อัปเดตล่าสุด 12 พ.ย. 2024

เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี แรงดูดดี เสียงเบา 2024

เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี vacuum cleaner 01
ภาพจาก pixabay.com

เครื่องดูดฝุ่นกับงานทำความสะอาดบ้านถือว่าเป็นของคู่กันสำหรับพ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ เนื่องจากเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวช่วยที่ทำให้เบาแรงลง มีเวลาเหลือสำหรับทำกิจกรรมอื่นๆ โดยในปัจจุบันมีผู้ผลิตมากมายหลายยี่ห้อ สเปคของแต่ละรุ่นรวมถึงเทคโนโลยีทำความสะอาดที่ใส่มาก็แตกต่างกันออกไป รวมถึงมีหลายแบบให้เลือกใช้งานกัน ส่วนจะมีแบบไหนบ้าง เลือกซื้ออย่างไร และ เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนน่าใช้ วันนี้เรามัดรวมมาให้คุณเลือกกันอย่างจุใจ

เครื่องดูดฝุ่นมีแบบไหนบ้าง?

อย่างที่บอกเอาไว้ในตอนต้นว่าเครื่องดูดฝุ่นนั้นมีหลายแบบด้วยกัน แต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันออกไป ดังนั้นเรามาดูกันเลยว่าเครื่องดูดฝุ่นมีแบบไหนบ้าง เพื่อที่จะสามารถใช้เป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจ โดยประเภทของเครื่องดูดฝุ่นหลักๆ แล้วมีดังนี้

1. เครื่องดูดฝุ่นแบบกล่อง

น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีสำหรับเครื่องดูดฝุ่นแบบกล่องเพราะเป็นชนิดที่ใช้กันมานานตั้งแต่สมัยรู้จักเครื่องดูดฝุ่นกันเลยก็ว่าได้ ลักษณะของเครื่องดูดฝุ่นแบบนี้ก็คือจะมีส่วนประกอบสำคัญอย่าง ด้ามจับ หัวดูด และกล่องเก็บฝุ่นขนาดแตกต่างกันออกไป การใช้งานก็ต้องเสียบปลั๊กและอาจต้องมีสายไฟคอยต่อพ่วงหากพื้นที่เยอะหน่อย ข้อดีของเครื่องดูดฝุ่นแบบกล่องก็คือสามารถเก็บฝุ่นได้เยอะ แรงดูดดี ใช้งานในพื้นที่ต่างๆ ได้กว้าง ไม่ต้องกลัวแบตเตอรี่หมด ส่วนข้อเสียก็คือเคลื่อนย้ายลำบาก ค่อนข้างมีน้ำหนัก และเสียงดัง

2. เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ

เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับ เป็นอีกแบบที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน รูปร่างหน้าตาก็ตามชื่อเลยคือจะประกอบไปด้วยด้ามจับ ก้านของเครื่องดูดฝุ่น และหัวดูดที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานและพื้นที่ โดยเครื่องดูดฝุ่นประเภทนี้มักใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ มีข้อดีคือเคลื่อนย้ายสะดวก ซอกซอนทำความสะอาดได้แทบทุกพื้นที่ ดีไซน์สวย มีที่เก็บฝุ่นในตัว เสียงไม่ดังมาก แต่ข้อเสียก็คือต้องตรวจเช็คระดับของแบตเตอรี่ให้เพียงพอต่อการใช้งาน เก็บฝุ่นได้น้อย และแรงดูดมีจำกัด ต้องเลือกใช้อย่างเหมาะสม และอาจต้องพักเครื่องเป็นระยะ

3. เครื่องดูดฝุ่นมือถือ

ลดขนาดลงมาที่เครื่องดูดฝุ่นมือถือกันบ้าง สำหรับใครที่ต้องการอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ใช้ง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก น้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด เครื่องดูดฝุ่นแบบนี้คือตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเหมาะกับการใช้งานในที่ที่เข้าถึงได้ยากเช่น ซอกมุมต่างๆ ภายในบ้าน ใช้ทำความสะอาดในรถยนต์ ดูดฝุ่นเฟอร์นิเจอร์ หรือพกไปไหนมาไหนด้วย แต่เครื่องดูดฝุ่นแบบนี้อาจจะดูดได้ไม่แรงนักและเก็บฝุ่นได้ไม่เยอะ จึงไม่เหมาะกับงานหลักในการทำความสะอาด

4. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เป็นตัวเลือกของพ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ เพราะเข้ากับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันที่เน้นความสะดวกสบาย และต้องดูไฮเทค สามารถเข้ากับบ้านสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี จุดเด่นของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ก็คือมีขนาดเล็ก ไม่สูงมาก ซอกซอนไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้ดี ใช้งานง่ายเพียงกดปุ่มเริ่มทำงาน บางรุ่นยังสามารถตั้งเวลาทำงาน ควบคุมและกำหนดพื้นที่ทำความสะอาดได้ด้วยตัวเอง กลับที่ชาร์จเองได้ หลบหลีกสิ่งกีดขวางเองได้ เรียกว่าล้ำสมัยสุด ๆ แต่ยิ่งฟังก์ชันเยอะราคาก็ยิ่งสูงตามไปด้วย โดยมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นให้เลือกใช้งานกัน

วิธีเลือกเครื่องดูดฝุ่นให้เหมาะสมกับความต้องการ

เราได้ทำความรู้จักกับเครื่องดูดฝุ่นแบบต่างๆ กันไปแล้ว คราวนี้เรามาดูกันเลยว่าการจะเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นสักตัวเองไว้ใช้งาน เราต้องพิจารณาจากอะไรบ้างเพื่อให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

1. ราคา

การจะเลือกเครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี นั้น เรื่องแรกที่เราต้องให้ความสำคัญก็คือราคาของเครื่องดูดฝุ่นและงบประมาณในกระเป๋าของเรา ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นแต่ละยี่ห้อ แต่ละแบบก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งฟังก์ชันการใช้งานทันสมัย พลังดูดดี ดีไซน์ทันสมัย และยี่ห้อดัง ราคาก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าเครื่องดูดฝุ่นราคาถูกจะใช้งานได้ไม่ดี เพียงแต่เราต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยการกำหนดงบประมาณเอาไว้บ้างจะช่วยให้เราเลือกและเปรียบเทียบเครื่องดูดฝุ่นได้ง่ายขึ้น

2. ความต้องการใช้งาน

ข้อต่อมาที่เราต้องถามตัวเองก็คือความต้องการใช้งานเครื่องดูดฝุ่นของเรา เพื่อเลือกขนาดและรูปแบบอย่างเหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น หากบ้านของเรามีพื้นที่เยอะ ๆ ก็ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบกล่องที่มีถังเก็บฝุ่นเพียงพอ ใช้งานต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของแบตเตอรี่ ถ้าเน้นการใช้งานในรถก็เลือกเป็นเครื่องดูดฝุ่นมือถือ หรือหากต้องการความสะดวกสบายขั้นสุดก็เลือกเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่สามารถทำงานได้เองอัตโนมัติ เป็นต้น

3. พลังดูดและระบบการกรองฝุ่น

โดยปกติแล้วเครื่องดูดฝุ่นจะมีกำลังไฟอยู่ที่ประมาณ 700-1600 Watt ซึ่งยิ่งสูงพละกำลังในการทำความสะอาดก็ยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย (ราคาก็เช่นกัน) การเลือกซื้อจึงต้องดูที่ความจำเป็นและพื้นที่ใช้สอย ตลอดจนระยะเวลาในการทำงานแต่ละครั้ง เพราะถ้าเกินกำลังจะทำให้เครื่องร้อนง่าย นอกจากนี้ยังต้องดูความสามารถในการกรองฝุ่นร่วมด้วยว่าสามารถกรองได้เล็กสุดกี่ไมครอน เพื่อลดการฟุ้งกระจายและทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น ป้องกันโรคภูมิแพ้ โดยอย่างน้อยควรอยู่ที่ 10 ไมครอน และผ่านการรับรองมาตรฐาน HEPA

4. ฟังก์ชันการทำงาน

เครื่องดูดฝุ่นในปัจจุบันมาพร้อมกับฟังก์ชันการทำงานอันทันสมัย ที่นอกจากจะช่วยให้ทำความสะอาดได้ดีขึ้นแล้วยังเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้อย่างเรามากขึ้นอีกด้วย เช่น สามารถดูดฝุ่นและถูพื้นได้ในตัว มีระบบป้องกันการอุดตันที่ดี เปลี่ยนหัวแปรงได้หลายแบบ หรือหากเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นก็ต้องสามารถกำหนดพื้นที่การทำความสะอาดได้ ควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนได้ มีระบบกลับเข้าชาร์จและเริ่มการทำงานอัตโนมัติ เป็นต้น

