Huawei นั้นถือได้ว่าเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกทั้งในเรื่องของการสื่อสาร, Smart Watch, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, โน๊ตบุ๊ค, แท็บเล็ต และที่คุ้นเคยกันดีก็คือโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟน โดยเป็นที่ทราบกันดีว่าค่ายนี้เป็นผู้ผลิตชิปเซ็ต HiSilicon Kirin ที่มีการนำมาใช้กับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของตัวเอง รวมถึงผู้ผลิตพันธมิตรอื่นๆ ด้วย มือถือหัวเหว่ยจึงเด่นในเรื่องของการประมวลผล รวมถึงการถ่ายภาพ หลายรุ่นสามารถขึ้นไปอยู่ในอันดับ 1 มือถือกล้องเทพได้ สำหรับใครที่กำลังสนใจมือถือค่ายนี้อยู่ แต่ยังลังเลว่าจะเลือก มือถือ Huawei รุ่นไหนดี วันนี้เรามีมาฝากกันถึง 10 รุ่นด้วยกัน
วิธีเลือกมือถือ Huawei
มือถือ Huawei นั้นมีให้เลือกมากมายหลายรุ่น หลายราคาด้วยกัน คุณสมบัติของตัวเครื่องก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งการจะเลือกมือถือ Huawei รุ่นไหนดีนั้นมีสิ่งที่เราสามารถใช้ในการประกอบการตัดสินใจดังนี้
1. เลือกมือถือ Huawei จากซีรีส์ของมือถือ
อย่างที่บอกเอาไว้ในตอนต้นว่ามือถือของแบรนด์นี้มีหลากรุ่นหลายราคา แต่สามารถแยกออกได้ตามระดับสเปคและการใช้งานได้ดังนี้
- ซีรีส์ Huawei Y เป็นระดับ Entry Level หรือระดับเริ่มต้น มีสเปคไม่สูงมาก ราคาประหยัด เหมาะกับการใช้งานพื้นฐานทั่วไป เช่น เล่นโซเชียลมีเดีย ดูคลิป ฟังเพลง หรือเล่นเกมที่ไม่เปลืองทรัพยากรมาก
- ซีรีส์ Huawei Nova เป็นระดับ Mid-Range ราคาและสเปคกลางๆ หากเทียบกับซีรีส์ Y คุณสมบัติในเรื่องของชิปเซ็ต หน่วยความจำ กล้องถ่ายรูป และหน้าจอ จะดีกว่าพอสมควรและยังสามารถใช้เล่นเกมได้ลื่นไหลตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับกลางๆ หรือหากเป็นเกมกราฟิกสูงๆ หากปรับลดกราฟิกลงก็สามารถเล่นได้ลื่นเช่นกัน
- ซีรีส์ Huawei P เป็นระดับเรือธงของค่ายที่สเปคจัดเต็มในทุกด้าน แต่ที่เด่นสุดและเป็นที่จดจำก็ต้องยกให้คุณสมบัติของกล้องถ่ายรูปที่ครองแชมป์มาแล้วหลายต่อหลายรุ่นด้วยเลนส์ไลก้า ส่วนหน้าจอและการประมวลผลก็ได้รุ่นท็อปสุดของปีนั้นๆ มาใช้ด้วย
- ซีรีส์ Huawei Mate เป็นระดับไฮเอนด์ที่ยกระดับด้านการดีไซน์ ขนาดของหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น วัสดุที่ใช้มีความหรูหรา แบตเตอรี่อึดขึ้น รองรับการใช้งานร่วมกับปากกาสไตลัส หรือมีรุ่นพิเศษที่ทำขึ้นในจำนวนจำกัด ใช้ได้ทั้งกับการถ่ายภาพ การทำงาน และการเล่นเกม
2. เลือกมือถือ Huawei จากชิปเซ็ตประมวลผล
ชิปเซ็ตประมวลผลคือหัวใจของมือถือทุกรุ่น เพราะส่งผลต่อความรวดเร็วในการทำงานด้านต่างๆ โดยตรง โดยเฉพาะกับคนที่ที่เน้นการเล่นเกม หรือการถ่ายภาพนิ่งและคลิปวิดีโอที่มีความละเอียดสูงหรือมีลูกเล่นเยอะๆ ซึ่งชิปเซ็ตที่ใช้ในมือถือของยี่ห้อนี้ก็คือ HiSilicon Kirin นั่นเอง สามารถแบ่งออกตามความเร็วในการประมวลผลจากช้าสุดไปหาเร็วสุดได้คือ Kirin 7xx, Kirin 8xx และ Kirin 9xx สำหรับตัวท็อปนั้นก็จะถูกนำไปใช้กับมือถือในระดับเรือธงของค่ายในปีล่าสุด หรือใช้ในรุ่นรองลงมาของปีต่อไป นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ตจากค่ายอื่น เช่น Snapdragon ที่ถูกนำมาใช้ในรุ่นหลังมานี้
3. เลือกมือถือ Huawei จากหน่วยความจำ
