เชื่อได้ว่าคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นั้นต่างก็อยากให้ลูกน้อยของตนนั้นแข็งแรง มีสุขภาพดี และคลอดง่าย โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์ หลายคนก็อยากที่จะใกล้ชิดหรือรับรู้ความเป็นไปเกี่ยวกับทารกที่กำลังอยู่ในครรภ์ เพื่อรอวันที่ลูกน้อยจะลืมตามาดูโลกอย่างปลอดภัยและแข็งแรง และหนึ่งในเครื่องมือที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ใกล้ชิดกับลูกในท้องกันมากขึ้นรวมไปถึงตรวจเช็คความแข็งแรงของลูกน้อยก็คือ เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกนั่นเอง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์จะอยู่ที่ระหว่าง 110-160 ครั้ง/นาที และสามารถใช้ฟังเสียงหัวใจของทารกได้เมื่อมีอายุครรภ์ประมาณ 12 สัปดาห์เป็นต้นไป ดังนั้นเราจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีเลือกเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก พร้อมทั้งแนะนำเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดีที่คุณภาพสูง และปลอดภัยกับลูกน้อย มาฝากกัน
วิธีเลือกเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก
ในการจะเลือกเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดีมาใช้นั้น เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ดี มีสิ่งต่างๆ ที่เราจำเป็นต้องพิจารณาดังต่อไปนี้
1. เลือกเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกตามประเภท
สำหรับเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่มีวางจำหน่ายกันอยู่ในปัจจุบัน ก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ก็คือ
- เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบหูฟัง (Stethoscope) เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ทั่วไปที่ใช้ขยายเสียงภายในร่างกาย อย่างเช่น ฟังเสียงปอดในขณะหายใจ ฟังเสียงหัวใจเต้น ฟังเสียงในช่องท้อง มีลักษณะเป็นหูฟัง 2 ข้างมีท่อยางต่อออกมาจากบริเวณปากแตรที่ใช้สำหรับวางบนบริเวณที่ต้องการฟังเสียง
- เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบพินาร์ด ฮอร์น (Pinard Horn) เป็นหูฟังอีกประเภทหนึ่งซึ่งเป็นรูปแบบเก่าสำหรับใช้ฟังเสียงการเต้นหัวใจของทารกในครรภ์ มีลักษณะเป็นเขากลวงซึ่งทำมาจากไม้หรือโลหะ รูปทรงคล้ายกับปากของแตรทรัมเป็ต ยาวประมาณ 8 นิ้ว เครื่องมือนี้จะส่งสัญญาณเสียงการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ไปยังหูของผู้ฟังที่แนบอยู่อีกฝั่ง ทำให้สามารถฟังเสียงหัวใจเต้นของทารกได้ โดยส่วนใหญ่มักนำมาใช้ในระหว่างการคลอดเพื่อตรวจหาภาวะหัวใจล้มเหลวของทารกในครรภ์
- เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบเฟโตสโคป (Fetoscope) เป็นเครื่องมือที่มีรูปแบบผสมผสานกันระหว่างเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบหูฟังและแบบพินาร์ด ฮอร์น ทำมาจากโลหะและพลาสติก อุปกรณ์ชนิดนี้จะต้องใช้ทักษะในการแยกแยะเสียงพอสมควร โดยจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบก็คือ แบบหูฟังตามปกติ และแบบที่มีการส่งผ่านลวดเข้าไปในมดลูกเพื่อยึดติดกับบริเวณศีรษะของทารก แล้วนำมาเชื่อมต่อกับจอภาพเพื่อฟังเสียงหัวใจได้ตั้งแต่ในประมาณสัปดาห์ที่ 12 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งวิธีนี้จะต้องทำโดยแพทย์
- เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบดอปเปลอร์ (Doppler) สามารถใช้ฟังเสียงการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ได้ตั้งแต่ในช่วงประมาณสัปดาห์ที่ 12 ของการตั้งครรภ์ เป็นอุปกรณ์อัลตร้าซาวด์แบบพกพาชนิดหนึ่งที่จะใช้คลื่นเสียงเพื่อตรวจการเต้นของหัวใจทารก ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ แล้วแปลผลออกมาเป็นเสียง ซึ่งหลายรุ่นที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดก็จะเป็นประเภทนี้
นอกจากนี้ก็ยังมีการตรวจสอบการเต้นของหัวใจทารกที่อยู่ภายในครรภ์ด้วยวิธีอัลตร้าซาวด์(ultrasonography) ซึ่งเป็นวิธีการตรวจสอบการเต้นของหัวใจทารกโดยแพทย์ มีการแสดงผลผ่านจอภาพเพื่อดูความสมบูรณ์แข็งแรงและการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
2. เลือกเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่มีหน้าจอแสดงผล
ข้อต่อมาคือควรเลือกเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่มีหน้าจอแสดงผลสำหรับแสดงค่าต่างๆ ได้อย่างชัดเจนครบถ้วนและเข้าใจง่าย อย่างเช่น แสดงผลเป็นกราฟหรือตัวเลขที่แสดงอัตราการเต้นของหัวใจ ตัวปรับระดับเสียง Power Display เป็นต้น
3. เลือกเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่สามารถบันทึกเสียงการเต้นของหัวใจได้
การเลือกเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่มีฟังก์ชันบันทึกเสียงเต้นของหัวใจ ในกรณีที่ทารกในครรภ์มีอัตราการเต้นของหัวใจไม่อยู่ในเกณฑ์ปกติ ก็จะทำให้คุณแม่ได้นำเอาเสียงเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์ที่บันทึกเอาไว้ไปปรึกษากับแพทย์ที่ฝากครรภ์เพื่อสามารถวิเคราะห์ และหาสาเหตุได้
4. เลือกเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกจากแบรนด์ที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองมาตรฐาน
ข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญเลยทีเดียว เพราะข้อมูลที่ถูกต้องกับความปลอดภัยของลูกน้อยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นจึงควรเลือกเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกจากแบรนด์ผู้ผลิตที่ไว้ใจได้และจะต้องผ่านการรับรองมาตรฐานทางการแพทย์ และมาตรฐาน อย. ของประเทศ หากเป็นรุ่นที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ จะต้องมีการรับรองมาตรฐาน FDA (Food and Drug Administration) ถึงจะสามารถมั่นใจได้ว่ามีการทำงานที่แม่นยำเชื่อถือได้ และปลอดภัยต่อทารกในครรภ์
เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดี
ได้ทำความรู้จีกกับอุปกรณ์นี้พร้อมวิธีเลือกกันไปแล้ว คราวนี้เรามาเข้าสู่รายชื่อของ 10 รุ่น เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดีกันเลย โดยเราคัดมาจากแบรนด์คุณภาพในช่งราคาและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เพื่อให้คุณมีตัวเลือกที่ครอบคลุมมากที่สุด
1. เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก Jumper AngelSounds รุ่น JPD-100S4
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
หน้าจอแสดงผล LCD แสดงการเต้นของหัวใจแบบดิจิตอล | ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. |
มาพร้อมลำโพงในตัว | เหมาะสำหรับอายุครรภ์ที่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป |
มีโหมดสำหรับบันทึกเสียงเต้นของหัวใจและเปิดฟังได้ในตัวเครื่อง | |
มีเสียงเพลงบรรเลงในตัวเครื่องสำหรับเปิดให้ทารกในครรภ์ได้ฟัง 5 เพลง |
มาเริ่มต้นรายชื่อเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดี ของเรากันด้วย เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก Jumper AngelSounds รุ่น JPD-100S4 แบรนด์ยอดนิยมทั้งในยุโรปและอเมริกา สามารถอ่านค่าได้ง่ายด้วยหน้าจอ LCD แสดงการเต้นของหัวใจ มีลำโพงในตัว มีเสียงเพลงบรรเลงในตัวเครื่องสำหรับเปิดให้ทารกในครรภ์ได้ฟัง 5 เพลง มาพร้อมโหมดการใช้งานถึง 4 โหมดหลัก ได้แก่ การฟังเสียงหัวใจ การฟังเสียงหัวใจที่บันทึกเอาไว้ และการบันทึกเสียงหัวใจของทารกในครรภ์
2. เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก Cofoe Probe Vascular Doppler
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบ Doppler | ผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานระดับสากล |
หน้าจอแสดงผล LCD แสดงอัตราการเต้นของหัวใจ | เหมาะสำหรับอายุครรภ์ที่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป |
มีลำโพงในตัวเครื่อง | |
ความถี่คลื่นอัลตร้าซาวด์ 3.0 MHz ปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ |
