“กริ่ง” อุปกรณ์ช่วยส่งเสียง หรือเตือนภัยยอดนิยมที่หลายคนมักติดไว้หน้าบ้าน หน้าที่พัก เพื่อให้คนที่อยู่ข้างนอก หรืออยู่หน้าที่พักอาศัยนั้นได้เรียกคนที่อยู่ในบ้านได้ โดยเมื่อก่อนเราก็จะติดกริ่งไว้หน้าบ้าน อาศัยการเดินไฟและติดตั้งตัวรับสัญญาณวุ่นวายไปหมด แถมยังมีราคาที่ค่อนข้างสูงอีกด้วย แต่รู้หรือไม่? ว่าปัจจุบันเรามีนวัตกรรมที่เรียกว่า “กริ่งไร้สาย” แล้ว! ซึ่งถือเป็นทางเลือกใหม่ที่เหมาะสำหรับคนอยากได้กริ่งไว้ส่งสัญญาณเรียกโดยเฉพาะ สำหรับกริ่งไร้สายส่วนใหญ่นั้นมักมีราคาที่ย่อมเยา ติดตั้งได้ง่ายด้วยตนเอง ไม่ต้องเสียเวลาเดินไฟ อาศัยเพียงแบตเตอรี่เท่านั้น แถมกริ่งไร้สายบางยี่ห้อยังสามารถพูดคุยได้อีกด้วย! ส่วนจะเลือกกริ่งไร้สาย ยี่ห้อไหนดี วันนี้เราจะมาชี้เป้าพร้อมแนะนำวิธีการเลือกใช้งาน
วิธีเลือกกริ่งไร้สาย
สำหรับใครที่อาจจะยังไม่เคยใช้งานอุปกรณ์นี้ ในการเลือกซื้อกริ่งไร้สาย ยี่ห้อไหนดีนั้น มีสิ่งที่เราสามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจได้ดังนี้
1. เลือกจากประเภทการจ่ายไฟฟ้า
กริ่งไร้สายในท้องตลาดทุกวันนี้มีการจ่ายไฟฟ้าผ่านการใช้ถ่าน ซึ่งอาจจะเป็นขนาด AA หรือ AAA ก็ได้ตามที่กริ่งไร้สายยี่ห้อนั้นๆ ระบุไว้ ขณะเดียวกันถ้าเป็นกริ่งไร้สายที่มีราคาสูงหน่อย อาจจะมีการจ่ายไฟฟ้าผ่านการเสียบชาร์จเข้ากับไฟบ้าน หรือสาย USB ไว้แทน
2. เลือกกริ่งไร้สายจากประสิทธิภาพการส่งสัญญาณ
ในการเลือกซื้อกริ่งไร้สายนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณควรจะศึกษาประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณของกริ่งไร้สายยี่ห้อนั้นๆ ซึ่งระยะการส่งสัญญาณของกริ่งไร้สายส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 40 เมตร หรือ 300 เมตรเลยทีเดียว ซึ่งยิ่งสัญญาณส่งได้ไกลมากเท่าไหร่ ความชัดเจนของการได้ยินเสียงกริ่งก็ชัดมากเท่านั้น โดยถ้าเป็นบ้านพักแนะนำขั้นต่ำที่ 40 เมตรก็เพียงพอแล้วล่ะ แต่ถ้าหน้าบ้านกับตัวบ้านอยู่ไกลกันมากๆ ก็อาจเลือกใช้เป็นกริ่งไร้สายที่มีระยะส่งสัญญาณประมาณ 100 เมตรก็ได้ ทั้งนี้หากตัวรับสัญญาณและตัวส่งสัญญาณมีวัตถุกั้น เช่น กำแพง ก็อาจทำให้ประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณลดน้อยลงได้
3. เลือกกริ่งไร้สายที่พูดคุยได้
