ปัญหาริมฝีปากแห้ง แตก และลอกเป็นเรื่องที่พบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย บางคนอาจคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่จริง ๆ แล้วมันสามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันได้มากกว่าที่คิดค่ะ ถ้าริมฝีปากแห้งแตกจนเกิดแผล ก็จะรู้สึกเจ็บเวลาดื่มน้ำหรือกินอาหาร ดังนั้นการใช้ “ลิปบาล์ม” จึงเป็นวิธีที่ดีในการบำรุงและป้องกันปัญหาเหล่านี้ เพราะนอกจากช่วยให้ริมฝีปากกลับมาชุ่มชื้นแล้ว ลิปบาล์มยังช่วยป้องกันการแห้งแตกในอนาคตด้วย
หากคุณกำลังมองหาลิปบาล์มดี ๆ มาใช้ เรามีแบรนด์ที่น่าสนใจมาฝากกันค่ะ ลองมาดูกันเลยว่าแบรนด์ไหนจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณบ้าง
ลิปบาล์มกับลิปมันต่างกันอย่างไร ?
จริง ๆ แล้วลิปบาล์มกับลิปมันคือผลิตภัณฑ์เดียวกันค่ะ โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้บำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นและป้องกันการแห้งแตก ที่สำคัญคือมันช่วยทำให้ริมฝีปากของเรานุ่มนวลและดูดีขึ้นด้วย
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมชื่อไม่เหมือนกันถึงเป็นผลิตภัณฑ์ตัวเดียวกันไปได้ ? ที่จริงแล้วชาวต่างชาติเรียกมันว่า “ลิปบาล์ม (Lip Balm)” มาตลอด แต่คนไทยเราจะเรียกมันว่า “ลิปมัน” สาเหตุที่คนไทยเรียกลิปบาล์มว่าลิปมัน เพราะตอนที่ทามันรู้สึกมัน ๆ ที่ริมฝีปากนั่นเองค่ะ ที่สำคัญคือมันเรียกง่ายกว่าลิปบาล์มด้วย แต่ไม่ว่าชื่อจะเป็นลิปบาล์มหรือลิปมัน สิ่งที่สำคัญคือมันสามารถบำรุงริมฝีปากของเราให้สุขภาพดีขึ้นได้
วิธีเลือกซื้อลิปบาล์ม
1. ประเภทของลิปบาล์ม
ลิปบาล์มที่มีวางขายในท้องตลาดมีให้เลือกหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติและจุดเด่นที่แตกต่างกัน ซึ่งก่อนการซื้อลิปบาล์มเราจะต้องพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุด ต่อไปนี้คือข้อมูลที่ช่วยให้คุณเลือกซื้อลิปบาล์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลิปบาล์มแบบธรรมดา : ลิปบาล์มประเภทนี้คือเพื่อนซี้ที่ดีสำหรับริมฝีปากของเราค่ะ เพราะมันหาซื้อได้ง่ายมากและใช้งานได้ทุกวัน เหมาะสุด ๆ สำหรับการบำรุงริมฝีปากให้ดูสุขภาพดีอยู่เสมอ จุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือส่วนผสมค่ะ โดยส่วนใหญ่มันจะมีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าว, เชียบัตเตอร์ และวิตามินอี ที่ไม่เพียงแต่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการแห้งแตกได้อย่างดีเยี่ยม
- ลิปบาล์มกันแดด : ถ้าคุณเป็นคนที่กังวลเรื่องริมฝีปากคล้ำ ลิปบาล์มที่มีค่า SPF คือคำตอบค่ะ การเลือกลิปบาล์มที่มี SPF จะช่วยปกป้องริมฝีปากจากรังสี UV ที่อาจทำให้ริมฝีปากคล้ำได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดการแห้งแตกและลดร่องริ้วรอยที่ริมฝีปากอีกด้วย เหมาะสุด ๆ สำหรับการใช้งานในวันที่ต้องออกแดดหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- ลิปบาล์มที่มีสี : ลิปบาล์มแบบมีสีถือเป็นลูกรักของใครหลาย ๆ คนค่ะ เพราะมันไม่เพียงแต่เพิ่มสีสันให้ริมฝีปากในวันที่ไม่อยากทาลิปสติกเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติในการบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากอีกด้วย แค่ทาลิปบาล์มแบบมีสี คุณก็จะมีริมฝีปากที่สวยงาม แถมยังรู้สึกสบายริมฝีปากมาก ๆ ด้วย
