ปัจจุบัน “คอมพิวเตอร์” ได้กลายมาเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการดำรงชีวิตเป็น ทั้งในเรื่องของการทำงาน การเรียน และในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการการดูหนัง ฟังเพลง หรือการเล่นเกม เรียกได้ว่าคอมพิวเตอร์นั้นเป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้อย่างครอบคลุมตอบโจทย์ชีวิตคนในยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี และอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ขาดไปไม่ได้สำหรับการใช้งานคอมพิวเตอร์ก็คือ “หน้าจอคอมพิวเตอร์” สำหรับแสดงผลนั่นเอง วันนี้เราจึงมีคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเลือกจอคอมพิวเตอร์พร้อมทั้งแนะนำ 10 อันดับ จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ที่น่าใช้งานในราช่วงราคาที่คุณเลือกได้ตามงบประมาณ
วิธีเลือกจอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนดี
1. เลือกจอคอมพิวเตอร์จากวัตถุประสงค์ในการใช้งาน
การเลือกจอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนดี สิ่งแรกที่จะต้องพิจารณาเลยก็คือเราต้องการซื้อจอคอมพิวเตอร์มาสำหรับการใช้งานประเภทใดเป็นหลัก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจอคอมพิวเตอร์ก็จะแบ่งการใช้งานออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกันก็คือ จอคอมพิวเตอร์สำหรับการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียนออนไลน์ การใช้งานในโลกโซเชียลประจำวันตามปกติ และจอคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับการเล่นเกมหรือการใช้งานที่มีการประมวลผลกราฟิกสูง ซึ่งจอคอมพิวเตอร์สำหรับการใช้งานแบบนี้จะเป็นจอคอมพิวเตอร์ที่มีสเปคสูงและมีราคาแพง
โดยถ้าหากการใช้งานของเราไม่จำเป็นที่จะต้องใช้จอคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้สเปคสูงมากนักก็อาจเลือกเป็นจอคอมพิวเตอร์ ที่มีคุณสมบัติการใช้งานตามปกติก็จะตอบโจทย์การใช้งานได้มากกว่าและไม่เป็นการเสียเงินซื้อจอคอมพิวเตอร์แพงๆ โดยใช่เหตุ แต่ถ้าหากต้องการซื้อจอคอมพิวเตอร์มาไว้เล่นเกมหรือใช้งานที่ต้องมีการประมวลผลกราฟิกสูงๆ ก็ต้องจ่ายแพงหน่อยเพื่อซื้อจอคอมพิวเตอร์ที่มีคุณสมบัติรองรับการใช้งานด้านนี้กันโดยเฉพาะนั่นเอง
2. เลือกจอคอมพิวเตอร์จากขนาดของหน้าจอและพื้นผิวของจอภาพ
โดยปกติแล้วจอคอมพิวเตอร์ที่มีจำหน่ายกันในท้องตลาดปัจจุบันก็มีหลากหลายขนาดให้เลือกตามความต้องการใช้งาน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วในการใช้งานทั่วไปก็มักจะเลือกหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดตั้งแต่ 23 นิ้วขึ้นไป แต่ถ้าหากใครต้องการมุมมองของภาพที่กว้างและชัดเจนมากยิ่งขึ้นก็อาจเลือกใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่มีขนาดใหญ่กว่าหรืออาจจะเลือกเป็นการซื้อจอคอมพิวเตอร์มามากกว่า 1 หน้าจอเพื่อนำมาใช้งานแบบหลายหน้าจอก็ได้ตามความสะดวก
นอกจากนี้พื้นผิวของจอคอมพิวเตอร์ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนดีเช่นกัน ซึ่งในปัจจุบันจอคอมพิวเตอร์ที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วไปในท้องตลาดก็จะมีพื้นผิวของหน้าจอให้เลือกด้วยกันอยู่ 2 แบบก็คือ
