01-04-2022

น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี พร้อมวิธีเลือกใช้อย่างปลอดภัย 2023

น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี eyesbydrb com
ภาพจาก eyesbydrb.com

สำหรับบางคนที่มีอาการเคืองตา ฝืดตา รู้สึกเหมือนมีสิ่งระคายเคืองอยู่ข้างในดวงตา หรือบางครั้งอาจมีน้ำตาเหนียวๆ ไหลมาเกาะอยู่ที่บริเวณหางตา อาการต่างๆ เหล่านี้ คืออาการของภาวะตาแห้ง (Dry Eye) ซึ่งคนส่วนใหญ่นิยมใช้น้ำตาเทียมเพื่อบรรเทาอาการดังกล่าว แต่จะต้องเลือกอย่างไร เลือกแบบไหน เรามีวิธีเลือกพร้อมทั้งแนะนำ 10 อันดับ น้ำตาเทียมยี่ห้อไหนดี ที่ควรเลือกใช้ เพื่อความปลอดภัยของดวงตาให้มากที่สุด

รู้จักน้ำตาเทียมกันก่อน

น้ำตาเทียมผลิตออกมาเพื่อช่วยในการหล่อลื่นลูกตา ลดการขาดน้ำบริเวณดวงตา ทำให้ตาชุ่มชื้น ช่วยเคลือบผิวดวงตา บรรเทาอาการระคายเคือง อาการแสบตา ซึ่งอาจเกิดจากการใช้สายตามากเกินไป หรืออาจเกิดจากการใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานานจนทำให้ตาแห้ง รวมทั้งภาวะข้างเคียงจากโรคต่างๆ ที่อาจส่งผลเกี่ยวข้องกับตาขึ้นได้ น้ำตาเทียมมีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการไม่สามารถรักษาหรือแก้ไขสาเหตุของการเกิดภาวะตาแห้งได้ ดังนั้นหากไม่มั่นใจว่าอาการที่เป็นอยู่เกิดจากภาวะตาแห้ง หรือเกิดจากสาเหตุอื่น ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากจักษุแพทย์เสียก่อน เพื่อจะได้รักษาอย่างเหมาะสมนั่นเอง

ประเภทของน้ำตาเทียม

ก่อนที่จะรู้ว่าน้ำตาเทียมยี่ห้อไหนดี เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่าน้ำตาเทียมมีกี่ประเภท เพราะแต่ละประเภทก็มีความเหมาะสมในการใช้งานที่ต่างกัน

1. น้ำตาเทียมชนิดสารละลาย (solutions) ข้อดีคือ ใช้งานง่าย ไม่เหนอะหนะ ไม่ทำให้มีอาการตาพร่ามัวขณะใช้ยา มีแบบไม่ผสมสารกันบูดให้เลือกใช้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดการแพ้สารกันเสียที่อยู่ในน้ำตาเทียม ผลิตออกมาหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น แบบ unit dose ที่มักจะอยู่ในหลอดขนาดเล็ก เป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับการใช้ครั้งเดียว และ แบบ Multiple dose ที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์สำหรับใช้ได้หลายครั้ง ซึ่งแบบนี้มักจะมีส่วนผสมของสารกันเสียเพื่อให้สามารถเก็บได้นานขึ้น

2. น้ำตาเทียมชนิดขี้ผึ้งหรือเจล (semi-solid) เป็นรูปแบบที่มีความหนืด ระเหยช้า จึงช่วยรักษาความชุ่มชื้นไว้ได้นานมากกว่าแบบสารละลาย นิยมใช้ในผู้ที่มีอาการตาแห้งระดับปานกลางจนถึงระดับรุนแรง และมีข้อเสียคือใช้งานไม่สะดวก อาจทำให้ตาพร่ามัวหลังป้ายยาชั่วขณะ เหมาะที่จะใช้ก่อนนอนมากกว่าใช้ในช่วงเวลากลางวัน

