หูฟังคืออุปกรณ์ที่คนส่วนใหญ่นิยมมีติดตัวไว้สำหรับเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อใช้เพลิดเพลินกับ Content ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ดูซีรีส์ ฟังเพลง ได้อย่างสะดวกโดยไม่รบกวนผู้อื่น ซึ่งจุกหูฟังก็คือองค์ประกอบหนึ่งของหูฟัง มีหน้าที่ช่วยยึดเกาะช่องหูและตัวอุปกรณ์ให้แนบสนิทเพื่อการรับฟังเสียงที่ดีและยังช่วยปรับเสียงให้มีคุณภาพมากขึ้นอีกด้วย แต่ปัญหาที่มักจะพบบ่อย ๆ ก็คือจุกหูฟังที่ติดมากับหูฟังไม่มีประสิทธิภาพ หรืออาจมีขนาดไม่พอดี จึงทำให้มีการผลิตจุกหูฟังออกมาวางจำหน่ายให้เลือกกันมากมาย หลายแบบ หลายยี่ห้อ ในบทความนี้เราจะพาไปรู้จัก 10 อันดับ จุกหูฟัง ยี่ห้อไหนดีที่คนนิยมเลือกใช้ รวมถึงวิธีการเลือกให้มีความเหมาะสมกับตนเองมากที่สุด
วิธีการเลือกจุกหูฟัง ยี่ห้อไหนดี คุณภาพเยี่ยม สวมใส่สบาย
นอกจากจุกหูฟังจะมีหน้าที่ช่วยยึดช่องหูเข้ากับอุปกรณ์แล้ว จุกหูฟังยังส่งผลต่อคุณภาพเสียงมากกว่าที่คิด ส่วนจะต้องเลือกอย่างไรนั้น สามารถแยกออกเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้
1. เลือกจากวัสดุของจุกหูฟัง
ในปัจจุบันมีการผลิตจุกหูฟังจากวัสดุหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติแตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่จะผลิตจากวัสดุดังต่อไปนี้
- จุกหูฟังแบบซิลิโคน คือวัสดุที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางเพราะทำความสะอาดง่าย สามารถใช้กับช่องหูได้อย่างแนบสนิท มีความยืดหยุ่นสูง มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีราคาถูก สามารถคงรูปและทนทานดีกว่าวัสดุชนิดโฟม แต่มักจะมีข้อเสียคือหากโดนเหงื่อมักจะลื่นหลุดออกจากหูได้ง่าย ซิลิโคนยังเป็นวัสดุที่ช่วยตัดเสียงรอบข้างได้ดี เหมาะสำหรับคนที่ชอบฟังเพลงหลากหลายสไตล์ ให้เสียงเบสหนักอิมแพ็คดี
- จุกหูฟังแบบโฟม เป็นวัสดุที่ให้ความรู้สึกสบายขณะสวมใส่ มีความนุ่มมากเป็นพิเศษ มีรูปทรงที่เหมาะกับช่องหูของแต่ละคนโดยไม่ทำให้ปวดหู แม้ต้องใส่เป็นเวลานานก็ไม่รู้สึกอึดอัด หรือระคายเคือง แต่เนื้อโฟมสามารถดูดซับเหงื่อและสิ่งสกปรกได้ จึงอาจจะต้องเปลี่ยนบ่อยมากกว่าจุกหูฟังแบบอื่น เหมาะสำหรับคนที่ชอบฟังเพลงคลาสสิก เพราะให้เสียงนุ่ม ให้รายละเอียดสูง
- จุกหูฟัง TPE เป็นวัสดุที่เมื่อโดนอุณหภูมิของร่างกายแล้วจะเกิดการอ่อนตัวจึงใส่ช่องหูได้เต็มพอดีและแนบสนิทมากขึ้น มีความทนทาน มีความยืดหยุ่นสูง โดยหากต้องการเลือกจุกหูฟังที่ผลิตจาก TPE ควรเลือกจุกหูฟังที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน FDA จากสหรัฐอเมริกาว่าสามารถใช้กับผิวหนังได้โดยไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง
2. เลือกจุกหูฟังที่มีขนาดพอดีกับรูหู
เนื่องจากรูหูของแต่ละคนมีขนาดและรูปร่างที่ต่างกัน จึงทำให้ในตลาดมีการผลิตจุกหูฟังออกมาให้เลือกใช้หลายขนาด ไม่ว่าจะเป็น S, M และ L ซึ่งแต่ละขนาดอาจจะสวมใส่ได้แตกต่างกันขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ผลิตรวมถึงดีไซน์และเทคนิคของแบรนด์นั้น ๆ และเพื่อการฟังเสียงที่มีประสิทธิภาพควรเลือกจุกหูฟังที่สามารถใส่ได้พอดีกับรูหูไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ให้ความรู้สึกกระชับ ใส่สบาย ทั้งนี้ควรทดลองเลือกด้วยตัวเอง เพื่อจะได้สามารถสัมผัสและทดลองฟังเสียงให้ถูกใจตัวเองมากที่สุด
3. เลือกจากความทนทานของจุกหูฟัง
ความทนทานคืออีกเรื่องที่จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น เพราะหากมีอายุการใช้งานไม่นาน ก็หมายความว่าจะต้องเสียเงินซื้อบ่อย ๆ นั่นเอง ซึ่งหากวัดจากความทนทานแล้ว จุกหูฟังแบบซิลิโคนถือว่ามีอายุการใช้งานที่ยาวนานหลายปี ในขณะที่จุกหูฟังแบบโฟมจะเปลี่ยนรูปและเสื่อมสภาพได้เร็วกว่า ดังนั้นการเลือกซื้อจุกหูฟัง ยี่ห้อไหนดีควรพิจารณาให้ครบทั้งเรื่องคุณภาพของจุกหูฟัง ราคา และอายุการใช้งาน เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไปให้มากที่สุด
4. เลือกจุกหูฟังที่ช่วยเก็บเสียงลดการรบกวนจากภายนอก
จุกหูฟังที่ดี ควรมีคุณสมบัติช่วยตัดเสียงรบกวนจากภายนอก สามารถเก็บเสียงได้ดี เพื่อให้คุณได้ยินเสียงภายในโทรศัพท์อย่างชัดเจนโดยไม่ส่งเสียงรบกวนผู้อื่น และหากคุณต้องการใช้ในรถโดยสารหรือรถไฟฟ้าอย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้น การเลือกใช้จุกหูฟังที่ทำมาจากยางสังเคราะห์ (Urethane) ก็จะช่วยกันเสียงจากภายนอกได้ดีมากกว่า แต่มักจะมีข้อเสียคือเมื่อสวมใส่เป็นเวลานานอาจจะทำให้รู้สึกปวดหู ซึ่งการเลือกขนาดให้มีความพอดีกับขนาดของรูหูก็จะสามารถช่วยลดอาการดังกล่าวได้
แนะนำ 10 อันดับ จุกหูฟัง ยี่ห้อไหนดี 2024
ได้รู้กันไปแล้วว่าการเลือกจุกหูฟังที่เหมาะสมควรต้องพิจารณาจากเรื่องใดบ้าง ต่อจากนี้เราจะพาไปพบกับ10 อันดับจุกหูฟัง ยี่ห้อไหนดี 2024 กัน ส่วนจะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างไปดูกันได้เลย
1. จุกหูฟัง ยี่ห้อ X-Tips รุ่น T400
จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
---|---|
บรรจุ แพ็ค 8 ชิ้น 4 คู่ | มีสีให้เลือกน้อยเกินไป |
จุกหูฟังแบบโฟมคุณภาพสูง | ไม่มีขนาดอื่นให้เลือกใช้ |
ขนาดเหมาะสำหรับแกนมาตรฐาน | |
โฟมนิ่มสามารถใส่ได้นานโดยไม่เจ็บหู |