2. เนื้อสัมผัสของลิปบาล์ม
ลิปบาล์มมีเนื้อสัมผัสหลากหลายให้เราได้เลือกใช้ แต่ลิปบาล์มสองแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือแบบครีมมี่และแบบเจล มาดูกันว่าแต่ละแบบมีข้อดีอย่างไรบ้าง
- แบบครีมมี่
- เนื้อสัมผัส : เนื้อเนียนนุ่ม ทาง่ายและละลายเข้ากับริมฝีปากทันที
- การใช้งาน : เหมาะอย่างยิ่งสำหรับวันที่ริมฝีปากแห้งและต้องการการบำรุงอย่างพิเศษ เพราะมันมอบความชุ่มชื้นล้ำลึก ช่วยให้ริมฝีปากนุ่มนวลและไม่แห้งกร้าน แต่อาจจะรู้สึกเหนียวเหนอะหนะเล็กน้อย
- แบบเจล
- เนื้อสัมผัส : เบาสบายริมฝีปาก ให้ความรู้สึกสดชื่นและเย็นสบายทันทีที่ทา
- การใช้งาน : เหมาะสำหรับวันสบาย ๆ เพราะให้ความชุ่มชื้นแบบบางเบาและไม่รู้สึกหนักเหนอะหนะเมื่อทา แต่อาจจะไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นยาวนานเหมือนกับแบบครีมมี่
3. กลิ่นของลิปบาล์ม
เรื่องกลิ่นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อซื้อลิปบาล์มค่ะ ขนาดซื้อน้ำหอมยังเลือกกลิ่นได้ การซื้อลิปบาล์มก็สามารถเลือกกลิ่นได้เหมือนกัน แต่น่าเสียดายหน่อยที่ลิปบาล์มมักจะมาในแพ็กเกจที่ปิดสนิท ทำให้เราไม่สามารถดมกลิ่นจากแท่งได้ก่อนซื้อ แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะเราสามารถหาข้อมูลจากรีวิวของผู้ใช้คนอื่นได้ ต่อไปนี้เป็นกลิ่นของลิปบาล์มที่ได้รับความนิยม
- กลิ่นผลไม้ : มีกลิ่นของผลไม้สด เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ให้ความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายทุกครั้งที่ทา
- กลิ่นดอกไม้ : มีกลิ่นของดอกไม้ เช่น กุหลาบ ให้ความรู้สึกอ่อนหวานและผ่อนคลาย
- กลิ่นขนมหวาน : มีกลิ่นหอมหวานของช็อกโกแลตหรือนม ทาง่ายและหอมนาน
- ไม่มีกลิ่น : ลิปบาล์มแบบนี้จะไม่มีการเติมกลิ่นใด ๆ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่น
4. แพ็กเกจของลิปบาล์ม
แพ็กเกจของลิปบาล์มมีให้เลือก 3 แบบหลัก ๆ คือแบบแท่ง แบบหลอดและแบบกระปุกค่ะ แบบแท่งเป็นแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะพกพาได้ง่าย ทาง่าย เพียงแค่เปิดฝาแล้วทาก็คือจบ แบบหลอดก็ใช้งานได้ง่าย แต่ส่วนใหญ่จะมีแค่เนื้อเจลค่ะ ส่วนแบบกระปุกปริมาณจะเยอะกว่ามาก ให้ความคุ้มค่าได้ดี แต่อาจจะต้องใช้แปรงหรือปลายนิ้วในการทา ซึ่งเสี่ยงต่อการปนเปื้อน แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการใช้ที่บ้านหรือที่ทำงาน แน่นอนว่าลิปบาล์มทั้งสามแบบมีข้อดีและความสะดวกที่แตกต่างกัน เลือกแบบที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความชอบของคุณได้เลยค่ะ
ลิปบาล์ม ยี่ห้อไหนดี ?
