สำหรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน๊ตบุ๊ค สมาร์ทวอช เครื่องเสียง ลำโพง หูฟัง เป็นต้น ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ก็ย่อมต้องมีการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือหูฟัง ที่สามารถช่วยให้เรารับฟังเสียงได้อย่างคมชัดมีมิติมากยิ่งขึ้นโดยที่ไม่รบกวนคนรอบข้าง และในปัจจุบันก็มีการผลิตหูฟังไร้สาย ไอเทมสุดล้ำที่เชื่อมต่อแบบไร้สายกับอุปกรณ์เพื่อให้เราสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก พกพาง่าย และให้คุณภาพเสียงที่ดี
สำหรับหูฟังไร้สาย True Wireless ก็เป็นหนึ่งในหูฟังแบบไร้สายที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นหูฟังที่มีขนาดเล็กและมีเพียงเฉพาะแค่ตัวหูฟังเท่านั้น ไม่มีสายเชื่อมต่อใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งในปัจจุบันก็ได้รับการออกแบบให้มีรูปทรงเรียบง่ายทันสมัยน่าใช้งาน พร้อมระบบการตัดเสียงรบกวนที่ทำให้การรับฟังเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น วันนี้เราจึงมีข้อมูลดีๆสำหรับวิธีเลือกหูฟัง True Wireless พร้อมทั้งแนะนำ 10 รุ่น หูฟัง True Wireless ยี่ห้อไหนดี ที่เสียงเพราะ ตัดเสียงรบกวนได้ ดีไซน์ทันสมัย มาฝากกัน
วิธีเลือกหูฟัง True Wireless
ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่ามีหูฟัง True Wireless ออกมาวางจำหน่ายกันอยู่หลายรุ่นหลายราคา ซึ่งก็อาจทำให้ในบางครั้งเรารู้สึกตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกซื้อหูฟัง True Wireless ยี่ห้อไหนดี ดังนั้นเราจึงควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลือกหูฟัง True Wireless กันก่อน ว่าต้องมีการพิจารณาตรงจุดไหนกันบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อหูฟัง True Wireless แบบไหน โดยวิธีเลือกหูฟัง True Wireless ก็มีข้อควรพิจารณาดังนี้
1. เลือกหูฟัง True Wireless ตามลักษณะการใช้งาน
โดยทั่วไปแล้วหูฟัง True Wireless ที่มีวางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดก็จะมีรูปแบบการใช้งานแบ่งออกได้เป็น 2 แบบก็คือ แบบ In-Ear และแบบ Earbud ซึ่งหูฟังแบบ In-Ear ก็จะเป็นหูฟังที่มีลักษณะเป็นจุกอุดรูหูไปเลย จึงทำให้หลุดยากและมีเสียงรบกวนจากภายนอกเข้าไปได้น้อย สามารถได้ยินเสียงจากหูฟังได้อย่างชัดเจน แต่หลายคนก็อาจจะไม่ชอบเพราะรู้สึกว่าอึดอัดเกินไป ในขณะที่หูฟังแบบ Earbud ก็จะเป็นหูฟังแบบที่ใส่เข้าไปในช่องหูด้านนอก ไม่อุดเข้าไปในรูหู จึงรู้สึกสวมใส่ได้สบายกว่า สามารถได้ยินเสียงภายนอกได้ชัดเจนมากกว่า แต่ทั้งนี้ก็สามารถหลุดร่วงออกจากหูได้ง่ายกว่าด้วยเช่นกัน
2. เลือกหูฟัง True Wireless จากคุณสมบัติ
สิ่งสำคัญที่ควรต้องพิจารณาในการเลือกหูฟัง True Wireless ยี่ห้อไหนดี ก็คือฟังก์ชันการใช้งานและคุณสมบัติต่างๆ ของหูฟังนั่นเอง ซึ่งสิ่งที่เราจะต้องดูในการเลือกหูฟัง True Wireless ก็คือในเรื่องของคุณภาพเสียง ฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวน ความจุของแบตเตอรี่ ฟังก์ชันสำหรับการชาร์จแบต คุณสมบัติการกันน้ำ วัสดุที่ใช้รวมไปถึงดีไซน์และแพ็กเกจด้วย
3. เลือกหูฟัง True Wireless จากยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน
สำหรับหูฟัง True Wireless นั้นเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง ดังนั้นจึงควรเลือกหูฟัง True Wireless ยี่ห้อที่ได้มาตรฐานไว้ใจได้ หรืออาจจะเลือกเป็นยี่ห้อดังๆ ที่รู้จักกันดีก็ได้ เพราะเราสามารถมั่นใจได้ถึงคุณภาพในการผลิตสินค้าที่มีความปลอดภัยได้มาตรฐาน มีคุณภาพการใช้งานที่ดี รวมไปถึงมีการรับประกันและบริการหลังการขายในกรณีที่ซื้อไปแล้วเกิดปัญหาได้
หูฟัง True Wireless ยี่ห้อไหนดี
ได้ทราบกันไปแล้วว่าการจะเลือก หูฟัง True Wireless ยี่ห้อไหนดีนั้น มีสิ่งใดบ้างที่เราต้องพิจารณา คราวนี้เรามาเข้าสู่การแนะนำ 10 รุ่นหูฟังคุณภาพจากแบรนด์ต่างๆ กันเลย โดยเราคัดมาให้คุณพิจารณาถึง 10 รุ่นด้วยกัน
1. หูฟัง True Wireless: Jabra Elite 75T
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| หูฟังไร้สาย True Wireless แบบ In-Ear ดีไซน์สปอร์ต | มีคุณสมบัติกันน้ำ กันฝุ่นที่ระดับ IP55 สามารถใส่ออกกำลังกายได้ |
| รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 | รับประกันนาน 2 ปี |
| แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ 7.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง | |
| มีฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน และรองรับ Voice Assistant |
เริ่มต้นการแนะนำหูฟัง True Wireless ยี่ห้อไหนดี กันด้วยหูฟังดีไซน์สปอร์ต Jabra ที่มาพร้อมดีไซน์สุดเท่ห์ด้วยสีดำ Titanium Black ซึ่งรุ่นนี้ก็ได้รับการปรับปรุงให้ใส่ได้ง่าย ไม่รู้สึกอึดอัด มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยสามารถใช้งานได้ถึง 7.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง มาพร้อมไมโครโฟนถึง 4 ตัวที่ทำหน้าที่รับฟังเสียงและตัดเสียงรบกวนจากภายนอกเพื่อให้สามารถฟังเสียงได้อย่างคมชัด พร้อมคุณสมบัติกันน้ำใน
2. หูฟัง True Wireless: JBL รุ่น Reflect Flow Pro
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| หูฟังไร้สายแบบ In-Ear เหมาะสำหรับใส่ออกกำลังกาย | มีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP68 |
| รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 | รับประกันศูนย์ไทย 1 ปี |
| มีฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน รองรับการสั่งงานด้วยเสียง | |
| สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุดถึง 30 ชั่วโมง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง |
มาต่อกันที่หูฟัง True Wireless จากแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำอย่าง JBL ซึ่งในรุ่นนี้ก็มาพร้อมกับการออกแบบที่ตอบโจทย์สำหรับคนเล่นกีฬากันโดยเฉพาะด้วยคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP68 ที่สามารถแช่น้ำได้นานถึง 30 นาที หมดห่วงเรื่องการเปียกเหงื่อในขณะออกกำลังกายไปได้เลย พร้อมไมโครโฟนถึง 6 ตัวที่ทำช่วยตัดเสียงรบกวนและให้เสียงที่ชัดเจนมีมิติตามสไตล์ JBL Signature ให้คุณสนทนาและฟังในสิ่งที่ชื่นชอบได้อย่างชัดเจนแม้ในขณะที่ออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant และ Amazon Alexa
3. หูฟัง True Wireless: Apple AirPods Pro (2nd generation)
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| หูฟังไร้สาย True Wireless แบบ In-Ear | ทนเหงื่อและน้ำในระดับ IPX4 ทั้งตัว AirPods Pro และเคสชาร์จ |
| รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 | รับประกันสินค้า 1 ปี |
| มีฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนพร้อมโหมดฟังเสียงจากภายนอก | |
| สามารถใช้งานได้สูงสุด 6 ชั่วโมง และ 30 ชั่วโมงในเคสชาร์จ MagSafe |
พูดถึง หูฟัง True Wireless ยี่ห้อไหนดี คงขาดรุ่นนี้ไปไม่ได้ โดยเป็นหูฟัง True Wireless จากค่าย Apple ที่มาพร้อมคุณสมบัติการใช้งานสุดล้ำ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกใช้งาน Siri ฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวนที่สามารถเลือกปรับให้สามารถฟังเสียงจากภายนอกได้ พร้อมการควบคุมแบบสัมผัสด้วยการเลื่อนเพื่อปรับระดับเสียง บีบเพื่อควบคุมการเล่นเพลงหรือรับสาย สามารถสวมใส่ในขณะออกกำลังกายได้อย่างสบายด้วยคุณสมบัติทนเหงื่อและน้ำ IPX4 พร้อมจุกหูฟังให้เลือกหลายขนาดเพื่อให้เหมาะสมกับสรีระใบหูของคุณได้มากที่สุด
4. หูฟัง True Wireless: OPPO Enco Air2 Pro
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| หูฟังไร้สาย True Wireless แบบ Earbuds | กันน้ำได้ในระดับ IPX4 สามารถใส่ออกกำลังกายได้ |
| รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 ใช้งานได้ทั้ง iOS และ Android | รับประกันศูนย์ไทย 1 ปี |
| มาพร้อม Effect เสียง Enco Live ที่คมชัดมิติ และ AI ตัดเสียงรบกวน | |
| สามารถฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน 24 ชั่วโมง |
สำหรับรุ่นนี้ก็เป็นหูฟังไร้สาย True Wireless แบบ Earbuds จากค่าย OPPO ที่มีไดรฟ์เวอร์ขนาดใหญ่พิเศษจัดเต็มทุกคุณภาพเสียงได้อย่างเหนือชั้น พร้อมด้วย Effect เสียง Enco Live ที่คมชัดให้คุณได้ดื่มด่ำทุกเสียงเพลงได้อย่างมืออาชีพ มีเทคโนโลยี AI ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงโปรดได้นานตลอดทั้งวันถึง 24 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียงหนึ่งครั้ง พร้อมคุณสมบัติกันน้ำ IPX4 จึงสามารถใส่ในขณะออกกำลังกายได้อย่างไม่มีปัญหา
5. หูฟัง True Wireless: Sony รุ่น WF-1000XM4
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| หูฟังไร้สาย True Wireless แบบ In-Ear | กันน้ำกันเหงื่อที่ระดับ IPX4 สามารถใส่ออกกำลังกายได้ |
| รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 | รับประกันศูนย์ 1 ปี |
| มีฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนรอบข้าง รองรับ Ambient Sound Control | |
| รองรับการชาร์จแบบไร้สายมาตรฐาน Qi |
อีกรุ่นในรายชื่อหูฟัง True Wireless ยี่ห้อไหนดีที่ขาดไม่ได้ก็คือ Sony WF-1000XM4 หูฟังไร้สาย True Wireless แบบ In-Ear จากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องเสียงชั้นนำอย่าง Sony ซึ่งในรุ่นนี้ถูกออกแบบตามหลักสรีระเพื่อให้สวมใส่ง่ายสบายหู ใช้ไดร์ฟเวอร์เสียงขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อมอบประสบการณ์รับฟังที่ดีกว่า พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนที่มีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นเสียงจากภายนอกและเสียงลมเพื่อให้รับฟังเสียงได้อย่างคมชัดมีมิติ ใช้งานอย่างยาวนานต่อเนื่องได้ถึง 8 ชั่วโมง พร้อมรองรับการชาร์จไร้สายผ่านเคสชาร์จไฟมาตรฐาน Qi
6. หูฟัง True Wireless: Samsung Galaxy Buds Live