เรื่องต่อมาที่เราต้องพิจารณาเพื่อเลือกมือถือสักรุ่นเอาไว้ใช้งาน ก็คือหน่วยความจำและพื้นที่เก็บข้อมูล ซึ่งก็คือ RAM กับ ROM นั่นเอง สังเกตได้ว่าเวลาเราเดินเข้าไปในร้านขายมือถือผู้ขายจะนำเสนอว่ารุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ตรุ่นไหน มี RAM และ ROM เท่าไหร่ เพราะทั้งสามส่วนนี้ต้องทำงานประสานกัน ยิ่งกับคนที่เล่นเกม ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอเก็บไว้ในเครื่องเยอะๆ ยิ่งต้องใช้พื้นที่เยอะ โดยปัจจุบัน RAM ไม่ควรต่ำกว่า 4 GB พื้นที่เก็บข้อมูลไม่ควรน้อยกว่า 64 GB หรือดูว่าสามารถเพิ่มด้วยหน่วยความจำภายนอกได้อีกมากน้อยแค่ไหน เพื่อป้องกันข้อมูลเต็มจนใช้งานได้ช้าลงหรือเก็บข้อมูลไม่เพียงพอ
4. เลือกมือถือ Huawei จากกล้องถ่ายรูป
การจะเลือกมือถือ Huawei รุ่นไหนดีนั้นเชื่อว่าปัจจุบันหลายคนให้ความสำคัญกับความละเอียดของกล้องถ่ายรูปเป็นอันดับแรก เพราะเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันที่ขาดไม่ได้ไปแล้ว โดยเป็นที่ทราบกันว่ามือถือค่ายนี้หลายรุ่นมีการทำงานร่วมกับผู้ผลิตเลนส์ชั้นนำของโลกอย่าง Leica ซึ่งหลังจากความร่วมมือกันก็ทำให้มือถือ Huawei โดดเด่นขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดในด้านการถ่ายภาพและวิดีโอ ทั้งนี้ไม่ใช่แค่รุ่นเรือธงเท่านั้น รุ่นระดับกลางเองก็เช่นกัน สามารถถ่ายแล้วนำไฟล์มาใช้งานได้ในระดับโปรเลยทีเดียว หากมีงบประมาณสูงหน่อยและเน้นการถ่ายภาพเราแนะนำให้เลือกมือถือในซีรีส์ P และซีรีส์ Mate เพราะจัดเต็มเรื่องฟังก์ชันการถ่ายภาพที่สุดแล้ว
5. เลือกมือถือ Huawei จากดีไซน์และหน้าจอ
ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผลคือสิ่งที่เราสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเป็นความประทับใจแรกเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นขนาดของหน้าจอ ความละเอียดและความคมชัด การแสดงผลกราฟิก เทคโนโลยีในการช่วยถนอมสายตา มาตรฐานความปลอดภัยประเภทของแผงหน้าจอ ซึ่งความละเอียดของหน้าจอควรอยู่ในระดับ HD หรือ FHD ขึ้นไป ส่วนแผงหน้าจอหลักๆ จะมี LCD และ OLED ที่ใช้ในรุ่นธรรมดาและรุ่นเรือธงตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของความบางของขอบจอ รอยบากหรือรูบนหน้าจอ ที่บางคนก็ชอบแตกต่างกันออกไป
6. เลือกมือถือ Huawei จากฟังก์ชันเสริมต่างๆ
ฟังก์ชันการทำงานเป็นส่วนที่มาช่วยเสริมการใช้งานให้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งมือถือในปัจจุบันถือว่ามีการพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด มีฟังก์ชันล้ำๆ มากมายให้ได้ใช้งานกัน เช่น โหมดการถ่ายภาพกลางคืน, ระบบกันสั่น, เทคโนโลยีการชาร์จเร็ว, โหมดเร่งประสิทธิภาพในการเล่นเกม, รองรับปากกาสไตลัส, การสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ, การรองรับเทคโนโลยี AR, รองรับการเชื่อมต่อ 5G และอื่นๆ อีกมากมาย การจะเลือกใช้งานก็อยู่ที่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนเป็นหลัก ซึ่งยิ่งสเปคและฟังก์ชันเยอะราคาก็ย่อมสูงตามไปด้วย
มือถือ Huawei รุ่นไหนดี
อ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายคนน่าจะพอมีแนวทางในการตัดสินใจบ้างแล้วว่าในการจะเลือกมือถือ Huawei รุ่นไหนดีนั้นต้องพิจารณาในเรื่องใดบ้าง คราวนี้เรามาดูกันเลยว่าตอนนี้มีมือถือรุ่นไหนของค่ายนี้ที่น่าสนใจบ้าง
1. มือถือ Huawei รุ่น Huawei nova 9
