การมีเครื่องซักผ้าเอาไว้ใช้งานเป็นตัวช่วยลดภาระในการทำความสะอาดเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี แต่ในบางครั้งเครื่องซักผ้าตามปกติอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่พักอาศัยในพื้นที่จำกัด มีปริมาณเสื้อผ้าที่ซักไม่มากในแต่ละวัน รวมไปถึงการซักผ้าชิ้นเล็กๆ หรืออาจมีงบประมาณไม่เพียงพอสำหรับการซื้อเครื่องซักผ้า ซึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้มากกว่าก็คือเครื่องซักผ้ามินิที่มีขนาดเล็กกว่าและมีราคาถูกกว่าเครื่องซักผ้าตามปกติ แต่ก็สามารถช่วยทุ่นแรงและมอบความสะดวกสบายในการซักผ้าได้เช่นกัน ซึ่งถ้าหากใครกำลังมองหาเครื่องซักผ้ามินิเอาไว้ใช้งาน วันนี้เรามีคำแนะนำดีๆ สำหรับการเลือกซื้อเครื่องซักผ้ามินิพร้อมทั้งแนะนำ 10 อันดับ เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อไหนดี 2024 รุ่นเล็กแต่ทรงพลัง ซักผ้าได้สะอาด มาฝากกัน
ทำความรู้จักกับเครื่องซักผ้ามินิ
ก่อนที่จะไปเลือกกันว่า เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อไหนดี เรามาทำความรู้จักกับเครื่องซักผ้ามินิกันก่อนสักเล็กน้อย ซึ่งเครื่องซักผ้ามินิความหมายของมันก็ตรงตัวกันเลยก็คือเป็นเครื่องซักผ้าที่ถูกออกแบบย่อขนาดให้เล็กลงมากับเครื่องซักผ้าปกติ รวมไปถึงพวกสเปคการใช้งานต่างๆ ก็ลดลงตามมาด้วย โดยจะมีความสูงของตัวเครื่องอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 60 cm ใช้กำลังไฟไม่มาก กำลังมอเตอร์ค่อนข้างน้อย ถังซักมีขนาดเล็ก จึงเหมาะสำหรับการซักผ้าชิ้นเล็กหรือในปริมาณไม่มาก เรียกได้ว่าเป็นเครื่องซักผ้าที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดเหมาะสำหรับการใช้ในพื้นที่จำกัดหรือตามหอพักต่างๆ ที่สำคัญเลยก็คือมีน้ำหนักเบาสามารถเคลื่อนย้ายและติดตั้งได้ง่ายเพียงแค่ยกมาใช้แล้วเสียบปลั๊ก โดยเมื่อใช้เสร็จก็สามารถนำเข้าเก็บเข้าที่ได้อย่างสะดวกไม่ต้องทำการติดตั้งแบบถาวร และยังประหยัดไฟรวมไปถึงมีราคาที่ไม่แพงมากอีกด้วย
วิธีเลือก เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะสมสำหรับการใช้งาน
เครื่องซักผ้ามินิในปัจจุบันมีผลิตออกมาหลากรุ่นหลายยี่ห้อด้วยกัน ดังนั้นก่อนจะไปดูว่าเครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อไหนดี ที่ตรงตามความต้องการของคุณมากที่สุด เรามาดูเคล็ดลับในการเลือกไอเทมเพื่อการทำความสะอาดเสื้อผ้าตัวนี้กันก่อน ว่าควรที่จะต้องพิจารณาจากเรื่องใดบ้าง
1. เลือกเครื่องซักผ้ามินิตามความจุของถังซัก