ถ้าเป็นเมื่อสมัยก่อน เราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนที่มากดกริ่งหน้าบ้านเราเป็นใครมีหน้าตาแบบไหน แต่สำหรับสมัยนี้ที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนั้นไปไกลแบบสุดๆ แล้ว ทำให้เราสามารถมองเห็นได้แบบเรียลไทม์เลยว่าใครกันแน่ที่มากดกริ่งอยู่หน้าบ้านเราตอนนี้ ซึ่งกริ่งไร้สายประเภทนี้จะมาพร้อมกับจอที่มีความชัดสูงถึงระดับ HD เลยทีเดียว และไม่เพียงแต่จะมองเห็นคนที่มากดกริ่งแล้ว กริ่งไร้สายบางยี่ห้อเรายังสามารถสนทนาผ่านหน้าจอโดยการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันของกริ่งไร้สายยี่ห้อนั้นๆ ได้เลยอีกด้วย
4. เลือกกริ่งไร้สายที่กันน้ำกันฝุ่นได้
เพราะกริ่งไร้สายอาจจำเป็นต้องติดไว้หน้าบ้านที่เผชิญกับแสงแดด ลม และฝนอยู่ตลอดปี ฉะนั้นเพื่อการใช้งานที่ยาวนาน และไม่ต้องเสียเงินไปกับการซื้อกริ่งไร้สายตัวใหม่นั้น เราก็ขอแนะนำว่าให้เลือกซื้อกริ่งไร้สายที่สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกริ่งไร้สายที่สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้นั้นก็จะมีการระบุ IP Rating เอาไว้ชัดเจน เช่น IP57 หมายถึงกันฝุ่นได้ระดับ 5 กันน้ำได้ระดับ 7 หรืออาจจะเป็นรหัส IPX5 หมายถึงกันฝุ่นไม่ได้ แต่กันน้ำในระดับ 5 ได้ โดยค่า IP Rating ของประสิทธิภาพการกันน้ำกันฝุ่นนั้นไม่ควรต่ำกว่าระดับ 4
กริ่งไร้สาย ยี่ห้อไหนดี
เรามาเข้าสู่รายชื่อการแนะนำ กริ่งไร้สาย ยี่ห้อไหนดี กันเลย โดยเราได้ทำการคัดรุ่นต่างๆ ที่น่าสนใจ จากแบรนด์ที่เจ้าของบ้านหลายคนพอใจในการใช้งาน ส่วนจะมีรุ่นไหนที่โดนใจคุณบ้างนั้น ไปดูพร้อมๆ กันเลย
1. กริ่งไร้สาย PrezON
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
รองรับการกดกริ่งได้มากกว่า 100,000 ครั้ง | ไม่ต้องใช้ถ่าน |
ส่งสัญญาณไกลได้ 100 เมตร | กินค่าไฟเพียง 1 บาทต่อเดือนเท่านั้น |
มีเสียงเมโลดี้ให้เลือกมากถึง 58 เสียง และมีโหมดไฟ 3 แบบ | |
กันน้ำกันฝุ่นได้ในระดับ IP55 |
เริ่มต้นรายชื่อ กริ่งไร้สาย ยี่ห้อไหนดีของเรากันเลย โดยถ้าคุณไม่อยากเสียเวลาไปกับการติดตั้งกริ่งหน้าบ้าน เดินสายไฟระโยงระยางแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำ กริ่งไร้สาย PrezON ที่อาศัยการทำงานของตัวส่งสัญญาณคล้ายขดลวดทองแดง เมื่อไหร่ที่ตัวกดกริ่งมีคนกด ตัวรับภายในที่พักอาศัยก็จะส่งสัญญาณโดยอัตโนมัติ ซึ่งคุณสามารถเลือกเสียงกริ่งได้มากถึง 58 เสียงเลยทีเดียว แถมยังตั้งค่าการเปิดไฟเมื่อมีคนมากดกริ่งได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ ไฟกระพริบ ไฟเปิดค้าง ไม่เปิดไฟ ในส่วนของตัวกริ่งไร้สายนั้นก็ทำจากวัสดุคุณภาพดี สามารถทนแดด กันฝุ่น กันฝนได้ในระดับ IP55 เลยทีเดียว
2. กริ่งไร้สาย Eagle Eye
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