หลังจากที่เราได้เจาะลึกวิธีเลือกซื้อลิปบาล์มกันไปอย่างละเอียดแล้ว เชื่อว่าหลายคนเริ่มอยากรู้แล้วว่าแบรนด์ไหนจะตอบโจทย์ริมฝีปากของคุณมากที่สุด! ถ้าคุณพร้อมแล้ว ก็อย่ารอช้า มาดูกันเลยกับลิปบาล์ม 10 แบรนด์เด็ดที่เราคัดสรรมาเพื่อคุณค่ะ
1. Carmex Classic Lip Balm ลิปบาล์มคาร์เม็กซ์
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
มาพร้อมสารกันแดด SPF15 | หลายคนอาจจะไม่ชอบที่ลิปบาล์มมีความเย็น |
ให้ความรู้สึกเย็นสบาย | |
เพิ่มความชุ่มชื้น | |
ป้องกันริมฝีปากไม่ให้แห้งแตก |
Carmex Classic Lip Balm เป็นหนึ่งในลิปบาล์มที่ไม่มีใครไม่รู้จักค่ะ เพราะขายดีมากและมีหลายสูตรให้เราได้เลือกซื้อด้วย แต่สูตรออริจินัลถือว่าปังที่สุด ส่วนผสมหลักของลิปคือเมนทอล กรดซาลิไซลิกและขี้ผึ้ง เมื่อทาแล้วจะให้ความชุ่มชื้นได้ดี พร้อมให้ความรู้สึกเย็นสบายบนริมฝีปากด้วย
เท่านั้นยังไม่หมดนะคะ เพราะเขามีค่า SPF15 ช่วยปกป้องริมฝีปากจากแสงแดดได้ด้วย แพ็กเกจเป็นแบบแท่ง ทาง่ายพกพาสะดวกค่ะ ใครที่กำลังหาซื้อลิปบาล์มที่สามารถบำรุงริมฝีปากแห้งแตกได้อย่างมีประสิทธิภาพแนะนำเลย
2. Burt’s Bees Natural Tinted Lip Balm ลิปบาล์มเบิร์ตบีส์
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ไม่เหนียวเหนอะหนะริมฝีปาก | สีไม่ได้ชัดมากต้องทาซ้ำบ่อย ๆ |
มีหลายสีให้เลือกตามต้องการ | |
ให้ความชุ่มชื้นได้ดี | |
มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ |
Burt’s Bees Natural Tinted Lip Balm ลิปบาล์มแบบมีสีที่ถูกพูดถึงมาตลอด ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการบำรุงพร้อมเพิ่มสีสันให้กับริมฝีปาก ส่วนผสมหลักของลิปจะมีน้ำมันเชียบัตเตอร์ น้ำมันมะพร้าวและขี้ผึ้ง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก
ส่วนสีของลิปบาล์มก็มีให้เลือกเยอะมากค่ะ สามารถเลือกสีได้ตามความชอบ เฉดสีจะมีความเป็นธรรมชาติ ใช้ทาได้ทั้งวันที่ต้องการแต่งหน้าหรือไม่แต่งหน้า กลิ่นของลิปบาล์มหอมอ่อน ๆ ไม่ค่อยฉุน มาในรูปแบบแท่งที่สะดวกต่อการใช้งานเพียงหมุนขึ้นแล้วทาก็ได้แล้วค่ะ
3. Nivea Lip Care ลิปบาล์มนีเวีย
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
มีหลายสูตรให้เลือกซื้อ | อาจจะเหนียวเหนอะหนะเล็กน้อยเมื่อทา |
กลิ่นหอมอ่อน ๆ ทาได้ทุกวัน | |
เพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี | |
เหมาะสำหรับริมฝีปากที่แห้งแตก |
Nivea Lip Care เป็นลิปบาล์มที่ได้รับความนิยมในไทยมาอย่างยาวนานค่ะ เชื่อว่าหลายคนก็อาจจะเคยได้ลองใช้มาแล้ว สูตรของลิปบาล์มมีให้เลือกเยอะมาก แต่ถ้าชอบความดั้งเดิมสูตรออริจินอลถือว่าตอบโจทย์ที่สุด เพราะมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นแบบจัดเต็มทั้งน้ำมันอัลมอนด์ ขี้ผึ้งและน้ำมันมะพร้าว ทาแล้วริมฝีปากไม่แห้งเลย