รูปแบบของน้ำตาเทียม

ในปัจจุบันมีการผลิตน้ำตาเทียมออกมาในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานมากยิ่งขึ้น ประกอบไปด้วยรูปแบบต่างๆ ดังนี้

1. น้ำตาเทียมรูปแบบสารละลายชนิดขวด

น้ำตาเทียมชนิดนี้เหมาะกับผู้ที่มีอาการตาแห้งเล็กน้อย มีราคาถูก ใช้ง่ายกว่าน้ำตาเทียมแบบขี้ผึ้งและแบบเจล สามารถหยอดได้โดยไม่ต้องกังวลว่าตาจะพร่ามัวขณะหยอด แต่มีข้อเสียคือต้องหยอดบ่อย และหลังการใช้งานต้องปิดให้สนิท หากปิดไม่สนิทหรือเก็บไม่มิดชิดอาจเกิดการปนเปื้อนโดยไม่รู้ตัว ซึ่งหากนำมาใช้ก็อาจจะทำให้ดวงตาเกิดการติดเชื้อได้

2. น้ำตาเทียมรูปแบบสารละลายชนิดแท่ง

น้ำตาเทียมรูปแบบสารละลายชนิดแท่ง หรืออาจจะเรียกว่า น้ำตาเทียมรายวันเพราะบรรจุมาเพื่อให้สามารถใช้ภายในวันเดียว เหมาะสำหรับคนที่เคยมีประวัติการแพ้สารกันบูดในน้ำตาเทียมหรือผู้ที่ต้องหยอดตาบ่อยๆ เป็นเวลานาน มีโอกาสปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกน้อยกว่า พกพาง่าย ใช้สะดวก แต่มีอายุการใช้งานสั้น ประมาณ 24 ชั่วโมงหลังการเปิดใช้ และมักจะมีราคาสูงกว่าแบบแรก

3. น้ำตาเทียมรูปแบบเจลและแบบขี้ผึ้ง

น้ำตาเทียมรูปแบบเจลและแบบขี้ผึ้ง จะมีความหนืดมากกว่าทั้งสองชนิดข้างต้น ทำให้ระเหยช้ากว่า ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตานานกว่า จึงไม่ต้องใช้ยาบ่อยๆ และด้วยความหนืดที่มากกว่าจึงเหมาะกับผู้ที่เกิดภาวะตาแห้งระดับปานกลางถึงรุนแรง ซึ่งส่วนใหญ่จะผลิตออกมาเป็นแบบหลอดบีบ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น น้ำตาเทียมแบบนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้คอนแทคเลนส์เพราะอาจรบกวนการมองเห็นและอาจทำให้คุณภาพของคอนแทคเลนส์ลดลงไป

วิธีใช้น้ำตาเทียม

ก่อนจะรู้ว่าน้ำตาเทียมยี่ห้อไหนดี เรามารู้จักวิธีใช้น้ำตาเทียมที่ถูกต้อง เพื่อให้สามารถนำมาใช้บรรเทาอาการได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งสามารถใช้ตามขั้นตอนดังนี้

1. ก่อนการใช้น้ำตาเทียมควรล้างมือให้สะอาด

2. อยู่ในมุมที่ถนัดที่สุด แหงนหน้าขึ้นแล้วใช้มือข้างไม่ถนัดดึงเปลือกตาล่างให้เกิดร่องกระพุ้งตา

3. เหลือบตามองขึ้นข้างบน แล้ววางปลายหลอดน้ำตาเทียมในตำแหน่งที่ห่างจากดวงตาพอประมาณ บีบหลอดยาของน้ำตาเทียมให้ยาหยดลงตรงบริเวณดวงตาด้วยมือข้างที่ถนัด ควรหยดยาตามที่แพทย์สั่ง หรือตามฉลากอย่างเคร่งครัด

4. ควรระวังไม่ให้ปลายหลอดยาโดนดวงตา หรือสัมผัสถูกบริเวณอื่น เพื่อลดการปนเปื้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