มีกล้องระดับความชัด 1280 x 960 พิกเซล | ไม่แนะนำให้เชื่อมต่อกับเน็ตค่าย AIS เนื่องจากมีปัญหาการเชื่อมต่อ |
บันทึกวิดีโออัตโนมัติเมื่อมีคนกดกริ่ง | เชื่อมต่อกับสัญญาณ WiFi 2.4Ghz |
มี IR Cut / โหมดกลางคืน | |
รองรับการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน Dophigo |
กริ่งไร้สายมาพร้อมกล้องทำมุมได้กว้างถึง 156 องศาพร้อมด้วยความชัดระดับ 960HD มองเห็นคนมากดกริ่งชัดเจน แถมยังมีการบันทึกวิดีโออัตโนมัติเมื่อมีคนกดกริ่งอีกด้วย ที่สำคัญตัวกล้องที่ติดมากับกริ่งนั้นยังเปลี่ยนโหมดการทำงานสำหรับตอนกลางคืน หรือโหมด IR Cut ให้คุณมองเห็นคนที่มากดกริ่งชัดเจนแม้อยู่ในที่มืด ซึ่งสำหรับ กริ่งไร้สาย Eagle Eye นั้นใช้งานได้ง่ายมากๆ เพียงเชื่อมต่อระหว่างตัวส่งสัญญาณและตัวรับสัญญาณผ่าน WiFi 2..4Ghz ผ่านทางแอปพลิเคชัน Dophigo โดยรองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOs และ Android
3. กริ่งไร้สาย Xiaomi Mi Wireless Switch Global Version
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ปุ่มควบคุมอุปกรณ์ IoT หรืออุปกรณ์สมาร์ทโฮมในเครือ Mi ทั้งหมด | ใช้ถ่านกระดุมใหญ่เป็นแหล่งจ่ายพลังงาน |
ใช้งานร่วมกับ Multifuction Gateway ได้ทุกรุ่น | อายุแบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 2 ปี |
ขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวก | |
กดใช้งานได้ 3 แบบ คือ กดครั้งเดียว กดสองครั้ง กดค้าง |
หากถามว่า กริ่งไร้สาย ยี่ห้อไหนดี นี่คือสุดยอดนวัตกรรมกริ่งไร้สายที่หลายบ้านควรมีหากคุณเป็นสาวกอุปกรณ์สมาร์ทโฮมของเครือ Xiaomi อยู่แล้ว ขอแนะนำ Xiaomi Mi Wireless Switch Global Version กริ่งไร้สายที่เป็นมากกว่ากริ่งไร้สายส่งสัญญาณเตือนเวลามีคนกดกริ่ง เพราะกริ่งไร้สายสัญชาติจีนแผ่นดินใหญ่นี้สามารถใช้ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมภายในบ้านของคุณได้ทั้งหมดเลยทีเดียว ไม่ว่จะเป็นการเปิดเครื่องฟอกอากาศ การปิดเครื่องดูดฝุ่น ก็สามารถสั่งการเพียงปลายนิ้วกดที่กริ่งไร้สายนี้ได้เลย ขอบอกเลยว่ากริ่งไร้สายอันเดียว สามารถใช้งานได้ครอบจักรวาลเลยทีเดียว ที่สำคัญราคาน่ารักเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าสุดๆ
4. กริ่งไร้สาย Toshino รุ่น H-518WH
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ป้องกันน้ำกันฝุ่นได้มาตรฐาน IPX4 | ตัวรับสัญญาณใช้ไฟบ้าน ตัวส่งสัญญาณใช้ถ่านจำนวน 1 ก้อน |
รับ-ส่งสัญญาณได้ในระยะสูงสุด 100 เมตร | |
เลือกเสียงได้มากถึง 36 เสียง | |