5. ดีไซน์สวย ทำความสะอาดง่าย

ใช้งานดีก็ส่วนหนึ่ง สวยก็เป็นอีกส่วนที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของใครหลายๆ คน ทั้งในเรื่องของสีสัน รูปทรง ขนาด น้ำหนัก โดยบางคนอาจจะชอบสีสันที่สดใส ขนาดเล็กเคลื่อนย้ายสะดวก บางคนอาจจะชอบสีเรียบๆ เข้ากับการตกแต่งบ้าน หรือชอบเครื่องดูดฝุ่นที่สามารถพกพาได้ ก็แล้วแต่รสนิยม ทั้งนี้ต้องไม่ลืมเรื่องของการถอดทำความสะอาดด้วย เพราะยิ่งง่ายก็ช่วยประหยัดเวลา โดยเฉพาะกับคุณผู้หญิงที่ไม่ชอบมาถอดประกอบให้ยุ่งยาก

6. การรับประกันสินค้า

ข้อสุดท้ายที่หลายคนมักมองข้ามก็คือเรื่องการรับประกันสินค้า เพราะเครื่องดูดฝุ่นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนึ่งที่มีโอกาสพังเสียหายได้ โดยเฉพาะกับมอเตอร์ที่ต้องใช้งานหนัก ก่อนซื้อจึงควรตรวจสอบเงื่อนไขและระยะเวลาในการรับประกันว่ายาวนานเพียงใด และมีเอกสารอะไรที่เราต้องเก็บรักษาเอาไว้ใช้ในการขอเคลมบ้าง จะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง

แนะนำ 10 อันดับ เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี

1. Deerma Handheld Wireless Vacuum Cleaner VC20 Plus

เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี Deerma VC20 Plus

เริ่มกันเลยกับรายชื่อ เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี อย่าง Deerma Handheld Wireless Vacuum Cleaner VC20 Plus ตัวนี้เป็นเครื่องดูดฝุ่นด้ามจับแบบไร้สาย ดีไซน์สวย น้ำหนักเบา เหมาะกับพ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ จุดเด่นอย่างหนึ่งของเจ้าตัวนี้ก็คือสามารถถอดด้ามออกใช้งานแบบมือถือและยังเปลี่ยนหัวแปรงได้ด้วยทำให้ใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น สามารถซอกซอนเข้าทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม ทุกระดับ ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ หรือดูดฝุ่นในรถก็ยังได้ โดยให้แรงดูดถึง 8,000 pa ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 30 นาที ถอดทำความสะอาดได้ง่าย ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุชั้นดี แข็งแรงทนทาน เทียบความสามารถกับราคาแล้วถือว่าคุ้มค่าเงินทีเดียว

2. Tefal X-Force Flex 8.60 TY9639WO

เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี Tefal X Force Flex 8.60 TY9639WO

ต่อกันด้วย Tefal X-Force Flex 8.60 TY9639WO เครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่จะมาช่วยทำให้งานทำความสะอาดของคุณง่ายและเบาแรงลง ไม่ว่าจะซอกไหน พื้นผิวแบบใดก็เอาอยู่ ชูจุดเด่นด้วยท่อดูดที่สามารถโค้งงอได้ทำให้เข้าถึงจุดต่างๆ ในบ้านได้สะดวก หัวดูดเป็นแบบ Power LED Vision ที่ดูดได้ตั้งแต่พื้นถึงเพดานโดยไม่ต้องเปลี่ยนหัว แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 35 นาที มีระบบ Stop & Go สำหรับหยุดและเริ่มการทำงาน ปรับความแรงได้ตามต้องการ กล่องเก็บฝุ่นความจุ 550 มิลลิลิตร ถอดทำความสะอาดได้สะดวก ภาพรวมจัดว่าน่าใช้เลยล่ะ

3. Samsung VCC4540S36/XST

เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี Samsung VCC4540S36 XST

ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะเลือกเครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี เอาไว้ใช้งาน Samsung VCC4540S36/XST ก็น่าสนใจไม่น้อย หากจะถามถึงจุดเด่นของรุ่นนี้คงต้องยกให้กับระบบ Twin Chamber System ที่ใช้การแบ่งถังเก็บฝุ่นออกเป็นสองส่วนโดยนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดแล้วยังช่วยเรื่องของพลังดูดที่ยาวนานขึ้นด้วย หมดปัญหาเรื่องการต้องคอยเปลี่ยนถุงเก็บฝุ่นใบใหม่มาคอยเปลี่ยน ส่วนระบบกรองฝุ่นเป็นแบบ HEPA ผ่านการรับรองจาก SLG จึงมั่นใจได้ว่านอกจากความสะอาดของพื้นแล้วยังช่วยจัดการกับอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ด้วย ด้านการทำความสะอาดก็แสนง่ายด้วยระบบ Easy-to-Empty ที่แค่กดปุ่ม ดึงกล่องเก็บฝุ่นออก และเททิ้ง ที่สำคัญราคาน่าคบหาอีกต่างหาก