- หน้าจอผิวด้าน (Anti-glare, Matte) ซึ่งข้อดีของหน้าจอประเภทนี้ก็คือจะสามารถช่วยลดแสงสะท้อนที่เข้ามาตกกระทบกับหน้าจอแล้วเข้าสู่สายตาของเราได้ จึงทำให้เราสามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจนและไม่รู้สึกปวดตาจากแสงสะท้อนบนหน้าจอ โดยหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีวางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันก็จะเลือกใช้พื้นผิวแบบด้านเป็นส่วนใหญ่
- หน้าจอคอมพิวเตอร์แบบผิวมันเงา (Glossy) มีข้อดีตรงที่สามารถให้ภาพที่คมชัดกว่าเพราะส่วนใหญ่จะเป็นหน้าจอที่ทำมาจากกระจกหรืออาจจะเคลือบฟิล์มมาเพื่อทำให้มีผิวมันเงา แต่ข้อเสียของหน้าจอประเภทนี้ก็คือจะมีการสะท้อนแสงที่เข้ามาตกกระทบหน้าจอเข้าสู่สายตาเราโดยตรงจึงทำให้เกิดความรำคาญ รู้สึกไม่สบายตา แต่ถ้าหากเป็นการใช้งานในห้องมืดที่ไม่มีแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาตกกระทบก็อาจจะเลือกใช้หน้าจอประเภทนี้ได้
3. เลือกจอคอมพิวเตอร์โดยดูจากความละเอียดของหน้าจอและการแสดงผลสี
สำหรับการเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนดี สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการเลือกดูความละเอียดของหน้าและจำนวนการแสดงผลสี เพราะถือว่าเป็นปัจจัยที่มีผลโดยตรงกับสีสันและความคมชัดของการแสดงภาพบนหน้าจอ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานกันตามปกติก็มักจะมีความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ 1080p ในขณะที่หน้าจอคอมพิวเตอร์สำหรับงานกราฟิกหรือการเล่นเกมก็จะมีความละเอียดที่สูงกว่า โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นหน้าจอที่มีความละเอียดอยู่ที่ 2K-4K นอกจากนี้ก็ควรที่จะดูจำนวนสีที่ให้มาว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหน
โดยหากเป็นการใช้งานเกี่ยวกับเอกสารหรือการใช้งานทั่วไปก็อาจจะไม่ต้องเลือกหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีสีจำนวนมากเกินความจำเป็นก็ได้ โดยแม่สีมาตรฐานของหน้าจอคอมพิวเตอร์สำหรับการใช้งานทั่วไปก็ควรอยู่ที่ 24 บิต ก็คือมีการผสมสีของแม่สีได้แก่ หรือมีการผสมสีที่มีมาตรฐานระหว่างแม่สี ก็คือสีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน สีละ 8 บิต มาผสมกันสามารถแสดงผลสีได้ถึงกว่า 16 ล้านสี เพียงพอกับความต้องการใช้งานในระดับปกติทั่วไปกันอยู่แล้ว แต่ถ้าหากเป็นการเลือกใช้หน้าจอสำหรับงานกราฟิกหรือการเล่นเกมระดับมือโปรก็ต้องเลือกจอคอมพิวเตอร์ที่มีการแสดงผลสีที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ต้องแลกมากับราคาที่แพงมากขึ้นตามไปด้วย
4. เลือกจอคอมพิวเตอร์ตามประเภทของหน้าจอแสดงผล
ประเภทของหน้าจอแสดงผลก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการแสดงภาพ โดยประเภทของพาเนลหรือประเภทหน้าจอแสดงผลของคอมพิวเตอร์ก็จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ประเภทก็คือ
- หน้าจอแบบ TN (Twisted Nematic) เป็นพาเนลของจอทั่วไป มีคุณภาพต่ำที่สุด ให้คุณภาพของภาพรวมไปถึงสีไม่ค่อยดีมากเท่าไหร่นักเมื่อเทียบกับหน้าจอแบบอื่น แต่หน้าจอประเภทนี้ก็จะมีจุดเด่นอยู่ตรงค่า Response Time ที่ต่ำมาก ดังนั้นหน้าจอประเภทนี้ก็ยังคงได้รับความสนใจจากบรรดาเกมเมอร์ที่ให้ความสำคัญกับหน้าจอที่สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วสำหรับการเล่นเกมบางประเภท
- หน้าจอแบบ IPS (In-Plane Switching) เป็นหน้าจอแสดงผลที่ให้มุมมององศาของภาพกว้าง ให้ค่าสีถูกต้องแม่นยำ แต่มีค่า Response Time ที่ช้ากว่าหน้าจอแบบ TN เป็นหน้าจอที่ได้รับความนิยมและใช้งานการเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องมีการความคมชัดของภาพและความแม่นยำของสีสันในระดับสูง