ปรับระดับความดังของเสียงได้ 3 ระดับ |
หากคุณกำลังลังเลว่าจะเลือกซื้อกริ่งไร้สาย ยี่ห้อไหนดีที่มีราคาไม่สูงมากนัก เราขอแนะนำ Toshino รุ่น H-518WH กริ่งไร้สายที่สามารถส่งสัญญาณได้ไกลกว่า 100 เมตรในพื้นที่โล่ง สามารถส่งเสียงเตือนได้มากถึง 36 เสียง 3 ระดับความดังที่คุณสามารถเลือกปรับได้ตามความต้องการ ใช้งานง่ายสุดๆ ด้วยตัวรับสัญญาณที่อาศัยการเสียบเข้ากับเต้ารับไฟบ้าน ส่วนตัวส่งสัญญาณนั้นใช้เพียงถ่าน A23 12V ก้อนเดียวเท่านั้น รวมถึงมีความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ PX4 จึงทนทานใช้งานได้คุ้มค่า
5. กริ่งไร้สาย DAYTECH รุ่น CC01-01A
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
รับ-ส่งสัญญาณได้ไกลกว่า 500 ฟุต | ตัวรับสัญญาณใช้งานกับเต้ารับไฟบ้าน |
เปลี่ยนเสียงส่งสัญญาณได้ 55 เสียง | ตัวส่งสัญญาณใช้ถ่านอัลคาไลน์ 23A 12V |
ปรับระดับความดังของเสียงสัญญาณได้ตั้งแต่ 0-120 เดซิเบล | |
กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP55 |
ให้เสียงกริ่งบ้านคุณดังกว่าที่เคยด้วย กริ่งไร้สาย DAYTECH รุ่น CC01-01A ที่สามารถปรับระดับความดังของสัญญาณกริ่งได้ตั้งแต่ 0-150 เดซิเบลเลยทีเดียว แถมสามารถเปลี่ยนริงโทน หรือเสียงสัญญาณได้มากถึง 55 เสียง อาศัยการทำงานผ่านตัวรับสัญญาณที่ติดกับเต้ารับในตัวบ้านและตัวส่งสัญญาณที่ใส่ถ่ายเพียง 1 ก้อนเท่านั้น ก็สามารถส่งสัญญาณได้ไกลมากกว่า 500 ฟุต สำหรับตัวกริ่งไร้สายนั้นก็ออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา และยังเลือกใช้วัสดุคุณภาพเยี่ยมเกรดกันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP55 ที่สำคัญเป็นกริ่งไร้สายที่ราคาย่อมเยามากๆ เมื่อเทียบคุณภาพการใช้งานที่ได้ใครยังลังเลว่า กริ่งไร้สาย ยี่ห้อไหนดี รุ่นนี้ก็น่าสนใจทีเดียว
6. กริ่งไร้สาย ANYTEK B30
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กริ่งไร้สาย ติดตั้งง่าย ทำงานผ่านสัญญาณ WiFi | ตัวรับสัญญาณเสียบกับเต้ารับไฟบ้าน |
มีริงโทนให้เลือก 52 เสียง | กริ่งไร้สายกินไฟน้อย |
ปรับระดับความดังของสัญญาณกริ่งได้ 4 ระดับตั้งแต่ 20-80 เดซิเบล | |
ดีไซน์มินิมอล น่าใช้งาน |
รุ่นนี้เป็นกริ่งไร้สายติดตั้งได้ง่ายดายด้วยตนเอง เพียงเสียบตัวรับสัญญาณกับเต้ารับภายในที่พัก เชื่อมต่อกับตัวส่งสัญญาณทางสัญญาณ WiFi ก็สามารถใช้งานได้ทันที โดยกริ่งไร้สาย ANYTEK B30 นั้นมีความโดดเด่นที่มีริงโทน หรือสัญญาณเตือนกริ่งมากถึง 52 เสียงเลยทีเดียว และคุณยังสามารถปรับระดับความดังของเสียงได้ตั้งแต่ 20-80 เดซิเบลอีกด้วย ในส่วนของดีไซน์กริ่งไร้สายนั้นก็ต้องบอกเลยว่าออกแบบได้ถูกใจสายมินิมอลที่สุด เพราะตัวกริ่งเป็นสีขาวเรียบง่าย มีสัญลักษณ์ตัวโน้ตสีดำตรงกลางตกแต่งแบบมินิมอลสุดๆ