แม้ว่าเครื่องซักผ้ามินิจะมีความจุของถังซักค่อนข้างน้อย แต่ก็มีขนาดแตกต่างกันออกไปในแต่ละรุ่นด้วย ซึ่งตรงนี้ก่อนที่จะเลือก เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อไหนดี ก็ควรที่จะพิจารณาจากปริมาณเสื้อผ้าที่เราจะซักในแต่ละครั้งกันก่อนว่ามีมากน้อยแค่ไหน โดยปกติแล้วปริมาณเฉลี่ยของเสื้อผ้าที่ใส่ต่อ 1 คนใน 1 วันก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 1.5 กิโลกรัม ถ้าหาก 3-4 วันซักผ้าครั้งหนึ่งก็จะอยู่ที่ประมาณ 5-6 กิโลกรัม ก็แนะนำให้เครื่องซักผ้ามินิที่มีความจุถังซักเผื่อเอาไว้ด้วยประมาณ 1-2 กิโลกรัม ดังนั้นจึงควรเลือก เครื่องซักผ้าที่มีความจุถังซักอยู่ในช่วงประมาณ 6.5 ถึง 8 กิโลกรัม ก็จะเป็นการดีที่สุด แต่ถ้าหากใครคิดว่ามีเสื้อผ้าไม่เยอะและซักผ้าทุกวัน หรืออาจจะต้องการเครื่องซักผ้ามินิเอามาไว้ซักเสื้อผ้าชิ้นเล็กๆ อย่างเช่นพวกชุดชั้นในหรือถุงเท้า ก็อาจจะเลือก เครื่องซักผ้ามินิที่มีขนาดถังซักน้อยกว่านั้นก็ได้
2. เลือกเครื่องซักผ้ามินิตามชนิดของเครื่องซักผ้า
สำหรับเครื่องซักผ้ามินิที่มีวางจำหน่ายกันอยู่ตามท้องตลาดก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คล้ายกับเครื่องซักผ้าตามปกติ ก็คือ เครื่องซักผ้ามินิฝาบน และเครื่องซักผ้ามินิฝาหน้า ซึ่งลักษณะการทำงานของเครื่องซักผ้ามินิทั้ง 2 ประเภทก็ค่อนข้างคล้ายกันแต่ก็จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของลักษณะการใช้งานและพื้นที่ในการติดตั้ง ซึ่งถ้าหากเลือกเป็นเครื่องซักผ้ามินิแบบฝาบนก็จะต้องมีพื้นที่ด้านบนเพียงพอสำหรับการเปิดฝาเครื่องซักผ้าเพื่อนำผ้าลงไปซักได้อย่างสะดวก นอกจากนี้เครื่องซักผ้ามินิแบบฝาบนก็ยังมีให้เลือกทั้งแบบรุ่น 1 ถังและรุ่น 2 ถัง ซึ่งถ้าเป็นรุ่นแบบ 2 ถังก็จะใช้พื้นที่ในการติดตั้งมากกว่าแบบถังเดียว ในขณะที่เครื่องซักผ้ามินิฝาหน้าก็สามารถเปิดใช้งานจากด้านหน้าของตัวเครื่องได้เลยโดยที่ไม่ต้องเผื่อพื้นที่ด้านบนเอาไว้แต่อย่างใด
3. เลือกเครื่องซักผ้ามินิจากคุณสมบัติการใช้งาน
เครื่องซักผ้ามินิที่มีวางจำหน่ายตามท้องตลาดนั้นแบ่งออกเป็นหลายรุ่นหลายช่วงราคา ซึ่งในการจะเลือก เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อไหนดี สิ่งหนึ่งที่จำเป็นจะต้องพิจารณาด้วยก็คือพวกคุณสมบัติและฟังก์ชันการใช้งานที่มีมาให้ของตัวเครื่องนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันเกี่ยวกับการซักผ้า อย่างเช่น การทำความสะอาดถังซักผ้าอัตโนมัติ ถังซักที่มาพร้อมคุณสมบัติป้องกันแบคทีเรีย การซักและปั่นแห้งในตัวเดียวกัน รวมไปถึงคุณสมบัติของตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็น ความเร็วรอบหมุน กำลังไฟฟ้า และวัสดุของตัวเครื่อง เหล่านี้เป็นต้น