เนื้อลิปมีความบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ที่สำคัญคือไม่มีกลิ่นฉุน คนที่แพ้ง่ายก็สามารถใช้งานได้ แพ็กเกจเป็นแบบแท่ง สามารถพกพาได้อย่างสะดวก ที่สำคัญคือราคาประหยัดมาก หากวันไหนมีโปรราคาเหลือแค่หลักสิบเท่านั้น
4. Eucerin Aquaphor SOS LIP CARE ลิปบาล์มยูเซอริน
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ไม่เหนียวเหนอะหนะ | เนื้อบาล์มอาจจะหนากว่าแบรนด์อื่น |
เหมาะสำหรับคนที่ปากแห้งแตก | |
กลิ่นมีความธรรมชาติไม่ฉุน | |
ใช้ปริมาณน้อยแต่เกลี่ยได้ทั่วริมฝีปาก |
Eucerin Aquaphor SOS Lip Care ลิปบาล์มเวชสำอางที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้ง แตกและลอกแบบขั้นสุดค่ะ เพราะเมื่อทาแล้วจะสามารถฟื้นฟูริมฝีปากได้อย่างรวดเร็ว ส่วนผสมหลักของลิปบาล์มจะมีแพนทีนอลและบิซาโบลอลเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดความแห้งกร้าน
จุดที่น่าสนใจคือมันสามารถให้ความชุ่มชื้นได้นานมาก ทาแค่ครั้งเดียวปากก็ฉ่ำยาวนานตลอดทั้งวัน วันไหนที่อากาศแห้งมากตัวนี้ถือว่าเหมาะจริง ๆ แพ็กเกจเป็นแบบหลอดนะคะพกพาและทาได้ง่าย ราคาก็ไม่ได้แรงและใช้งานได้นาน
5. Innisfree Lip Balm ลิปบาล์มอินนิสฟรี
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เนื้อบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ | อาจจะต้องทาซ้ำบ่อยระหว่างวัน |
ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ | |
ปราศจากสารระคายเคืองริมฝีปาก | |
ไม่มีสีและกลิ่นเป็นธรรมชาติ |
Innisfree Lip Balm ลิปบาล์มจากเกาหลีที่เปลี่ยนแพ็กเกจมาหลายรอบ แต่ก็ยังได้รับความนิยมทุกรอบ ตัวลิปจะเหมาะสำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้งและลอกเป็นพิเศษ เพราะสามารถให้ความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี ส่วนผสมส่วนใหญ่จะมาจากธรรมชาติ โดยเน้นใช้น้ำมันสกัดเมล็ดคาโนล่าและสารสกัดจากชาเขียวเป็นหลัก
เนื้อบาล์มมีความนุ่มทาง่าย และไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ คนที่แพ้ง่ายก็สามารถใช้งานได้นะคะ เพราะทางแบรนด์เคลมมาว่าลิปบาล์มปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ใครที่กำลังหาซื้อลิปบาล์มที่เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันแนะนำเลยค่ะ
6. Vaseline Lip Therapy Rosy Lips ลิปบาล์มวาสลีน
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ให้ความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน | ต้องใช้นิ้วทาอาจเสี่ยงต่อการปนเปื้อน |
มีกลิ่นหอมจากธรรมชาติ | |
เนื้อสัมผัสนุ่มและไม่เหนียว | |
เหมาะสำหรับริมฝีปากที่แห้งแตก |