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| หูฟังไร้สายแบบ Earbuds ที่มาพร้อมดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ | สามารถใช้งานได้ทั้งระบบ iOS และ Android |
| รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 | รับประกันศูนย์ 1 ปี |
| ให้การรับฟังที่ยอดเยี่ยมด้วยเสียงมาตรฐาน AKG | |
| สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมง และ 29 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จไฟ |
มาต่อกันที่หูฟังไร้สายที่มาพร้อมดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์จาก Samsung ซึ่งในรุ่นนี้ก็ถูกออกแบบมาให้รองรับกับสรีระของใบหูได้อย่างพอเหมาะ จึงสามารถสวมใส่เพื่อใช้งานได้ตลอดทั้งวันได้อย่างสบาย ให้การรับฟังเสียงที่ดีขึ้นด้วยระบบเสียงมาตรฐาน AKG และระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก Active Noise Cancellation (ANC) สามารถเรียกใช้ Bixby ได้ทุกเมื่อ พร้อมการควบคุมด้วยระบบสัมผัสที่สะดวกสบายใช้งานง่าย รองรับการชาร์จเร็วและการชาร์จแบบไร้สาย
7. หูฟัง True Wireless: Xiaomi Redmi Buds 3 Lite (Global Version)
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| หูฟังไร้สาย True Wireless แบบ In-Ear | กันน้ำที่ระดับ IP54 สามารถใส่ออกกำลังกายได้ |
| รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 | รับประกันศูนย์ไทย 1 ปี |
| มีระบบตัดเสียงรบกวนสำหรับสายสนทนา | |
| แบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน 5 ชั่วโมง |
สำหรับรุ่นนี้เป็นหูฟัง True Wireless ที่มาพร้อมดีไซน์สไตล์มินิมอลเรียบง่ายตามแบบฉบับของ Xiaomi ออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย แน่นกระชับพอดีหูได้อย่างอ่อนโยน พร้อมคุณภาพเสียงเหนือระดับที่ปรับแต่งอย่างเชี่ยวชาญโดย Xiaomi Sound Lab มอบเสียงที่สม่ำเสมอมีมิติ สนทนาได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้นด้วยฟังก์ชั่นการตัดเสียงรบกวนสำหรับการโทร พร้อมการใช้งานผ่านระบบสัมผัสที่ควบคุมการทำงานได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว แบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน 5 ชั่วโมง สูงสุด 18 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ
8. หูฟัง True Wireless: Edifier X2 TWS Earbuds
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| หูฟัง True Wireless แบบ Earbuds | มาตรฐานกันน้ำที่ระดับ IP54 |
| รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.1 รองรับ Voice Assistant | สินค้าจัดส่งจากต่างประเทศ ไม่มีการรับประกัน |
| ระบบเสียง Immersive AUDIO ที่สมดุลและมีมิติ | |
| แบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 7 ชั่วโมง และ 21 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ |
Edifier X2 หูฟัง True Wireless แบบ Earbuds จากแบรนด์เครื่องเสียงที่เชื่อถือได้ในประเทศจีน มาพร้อมการออกแบบที่เหมาะสมกับสรีระมีน้ำหนักเบาจึงทำให้สามารถสวมใส่ได้อย่างสบายตลอดทั้งวัน ใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 7 ชั่วโมงโดยไม่มีเคสชาร์จ มีมาตรฐานกันน้ำที่ระดับ IP54 สามารถกันเหงื่อได้สบาย และยังมาพร้อมกับโหมดเกมที่มีเวลาแฝงต่ำ ให้เสียงที่ชัดเจนในขณะเล่นเกมได้แบบเรียลไทม์ ช่วยเปิดประสบการณ์เล่นเกมได้อย่างเต็มอิ่มและได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น