4. เลือกเครื่องซักผ้ามินิจากยี่ห้อที่วางใจได้
ต้องบอกว่าเครื่องซักผ้ามินิที่มีวางจำหน่ายกันอยู่โดยทั่วไปก็มีทั้งแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดีรวมไปถึงแบรนด์แปลกๆ ที่ไม่ค่อยคุ้นตา ขอแนะนำว่าอย่าเห็นแก่ของถูกมากจนเกินไปจนทำให้ตัดสินใจเลือกเครื่องซักผ้ามินิจากแบรนด์ที่ไม่คุ้นเคย เพราะอาจเกิดปัญหาชวนปวดหัวตามมาในภายหลังได้ ซึ่งก็อาจจะเจอได้ทั้งตัวเครื่องที่มีคุณภาพไม่ดี ไม่มีการรับประกันหลังการขาย ซ่อมไม่ได้ อะไหล่หายาก และอื่นๆ ที่อาจทำให้เราต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อเครื่องซักผ้ามินิเครื่องใหม่จากแบรนด์ที่มั่นใจมากกว่ามาใช้งานกันอีกรอบก็เป็นได้
10 อันดับ เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อไหนดี 2024
รู้จักกับเครื่องซักผ้ามินิพร้อมเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกใช้งานกันไปแล้ว คราวนี้เรามาเข้าสู่รายชื่อของ 10 อันดับ เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อไหนดี 2024 กันเลย ว่ามีรุ่นไหนบ้างที่จะตรงตามความต้องการรวมถึงงบประมาณที่คุณมีในกระเป๋าบ้าง
1. เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อ SMARTHOME รุ่น SM-MW2502/ECIO
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กำลังไฟ 130 วัตต์ | ไม่เหมาะกับการซักเสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่หรือมีปริมาณมากเกินไป |
ความจุถังซัก 4 กิโลกรัม | รับประกันสินค้า 3 ปี |
มีฟังก์ชันการทำงานทั้งระบบซักและปั่นแห้งในตัว | |
สามารถตั้งเวลาการซักและการปั่นหมาดได้ | |
ทำงานด้วยระบบกึ่งอัตโนมัติ | |
ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก |
มาเริ่มต้น เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อไหนดี ด้วยเครื่องซักผ้ามินิฝาบนจาก SmartHome ที่มาพร้อมดีไซน์เรียบง่ายน่ารักขนาดกำลังดี ด้วยมิติตัวเครื่อง 32.5 x 35.5 x 52.2 cm น้ำหนัก 5.5 kg ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ทั้งช่วยประหยัดเวลา ประหยัดแรง และประหยัดพื้นที่ มาพร้อมฟังก์ชันการทำงานทั้งการซักและปั่นหมาด สามารถทำความสะอาดเสื้อผ้าได้อย่างรวดเร็ว ใช้งานง่ายเพียงแค่เลือกปุ่มตั้งเวลาการซักพร้อมเลือกรูปแบบการซักที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น การปั่นหมาด หมดปัญหาการซักผ้าในวันที่ฝนตก ให้คุณสามารถซักผ้าได้อย่างสะดวกง่ายดายในทุกวัน
2. เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อ CAMEL รุ่น A01-7.0KG.