5. หลับตาและกลอกตาไปมาประมาณ 2-3 นาที พยายามให้น้ำตาเทียมไหลออกมาจากดวงตาน้อยที่สุด ใช้นิ้วมือคลึงเบา ๆ บริเวณหัวมุมของเปลือกตาเพื่อช่วยกระจายน้ำตาเทียมให้ทั่วตา

6. เช็ดยาส่วนเกินที่หยดออกมานอกดวงตาด้วยกระดาษชำระหรือผ้าที่สะอาด

วิธีเลือกน้ำตาเทียมยี่ห้อไหนดีที่เหมาะกับคุณมากที่สุด

การจะเลือกว่าน้ำตาเทียมยี่ห้อไหนดีที่เหมาะกับคุณมากที่สุดนั้น อาจต้องพิจารณาจากคุณสมบัติต่างๆ ดังต่อไปนี้

1. เลือกน้ำตาเทียมที่ปราศจากสารกันบูด

เนื่องจากดวงตาคืออวัยวะสำคัญ ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงน้ำตาเทียมที่มีสารกันบูดชนิดรุนแรง เช่น Benzalkonium chloride เพราะถึงแม้จะไม่เกิดการระคายเคืองในการใช้ช่วงแรกๆ แต่หากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้เซลล์เยื่อบุกระจกตาถูกทำลายได้ แต่หากเกิดการปนเปื้อนจากการใช้งาน หรือการเก็บรักษาไม่ดีอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเติบโตได้ง่าย ดังนั้นหากจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมที่มีสารกันบูดก็ควรเลือกชนิดไม่รุนแรง เช่น สาร Stabilized oxychloro complex

2. เลือกน้ำตาเทียมที่เหมาะกับอาการของดวงตา

วิธีการเลือกน้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดีอีกข้อที่ควรให้ความสำคัญก็คือเลือกจากอาการของตนเองเป็นหลัก เพราะแต่ละแบรนด์สินค้ามักจะผลิตออกมาหลายสูตร แต่ละสูตรก็มีส่วนผสมที่แตกต่างกัน และยังมีสรรพคุณในการบรรเทาอาการต่างกันด้วย เช่น หากคุณมีอาการตาแห้ง ควรเลือกน้ำตาเทียมที่มีสารเพิ่มความชุ่มชื้น หรือหากมีอาการคันตา ระคายเคืองตา ก็ควรเลือกยาหยอดตาสูตรเฉพาะตามอาการนั่นเอง

3. เลือกจากความถี่ในการใช้งาน

จะเห็นได้ว่าน้ำตาเทียมมีหลายประเภท เช่น แบบสารละลาย แบบเจล แบบขี้ผึ้ง โดยบรรจุภัณฑ์มาสองแบบหลักๆ คือ แบบขวด ที่สามารถใช้ได้นาน และแบบกระเปาะที่ต้องใช้ให้หมดภายใน 1 วัน ดังนั้นจึงควรเลือกจากในการใช้งานของตนเองว่ามีความถี่ในการใช้งานมากน้อยเพียงใด หากไม่ได้ใช้น้ำตาเทียมเป็นประจำก็ควรเลือกแบบกระเปาะ เพราะหากเลือกใช้แบบขวดแล้วใช้ไม่หมดภายใน 1 เดือน ก็อาจจะต้องทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์

แนะนำ 10 อันดับ น้ำตาเทียมยี่ห้อไหนดีที่เหมาะกับคุณมากที่สุด

หลังจากทำความเข้าใจกันไปแล้วว่าน้ำตาเทียมคืออะไร มีวิธีการเลือกและใช้งานอย่างไรให้ปลอดภัย คราวนี้เรามาดูกันเลยว่าน้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดีที่น่าจะเหมาะกับคุณมากที่สุด

1. น้ำตาเทียม Renu Multiplus Lubricating & Rewetting Drops ขนาด 8 ml

น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี น้ำตาเทียม Renu Multiplus Lubricating Rewetting Drops