- หน้าจอแบบ VA (Vertical Alignment) เป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของค่า Contrast Ratio ที่สูง แต่ในส่วนของคุณสมบัติอื่น ๆ ก็ถือได้ว่าอยู่ในช่วงกลาง ๆ ก็คือดีกว่าหน้าจอแบบ TN แต่ก็ยังด้อยกว่าหน้าจอแบบ IPS ซึ่งหน้าจอแบบ VA นี้ส่วนใหญ่มักจะถูกนำไปใช้เป็นหน้าจอสำหรับดูหนัง ดังนั้นจึงนิยมนำไปใช้ในกลุ่มของหน้าจอโทรทัศน์นั่นเอง
5. เลือกจอคอมพิวเตอร์จากค่ารีเฟรชเรทของหน้าจอ
สำหรับค่า Refresh Rate ของหน้าจอ ก็จะเป็นค่าที่แสดงถึงอัตราการกะพริบของหน้าจอนั่นเอง ซึ่งถ้าเยอะก็ยิ่งดี โดยปกติทั่วไปแล้วหน้าจอคอมพิวเตอร์มาตรฐานก็จะมีค่า Refresh Rate ของหน้าจออยู่ที่ 60 Hz แต่ถ้าหากใครอยากได้หน้าจอคอมพิวเตอร์ สำหรับการเล่นเกมรวมไปถึงการใช้งานที่มีการประมวลผลทางด้านกราฟิกสูง ที่ต้องการในเรื่องของความนิ่งในการแสดงผลและความคมชัดของภาพที่มาก ก็ควรเลือกหน้าจอแสดงผลที่มีค่า Refresh Rate สูงมากขึ้น อย่างเช่น 144 Hz แต่ก็ต้องแลกมากับราคาค่าตัวที่สูงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ก็ยังกินไฟมากกว่าหน้าจอที่มีค่า Refresh Rate แบบปกติค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว
และอีกหนึ่งอย่างที่ควรดูเกี่ยวกับค่า Refresh Rate ก็คือสายของจอในการรองรับรวมไปถึงตัวการ์ดจอของคอมพิวเตอร์ที่เรามีอยู่ก็จะต้องรองรับช่องของสายนั้นด้วย ยกตัวอย่างเช่นถ้าหากเป็นสายแบบ VGA หรือ HDMI จะสามารถปรับค่า Refresh Rate ได้สูงสุดที่ 120 Hz แต่ถ้าหากเป็นสายแบบ DVI-DL หรือ DP ก็จะสามารถปรับได้สูงสุดที่ 144 Hz เป็นต้น
6. เลือกจอคอมพิวเตอร์โดยดูจากพอร์ตเชื่อมต่อ อุปกรณ์เสริม และฟังก์ชันอื่นๆ
การจะเลือกจอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนดี อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามไปเลยก็คือพวกอุปกรณ์เสริมที่มีมาให้ หรืออุปกรณ์เสริมที่ต้องซื้อเพิ่มเติมสำหรับการใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์ อย่างเช่นพวกขาตั้ง หรือจอคอมพิวเตอร์ที่มีคอเอาไว้ปรับองศาของจอได้อย่างสะดวก รวมไปถึงพวกพอร์ตเชื่อมต่ออื่นๆ ที่สามารถทำให้เราสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น อาทิ ช่องสำหรับเชื่อมต่อเครื่องฉายมอนิเตอร์ กล่องสัญญาณทีวีดิจิทัล Notebook หรือคำสั่งเสียง เป็นต้น นอกจากนี้ก็ควรดูในเรื่องของฟังก์ชันอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมลำโพงหรือกล้อง webcam ในตัว หน้าจอยาวแบบโค้ง Ultrawide รวมไปถึงฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกมที่ดีขึ้นอย่างเช่น Nvidia G-Sync และ AMD FreeSync เป็นต้น
7. อย่าลืมดูแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและการรับประกัน
ต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้จอคอมพิวเตอร์ก็มีให้เราได้เลือกกันมากมายหลายยี่ห้อทั้งแบรนด์ที่คุ้นหน้าคุ้นตารวมไปถึงแบรนด์ใหม่ๆ ที่อาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน ดังนั้นหากใครกำลังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะซื้อจอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ก็แนะนำให้เลือกจากยี่ห้อที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมรวมไปถึงมีศูนย์บริการอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และควรมีการรับประกันหลังการขาย