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กำลังไฟ 250 วัตต์ | ไม่เหมาะกับการซักเสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่หรือมีปริมาณมากเกินไป |
ความจุถังซัก 7 กิโลกรัม | รับประกันสินค้า 1 ปี |
มีฟังก์ชั่นการทำความสะอาดต้านเชื้อแบคทีเรียด้วยแสงสีฟ้า | |
สามารถตั้งเวลาการซักและการปั่นหมาดได้ | |
ความเร็วในการปั่นหมาด 800 รอบต่อนาที | |
ทำงานด้วยระบบกึ่งอัตโนมัติ |
ใครที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้ามินิที่สามารถซักผ้าได้มากขึ้นพร้อมคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียขอแนะนำ CAMEL A01-7.0KG. รุ่นนี้เลย เพราะเป็นเครื่องซักผ้ามินิแบบฝาบนที่สามารถซักผ้าได้มากสุดถึง 7 กิโลกรัมและมาพร้อมกับนวัตกรรมวงล้อคลื่นต้านเชื้อแบคทีเรียด้วยแสงสีฟ้า ช่วยทำความสะอาดเสื้อผ้าได้อย่างล้ำลึกและหมดจดมากยิ่งขึ้น มาพร้อมมอเตอร์ทรงพลังแต่ให้เสียงเงียบไม่รบกวนการทำงาน สามารถตั้งเวลาซักและปั่นหมาดได้สูงสุด 15 นาที ขนาดกะทัดรัดดีไซน์เรียบหรูจึงสามารถจัดวางได้กับพื้นที่ต่าง ๆ อย่างลงตัว
3. เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อ SONAR รุ่น EW-A160
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กำลังไฟ 170 วัตต์ | ไม่เหมาะกับการซักเสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่หรือมีปริมาณมากเกินไป |
ความจุถังซัก 2.5-4 กิโลกรัม ความจุถังปั่นแห้ง 1.5 กิโลกรัม | รับประกันสินค้า 1 ปี |
มีฟังก์ชันการทำงานทั้งระบบซักและปั่นแห้งในตัว | |
สามารถตั้งเวลาการซักและการปั่นหมาดได้ | |
ความเร็วในการปั่นหมาด 500 รอบต่อนาที | |
ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก |
มาต่อกันที่ เครื่องซักผ้ามินิแบบฝาบนขนาดเล็กกะทัดรัด เคลื่อนย้ายง่าย ติดตั้งได้ทุกที่ และใช้งานได้ไม่ยาก เป็นเครื่องซักผ้ามินิที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในหอพักอพาร์ทเม้นท์ ช่วยผ่อนแรงในการซักผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นชุดชั้นใน ถุงเท้า ผ้าเช็ดหน้า กางเกงบ๊อกเซอร์ ปลอกหมอน รวมไปถึงเสื้อผ้าที่ใส่ในแต่ละวัน ให้การซักผ้าเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิดด้วยประสิทธิภาพและแรงปั่นอันยอดเยี่ยม มาพร้อมฟังชันการชักและปั่นหมาดในตัว กินไฟน้อย ประหยัดพลังงาน ให้คุณซักผ้าได้อย่างสะดวกในทุกวัน ใครยังไม่รู้จะเลือกเครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อไหนดี รุ่นนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย
4. เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อ Casactee รุ่น 7.0 KG
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กำลังไฟ 300 วัตต์ | ไม่เหมาะกับการซักเสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่หรือมีปริมาณมากเกินไป |
ความจุถังซัก 7 กิโลกรัม ความจุถังปั่น 1 กิโลกรัม | รับประกันสินค้า 1 ปี |
มีฟังก์ชันการทำงานทั้งระบบซักและปั่นแห้งในตัว | |
ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในเสื้อผ้าด้วยแสงสีฟ้า | |