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
หน้าจอ OLED ขนาด 6.57 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ | ไม่มีเทคโนโลยีชาร์จแบบไร้สาย |
ชิปเซ็ต Snapdragon 778G 4G | ลำโพงเป็นลำโพงโมโน |
กล้องหลังความละเอียดสูงสุด 50 MP กล้องหน้า 32 MP | |
รองรับ HUAWEI SuperCharge 66W |
เริ่มต้นรายชื่อ มือถือ Huawei รุ่นไหนดีกันด้วย Huawei nova 9 มือถือดีไซน์จอโค้งระดับ mid-range ที่มากับสุดยอดเทคโนโลยีในแทบทุกด้าน ทั้งสวย แรง ถ่ายรูปชัด มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.57 นิ้ว พาเนล OLED คมชัดระดับ FHD+ อัตราการรีเฟรช 120Hz สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ ขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 778G จับคู่ RAM ขนาด 8 GB ความจุภายในเครื่อง 256 GB เล่นเกมได้ยาวนานด้วยระบบระบายความร้อน VC Liquid Cooling งานกล้องให้มาเป็นกล้องหน้า 32 MP กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียด 50 MP + 8 MP + 2 MP + 2 MP บันทึกวิดีโอได้ที่ 4K UHD 60fps พร้อมโหมดการถ่ายภาพมากมาย แบตเตอรี่มีความจุ 4,300 mAh รองรับ SuperCharge 66W งานสร้างถือว่าลงตัวมากๆ
2. มือถือ Huawei รุ่น Huawei Mate XS2
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
หน้าจอแบบพับได้ เพิ่มความหลากหลายในการใช้งาน | ไม่รองรับ 5G และ GMS |
ชิปเซ็ต Snapdragon 888 พร้อม RAM 12 GB | ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย |
กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 50 MP | |
ลำโพงคู่พร้อม AI Sound Engine |
ต่อกันด้วย Huawei Mate XS2 มือถือพับได้สเปคเทพของค่ายที่ครบเครื่องและทันสมัยรุ่นหนึ่งจุดเด่นก็คือสามารถใช้งานหน้าจอได้ 2 หน้าจอ ขนาดเมื่อพับและกางออกคือ 6.5 นิ้ว และ 7.8 นิ้ว เป็นจอ OLED อัตราการรีเฟรช 120Hz ทั้งคมชัดและกราฟิกลื่นไหล ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 888 จับคู่ RAM ขนาด 12 GB ความจุ 512 GB กล้องหลังใส่มา 4 ตัวความละเอียดสูงสุด 50 MP ตามมาด้วยเลนส์ ultra-wide 13 MP เลนส์ซูม 8 MP กล้องหน้าให้มา 10.7 MP เป็นอีกรุ่นที่ให้ภาพคมชัดแม้ในที่แสงน้อย ส่วนด้านความบันเทิงเต็มอิ่มกับลำโพงคู่ double-closed พร้อม AI Sound Engine แบตเตอรี่ให้มา 4,600 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 66W เรียกว่าเอาอยู่ทั้งเล่นเกม ถ่ายภาพและการใช้งานเพื่อความบันเทิงอื่นๆ
3. มือถือ Huawei รุ่น Huawei P50 Pro
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กล้องหลังความละเอียด 50+40+13+64 ล้านพิกเซล | ตัวเครื่องเปื้อนรอยนิ้วมือได้ง่าย |
จอ True-Chroma OLED ขนาด 6.6 นิ้ว พร้อม Refresh Rate 120Hz | ไม่รองรับ Google Mobile Services |
ลำโพงคู่ ระบบเสียง HUAWEI Histen | |
ชิปเซ็ต Snapdragon 888 พร้อม RAM ขนาด 8 GB |
หากขาด Huawei P50 Pro ไปรายชื่อ มือถือ Huawei รุ่นไหนดีของเราก็คงจะไม่สมบูรณ์ เพราะนี่คือเรือธงที่กลับมาสร้างตำนานอีกครั้งด้วยกล้องหลังดีไซน์ Dual-Matrix 4 ตัว ความละเอียด 50+40+13+64 ล้านพิกเซล กล้องหน้า Ultra-Wide Angle 13 ล้านพิกเซล ที่ยังคงใช้เลนส์ LEICA เช่นเดิมเพิ่มเติมคือลูกเล่นในการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอที่คมชัดเหนือระดับมากขึ้น ส่วนหน้าจอเป็นจอ True-Chroma OLED ขนาด 6.6 นิ้ว พร้อม Refresh Rate 120Hz ที่สามารถปรับความสว่างได้ตามสภาพแสง ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 888 พร้อม RAM 8 GB มีระบบระบายความร้อนที่เรียกว่า 3D Graphene Liquid Cooling System ตัวเครื่องทนทานกันน้ำได้ระดับ IP68 จะถ่ายรูป เล่นเกม ดูหนัง รุ่นนี้ตอบโจทย์ได้หมดแน่นอน