เริ่มต้นผลิตภัณฑ์น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดีกันกับ Renu Multiplus Lubricating & Rewetting Drops แบบขวด ขนาด 8 ml ใช้สำหรับหล่อลื่นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์โดยเฉพาะ สามารถหยอดยาได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องถอดคอนแทคเลนส์ให้ยุ่งยาก ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองตาอันเนื่องมาจากตาแห้ง หรืออาการคันตา โดยหยอดยาประมาณ 2-3 หยด หลังจากเปิดใช้งานน้ำตาเทียมจะมีอายุประมาณ 1 เดือน เพื่อไม่ให้ประสิทธิภาพของยาลดลง ควรเก็บรักษาในอุณหภูมิ ประมาณ 25 องศาเซลเซียส

2. น้ำตาเทียม Cellufresh MD Lubricant Eye Drops จำนวน 30 หลอด

น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี น้ำตาเทียม Cellufresh MD Lubricant Eye Drops

มาต่อกันเลยกับ Cellufresh MD Lubricant Eye Drops น้ำตาเทียมแบบรายวัน ที่ออกฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง อาการระคายเคืองจากฝุ่น ตาโดนลมหรือแสงมากเกินไป ประกอบไปด้วยตัวยาสำคัญคือ Carboxymethyl cellulose sodium และ Electrolyte ที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกันกับน้ำตาธรรมชาติ ทำให้เมื่อใช้น้ำตาเทียมจึงรู้สึกสบายตา และยังเป็นแบบกระเปาะที่สามารถพกพาไปใช้งานได้ง่าย ลดการปนเปื้อนจากการเก็บรักษา ใน 1 กล่อง มีมาให้ถึง 30 หลอดเลยทีเดียว Cellufresh จึงเป็นหนึ่งในลิสต์น้ำตาเทียมยี่ห้อไหนดีที่เราอยากแนะนำ

3. น้ำตาเทียม IRIS CL-I NEO จำนวน 30 ชิ้น

น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี น้ำตาเทียม IRIS CL I NEO

ถ้าจะพูดถึงน้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดีที่ไร้สารกันบูด IRIS CL-I NEO คืออีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เราขอแนะนำ เพราะเป็นน้ำตาเทียมที่ปราศจากสารกันเสีย จึงอ่อนโยนต่อดวงตา เหมาะกับผู้ที่มีอาการแพ้สารกันบูด รวมทั้งผู้ที่ต้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ หรือจอมือถือเป็นเวลานาน ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์จนเกิดความรู้สึกไม่สบายตา มีอาการตาแห้ง สายตาเหนื่อยล้า มองเห็นไม่ชัด ตาพร่ามัว ตาเบลอ สามารถใช้หยอดตาได้โดยไม่ต้องถอดคอนแทคเลนส์ สะดวก พกพาง่าย เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นมั่นใจได้ถึงคุณภาพและการันตีเรื่องความปลอดภัยอีกด้วย

4. น้ำตาเทียม Himalaya ophtha care eye drops ขนาด 10 มล.

น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี น้ำตาเทียม Himalaya ophtha care eye drops

Ophtha Care Eye Drops เป็นน้ำตาเทียมสูตรอายุรเวท ที่มีส่วนประกอบสำคัญ คือ น้ำผึ้ง (Madhu) มีคุณสมบัติในการช่วยขจัดเชื้อจุลินทรีย์ ลดการอักเสบ มีฤทธิ์ช่วยสมานแผลให้หายเร็วมากขึ้น และยังมีสารเปอร์เซียโรส (Satapatri) ที่มีคุณสมบัติให้ความเย็นที่ดวงตาช่วยบรรเทาอาการปวดตา ทำให้รู้สึกชุ่มชื้น ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย บรรจุมาในขวดขนาด 10 มล. หากมีอาการปวดตาแบบทั่วไป ใช้ปริมาณครั้งละ 1-2 หยด จำนวน 2-3 ครั้งต่อวัน และหากใช้เนื่องจากดวงตาเกิดการติดเชื้อ มีอาการตาแดง ควรใช้ 5- 6 ครั้งต่อวัน