7. กริ่งไร้สาย HACO รุ่น HWD-823
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กริ่งไร้สายทำงานส่งสัญญาณแบบ 1:1 ใช้งานไกล 80 เมตร | ไม่ควรติดตั้งกริ่งไร้สายในที่เปียกชื้น |
ปรับระดับและรูปแบบของเสียงกริ่งได้ | ควรติดตั้งกริ่งไร้สายในระดับความสูง 120-180 เซนติเมตรจากพื้นดิน |
รีโมทกดกริ่งกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP44 | |
ใช้พลังงานจากถ่าน AA ไม่ต้องเดินสายไฟ |
อีกหนึ่งกริ่งไร้สายที่มีราคาย่อมเยาและได้รับความนิยมสูงก็คือ HACO รุ่น HWD-823 กริ่งไร้สายที่ส่งสัญญาณได้ไกล 80 เมตร เหมาะสำหรับพื้นที่ที่พักอาศัยขนาดไม่ใหญ่มากนัก โดยควบคุมผ่านรีโมทกริ่งที่ตั้งรหัสสัญญาณแบบ 1:1 เท่านั้น โดยตัวรีโมทกริ่งไร้สายยี่ห้อนี้ก็มีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นได้มาตรฐานที่ IP44 ในส่วนของเสียงกริ่งนั้นคุณก็สามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้ดังหรือเบาแค่ไหน รวมถึงยังสามารถเลือกรูปแบบเสียงหรือริงโทนได้มากถึง 36 รูปแบบเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถตั้งค่าการส่งสัญญาณเตือนเป็นแบบทำงานเฉพาะเสียง หรือให้มีแค่ไฟกระพริบอย่างเดียว หรือจะส่งสัญญาณเตือนทั้งเสียงและไฟไปพร้อมๆ กันเลยก็ได้
8. กริ่งไร้สาย GOOBELL รุ่น GB-KINETIC2-S2
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กริ่งไร้สาย ระยะสัญญาณสูงสุด 150 เมตร | ตัวรับสัญญาณทำงานผ่านเต้ารับภายในบ้าน |
ปรับแต่งเสียงริงโทนได้ 52 เสียง | ตัวส่งสัญญาณไม่ใช้ถ่าน |
กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP44 | |
เพิ่ม-ลดความดังของเสียงได้ 4 ระดับ |
ถ้าคุณมีงบในการเลือกซื้อกริ่งไร้สายพอประมาณ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกซื้อกริ่งไร้สาย ยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำ GOOBELL รุ่น GB-KINETIC2-S2 กริ่งไร้สายที่สามารถส่งระยะสัญญาณได้สูงสุดถึง 150 เมตรในที่โล่ง ให้คุณได้ยินเสียงกริ่งแม้อยู่ในห้องด้วยการเพิ่ม-ลดระดับความดังของเสียงกริ่งได้ 4 ระดับ หรือจะเลือกเปลี่ยนริงโทนของเสียงกริ่งได้ตามใจชอบถึง 52 ริงโทน ในส่วนของตัวกริ่งไร้สายนั้นใช้วัสดุคุณภาพเยี่ยมสามารถกันน้ำกันฝุ่นได้เป็นอย่างดีในระดับ IP44 แถมยังมีดีไซน์สไตล์มินิมอลสีขาวสะอาดตาน่าใช้งานอีกด้วย
9. กริ่งไร้สาย CACAZI