เพราะอย่างน้อยก็เป็นการการันตีในเบื้องต้นได้ว่าคุณภาพของจอคอมพิวเตอร์ที่ได้ก็มีคุณภาพที่ดีเป็นไปตามมาตรฐาน และหากเกิดปัญหาในการใช้งานก็สามารถเคลมหรือส่งซ่อมได้อย่างสะดวก เพราะในบางครั้งถ้าหากเลือกหน้าจอคอมพิวเตอร์แบรนด์ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักและไม่มีศูนย์บริการในประเทศไทย หรือไม่มีการรับประกัน หากใช้งานแล้วเกิดปัญหาขึ้นมาก็ต้องติดต่อไปยังร้านที่ซื้อมาเท่านั้น ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะต้องเสียเงินเพื่อซ่อมเองรวมไปถึงอาจจะต้องรออะไหล่หรือใช้เวลาในการรอส่งซ่อมที่ค่อนข้างนานกว่าปกติ
10 อันดับ จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2022
1. จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อ Xiaomi รุ่น Mi Curved Gaming Monitor 34
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| หน้าจอขนาด 34 นิ้ว มุมมองแบบพาโนรามากว้าง 21: 9 ความโค้ง 1500R | หน้าจอมีขนาดใหญ่และมีความยาวค่อนข้างมากจึงต้องมีพื้นที่ในการจัดวางที่เพียงพอ |
| อัตราการรีเฟรช 144Hz อัตราคอนทราสต์ 3,000:1 | รับประกัน 1 ปี |
| Response time 4ms | |
| เทคโนโลยี AMD Free-Sync แสดงผลได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด | |
| ความละเอียด 3440 × 1440p ความสว่างของจอแสดงผล 300 nits | |
| รับประกัน 1 ปี |
เริ่มต้นรายชื่อ จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนดี กันด้วย Mi Curved Gaming Monitor 34จอคอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมมุมมองแบบพาโนรามากว้าง 21: 9 พร้อมความโค้งขนาดใหญ่ 1500R ให้ความคมชัดด้วยความละเอียดในระดับ Ultra-high-definition ความละเอียด 3440 x 1440p พร้อมอัตรา Refresh Rate สูงถึง 144Hz ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างรวดเร็วเพื่อเพิ่มประสบการณ์ใช้งานด้วยภาพที่ดี มีความลื่นไหล สีสันสดใสคมชัดเต็มตาได้มากที่สุด พร้อมด้วยเทคโนโลยี AMD Free-Sync ที่ช่วยตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด
2. จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อ ACER รุ่น Gaming LED 23.8 VG240Ybmiix
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| หน้าจอขนาด 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD | ความสว่างของหน้าจอเพียงแค่ 250 nits |
| อัตราการรีเฟรช Normal Mode144Hz, Overclock Mode 165Hz | ตัวเครื่องค่อนข้างหนา |
| อัตราคอนทราสต์ 1,000:1 | |
| Response time 1ms (G to G) | |
| เทคโนโลยี AMD Free-Sync แสดงผลได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด | |
| รับประกัน 1 ปี |
ใครกำลังมองหาจอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ที่ราคาไม่แพงและสามารถใช้เล่นเกมได้ดี ขอแนะนำรุ่นนี้เลย โดยมากับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) ให้ภาพที่สดใสรายละเอียดคมชัด มีเทคโนโลยี AMD FreeSync และ Refresh Rate ในโหมด Overclock ที่ 165Hz ให้การเล่นเกมเป็นไปได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด พ่วงมาด้วยลำโพงคู่ในตัว 2 วัตต์ ให้เสียงที่คมชัดมีพลังและสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์อื่นๆ ด้วยพอร์ต HDMI และ DisplayPort เป็นจอเกมมิ่งที่วางใจได้ในเรื่องของมาตรฐานและศูนย์บริการ
3. จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อ Msi รุ่น Pro MP223