Vaseline Lip Therapy Rosy Lips ลิปที่ดังมากและขายดีที่สุดของแบรนด์วาสลีนเลยค่ะ โดยส่วนผสมของเขาจะมีวาสลีนและสารสกัดจากดอกกุหลาบเป็นหลัก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและให้สีสันที่สวยงามค่ะ แต่อย่าคาดหวังเรื่องสีมากนะคะ เพราะหากริมฝีปากของคุณไม่ได้อมชมพูอยู่แล้ว ก็อาจจะมองไม่เห็นสีของลิปบาล์มเลย
เนื้อลิปมีความเข้มข้นมาก แต่ไม่ได้เหนียวขนาดนั้นค่ะ เมื่อทาแล้วยังคงให้ความสบายแก่ริมฝีปากอยู่ จุดที่ชอบคือให้ความชุ่มชื้นได้นานและมีกลิ่นหอม ส่วนในเรื่องของแพ็กเกจ เขามีให้เลือกทั้งแบบหลอดและแบบกระปุกค่ะ แน่นอนว่าแบบกระปุกคุ้มค่ากว่าแต่ต้องใช้นิ้วทาค่ะ
7. Kiehl’s Lip Balm #1 ลิปบาล์มคีลส์
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ไม่มีสีทาได้ทุกเวลา | อาจจะต้องทาซ้ำบ่อย ๆ |
บางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ | |
แพ็กเกจพกพาและทาได้ง่าย | |
กลิ่นไม่ฉุน |
Kiehl’s Lip Balm #1 ลิปบาล์มสัญชาติอเมริกาที่คนรักการบำรุงริมฝีปากต้องซื้อมาใช้ค่ะ ถึงแม้แบรนด์นี้จะเป็นแบรนด์ดังแต่ราคาไม่แรงเลย ส่วนผสมหลักของลิปคือวิตามินอี น้ำมันโจโจบาและขี้ผึ้ง ช่วยฟื้นฟูและบำรุงริมฝีปากให้กลับมาชุ่มชื้นและไม่แห้งแตก เนื้อลิปมีความนุ่มมาก ทาง่าย ทาปุ๊บก็สามารถให้ความชุ่มชื้นปั๊บไม่ต้องรอเซตตัวแต่อย่างใด
ลิปจะไม่มีสีนะคะ กลิ่นหอมอ่อน ๆ สามารถทาเป็นเบสก่อนทาลิปสติกได้ เพราะจะทำให้ลิปสติกที่เราทามีความเรียบเนียนมากขึ้น ใครที่กำลังมองหาลิปบาล์มเพื่อรักษาความชุ่มชื้นและเพื่อสุขภาพที่ดีของริมฝีปากแนะนำค่ะ
8. Mentholatum Therapy Lip Balm ลิปบาล์มเมนโทลาทั่ม
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
มีค่า SPF 15 ช่วยปกป้องริมฝีปากจากแสงแดด | หลายคนไม่ชอบกลิ่นเมนทอล |
ทาแล้วเย็นสดชื่นมาก | |
เนื้อบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ | |
ราคาไม่แพง |
Mentholatum Therapy Lip Balm ลิปบาล์มจากญี่ปุ่นที่ราคาประหยัด แต่ประสิทธิภาพเกินราคาค่ะ จุดเด่นของลิปบาล์มคือมีส่วนผสมของเมนทอล น้ำมันแร่และขี้ผึ้ง เมื่อทาแล้วจะเย็นสบายริมฝีปากมาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูริมฝีปากที่แห้งแตก ส่วนเรื่องความชุ่มชื้นไม่พูดไม่ได้ค่ะ เพราะลดความแห้งกร้านได้จริงและช่วยรักษาสมดุลของริมฝีปากด้วย
คนที่ออกแดดบ่อย ๆ ก็สามารถใช้งานได้นะคะ เพราะมาพร้อมค่า SPF 15 ช่วยป้องกันริมฝีปากจากแสงแดด เนื้อลิปบางเบาและไม่เหนียวเหนอะหนะ แพ็กเกจเป็นแบบหลอดพกพาสะดวก ใครที่ชอบลิปบาล์มเย็น ๆ ตัวนี้ตอบโจทย์ค่ะ
9. MizuMi Skincare UV Lip Glassy Balm ลิปบาล์มมิซึมิ
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
มีค่า SPF 50+ | อาจต้องทาซ้ำหลังจากดื่มน้ำ |