4. AUTOBOT Smart Mark 3

เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี SMART MARK3

AUTOBOT ในรุ่น Smart Mark 3 ที่มีจุดเด่นด้านการดูดฝุ่นและถูพื้นในเวลาเดียวกัน ที่มาพร้อมกับ ระบบเข็มทิศนำทาง Gyro ที่ใช้ทำ G-Mapping + Automatic ช่วยให้เดินดูดฝุ่นแบบไม่หลงทาง ไม่เดินซ้ำที่เดิม นอกจากนี้แล้วยัง เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อควบคุมการทำงานได้อีกด้วย นั้นเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแบบไฮบริดที่จะมาเป็นผู้ช่วยคุณในการดูแลบ้านให้สะอาดและง่ายดายในไม่กี่ขั้นตอน มีระบบ G-Mapping กำหนดพื้นที่การทำงานได้อย่างแม่นยำ รองรับการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนด้วยแอพพลิเคชั่นควบคุมการทำงาน รวมถึงรองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Home และ Alexa กำหนดเวลาทำงานได้ตามต้องการ เสียงเงียบ ทั้งดูดฝุ่นและถูพื้นได้ในตัวเอง มีระบบ Gyro navi สามารถกลับเข้าที่ชาร์จอัตโนมัติ ใครหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเจ๋งๆ ตัวนี้เลย

5. BOSCH GAS 18V-1

เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี BOSCH GAS 18V 1

มากันที่ BOSCH GAS 18V-1 เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อดังอีกตัวที่มากับความครบครันด้านการใช้งานและดีไซน์การออกแบบที่สวยทันสมัย แข็งแรงทนทาน เทคโนโลยีการทำความสะอาดแบบแรงลมหมุนเวียน 3 ระดับ ให้การทำงานที่น่าประทับใจ ไม่ว่าจะใช้กับพื้นที่เรียบหรือตามซอกมุมต่างๆ ภายในบ้าน มาพร้อมมอเตอร์กำลังสูงกำจัดได้ทั้งฝุ่นและอนุภาคขนาดเล็กช่วยปกป้องคุณและครอบครัวจากเชื้อโรค ลดความเสี่ยงภูมิแพ้ ใช้งานได้ทั้งแบบด้ามจับและต่อท่อ ถอดล้างทำความสะอาดและเทฝุ่นทิ้งได้ง่ายผ่านฟังก์ชั่นทิ้งผงแบบปลดเร็วที่มีฝาปิดกันฝุ่นในตัว ลองดูว่ารุ่นนี้จะถูกใจคุณหรือไม่

6. SHARP EC-LS20

เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี SHARP EC LS20

SHARP EC-LS20 เครื่องดูดฝุ่นแบบกล่องประสิทธิภาพสูง ราคาประหยัด ตัวเลือกของคนชอบความคุ้มค่า มาพร้อมพลังดูดสูง กำจัดฝุ่นได้สะอาดสามารถปรับความแรงได้ตามพื้นที่การใช้สอย ท่อลมผลิตจากวัสดุโลหะทั้งสวยและทน สามารถเก็บสายได้อัตโนมัติในตัวเอง ไม่ต้องคอยเปลี่ยนถุงเก็บฝุ่นบ่อยๆ ทั้งสะดวกและประหยัดเงินในกระเป๋า มีไฟ LED คอยแจ้งเตือนให้ทราบถ้าฝุ่นกำลังจะเต็ม ใช้ระบบกรองฝุ่นแบบ HEPA กรองได้แม้อนุภาคขนาดเล็ก สามารถทิ้งฝุ่นได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส สวย ถูก ดี รุ่นนี้เลย

7. Dyson V8 Slim Fluffy

เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี Dyson V11 Fluffy

ไปให้สุดกับเครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อ Dyson อย่าง Dyson V8 Slim Fluffy ผู้นำด้านเทคโนโลยีการทำความสะอาดระดับพรีเมี่ยมทั้งคุณภาพและดีไซน์การออกแบบ ทำความสะอาดได้ทั้งพื้นและพรมด้วยมอเตอร์แบบดิจิทัลอันล้ำสมัย ซอกซอนเข้าไปในพื้นที่ที่ต้องการได้ดี พร้อมระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะทำให้ใช้ได้นานขึ้น ชาร์จแบบตั้งพิงผนังได้ด้วยแท่นวางแบบ Drop-in พ่วงมาด้วยระบบทิ้งฝุ่น Point and Shoot ช่วยลดการสัมผัสฝุ่นของผู้ใช้ มีเทคโนโลยี Radial Root Cyclone ช่วยป้องกันการอุดตันทำให้แรงไม่ตก สามารถกรองอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.7% ทำงานเงียบ ไม่รบกวนคนในบ้าน ราคาอาจจะสูงแต่บอกเลยว่าคุ้ม