4. มือถือ Huawei รุ่น Huawei Nova 9 SE
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ดีไซน์ 3D Glass Cover ขอบจอบาง | ไม่รองรับการเชื่อมต่อ 5G |
กล้องหลังความละเอียดสูงสุด 108 MP | ลำโพงยังเป็นลำโพงเดี่ยว |
ฟีเจอร์ Touch Turbo ช่วยให้ตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น | |
ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 |
Huawei Nova 9 SE มือถือน้องเล็กในซีรีส์ที่มากับความน่าสนใจหลายด้านพร้อมราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งจุดเด่นคงต้องยกให้กับเรื่องกล้องถ่ายรูป เพราะเป็นเบอร์แรกของค่ายที่ได้กล้องหลังความละเอียดสูงสุดถึง 108 MP กล้องหน้าใส่มาที่ 16 MP ฟังก์ชันถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอใส่มาเพียบแถมยังมีแอปพลิเคชัน Petal Clip มาให้ใช้ตัดต่อในเครื่องอีกด้วย รุ่นนี้ได้จอ FullView Display ขนาด 6.78 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ พ่วงฟีเจอร์ Touch Turbo ช่วยให้ตอบสนองการสัมผัสได้ดีขึ้น ชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 680 จับคู่ RAM 8 GB เต็มอิ่มทุกความบันเทิงด้วยระบบเสียง HUAWEI Histen เรียกว่าจัดเต็มมากตัวเครื่องก็ยังสวยงามน่าพกพาอีกด้วย
5. มือถือ Huawei รุ่น Huawei P50 Pocket
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
มือถือฝาพับดีไซน์หรูหรา ฟังก์ชันจัดเต็ม | ขาดมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง |
ชิปเซ็ต Snapdragon 888 มี RAM สูงสุด 12 GB | ไม่รองรับการ์ด microSD |
กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 40+13+32 ล้านพิกเซล | |
ถ่ายวิดีโอได้ที่ระดับ 4K UHD |
Huawei P50 Pocket มือถือฝาพับที่เป็นได้ทั้งอุปกรณ์สื่อสารและเครื่องประดับส่วนตัวเพราะมีครบทั้งงานออกแบบและเทคโนโลยีที่อัดแน่น ตัวเครื่องมีลวดลาย Diamond Shape ดูหรูหรามีระดับ หน้าจอหลักเมื่อกางออกมีขนาด 6.9 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ มีค่า Refresh Rate ที่ 120Hz พร้อม Nano Optical Layer ลดการสะท้อนแสง พ่วงมาด้วยจอเสริมด้านนอกขนาด 1.01 นิ้ว กล้องหน้าให้มา 10.7 MP กล้องหลัง 40+13+32 MP ถ่ายวิดีโอได้ที่ 4K UHD ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เอาอยู่ทุกระยะและทุกสภาพแสง ขุมพลังที่ใช้เป็น Snapdragon 888 มี RAM สูงสุด 12 GB ความจุ 256 GB และ 512 GB รันบน Android 11 ครอบทับด้วย EMUI 12 แบตเตอรี่ให้มา 4,000 mAh รองรับ SuperCharge 40W ระบบเสียงเป็นลำโพงคู่ HUAWEI Histen ใครมีงบมากหน่อยและยังไม่รู้จะเลือกมือถือ Huawei รุ่นไหนดีนี่คือรุ่นที่คุณกำลังตามหา
6. มือถือ Huawei รุ่น Huawei Y6p
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ดีไซน์เรียบหรูน่าพกพา | ความละเอียดหน้าจอแค่ HD+ |
หน้าจอ TFT LCD ขนาด 6.3 นิ้ว | ไม่เหมาะกับการเล่นเกมหนักๆ |
กล้องหลังความละเอียด 13+5+2 ล้านพิกเซล | |
แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh |
Huawei Y6p มือถือระดับเริ่มต้นราคาเบาๆ ที่ใช้งานพื้นฐานได้อย่างครบครัน โดยมากับดีไซน์ตัวเครื่องที่เรียบหรูน่าพกพา หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ TFT-LCD ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด HD+ กล้องหน้าให้มาที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 13+5+2 ล้านพิกเซล มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือและระบบจดจำใบหน้า ขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปเซ็ต Mediatek MT6762R จับคู่กับ RAM ขนาด 4 GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายในเครื่อง 64 GB เพิ่มได้สูงสุด 512 GB ด้วยการ์ด microSD รันบน Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10.1 แบตเตอรี่ให้มาที่ความจุ 5,000 mAh ใครหามือถือราคาไม่แพงมาก Huawei Y6p ก็น่าสนใจทีเดียว
7. มือถือ Huawei รุ่น Huawei Nova 7SE
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
หน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ | ไม่รองรับ GMS |
ชิปเซ็ต Kirin 820 5G พร้อม RAM 8 GB | รองรับ 5G แค่ช่องใส่ซิมที่ 2 |
กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 64 MP | |
แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh รองรับ Huawei SuperCharge 40W |
ต่อกันเลยกับ Huawei Nova 7 SE มือถือดีไซน์ทันสมัย ดีไซน์แบบไล่เฉดสี สเปคกลางๆ ในราคาหมื่นต้นๆ มาพร้อมหน้าจอแบบ LTPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ ใช้การเจาะรูสำหรับฝังกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล กล้องหลังให้มา 4 ตัว ความละเอียด 64+8+2+2 ล้านพิกเซล มีเลนส์มาครบทุกแบบ ใช้ขุมพลังในรุ่นกลางอย่าง Kirin 820 5G จับคู่กับ RAM ขนาด 8 GB ความจุภายในเครื่อง 128 GB เพิ่มได้ด้วยการ์ด NM สูงสุด 256 GB รันบน Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10.1.1 แบตเตอรี่มีความจุ 4,000 mAh รองรับ Huawei SuperCharge 40W ลองดุว่ารุ่นนี้จะถูกใจคุณหรือไม่
8. มือถือ Huawei รุ่น Huawei nova 8i
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
หน้าจอ Edgeless Display ขนาด 6.67 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ | ไม่สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลได้ |
ชิปเซ็ตประมวลผลรุ่น Snapdragon 662 | อัตราการรีเฟรชอยู่ที่ 60Hz |
กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล | |
รองรับ HUAWEI SuperCharge 66W |
Huawei nova 8i อีกรุ่นในรายชื่อ มือถือ Huawei รุ่นไหนดีที่ต้องบอกว่าทั้งสวยและฟังก์ชันการใช้งานครบครัน โดยมากับตัวเครื่องโค้งมนแบบ 4D Curvature และหน้าจอไร้ขอบ Edgeless Display ขนาด 6.67 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD ใส่ชิปเซ็ตมาเป็น Snapdragon 662 จาก Qualcomm จับคู่มากับ RAM ขนาด 8 GB ความจุ 128 GB มี Smart Game Assistant มาดูแลเรื่องการเล่นเกม งานกล้องให้กล้องหน้ามา 16 ล้านพิกเซล กล้องหลัง AI Quad Camera 4 ตัว ความละเอียด 64+8+2+2 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ความจุ 4,300 mAh รองรับชาร์จเร็ว HUAWEI SuperCharge 66W มี 2 สีให้เลือกคือ Moonlight Silver และ Starry Black
