบ BUILT-IN ขนาดกะทัดรัด เปลี่ยนหมึกหรือเติมหมึกได้สะดวก ออกแบบมาให้ลดการหกเลอะเทอะ รองรับการพิมพ์แบบไร้ขอบที่ขนาด A4 ใช้งานง่ายเพียงกดปุ่มเลือกการทำงาน
7. FUJI-XEROX DocuPrint CM315 z
มากันที่เครื่องปริ้น ยี่ห้อ FUJI-XEROX กันบ้าง หากเป็นเรื่องงานเอกสารเจ้านี้เขาก็ไม่น้อยหน้าใคร ซึ่ง FUJI-XEROX DocuPrint CM315 z นั้นเป็นผู้ช่วยที่จะมาตอบโจทย์งานพิมพ์ของคุณได้อย่างครบครันและเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ใช้งานได้แบบมัลติฟังก์ชันทั้งพิมพ์ สแกน อีเมล์ และแฟกซ์ ความคุ้มค่าที่น่าลงทุนสำหรับธุรกิจ จุดเด่นคือสามารถพิมพ์ขนาดไซส์ A4 ได้ถึง 28 แผ่น/นาที ทั้งสีและขาวดำ ความละเอียดอยู่ที่ 1200 x 2400 dpi รองรับระบบ FUJIFILM Business Innovation Cloud Service Hub สามารถสั่งพิมพ์ผ่าน Google Cloud Print หรือ AirPrint ได้ รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย และ NFC (Near Field Communication) มีหน่วยความจำ 1 GB และยังมาพร้อมกับโทนเนอร์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
8. Brother MFC-T910DW
อีกรุ่นกับเครื่องปริ้น ยี่ห้อ Brother ตัวนี้บอกเลยว่าคุ้ม เพราะเจ้า Brother MFC-T910DW นั้นมาในแบบ 4In1 ใช้ได้ทั้ง พิมพ์, ส่งแฟกซ์, สแกน และถ่ายเอกสาร รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และ อีเธอร์เน็ตสั่งงานจากสมาร์ทโฟนได้ ถ่ายเอกสารแบบ 2 หน้าได้ ตัวหมึก Brother High Performance Yield พิมพ์ขาวดำได้สูงสุด 6,500 แผ่น พิมพ์สี 5,000 แผ่น ใส่กระดาษได้ 150 แผ่น ปรับขนาดได้ง่ายดาย จะงานเอกสารหรือภาพกราฟิกก็เอาอยู่ ความเร็วในการพิมพ์สูงสุด 12/6 แผ่นต่อนาที มาพร้อม Brother’s Refill Tank System เติมหมึกง่ายไม่เลอะเทอะ ตั้งค่าการทำงานสะดวกมีหน้าจอ LCD แสดงสถานะรูปแบบการทำงาน ลองดูว่ารุ่นนี้ใช้รุ่นที่คุณกำลังมองหาอยู่หรือไม่
9. Canon PIXMA TS307
Canon PIXMA TS307 เครื่องปริ้นราคาประหยัดอีกรุ่นจากทาง Canon ที่ตอบโจทย์การใช้งานส่วนบุคคลหรือ Home Office ได้อย่างลงตัว มาพร้อมการออกแบบที่เรียบง่ายทันสมัย รองรับการพิมพ์และการสแกนได้ในเครื่องเดียว มีปุ่มควบคุมที่ด้านบนช่วยให้ใช้งานสะดวก สามารถสั่งพิมพ์ภาพหรือไฟล์งานจากสมาร์ทโฟนได้ผ่านแอปพลิเคชัน สั่งพิมพ์เอกสารหรือรูปภาพด้วยสมาร์ทโฟนของคุณได้ง่ายๆ ผ่านแอพ CANON PRINT INKJET/SELPHY ความเร็วในการพิมพ์ขนาด A4 ขาวดำอยู่ที่ 7.7 ภาพ/นาที พิมพ์ภาพสี 4 ภาพ/นาที รองรับการใช้งานไร้สายผ่าน WI-FI DIRECT พิมพ์ผ่าน AIRPRINT ได้ เทียบสเปคกับราคาแล้วถือว่าน่าลงทุนด้วยเลยล่ะ
10. HP LaserJet Pro MFP M28a
ปิดท้ายรายชื่อเครื่องปริ้น ยี่ห้อไหนดีกันด้วย HP LaserJet Pro MFP M28a เครื่องพิมพ์แบบ Laser Printer สเปคและราคาระดับกลางๆ เหมาะกับงานเอกสารขาวดำเป็นหลัก ตลับหมึกเป็นแบบโทนเนอร์ที่สามารถพิมพ์ได้สูงสุดถึง 1,000 แผ่น ความเร็วในการพิมพ์สูงสุด 18 แผ่นต่อนาที ใส่กระดาษได้ 150 แผ่น ความละเอียดอยู่ที่ 600×600 dpi รองรับการใช้งานแบบมัลติฟังก์ชันไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ การถ่ายเอกสาร หรือการสแกน เป็นเครื่องพิมพ์ขนาดเล็กแต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจากยี่ห้อมาตรฐาน และยังมาพร้อมการรับประกันนาน 1 ปี อีกด้วย
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
สำหรับการจะเลือกว่าเครื่องปริ้น ยี่ห้อไหนดี หรือรุ่นไหนที่ลงตัวกับเรานั้น คงต้องพิจารณากันที่ความต้องการใช้งานของเราว่าเน้นไปที่ส่วนไหนมากกว่ากัน และมีงบประมาณที่สามารถจ่ายได้มากน้อยแค่ไหน หากเป็นการใช้งานส่วนตัวก็ไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นที่รองรับการพิมพ์ในจำนวนที่มาก หรือพิมพ์เร็ว แต่ถ้าเน้นใช้ในสำนักงานก็ควรเลือกที่ความคุ้มค่า พิมพ์ได้เยอะในต้นทุนที่ต่ำ ส่วนรุ่นไหนจะเหมาะกับคุณที่สุดลองเทียบกันดูอีกครั้งหนึ่งครับ