เริ่มต้นรายชื่อจุกหูฟัง ยี่ห้อไหนดีกันด้วย X-Tips รุ่น T400 จุกหูฟังแบบโฟมคุณภาพสูง ราคาไม่แพง ให้มาถึง 4 คู่ด้วยกัน สามารถรองรับหูฟังแบบ In ear ที่มีแกนมาตรฐานทั่วไปในขนาด 5.0mm สวมใส่สบาย ให้สัมผัสที่นุ่มหู สามารถใส่ได้เป็นระยะเวลานานโดยไม่เจ็บหู ตัวโฟมถูกออกแบบมาให้พองในรูหูเพื่อให้สามารถสวมหูฟังได้แน่นสนิทมากขึ้น จึงทำให้ช่วยตัดเสียงรบกวนได้ดี และยังช่วยปรับคุณภาพเสียงให้ดีขึ้นอีกด้วย X-Tips รุ่น T400 จัดเป็นจุกหูฟังที่ใช้งานได้อย่างสบายหูและยังมีราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย
2. จุกหูฟัง ยี่ห้อ SpinFit รุ่น CP100 V2
จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
---|---|
บรรจุ แพ็ค 2 ชิ้น 1 คู่ | ให้สัมผัสนุ่มน้อยกว่าแบบโฟม |
จุกหูฟังแบบซิลิโคนคุณภาพสูง | หากใส่เป็นเวลานานหรือเลือกขนาดไม่เหมาะสมอาจเจ็บหูได้ |
แกนหมุนแบบ 3D ส่งเสียงได้ถึงหูชั้นใน | |
มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ SS (9.99mm) S (11มิล) M(12.33mm) และ L(13.5mm) |
จุกหูฟัง ยี่ห้อไหนดีที่เรานำมาแนะนำอีกรุ่นก็คือ SpinFit จุกหูฟังที่ครองใจผู้ใช้งานจากนานาประเทศ รุ่น CP100 V2 เป็นจุกหูฟังแบบซิลิโคนคุณภาพสูง แกนหมุนแบบ 3D ออกแบบให้ท่อนำเสียงสามารถโค้งรับรูหูให้ใส่ได้พอดีกับช่องหู มีความอ่อนนุ่ม ใส่สบาย สามารถใช้ได้กับหูฟังหลากหลายแบรนด์เพราะมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ Size SS, S, M และ L ช่วยเก็บเสียงได้ดี ทำให้สามารถส่งเสียงถึงหูด้านในได้อย่างครบถ้วน ให้มิติเสียงที่โปร่ง ช่วยยกระดับเสียงเบสและเสียงแหลมให้ชัดใสในเวลาเดียวกัน นับเป็นจุกหูฟังที่ตอบโจทย์เรื่องคุณภาพได้ดีไม่แพ้ใคร
3. จุกหูฟัง ยี่ห้อ OSTRY รุ่น OS300
จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
---|---|
บรรจุในกล่อง จำนวน 3 คู่ | ให้สัมผัสนุ่มน้อยกว่าแบบโฟม |
จุกหูฟังแบบซิลิโคนคุณภาพสูง | หากใส่เป็นเวลานานหรือเลือกขนาดไม่เหมาะสมอาจเจ็บหูได้ |
ขนาดเหมาะสำหรับแกนมาตรฐาน | |
ใช้งานได้นาน มีความทนทานสูง |
จุกหูฟัง ยี่ห้อ OSTRY รุ่น OS300 เป็นจุกหูฟังแบบอินเอียร์อีกรุ่นที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะเป็นจุกหูฟังที่ผลิตจากซิลิโคนอย่างดี มีการออกแบบให้สามารถใส่ในช่องหูได้อย่างพอดี ให้สัมผัสที่สบายขณะสวมใส่ ดูแลรักษาง่าย มีความทนทานสูง รองรับหูฟังมาตรฐานทุกรุ่น ช่วยปรับคุณภาพเสียงให้น่าฟังด้วยการลดความถี่เสียงแหลมสูงจึงสามารถดึงเสียงเบสออกมาได้ชัดเจนขึ้น ช่วยให้เสียงเบสดีขึ้นกว่าเดิม บรรจุมาจำนวน 6 ชิ้น 3 คู่ แพ็คในกล่องเรียบร้อย สะดวกในการเก็บ เรียกได้ว่าเป็นจุกหูฟังที่น่าสนใจอีกรุ่น
4. จุกหูฟัง ยี่ห้อ TRN รุ่น Noise Isolating
จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
---|---|
บรรจุเป็นแพ็ค จำนวน 3 คู่ | ให้สัมผัสนุ่มน้อยกว่าแบบโฟม |
ช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ดี | หากเลือกขนาดไม่เหมาะสมอาจเจ็บหูได้ |
จุกหูฟังแบบซิลิโคน มีความยืดหยุ่นสูง | |
มีให้เลือก 3 ขนาด ไซด์ S ไซด์ M และ ไซด์ L |
หากต้องการเลือกจุกหูฟัง ยี่ห้อไหนดีที่ให้สัมผัสเบาสบาย เราขอแนะนำ TRN รุ่น Noise Isolating จุกหูฟังแบบซิลิโคนที่มีความยืดหยุ่นสูง ได้รับการออกแบบให้สามารถปรับรูปทรงเข้ากับช่องหูได้อย่างพอดี ไม่เจ็บหูแม้ต้องใส่เป็นเวลานาน และยังมีขนาดมาให้เลือกถึง 3 size เพื่อให้สามารถสวมใส่เข้ากับขนาดช่องหูที่แตกต่างกันได้อย่างกระชับหูมากยิ่งขึ้น และยังช่วยปรับคุณภาพเสียงได้ดีไม่แพ้รุ่นอื่น โดยสามารถช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกออกได้เป็นอย่างดี จึงเป็นจุกหูฟังอีกรุ่นที่น่าเลือกมาไว้ใช้สร้างคุณเสียงให้เต็มอิ่มมากขึ้น
5. จุกหูฟัง ยี่ห้อ Final Audio Design รุ่น Type E
จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
---|---|
แบ่งขายจำนวน 1 คู่ | ให้สัมผัสนุ่มน้อยกว่าแบบโฟม |
นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น | หากเลือกขนาดไม่เหมาะสมอาจเจ็บหูได้ |
เพิ่มเสียงเบสให้รู้สึกหนักแน่น เสียงแหลมสดขึ้น | |
มีให้เลือกทั้ง size S size M และ size L |
ต่อกันด้วยจุกหูฟังแบรนด์คุณภาพอย่าง Final Audio Design รุ่น Type E เป็นจุกหูฟังซิลิโคนนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น ใส่แล้วไม่ระคายเคือง เนื้อซิลิโคนมีความยืดหยุ่น มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คงรูปได้ดี ไม่ย้วย ไม่หดตัว ใส่เข้ากับช่องหูได้ลึกและแนบสนิทเต็มช่องหู ช่วยปรับพลังเสียงให้มีคุณภาพ เพิ่มเสียงเบสให้รู้สึกหนักแน่น เสียงแหลมใสขึ้น เสียงร้องพุ่งมากขึ้น เหมาะกับเพลงหลากหลายสไตล์ และยังมีให้เลือกถึง 3 ขนาดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น size S (11.1mm) size M (11.8mm) และ size L (12.5mm) เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้กับช่องหูได้อย่างเหมาะสมกระชับมากยิ่งขึ้น
6. จุกหูฟัง ยี่ห้อ Azla รุ่น Xelastec
จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
---|---|
แบ่งขายจำนวน 1 คู่ | ราคาค่อนข้างสูง |
นำเข้าจากประเทศไต้หวัน | ให้สัมผัสนุ่มน้อยกว่าจุกหูฟังแบบโฟม |
ยึดติดกับหูได้ดี ไม่หลุดง่าย | |
มีให้เลือกทั้ง size S size M และ size L |