สามารถตั้งเวลาการซักและการปั่นหมาดได้ | |
ความเร็วในการปั่นหมาด 740 รอบต่อนาที |
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้ามินิแบบฝาบนที่สามารถซักผ้าได้ค่อนข้างเยอะและมีฟังก์ชันแสงสีฟ้าช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียทำให้ผ้าสะอาดปราศจากกลิ่นอับและมีราคาไม่แพงต้องยกให้รุ่นนี้กันเลย เพราะมาพร้อมความจุถังซักที่มากถึง 7 กิโลกรัม พร้อมมอเตอร์พลังหมุนที่ดีกว่าจึงช่วยปั่นหมาดเสื้อผ้าให้แห้งเร็วมากยิ่งขึ้น ตัวถังทำมาจากพลาสติกคุณภาพดีที่มีน้ำหนักเบาจึงสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก สามารถเสียบปลั๊กแล้วใช้งานได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องติดตั้งอะไรให้วุ่นวาย เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายและง่ายดายในการซักผ้าได้เป็นอย่างดี
5. เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อ ROBANL รุ่น 2 In 1
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กำลังไฟ 260 วัตต์ | ไม่เหมาะกับการซักเสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่หรือมีปริมาณมากเกินไป |
ความจุถังซัก 4.5 กิโลกรัม | รับประกันสินค้า 1 ปี |
มีฟังก์ชันการทำงานทั้งระบบซักและปั่นแห้งในตัว | |
สามารถตั้งเวลาการซักและการปั่นหมาดได้สูงสุด 15 นาที | |
ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบกึ่งอัตโนมัติ |
หากถามว่า เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำเครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อ ROBANL รุ่น 2 In 1 แบบฝาบนที่มาพร้อมดีไซน์เรียบง่ายเข้ากับสไตล์การแต่งบ้านได้ทุกรูปแบบ จะวางตรงไหนก็ดูดีแถมยังมีขนาดเล็กกะทัดรัดใช้พื้นที่ไม่เปลือง ผลิตจากพลาสติกคุณภาพดีที่มีน้ำหนักเบาสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย จะสะดวกซักผ้าอยู่ตรงไหนก็ไม่มีปัญหา เพราะทำงานได้เงียบด้วยเสียงดังรบกวนไม่เกิน 62dB ประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ และประหยัดเวลา ใครอยู่หอพักหรืออพาร์ทเม้นท์แล้วมีพื้นที่จำกัดในการติดตั้งเครื่องซักผ้าขอแนะนำรุ่นนี้เลย
6. เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อ Haier รุ่น HWM-T75 OXE
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กำลังไฟ 550 วัตต์ | ตัวเครื่องค่อนข้างมีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก |
ความจุถังซัก 7.5 กิโลกรัม ความจุถังปั่น 5.6 กิโลกรัม | รับประกันตัวเครื่อง 1 ปี คอมเพรสเซอร์ 12 ปี |
มีฟังก์ชันการทำงานทั้งระบบซักและปั่นแห้งในตัว | |
สามารถตั้งเวลาสำหรับแช่ผ้าได้ 20 นาที ก่อนการซัก | |
ความเร็วในการปั่นหมาด 800 รอบต่อนาที |
ใครที่กำลังคิดว่าเครื่องซักผ้ามินิส่วนใหญ่มีขนาดเล็กเกินไปไม่เพียงพอกับการใช้งาน แต่เครื่องซักผ้าตามปกติก็มีขนาดใหญ่จนเกินไป ขอแนะนำรุ่นนี้กันเลย กับเครื่องซักผ้าอัตโนมัติแบบ 2 ถัง ที่ราคาไม่แพงและมีขนาดไม่ใหญ่มาก มีความจุอยู่ที่ 7.5 กิโลกรัม มาพร้อมจานซักกว้างและใบพัดขนาดใหญ่ที่สามารถช่วยเพิ่มแรงหมุนของน้ำให้ซักผ้าได้สะอาดอย่างทั่วถึง ถังปั่นแห้งมีขนาดใหญ่ สามารถตั้งเวลาแช่ผ้าได้ 20 นาทีก่อนการซัก ผลิตมาจากพลาสติกคุณภาพสูงที่ปลอดสนิม พร้อมฝาด้านบนเป็นแบบใสสามารถมองเห็นการทำงานได้อย่างชัดเจนในทุกขั้นตอน ตอบโจทย์ทุกการซักผ้าได้อย่างแท้จริง
7. เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อ CANDY รุ่น HWM70-1269TC
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กำลังไฟ 380 วัตต์ | ไม่มีช่องใส่น้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่ม |
ขนาดตัวเครื่อง 50 x 52 x 90.2 cm น้ำหนัก 26 kg | รับประกันตัวเครื่อง 3 ปี และ มอเตอร์ 12 ปี |
ความจุถังซัก 7 กิโลกรัม | |
มีฟังก์ชันการทำงานทั้งระบบซักและปั่นแห้งในตัว | |
โปรแกรมซักด่วน (Quick Wash) และโปรแกรมแช่ผ้า (Soak function) |
สำหรับเครื่องซักผ้ามินิ CANDY รุ่น HWM70-1269TC รุ่นนี้เป็นเครื่องซักผ้าอัตโนมัติฝาบนขนาดเล็กแบบถังเดี่ยว มาพร้อมความจุถังซัก 7 กิโลกรัม พร้อมโปรแกรมการซักผ้าให้เลือกไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมซักด่วน Quick Wash ที่ช่วยประหยัดเวลาในการซักผ้า โปรแกรมแช่ผ้า Soak function เพื่อช่วยขจัดคราบสกปรกฝังลึกที่ติดแน่นในเนื้อผ้าได้สะอาดหมดจดมากยิ่งขึ้น ซึ่งในรุ่นนี้ก็จะต้องมีการติดตั้งและมีพื้นที่สำหรับการเดรนน้ำทิ้ง เป็นเครื่องซักผ้าขนาดเล็กที่เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่จำกัดได้เป็นอย่างดี
8. เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อ Imarflex รุ่น WM-201
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กำลังไฟ 90 วัตต์ | ไม่เหมาะกับการซักเสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่หรือมีปริมาณมากเกินไป |
ความจุถังซัก 2 กิโลกรัม | รับประกันสินค้า 1 ปี |
มีถังซักและถังปั่นแห้งแยกกัน | |
มีโปรแกรมการซัก 2 แบบ คือ การซักปกติ และการซักถนอมผ้า | |
สามารถตั้งเวลาการซักและการปั่นหมาดได้ |
สำหรับรุ่นนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นเครื่องซักผ้ามินิจากแบรนด์ imarflex ที่เราคุ้นเคยกันดี เป็นเครื่องซักผ้ามินิ 2 ถังฝาบนที่เหมาะสำหรับการซักเสื้อผ้าในปริมาณที่ไม่มากนัก อย่างเช่น ชุดชั้นใน ถุงเท้า เสื้อผ้าเด็ก เป็นต้น โดยสามารถซักได้สูงสุด 2 กิโลกรัมต่อการซัก 1 ครั้ง ตัวถังผลิตจากพลาสติก ABS มั่นใจไม่ต้องกลัวสนิม พร้อมโปรแกรมการซักให้เลือก 2 แบบก็คือ การซักแบบปกติ และการซักถนอมผ้าสำหรับผ้าที่ต้องการความอ่อนโยนเป็นพิเศษ ใช้งานง่าย ติดตั้งสะดวก และเคลื่อนย้ายไปซักบริเวณไหนก็ได้ตามที่ต้องการเพียงแค่เสียบปลั๊กเท่านั้นก็สามารถซักผ้าได้อย่างไม่ยุ่งยาก และยังประหยัดน้ำประหยัดไฟอีกด้วย
9. เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อ Meier รุ่น ME-W311
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กำลังไฟ 200 วัตต์ | ไม่เหมาะกับการซักเสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่หรือมีปริมาณมากเกินไป |
ความจุถังซัก 4.5 กิโลกรัม | รับประกันสินค้า 1 ปี รับประกันมอเตอร์ 5 ปีจากผู้ผลิต |
มีถังฟังก์ชั่นซักผ้าและปั่นหมาดในตัว | |