5. น้ำตาเทียม Maxim Contact Lens รุ่น Tear mac ขนาด 10 มล

น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี น้ำตาเทียม Maxim Contact Lens

น้ำตาเทียม Maxim Contact Lens รุ่น Tear mac มาในขวดบรรจุขนาด 10 มล มีส่วนประกอบของ Caboxymethyl Cellulose Sodium ช่วยรักษาอาการตาแห้ง หรือรู้สึกไม่สบายตา บรรเทาอาการระคายเคืองตา โดยเฉพาะจากการโดนลมและแสงแดด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา ใช้หยอดตา ครั้งละ 1-2 หยด ไม่ควรใช้กับผู้ที่อาจแพ้สารประกอบ Caboxymethyl Cellulose Sodium มีราคาไม่แพง จึงเป็นน้ำตาเทียมที่มีคุณภาพน่าใช้ คุ้มค่าคุ้มราคาอีกยี่ห้อหนึ่ง

6. น้ำตาเทียม Natear UD Lubricat Eye Drops จำนวน 28 หลอด

น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี น้ำตาเทียม Natear UD Lubricat Eye Drops

พูดถึงน้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี แล้วจะขาด Natear UD Lubricat Eye Drops ไปได้อย่างไร เพราะเป็นน้ำตาเทียมที่มีความปลอดภัย ปราศจากสารกันเสีย มีสารประกอบ Hydroxypropyl methylcellulose (HPMC) เป็นสารเพิ่มความหนืดให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตา เหมาะกับผู้ที่มีอาการแพ้หรือระคายเคืองสารกันเสีย และยังเหมาะกับผู้ที่ใช้งานเป็นประจำ ช่วยปกป้องผิวกระจกตา เพิ่มระยะเวลาให้น้ำตาอยู่บนผิวตาได้นานขึ้น ลดอาการระคายเคืองตาจากลม แสงแดด ฝุ่นละออง และการจ้องมองคอมพิวเตอร์หรืออ่านหนังสือเป็นเวลานานๆ บรรจุมาจำนวน 28 หลอด มี Reclosable tube ทำให้ปิดฝาได้สนิท ลดการปนเปื้อนเพิ่มความปลอดภัยให้แบบจัดเต็ม

7. น้ำตาเทียม Rohto Eye Drops รุ่น Vita 40 จำนวน 12 มล

น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี น้ำตาเทียม Rohto Eye Drops รุ่น Vita 40

Rohto Eye Drops รุ่น Vita 40 เป็นน้ำตาเทียมจากประเทศญี่ปุ่นที่มีส่วนผสมของกรดอะมิโน (amino acids) และวิตามินถึง 4 ชนิด ช่วยป้องกันการติดเชื้อ ถนอมสายตา เหมาะสำหรับผู้ใส่คอนแทคเลนส์ หรือผู้ที่ใช้สายตาในการจ้องจอคอมพิวเตอร์ จอมือถือเป็นเวลานานๆ ลดอาการตาแห้ง ระคายเคืองตา ฟื้นฟูดวงตาจากอาการเมื่อยล้า ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ดวงตา และยังไม่มีน้ำยาฆ่าเชื้อ ไม่ผสมสารกันบูด (benzalkonium chloride, paraben) จึงมีความปลอดต่อผู้ที่ต้องใช้งานอยู่เป็นประจำ และยังมีราคาไม่แพงอีกด้วย ใครที่กำลังมองหาน้ำตาเทียมที่มีราคาย่อมเยาแต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ บอกเลยว่า Rohto นี่แหละตัวจริง

8. น้ำตาเทียม Alcon Tears Natural Free Lubricant Eye Drops จำนวน 30 ชิ้น

น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี น้ำตาเทียม Alcon Tears Natural Free Lubricant Eye Drops