หากคุณกำลังมองหาจุกหูฟัง ยี่ห้อไหนดีที่มีความทนทานสูง เราขอแนะนำรุ่นนี้เลยกับ Azla รุ่น Xelastec ผลิตจาก TPE ช่วยยึดเกาะกับหูได้ดีไม่หลุดง่าย มีความยืดหยุ่นสูง เนื้อเหนียว ไม่ย้วย ไม่หด ไม่ระคายเคืองหูเมื่อสวมใส่ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน สามารถรองรับขนาดช่องหูที่แตกต่างกันได้โดยมีขนาดมาให้เลือกใช้ตั้งแต่ size S, size M และ size L เป็นจุกหูฟังที่ช่วยยกระดับเสียงให้มีคุณภาพน่าฟังด้วยการตัดเสียงรบกวนภายนอก ขับส่งเสียงเบส, เสียงแหลม และเสียงร้องให้พุ่งมากขึ้น เพื่อการฟังที่ได้อรรถรสมากขึ้นนั่นเอง
7. จุกหูฟัง ยี่ห้อ Filter รุ่น TW30 Pro
จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
---|---|
จำนวน 1 คู่ | ใช้งานได้ประมาณ 1-3 เดือน |
นำเข้าจากประเทศไต้หวัน | ต้องเปลี่ยนบ่อยกว่าแบบซิลิโคน |
จุกหูฟังแบบโฟม ใส่นิ่มสบายหู ไม่ระคายเคือง | |
มีให้เลือก 2 ขนาดคือ size S size M และ size L |
จุกหูฟัง ยี่ห้อ Filter รุ่น TW30 Pro คือจุกหูฟังที่ได้รับการออกแบบให้สามารถยึดติดกับหูฟังได้โดยไม่หลุดออกง่ายด้วยการออกแบบ Tube Lock ให้ช่วยยึดติดได้ดีมากขึ้น ผลิตจากโฟมคุณภาพดี สามารถสวมใส่ได้อย่างนิ่มสบายหู ไม่ระคายเคือง ใส่ได้อย่างกระชับ มี 2 ขนาดให้เลือกใช้คือ size S และ size M มาด้วยกัน 2 สี คือ สีดำและสีเทา ช่วยตัดเสียงรบกวนได้ดี ช่วยปรับเสียงให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น เมื่อนำมาใช้งานจะเห็นได้ถึงความแตกต่างโดยเฉพาะเสียงเบสที่มีความแน่นมากขึ้นกว่าเดิม เป็นอีกแบรนด์นำเข้าจากไต้หวันที่มีคุณภาพน่าใช้อีกรุ่น
8. จุกหูฟัง ยี่ห้อ Epro รุ่น Shaped AP00
จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
---|---|
ใน 1 แพ็ค มี 2 คู่ | ให้สัมผัสนุ่มน้อยกว่าแบบโฟม |
ออกแบบพิเศษมาสำหรับหูฟัง Airpods Pro | หากเลือกขนาดไม่เหมาะสมอาจให้คุณภาพเสียงไม่ดีเท่าที่ควร |
Horn-Shaped เพื่อช่วยลดแรงกด ใส่สบายไม่ระคายเคือง | |
3 ขนาด คือ size S, size M และ size L |
Epro รุ่น Shaped AP00 เป็นจุกหูฟังที่ออกแบบพิเศษมาสำหรับหูฟัง Airpods Pro มีการออกแบบ Horn-Shaped เพื่อช่วยลดแรงกดทำให้สวมใส่ได้อย่างสบายหู มีความยืดหยุ่นสูง อ่อนนุ่ม รวมทั้งมีการออกแบบท่อนำเสียงให้มีลักษณะบานออก จึงช่วยให้จุกหูฟังและช่องหูแนบสนิทกัน ช่วยตัดเสียงภายนอกออกได้เป็นอย่างดี ได้เสียงที่มีความชัดเจน มาพร้อม Dust Mesh ช่วยป้องกันฝุ่นไม่ให้จับที่จุก มีให้เลือกถึง 3 ขนาด ใน 1 แพ็ค จะมี 2 คู่ เป็นจุกหูฟังอัพเกรดที่ให้คุณภาพเสียงดี เสริมเสียงต่ำและเบสให้ทรงพลัง ช่วยให้เสียงมีความโปร่งใสมากขึ้น
9. จุกหูฟัง ยี่ห้อ Dekoni รุ่น Bulletz TWS
จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
---|---|