สามารถตั้งเวลาการซักและการปั่นหมาดได้ | |
ทำงานด้วยระบบกึ่งอัตโนมัติ |
ใครที่กำลังอยากได้ เครื่องซักผ้ามินิแบบถังเดียวฝาบนเอาไว้สำหรับซักเสื้อผ้าชิ้นเล็กๆ อย่างเช่น ชุดชั้นใน เสื้อผ้าเด็ก ถุงเท้า หรือเสื้อผ้าที่ใส่แบบวันต่อวันแนะนำให้ลองพิจารณารุ่นนี้กันดูค่ะ เครื่องซักผ้าปั่นหมาดแบบ 2 in 1 ที่จะทำให้ชีวิตคุณง่ายมากขึ้น สามารถตั้งเวลาในการซักได้ 15 นาทีและเวลาปั่นหมาด 3 นาที ตัวเครื่องทำงานเงียบ ไม่รบกวนในการทำกิจกรรมอื่นๆ ในระหว่างที่รอซักผ้า มีขนาดกะทัดรัดไม่เปลืองพื้นที่และสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย ประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ ให้คุณซักผ้าได้อย่างรวดเร็วทันใจและง่ายดายโดยที่ไม่ต้องเปลืองแรงซักมืออีกต่อไป
10. เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อ SHANBEN รุ่น 2 In 1
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กำลังไฟ 260 วัตต์ อัตราการหมุน 740 rpm | ไม่เหมาะกับการซักเสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่หรือมีปริมาณมากเกินไป |
ความจุถังซัก 4.5 กิโลกรัม ความจุถังปั่น 1 กิโลกรัม | รับประกันสินค้า 1 ปี รับประกันมอเตอร์ 5 ปีจากผู้ผลิต |
มีถังฟังก์ชันซักผ้าและปั่นหมาดในตัว พร้อมแสงสีฟ้าช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย | |
สามารถตั้งเวลาการซักและการปั่นหมาดได้ | |
ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก |
มาปิดท้ายรายชื่อ เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อไหนดี 2024 กันด้วย เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อ SHANBEN รุ่น 2 In 1 แบบถังเดียวฝาบน ซึ่งในรุ่นนี้ก็มีฟังก์ชันแสงสีฟ้าที่ช่วยป้องกันแบคทีเรียทำให้ผ้าสะอาดล้ำลึกมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการซักเสื้อผ้าเด็กและผ้าชิ้นเล็กๆ รวมไปถึงเสื้อผ้าที่ใส่ในแต่ละวันได้อย่างพอดี ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเคลื่อนย้ายสะดวกและมีดีไซน์ที่เรียบง่ายวางตรงมุมไหนก็ลงตัว พร้อมการทำงานที่เงียบและบอดี้ที่มีความแข็งแรงมั่นคงทำให้มีการสั่นสะเทือนน้อยในระหว่างการซัก ประหยัดน้ำ ประหยัดพลังงาน ผู้ช่วยตัวจิ๋วสำหรับการซักผ้าที่ทั้งสะดวก ง่ายดาย ประหยัดน้ำ และประหยัดพลังงาน
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
และทั้งหมดนี้ก็คือ 10 อันดับ เครื่องซักผ้ามินิ ยี่ห้อไหนดี 2024 ที่เรานำมาฝากกัน โดยเครื่องซักผ้ามินินั้นเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่ไม่สะดวกหรือมีพื้นที่ไม่เพียงพอในการติดตั้งเครื่องซักผ้าตามปกติ อย่างเช่นอยู่หอพัก อพาร์ทเม้นท์ หรืออาจจะอยากได้เครื่องซักผ้าเสริมมาไว้ใช้สำหรับการซักผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ไม่ต้องการแรงปั่นมากนัก อย่างเช่น พวกชุดชั้นใน เสื้อผ้าเด็ก ถุงเท้า หรือเสื้อผ้าที่ต้องมีการซักเป็นประจำทุกวัน ถึงแม้จะไม่มีประสิทธิภาพดีเทียบเท่าเครื่องซักผ้าตามปกติแต่บอกได้เลยว่าสะดวกและรวดเร็วมากกว่าการซักมืออย่างแน่นอน