มาต่อกันกับ Alcon Tears Natural Free Lubricant Eye Drops น้ำตาเทียมไร้สารกันเสีย เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ง่าย และผู้ที่ต้องใช้งานบ่อยครั้ง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยไม่ให้เกิดอาการแพ้ บรรเทาอาการตาแห้ง ประกอบไปด้วยสารหล่อลื่นที่สามารถเข้ากับน้ำตาธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา สามารถใช้ได้ดีกับผู้ที่ใส่ contact lens ใน 1 กล่อง บรรจุ 32 หลอด และในแต่ละหลอด เมื่อเปิดใช้งานแล้ว จะมีอายุ 24 ชั่วโมง หากใช้ไม่หมดก็ควรทิ้ง ไม่ควรเก็บไว้ใช้อีก ถ้าพูดถึงเรื่องความปลอดภัยจากสารกันเสีย Alcon Tears Natural ก็เป็นน้ำตาเทียมอีกยี่ห้อที่น่าเลือกใช้ไม่น้อยเลยทีเดียว

9. น้ำตาเทียม Vidisic gel ขนาด 10 g

น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี น้ำตาเทียม Vidisic gel ขนาด 10 g

น้ำตาเทียม Vidisic gel คือน้ำตาเทียมที่มีความหนืดมากกว่าแบบน้ำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งปานกลางถึงรุนแรง ผู้ที่ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรือผู้ที่ทำงานกลางแดดต้องเจอลมพัดบ่อยๆ จนทำให้เกิดอาการตาแห้ง ช่วยรักษาความชุ่มชื้น ใช้หล่อลื่นหลังการผ่าตัดต้อกระจกหรือหลังการทำเลสิก (LASIK) ช่วยบรรเทาอาการกระจกตาถลอก อาการแผลที่กระจกตา และยังใช้เป็นตัวช่วยในการรักษาอาการของต้อหิน สำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์หากต้องการใช้ ควรถอดคอนแทคเลนส์ออกก่อนแล้วค่อยใส่เข้าไปใหม่หลังจากทายาแล้ว ประมาณ 15 นาที Vidisic gel เป็นน้ำตาเทียมที่มีคุณสมบัติมากมายเมื่อเทียบกับราคาแล้วถือว่าถูกมากๆ

10. น้ำตาเทียม Santen รุ่น Hiaild 0.1 ขนาด 5 มล ราคาประมาณ 220 บาท

น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี น้ำตาเทียม Santen รุ่น Hiaild 0.1

ปิดท้ายน้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดีกันด้วย น้ำตาเทียม Santen รุ่น Hiaild 0.1 ประกอบไปด้วยตัวยาสำคัญคือ Purified Sodium Hyaluronate ซึ่งเป็นสารชีวภาพที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำและช่วยในการสมานแผลให้หายเร็วมากขึ้น และยังใช้รักษาเยื่อตาขาวที่เกิดร่วมกับอาการตาแห้งได้เป็นอย่างดี โดยใช้หยอดตาครั้งละ 1-2 หยด วันละ 5-6 ครั้ง แม้จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็เป็นอีกแบรนด์คุณภาพที่ได้รับความน่านิยมไม่แพ้ยี่ห้ออื่น

บทส่งท้ายจากผู้เขียน

ผ่านไปแล้วกับ 10 อันดับ น้ำตาเทียม ยี่ห้อไหนดี พร้อมวิธีเลือกใช้อย่างปลอดภัย เนื่องจากดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญ จึงต้องระมัดระวังในการเลือกผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ มีความปลอดภัย และเลือกใช้งานให้เหมาะสมมากที่สุด หรือหากไม่มั่นใจว่าเลือกได้ถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัยจริงหรือไม่ ก็ควรไปพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยจะได้รักษาให้ถูกต้องเหมาะสมต่อไป

หมวดหมู่สินค้า