ออกแบบพิเศษมาให้สามารถซักทำความสะอาดได้ | หากเลือกขนาดไม่เหมาะกับช่องหูอาจระคายเคืองได้ |
ผลิตจาก Memory Foam มีความยืดหยุ่นสูง | หากเลือกขนาดไม่เหมาะสมอาจให้คุณภาพเสียงไม่ดีเท่าที่ควร |
3 ขนาด คือ size S, size M และ size L |
หากต้องการจุกหูฟัง ยี่ห้อไหนดีที่สามารถทำความสะอาดได้ Dekoni รุ่น Bulletz TWS ถือว่าตอบโจทย์ เพราะถูกออกแบบมาให้สามารถซักทำความสะอาดได้ เพียงแค่ใช้สบู่ล้างทำความสะอาดและผึ่งให้แห้งก็สะอาดเหมือนใหม่ ใช้งานได้ยาวนาน ผลิตจาก Memory Foam มีความยืดหยุ่นสูง คืนตัวได้ดี ใส่สบาย ไม่เจ็บหู ช่วยกระชับช่องหูได้ดี สามารถตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ เหมาะกับทุกขนาดช่องหู มีมากให้เลือกใช้ถึง 3 ขนาด คือ size S, size M และ size L เป็นจุกหูฟังอีกรุ่นที่ช่วยปรับคุณภาพเสียงให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
10. จุกหูฟัง ยี่ห้อ SpinFit รุ่น CP360
จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
---|---|
ใน 1 แพ็ค มี 1 คู่ | หากเลือกขนาดไม่เหมาะกับช่องหูอาจระคายเคืองได้ |
ออกแบบตามสรีรศาสตร์ | ให้สัมผัสนุ่มน้อยกว่าจุกหูฟังแบบโฟม |
มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน | |
5 ขนาด คือ size SS, size S, size M, size L และ XL |
ส่งท้ายจุกหูฟัง ยี่ห้อไหนดีกันด้วย SpinFit รุ่น CP360 ที่ได้รับการออกแบบตามสรีรศาสตร์ ให้จุกหูฟังมีลักษณะคล้ายร่ม จึงช่วยยึดติดกับหูได้ดี ใส่สบาย ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ดี ช่วยปรับปรุงเสียงแหลมและเบสให้หนักแน่นกว่าเดิมให้คุณภาพเสียงที่แตกต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ช่วยเก็บเสียงได้ดี มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และยังมีขนาดให้เลือกใช้หลากหลายถึง 5 ขนาด ตั้งแต่ size SS, size S, size M, size L และ XL ไม่ว่าหูของคุณจะมีขนาดเท่าไหร่ก็สามารถเลือกใช้งานได้อย่างกระชับแน่นอน
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
จะเห็นได้ว่าจุกหูฟังผลิตจากวัสดุหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความทนทาน การยืดหยุ่น การยึดเกาะ ซึ่งการจะเลือกจุกหูฟัง ยี่ห้อไหนดี จึงจำเป็นต้องพิจารณาว่าตนเองมีความต้องการเรื่องใดมากเป็นพิเศษ เพื่อจะได้เลือกจุกหูฟังให้ตอบโจทย์มากที่สุด รวมทั้งควรเลือกขนาดของจุกหูฟังให้พอดีกับช่องหู เพื่อการเก็บเสียงและการตัดเสียงรบกวนภายนอกให้ดีมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้คุณภาพเสียงที่ได้มีความชัดเจน มีเนื้อเสียงตามต้องการ เพื่อการสวมใส่ที่สบายและการรับชมความบันเทิงที่ไม่ขาดตอนนั่นเอง