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| หน้าจอขนาด 21.45 นิ้ว ความละเอียด Full HD | คอของเครื่องค่อนข้างบางมาก ควรระมัดระวังในการขนย้าย |
| อัตราการรีเฟรช Normal Mode 100Hz | |
| Response time 1ms (G to G) | |
| ความละเอียดของสีแสงสูงกว่า 16.7 ล้านพิกเซล |
มาดูจอคอมพิวเตอร์จากยี่ห้อ Msi ในราคาย่อมๆ กันบ้าง กับหน้าจอขนาดกำลังดี 21.45 นิ้ว ที่ประสิทธิภาพในการประมวลผลหน้าจอไม่ธรรมดาเลย ด้วยค่า refresh rate สูงถึง 100Hz กับความละเอียดในการแสดงผลค่าสีแสงที่สูงมากกว่า 16.7 ล้านพิกเซล ทำให้เมื่อเทียบกับขนาดของตัวหน้าจอแล้ว ถือเป็นสเปกที่เกินราคาเลยล่ะ แม้ว่าค่าความสว่างจะไม่สูงมาก อยู่ที่ประมาณ 250 cd/m2 เท่านั้น แต่เมื่อมองจากขนาดของจอ ถือเป็นรุ่นที่ค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว สำหรับการใช้งานบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ขนาดมาตรฐาน
4. จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อ LG รุ่น Ultrawide 29WK600
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| หน้าจอ IPS ขนาด 29 นิ้ว พร้อมด้วย sRGB 99% | ใช้พื้นที่ในการจัดวางค่อนข้างเยอะ |
| รองรับ HDR 10 | ใช้พื้นที่ในการจัดวางค่อนข้างเยอะค่า Refresh Rate ของหน้าจออยู่ในอัตราปกติ |
| อัตราคอนทราสต์ 1,000:1 | |
| Response time 5ms GTG | |
| มีเทคโนโลยี AMD FreeSync, Black Stabilizer และ Dynamic Action Sync ช่วยในการเล่นเกม | |
| รับประกัน 3 ปี |
จุดเด่น
จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อ LG รุ่น Ultrawide 29WK600 จอคอมพิวเตอร์ที่มอบพื้นที่มุมมองได้กว้างกว่าด้วยจอโค้งดีไซน์ไร้ขอบทั้ง 3 ด้านที่มาในอัตราส่วนหน้าจอ 21:9 แบบ Ultrawide Monitor ทางเลือกใหม่สำหรับมืออาชีพ ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการทำงานรวมไปถึงการเล่นเกม โดยมาพร้อมเทคโนโลยีสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะทั้ง AMD FreeSync, Black Stabilizer และ Dynamic Action Sync เพื่อให้ภาพที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด ให้ค่าสีที่แม่นยำด้วย sRGB 99% พร้อมรองรับการแสดงผล HDR 10 มอบความบันเทิงที่คมชัดสีสันสดใส และยังรับประกันให้นานถึง 3 ปีอีกด้วย
5. จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อ GIGABYTE รุ่น G24F 2
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| หน้าจอขนาด 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD | ไม่รองรับการเชื่อมต่อ DVI, VGA หรือ Mini HDMI |
| อัตราการรีเฟรช Normal Mode 165Hz, Overclock Mode 180Hz | ส่วนคอที่เชื่อมต่อกับหน้าจอค่อนข้างเล็ก ควรระมัดระวังในการปรับอย่างเหมาะสม |
| Response time 1ms MPRT | |
| เป็นจอแบบประยุกต์ใช้อเนกประสงค์ ที่สามารถปรับใช้งานได้หลายแบบ |
จอคอมพิวเตอร์แบบปรับได้จาก GIGABYTE ที่ใครชอบจอแบบที่สามารถเลือกปรับองศาหน้าจอได้ แบบจอของโน้ตบุ๊ก ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ ด้วยหน้าจอที่สามารถตอบสนองการเล่นเกมที่ต้องเน้นความเร็วหนักๆ ได้เป็นอย่างดี ด้วยค่า refresh rate สูงสุดถึง 180Hz หมดปัญหาอาการจอหนืดตอนเล่นออนไลน์ได้โดยสิ้นเชิง และยิ่งเสริมความเสถียรให้กับจอได้อีกขึ้น ด้วยเทคโนโลยี AMD FreeSync ที่ใช้งานได้ดีกับทุกๆ CPU และกราฟิกการ์ดทุกชนิด (แต่ถ้าเป็นของ AMD ก็จะยิ่งใช้งานได้ดีเป็นพิเศษ)
6. จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อ Xiaomi Redmi รุ่น 21.45″
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| หน้าจอขนาด 21.45 นิ้ว ความละเอียด Full HD | รูปทรงค่อนข้างธรรมดา ไม่ได้มีฟังก์ชันอะไรเป็นพิเศษ |
| อัตราการรีเฟรช Normal Mode 75Hz | |
| Response time 1ms (G to G) | |
| หน้าจอคมชัดและสบายตา รักษาอุณหภูมิในการใช้งานได้อย่างเหมาะสม |
มาดูอีกรุ่นจาก Xiaomi กันครับ เวลาพูดถึงแบรนด์นี้ คนจะไม่ค่อยนึกถึงจอคอมพิวเตอร์กันเสียเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้ว ผลิตภัณฑ์จอมอนิเตอร์ของ Xiaomi ถือว่าคุณภาพดีและน่าสนใจไม่แพ้เจ้าอื่น เลย สำหรับรุ่นนี้เองก็เช่นกัน กับหน้าจอแสดงผลแบบ VA ที่สามารถประมวลผลค่าสีแสงได้อย่างละเอียดละออ และมีความพอดีกับสายตาของเรา ไม่สว่างหรือมืดจนเกินไป ภายในรูปทรงของหน้าจอที่เรียบง่าย ดูไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่น แต่ในด้านความสะดวกในการใช้งาน ถือเป็นตัวที่รับประกันได้ดีเลยทีเดียวครับ (และราคาก็ไม่แพง ไม่ว่าใครก็สามารถจับจองได้แน่นอน)
7. จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อ MULLER จอคอม IPS 4K
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| หน้าจอขนาด 27 นิ้ว ความละเอียด Full HD | จอค่อนข้างบางและน้ำหนักเบา ควรระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายอย่างยิ่ง |
| อัตราการรีเฟรช Normal Mode 75Hz | กินไฟค่อนข้างเยอะ |
| Response time 1ms (G to G) | |
| จอแบบโค้ง ความละเอียดสูง เติมเต็มอารมณ์แบบไม่เหมือนใคร |
ใครที่กำลังสนใจ จอคอมพิวเตอร์แบบโค้ง ที่ถือเป็นของใหม่ในหมู่เกมเมอร์ ที่หลายคนอยากดูใช้สักที เราเองก็มีจอคอมพิวเตอร์โค้งคุณภาพดีน่าสนใจมาให้ชมเช่นกัน กับสินค้าจากยี่ห้อ MULLER หน้าจอโค้ง 1500R ขนาด 27 นิ้ว ความละเอียดระดับ HDR ที่สามารถสร้างความรู้สึกใหม่ๆ ให้กับการเล่นเกมของหลาย ๆ คนได้เลย ด้วยความที่จอโค้งรับกับมุมอับสายตาของเรา ทำให้การมองจอเวลาเล่น จะไม่เหมือนกับจอคอมพิวเตอร์แบบปกติ รวมถึงเทคโนโลยีการแสดงผล ที่สามารถรองรับเกม AAA ภาพระดับเทพได้แทบจะทุกเกมในปัจจุบัน ด้วยค่าเฉลี่ยช่วงสี่สูงถึง 98% เรียกได้ว่า สวยงาม เต็มอารมณ์ และไม่ทำร้ายสายตาเรามากเกินไปอีกด้วย
8. จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อ ZOWIE รุ่น XL2411K 144Hz DyAc
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| หน้าจอคอมเกมมิ่งแบบ TN ขนาด 24 นิ้ว ความละเอียด Full HD | อุปกรณ์เสริม S-Switch และ Shield มีการจำหน่ายแยก |
| อัตราการรีเฟรช 144Hz | |
| Response time 1ms | |
| DyAc Technology และ XL Setting to Share ตอบโจทย์การเล่นเกมโดยเฉพาะ | |
| รับประกัน 3 ปี |
ใครกำลังมองหาจอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ที่ตอบโจทย์การเล่นเกม e-sport โดยเฉพาะ ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไปและมีขนาดหน้าจอไม่ใหญ่เกินไป รุ่นนี้ตอบโจทย์เลยทีเดียว โดยมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ TN ขนาด 24 นิ้ว Refresh Rate 144Hz ความคมชัดระดับ Full HD ที่สามารถตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างรวดเร็ว มีเทคโนโลยีที่สนับสนุนการเล่นเกมโดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็น DyAc Technology และ XL Setting to Share พร้อมด้วย Black eQualizer รองรับอุปกรณ์เสริม S-Switch ให้การเล่นเกมที่ลื่นไหลพร้อมการควบคุมที่แม่นยำ สามารถปรับระดับความสูงและองศาของหน้าจอได้เพื่อมุมมองที่เหมาะสม
9. จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อ Dell รุ่น S2421HN
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| หน้าจอแบบ IPS ขนาด 23.8 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD | Refresh Rate อยู่ในอัตราปกติที่ 75Hz |
| อัตราการรีเฟรช 75Hz | ความสว่างของจอแสดงผลสูงสุดเพียง 250 nits |
| Response time 4ms (GtG) | |
| AMD FreeSync Technology | |
| รับประกัน 3 ปี |
จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อ Dell รุ่น S2421HN จอคอมพิวเตอร์ขนาดกำลังดีราคาไม่แพง เป็นจอภาพแบบ IPS FHD ขนาด 23.8 นิ้ว ที่มาพร้อมการออกแบบหรูหราทันสมัย กรอบบางเฉียบทั้งสามด้านจึงช่วยเพิ่มพื้นที่ในการรับชมได้มากขึ้น มีเทคโนโลยี AMD FreeSync ที่สามารถรองรับการเล่นเกมได้อย่างราบรื่น ค่า Response time อยู่ที่ 4ms (GtG) และยังได้รับการรับรอง TÜV พร้อม ComfortView ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดอันตรายจากการใช้งานในระยะยาวด้วยการลดการปล่อยแสงสีน้ำเงินอันเป็นอันตรายต่อดวงตา สินค้ารับประกันนาน 3 ปี
10. จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อ SAMSUNG Flat Smart Monitor M8 LS32CM801UEXXT
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| หน้าจอขนาด 32 นิ้ว ความละเอียด Full HD | ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบ VGA |
| อัตราการรีเฟรช Normal Mode 60Hz | ขนาดค่อนข้างใหญ่มาก ควรคำนึงถึงพื้นที่ในการจัดวางให้ดี |
| Response time 4ms (G to G) | |
| Smart Monitor ขนาดใหญ่ รองรับทุก ๆ ฟีเจอร์ในปัจจุบัน |
ปิดท้ายกันด้วยหน้าจอ Smart Monitor ขนาดใหญ่ สำหรับคนต้องการความบันเทิงแบบเต็มอารมณ์อีกสักรุ่นครับ กับจอ Smart Flat Monitor รุ่น M8 ขนาดใหญ่ถึง 32 นิ้ว หน้าจอบางเฉียบ จาก Samsung ที่โดดเด่นมากในด้านการเป็น Hub รวบรวมทุกๆ ฟีเจอร์ความบันเทิงเอาไว้ให้คุณสามารถเข้าถึงทุกๆ มัลติมีเดียที่ต้องการได้ภายในตัวเดียว ไม่ว่าจะเป็น การเข้าถึงสตรีมมิงเพื่อชมภาพยนตร์ หรือเพื่อใช้เล่นเกมกราฟิกงามๆ และรวมไปถึงการทำงานด้วย และการประมวลผลบนจอขนาดใหญ่ ความคมชัดสูงระดับ 4K และสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ Add-Ons อื่นๆ เช่น สมาร์ตโฟน หรือ Smart Cam ได้ตามใจต้องการ
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
ต้องบอกว่าในปัจจุบันนี้ก็มีจอคอมพิวเตอร์มาให้เราเลือกใช้งานกันมากมายหลายยี่ห้อและหลายรูปแบบ ซึ่งคุณสมบัติโดยทั่วไปก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามความต้องการใช้งานกันอยู่แล้ว อย่างเช่นหน้าจอสำหรับการเล่นเกมการใช้งานกราฟิก ซึ่งจะเป็นหน้าจอในกลุ่มที่มีราคาแพงกว่าหน้าจอแบบปกติที่เอาไว้ใช้สำหรับการทำงานหรือการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไปที่ไม่จำเป็นต้องใช้ความสามารถในการประมวลผลของภาพที่มากนัก ดังนั้นหากใครที่กำลังตัดสินใจเลือกจอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ก็ให้ดูจากความต้องการใช้งานและงบประมาณของตนเองเป็นหลัก และแนะนำให้เลือกยี่ห้อที่ไว้ใจได้ มีการรับประกันรวมไปถึงบริการหลังการขายที่ดี เพราะถ้าหากเกิดปัญหาในการใช้งานก็จะช่วยทำให้เราสามารถส่งซ่อมหรือเคลมสินค้าได้อย่างสะดวกและใช้เวลาไม่นานนั่นเอง