9. มือถือ Huawei รุ่น Huawei Mate 40 Pro
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
หน้าจอ Horizon Display ขนาด 6.76 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 90Hz | มีแค่รุ่นความจุ 256 GB |
ชิปเซ็ต Kirin 9000 ความเร็ว 3.13 GHz | ไม่รองรับ Google Mobile Services |
กล้อง Leica Ultra Vision Cine ความละเอียด 50+20+12 ล้านพิกเซล | |
ระบบเสียง HUAWEI Histen พร้อมลำโพงคู่ 3D Audio |
Huawei Mate 40 Pro มือถือระดับเรือธงของค่ายที่ครบเครื่องในทุกองค์ประกอบ ไล่มาตั้งแต่ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Space Ring พื้นผิว Metal-Glass ที่สวยและทนด้วยมาตรฐาน IP68 หน้าจอเป็นแบบขอบโค้งขนาด 6.76 นิ้ว รองรับ HDR10 อัตราการรีเฟรช 90Hz สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้ ด้านการประมวลผลใช้ชิปเซ็ต Kirin 9000 มีชิปประมวลผล AI แยก ใส่ RAM มาที่ 8 GB พื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่อง 256 GB รองรับ 5G และ Wi-Fi 6 กล้องหน้าเป็นเลนส์คู่ ประกอบด้วยกล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล และ เลนส์ TOF 3D กล้องหลังให้มาเป็นกล้อง Leica Ultra Vision Cine ความละเอียด 50+20+12 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไดที่ระดับ 4K แบตเตอรี่ให้มา 4,400 mAh รองรับชาร์จเร็วและชาร์จไร้สาย รุ่นนี้เอาอยู่ทั้งถ่ายรูป เล่นเกม และใช้งานด้านอื่น
10. มือถือ Huawei รุ่น Huawei Y7a
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
หน้าจอใหญ่ 6.67 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ | ไม่เหมาะกับการเล่นเกมหนักๆ |
กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 8+48+2+2 ล้านพิกเซล | กล้องหน้าความละเอียดเพียง 8 ล้านพิกเซล |
ชิปเซ็ต Kirin 710A | |
แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh |
ส่งท้ายรายชื่อ มือถือ Huawei รุ่นไหนดี Huawei Y7a รุ่นเล็กราคาเบาๆ แต่ใช้งานพื้นฐานได้ครบครัน โดยได้ชิปเซ็ต Kirin 710A ที่ประมวลผลได้อย่างน่าพอใจ มาพร้อม GPU ในรุ่น Mali G51-MP4 ใส่ RAM มาให้ 4 GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายในเครื่อง 128 GB รองรับการ์ด microSD ได้อีก 512 GB หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ Punch-Hole Display เจาะรูฝังกล้องหน้า ขนาด 6.67 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ ในส่วนของกล้องถ่ายรูปให้กล้องหน้ามา 8 ล้านพิกเซล กล้องหลังใส่มา 4 ตัว ความละเอียด 8+48+2+2 ล้านพิกเซล มีเลนส์มาให้ครบทุกแบบ นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่สุดอึดถึง 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 22.5W เทียบสเปคกับราคาแล้วถือว่าคุ้มค่าทีเดียว
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
และทั้งหมดนี่ก็คือ 10 รุ่น ในลิสต์มือถือ Huawei รุ่นไหนดี ที่เราเลือกมาให้คุณได้พิจารณากัน โดยมีตั้งแต่ระดับเริ่มต้นราคาเบาๆ ใช้งานพื้นฐาน ระดับกลาง ระดับเรือธง ไปจนถึงรุ่นไฮเอนด์ที่สเปคจัดเต็ม ซึ่งจุดเด่นของมือถือค่ายนี้ก็คือเรื่องของกล้องถ่ายรูปและระบบการประมวลผล รวมถึงฟังก์ชันการทำงานที่ทันสมัยในอันดับต้นๆ ของวงการ ส่วนจะเลือกรุ่นไหนนั้นก็อยู่ที่งบประมาณรวมถึงการใช้งานของคุณเป็นหลักนั่นเองครับ