9. หูฟัง True Wireless: Baseus WM02
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| หูฟังไร้สาย True Wireless แบบ In-Ear | มีคุณสมบัติกันน้ำกันเหงื่อสามารถใส่เล่นกีฬาได้ |
| รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 รองรับการใช้งานร่วมกับ App “baseus” | มีการรับประกัน 6 เดือน จากผู้ขาย |
| มีระบบตัดเสียงรบกวน พร้อมควบคุมการทำงานผ่านระบบสัมผัส | |
| สามารถใช้งานได้ถึง 25 ชั่วโมงร่วมกับเคสชาร์จ รองรับการชาร์จเร็ว |
Baseus WM02 หูฟัง True Wireless แบบ In-Ear ที่มาในดีไซน์มินิมอลน่ารักสีสันแบบพาสเทลสดใส มีระบบบลูทูธที่สามารถบอกตำแหน่งป้องกันการสูญหาย ออกแบบมาให้มีขนาดพอดีกับสรีระของช่องหูทำให้ไม่รู้สึกเจ็บหรืออึดอัดเมื่อใส่เป็นเวลานาน ให้เสียงที่มีมิติสมจริง มีความดีเลย์ต่ำสามารถสามารถใช้ร่วมกับการเล่นเกมได้ดี รองรับการควบคุมผ่านระบบสัมผัสและผ่านแอปพลิเคชัน Baseus ได้อย่างสะดวกง่ายดาย ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 25 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็ว
10. หูฟัง True Wireless: AUKEY EP-M1s
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| หูฟังไร้สาย True Wireless แบบ In-Ear | กันน้ำและเหงื่อในระดับ IPX4 ใส่ออกกำลังกายได้ |
| รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 | รับประกัน 2 ปี |
| ให้เสียงประสิทธิภาพสูงด้วย Qualcomm Bluetooth Audio SoC | |
| สามารถใช้งานได้สูงสุด 5 ชั่วโมง และ 30 ชั่วโมงร่วมกับเคสชาร์จ |
มาปิดท้ายการแนะนำหูฟัง True Wireless ยี่ห้อไหนดี กันด้วย AUKEY EP-M1s หูฟังแบรนด์จากเยอรมันที่ให้เสียงประสิทธิภาพสูงด้วยชิป Qualcomm Bluetooth Audio SoC เสียงคมชัดและมีความเที่ยงตรงสูง พร้อมเสียงเบสที่มีความสมบูรณ์ รองรับการสตรีมเสียงสเตอริโอ Hi-fi สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องถึง 5 ชั่วโมง และสูงสุดถึง 30 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว และสามารถใส่ออกกำลังกายได้โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะเปียกเหงื่อด้วยมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX4
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
และทั้งหมดนี้ก็คือวิธีการเลือกหูฟัง True Wireless พร้อมทั้งแนะนำรายชื่อหูฟัง True Wireless ที่เราคัดมาให้กันแบบเน้นๆ จากหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Jabra, JBL, Apple, OPPO, Sony, Samsung, Xiaomi, Edifier, Baseus และ AUKEY ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีคุณสมบัติ ฟังก์ชันการใช้งาน และราคาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจซื้อหูฟัง True Wireless ยี่ห้อไหนดีก็ต้องดูก่อนว่ามีฟังก์ชันสำคัญอย่างการตัดเสียงรบกวนมาให้ด้วยหรือไม่ และส่วนใหญ่แล้วเราใช้หูฟังในช่วงไหนบ่อยที่สุด อย่างเช่น ถ้าหากเป็นการใช้ระหว่างการออกกำลังกายก็แนะนำให้เลือกเป็นหูฟังแบบ In-Ear ที่ใส่ได้แน่นกว่า และอย่าลืมเลือกหูฟังที่มีมาตรฐานกันน้ำร่วมด้วย หรือถ้าเป็นการใส่หูฟังทั่วไปสำหรับการฟังเพลง เล่นเกมฆ่าเวลา รวมไปถึงใช้คุยสนทนา ก็อาจจะเลือกเป็นหูฟังแบบ Earbuds ที่ใส่สบายกว่าก็ได้