ให้ความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน | มีความมันวาวติดอยู่ที่ปากนานมาก |
ช่วยให้ริมฝีปากอิ่มฟูมากขึ้น | |
ลดความหมองคล้ำได้ดี |
MizuMi Skincare UV Lip Glassy Balm ลิปบาล์มออกใหม่จากมิซึมิที่เด่นเรื่องการกันแดดค่ะ เพราะมาพร้อมค่า SPF 50+ เทียบเท่ากับครีมกันแดดทั่วไปเลย ดังนั้นเราจึงสามารถทาก่อนออกแดดได้ ส่วนผสมหลักของลิปบาล์มคือน้ำมันจากธรรมชาติและวิตามินอี สามารถฟื้นฟูริมฝีปากที่ขาดความชุ่มชื้นได้ดี ช่วยให้ริมฝีปากรู้สึกนุ่มและไม่แห้ง
ลิปบาล์มจะมีให้เลือก 2 แบบนะคะแบบมีสีและแบบไม่มีสี สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ ทางแบรนด์เคลมมาว่าเขามีเทคโนโลยีพิเศษที่ช่วยให้ริมฝีปากอวบอิ่มมากยิ่งขึ้นและให้ความชุ่มชื้นได้นาน 20 ชม. ใครที่กำลังหาลิปบาล์มสำหรับการใช้งานกลางแจ้งอยู่ตัวนี้เหมาะที่สุดค่ะ
10. LANEIGE Lip Glowy Balm ลิปบาล์มลาเนจ
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ให้ความเงางามแก่ริมฝีปาก | อาจจะรู้สึกมัน ๆ ที่ริมฝีปากเล็กน้อย |
เพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี | ราคาค่อนข้างสูง |
มีกลิ่นผลไม้หลายกลิ่นให้เลือก | |
แพ็กเกจแบบหลอดใช้งานง่าย |
LANEIGE Lip Glowy Balm ลิปบาล์มสูตรใหม่จากลาเนจที่ต้องซื้อมาใช้สักครั้งค่ะ จุดที่น่าสนใจคือลิปบาล์มเขามีให้เลือกหลายสูตรเลย ซึ่งแต่ละสูตรจะมีกลิ่นและสีของแพ็กเกจที่แตกต่างกันออกไปด้วย เราสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อกลิ่นเบอร์รี, ขนมหวาน, กัมมี่แบร์, บลูเบอร์รี, วานิลลาและมะม่วง โดยส่วนผสมด้านในไม่ได้แตกต่างกันมากนักค่ะ เพราะจะใช้ส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติเป็นหลักเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก
เนื้อลิปบาล์มมีความบางเบา ไม่เหนียวเลยและให้ความกลอสซี่กับริมฝีปากได้อย่างยาวนานด้วย แพ็กเกจมาในรูปแบบหลอดนะคะ ทาและสามารถพกพาได้ง่าย ใครอยากเพิ่มความกลอส ความโกลว์และความฉ่ำแนะนำตัวนี้อย่างยิ่งค่ะ
บทสรุปจากผู้เขียน
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับลิปบาล์ม 10 แบรนด์ที่เราได้แนะนำไป? เรามีตัวเด็ดตัวดังให้เลือกซื้อเพียบเลยใช่ไหม? แน่นอนว่าทุกแบรนด์ที่เราคัดสรรมานั้น มีคุณภาพดีเยี่ยมและได้รับความนิยมจริง ๆ
ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่คุณจะเลือกซื้อลิปบาล์มที่ถูกใจคุณแล้วค่ะ แต่ก่อนจะตัดสินใจ อย่าลืมคำนึงถึงเคล็ดลับในการเลือกซื้อที่เราได้แชร์ไปด้วยนะคะ เพราะมันจะช่วยให้คุณเลือกซื้อลิปบาล์มที่เหมาะกับคุณได้ง่ายและสนุกยิ่งขึ้น! แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน ขอให้คุณได้ลิปบาล์มที่ช่วยทำให้ริมฝีปากของคุณสวยงามและได้รับการบำรุงอย่างดีที่สุดค่ะ!