8. OTTO HV-092

เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี OTTO HV 092

OTTO HV-092 เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับราคาประหยัดแต่ดูดีมีสไตล์ ใช้งานได้น่าพอใจเกินค่าตัว รองรับการใช้งานแบบ 2 in 1 ทั้งด้ามจับและแบบมือถือ เพื่อให้เหมาะกับพื้นที่ ใช้ได้ทั้งในบ้านหรือทำความสะอาดรถก็ได้ เปลี่ยนหัวแปรงได้หลายแบบ ผลิตจากพลาสติก ABS ที่ทนความร้อนได้ดี ชิ้นส่วนต่างๆ สามารถถอดแยกเพื่อเก็บและทำความสะอาดได้ง่าย กล่องเก็บฝุ่นมีความจุ 1.2 ลิตร มาพร้อมเทอร์โมสตัทควบคุมอุณหภูมิความร้อน ช่วยให้ใช้งานได้อย่างอุ่นใจ ดูดและกรองฝุ่นได้ น้ำหนักเบา พกพาสะดวก สายไฟที่ให้มาก็ค่อนข้างยาว เป็นรุ่นสุดค้มที่น่ารักไว้พิจารณาอีกรุ่น

9. Philips PowerPro Compact FC9350

เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี Philips PowerPro Compact FC9350

เมื่อพูดถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าจะขาดเครื่องดูดฝุ่นยี่ห้อ Philips ไปก็คงไม่ได้ เราขอแนะนำ Philips PowerPro Compact FC9350 เครื่องดูดฝุ่นแบบกล่องทรงสวย ประสิทธิภาพสูง เหมาะกับการทำความสะอาดที่กินพื้นที่มาก มาพร้อมมอเตอร์ขนาด 1800W อันทรงพลัง และเทคโนโลยี PowerCyclone 5 ช่วยให้อากาศไหลเวียน แรงไม่ตก ใช้หัวดูด MultiClean ที่ซอกซอนได้ทุกพื้นผิว มีระบบแผ่นกรอง Allergy H13 ที่สามารถดักจับฝุ่นที่มีขนาดเล็กได้มากกว่า 99.9% ปรับเปลี่ยนการใช้งานของชิ้นส่วนต่างๆ ได้ตามความต้องการ ถอดทำความสะอาดง่ายและถูกสุขอนามัยด้วยมือเพียงข้างเดียว

10. MAMARU MR-VC400

เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี MAMARU MR VC400

ส่งท้ายลิสต์รายชื่อเครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี กันด้วย MAMARU MR-VC400 ที่เชื่อว่าเพียงแค่เห็นดีไซน์ของตัวเครื่องหลายคนก็หลงรักแล้วและยิ่งดูคุณสมบัติและราคายิ่งถูกใจเข้าไปใหญ่ ตัวนี้เป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบมือถือ ที่ขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา ช่วยให้ทำความสะอาดได้ทุกพื้นที่ที่ต้องการอย่างไม่เปลืองแรง เหมาะกับการทำความสะอาดรถยนต์ โซฟา หรือพื้นที่ขนาดเล็ก มาพร้อมกำลังไฟ 400W สายไฟยาว 4 เมตร ใช้แผ่นกรอง HEPA-12 กล่องเก็บฝุ่นความจุ 0.6 ลิตร ที่น่าสนใจคือภายในยังมีการติดตั้งหลอดไฟ UV ฆ่าเชื้อมาให้ในตัวเพื่อสุขภาพที่ดีของผู้ใช้ ลองดูว่าถูกใจคุณหรือไม่

บทส่งท้ายจากผู้เขียน

การจะเลือกเครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี หรือรุ่นไหน เอามาไว้ใช้งานก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละคนแต่ละครอบครัว ว่าพื้นที่ทำความสะอาดเยอะแค่ไหน ชอบเครื่องดูดฝุ่นแบบใด มีฟังก์ชันอะไรที่ต้องการเป็นพิเศษ รวมถึงงบประมาณในกระเป๋าด้วย ซึ่งทั้ง 10 รุ่นนี้เราคัดมาหลายช่วงราคาและคุณสมบัติ ลองเทียบในรายละเอียดอีกครั้งว่าตัวไหนที่ใช่สำหรับคุณมากที่สุด

หมวดหมู่