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กริ่งไร้สายรับสัญญาณได้ไกลกว่า 300 เมตร | ใช้ถ่านอัลคาไลน์ 12V23A |
ปรับระดับความดังเสียงกริ่งได้ 5 ระดับตั้งแต่ 0-110 เดซิเบล | กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP44 ใช้งานได้ทั่วไป |
เปลี่ยนเสียงริงโทนสัญญาณกริ่งได้ 60 รูปแบบ | |
ตัวรับสัญญาณ 1 ตัว สามารถจับคู่กับตัวรับสัญญาณได้สูงสุด 20 ตัว |
กริ่งไร้สายคุณภาพเยี่ยมเหมาะสำหรับใช้งานกับที่พักอาศัย ร้านอาหาร คาเฟ่ หรือพื้นที่ทีมีบริเวณค่อนข้างใหญ่ เนื่องจาก กริ่งไร้สาย CACAZI นี้สามารถรับส่งสัญญาณได้ไกลสูงสุดถึง 300 เมตรเลยทีเดียว มาพร้อมกับริงโทนสัญญาณกริ่งมากถึง 60 รูปแบบ ซึ่งคุณสามารถปรับระดับความดังของเสียงได้ 5 ระดับด้วยกัน และความพิเศษของกริ่งไร้สายยี่ห้อนั้นก็คือ 1 ตัวรับสัญญาณสามารถเชื่อมต่อกับตัวส่งสัญญาณกริ่งสูงสุด 20 ตัวเลยล่ะ ขอบอกเลยว่าถ้ามีคนกดหนึ่งครั้ง ทั้งบ้านคุณก็จะมีแต่เสียงกริ่งดังลั่นอย่างแน่นอน
10. กริ่งไร้สาย Telecorsa รุ่น 2piecesDoorBell-55a-song
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กริ่งไร้สาย ติดตั้งง่ายได้ทุกที่ | ไม่แนะนำให้ติดตัวรับสัญญาณในห้องนอน เพราะอาจรบกวนการนอนได้ |
มีระบบป้องกันการกดกริ่งซ้ำ ๆ ติดต่อกัน | ตัวส่งสัญญาณใช้ถ่าน 1 ก้อน |
เปลี่ยนเพลงกริ่งได้ 36 เสียง | |
มีระบบไฟเตือนสำหรับผู้พิการทางการได้ยิน |
ปิดท้ายรายชื่อ กริ่งไร้สาย ยี่ห้อไหนดีกันด้วยกริ่งไร้สาย Telecorsa รุ่น 2piecesDoorBell-55a-song กริ่งไร้สายที่เพียงติดตัวส่งสัญญาณกับผนังด้วยกาว หรือเทปกาวสองหน้า ส่วนตัวรับสัญญาณนั้นก็ใช้งานด้วยการเสียบกับเต้ารับภายในที่พักเท่านั้น โดดเด่นด้วยระบบไฟ LED ที่สว่างวาบส่งสัญญาณเตือนเวลามีคนกดกริ่ง ซึ่งค่อนข้างเหมาะสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ยังมาพร้อมกับระบบการป้องกันการกดสวิตซ์ หรือกดกริ่งซ้ำๆ กันจนรบกวนอีกด้วย
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
ก็จบไปแล้วก็กับการแนะนำกริ่งไร้สายทั้ง 10 ยี่ห้อยอดนิยมที่อาจมีทั้งราคาย่อมเยาและราคาสูงตามประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละยี่ห้อที่เรานำมาให้ทำความรู้จักกันในวันนี้ สำหรับใครที่อยู่ในช่วงตัดสินใจ หรือลังเลว่าจะเลือกซื้อกริ่งไร้สาย ยี่ห้อไหนดีนั้น ก็อย่าลืมหยิบเอาไปเป็นตัวช่วยในการประกอบการตัดสินใจได้ รับรองว่าจะได้กริ่งไร้สายยี่ห้อหรือรุ่นที่ตรงใจและตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุดแน่นอน