สำหรับรุ่นนี้ก็เป็นเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์แบบ Doppler ที่จะมีการปล่อยคลื่นอัลตร้าซาวด์ที่ความถี่ 3.0 MHz ความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ มีตัวช่วยลดเสียงรบกวนจึงสามารถฟังเสียงหัวใจได้อย่างชัดเจน มาพร้อมโหมดการใช้งาน 3 โหมดได้แก่ real-time, average และ manual พร้อมฟังชันปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งานเป็นเวลา 1 นาที ปลอดภัยเพราะผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานต่างๆ ทั้ง EU CE, US FDA, Japan SGS, CFDA Agency และ RoHS
3. เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก LEDOM Banglijian
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบ Doppler | มีการรับประกันจากผู้ขาย |
หน้าจอแสดงผล LCD ขนาดใหญ่ แสดงอัตราการเต้นของหัวใจได้ชัดเจน | เหมาะสำหรับอายุครรภ์ที่ 16 สัปดาห์ขึ้นไป |
มีลำโพงในตัวเครื่องแยกออกจากโพรบวัด | |
ความถี่คลื่นอัลตร้าซาวด์ 2.5 MHz ปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ |
ใครที่กำลังมองหาเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดีที่ราคาหลักร้อยขอแนะนำรุ่นนี้กันเลย เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบ Doppler ที่มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ถึง 4.5 cm แสดงผลอย่างชัดเจน มีความปลอดภัยและแม่นยำด้วยโพรบความไวสูง พลังอัลตร้าโซนิคต่ำ ไม่มีรังสี จึงปลอดภัยสำหรับทารกในครรภ์ พร้อมเทคโนโลยีลดสัญญาณรบกวนจึงทำให้สามารถฟังเสียงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยรุ่นนี้เหมาะสำหรับอายุครรภ์ที่ 16 สัปดาห์ขึ้นไป
4. เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก JZIKI
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบ Doppler | ผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานสำคัญหลายที่ด้วยกัน |
หน้าจอแสดงผล LCD ขนาดใหญ่ แสดงอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างชัดเจน | เหมาะสำหรับอายุครรภ์ที่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป |
มีลำโพงในตัวเครื่อง | |
ความถี่คลื่นอัลตร้าซาวด์ 2.0 MHz ปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ |
เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกราคาหลักร้อยที่มาพร้อมการใช้งานครบครัน สำหรับตัวนี้ก็เป็นเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบ Doppler ที่มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ที่แสดงตัวเลขอัตราการเต้นของหัวใจทารกได้อย่างชัดเจน ใช้พลังอัลตร้าโซนิคต่ำ ไม่มีรังสี ปลอดภัยสำหรับทารกในครรภ์ พร้อมเทคโนโลยีลดสัญญาณรบกวนจึงทำให้สามารถฟังเสียงได้ชัดเจนและแม่นยำมากยิ่งขึ้น ผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานEU CE, US FDA, Japan SGS, CFDA Agency และ RoHS
5. เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก CONTEC รุ่น Sonoline A
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบ Doppler เกรดทางการแพทย์ | ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. และผ่านมาตรฐานการนำเข้าเครื่องมือแพทย์ประเทศไทย |
หน้าจอแสดงผล LCD สามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้ในที่มืด | เหมาะสำหรับอายุครรภ์ตั้งแต่ 9-12 สัปดาห์ |
มีลำโพงในตัวเครื่อง | |
ความถี่คลื่นอัลตร้าซาวด์ 3.0 MHz ปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ |
สำหรับรุ่นนี้ก็เป็นเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกเกรดทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานและมีความแม่นยำสูง มีการรับรองมาตรฐานและมีการนำเข้าอย่างถูกต้อง มาพร้อมหน้าจอแสดงผล LCD ขนาดใหญ่ที่มีฟังก์ชันแบล็คไลท์ช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนในที่มืด ใช้อัลกอริทึมอัจฉริยะที่สามารถวัดและอ่านผลออกมาได้อย่างแม่นยำ และฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนขั้นสูงที่ช่วยให้ฟังเสียงการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ได้อย่างชัดเจน ใครยังไม่รู้จะเลือกเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดีรุ่นนี้ก็น่ารับไว้พิจารณา
6. เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก Jumper AngelSounds รุ่น JPD-100S
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบ Doppler | ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย., CE และ RoHS |
มีลำโพงในตัวเครื่องและช่องสำหรับเสียบหูฟัง | เหมาะสำหรับอายุครรภ์ที่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป |
ดีไซน์น่ารัก ใช้งานง่าย พกพาสะดวก | |
ความถี่คลื่นอัลตร้าซาวด์ 3.0 MHz ปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ |
ผ่านกันไปแล้วครึ่งทางสำหรับรายชื่อแนะนำเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดี มาต่อกันที่เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก Jumper AngelSounds รุ่น JPD-100S ที่ดีไซน์น่ารัก ราคาน่าคบ ใช้งานง่าย พกพาสะดวก เป็นเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบ Doppler มีลำโพงในตัวเครื่องและช่องสำหรับเสียบหูฟัง ที่ช่วยให้คุณได้สัมผัสใกล้ชิดกับลูกน้อยได้มากยิ่งขึ้น เป็นรุ่นที่ผ่านมาตรฐานการรับรองทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ มั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อลูกน้อยในครรภ์
7. เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก Xiaomi Mijia Andon
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบ Doppler | ผ่านการรับรองมาตรฐาน EU CE, US FDA, Japan SGS, CFDA Agency และ RoHS |
หน้าจอแสดงผล LCD แสดงอัตราการเต้นของหัวใจแบบดิจิตอล | เหมาะสำหรับอายุครรภ์ที่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป |
มีลำโพงในตัวเครื่อง | |
ความถี่คลื่นอัลตร้าซาวด์ 2.0 MHz ปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ |
สำหรับรุ่นนี้ก็เป็นเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์จากแบรนด์ในเครือของ Xiaomi เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบ Doppler ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน EU CE, US FDA, Japan SGS, CFDA Agency และ RoHS ใช้พลังอัลตร้าโซนิคต่ำ ไม่มีการปล่อยรังสี จึงมีความปลอดภัยกับทารกในครรภ์ ความไวสูงจึงสามารถตรวจวัดและแปลผลออกมาได้อย่างแม่นยำ และมาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนจึงทำให้สามารถฟังเสียงการเต้นของหัวใจได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
8. เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก Betron
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบ Doppler | มีการรับประกันสินค้าจากผู้ขาย |
หน้าจอแสดงผล LCD รูปวงกลมขนาดใหญ่แสดงอัตราการเต้นของหัวใจ | เหมาะสำหรับอายุครรภ์ที่ 16 สัปดาห์ขึ้นไป |
มีลำโพงในตัวเครื่อง | |
ความถี่คลื่นอัลตร้าซาวด์ 2.5 MHz ปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ |
ต่อกันด้วย เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก Betron สำหรับรุ่นนี้ก็เป็นเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกราคาหลักร้อยอีกหนึ่งรุ่นที่มีความคุ้มค่าน่าใช้งาน เป็นเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบ Doppler ที่มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่แบบวงกลมที่แสดงตัวเลขอัตราการเต้นของหัวใจทารกได้อย่างชัดเจน มีความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์เนื่องจากใช้พลังอัลตร้าโซนิคต่ำ ไม่มีการปล่อยรังสี และมีเทคโนโลยีลดสัญญาณรบกวนทำให้สามารถฟังเสียงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
9. เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก Jumper Angelsounds รุ่น 100E
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบ Doppler | คุณภาพอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ |
หน้าจอแสดงผล TFT แสดงอัตราการเต้นของหัวใจทั้งแบบตัวเลขและกราฟ | เหมาะสำหรับอายุครรภ์ที่ 16 สัปดาห์ขึ้นไป |
มีลำโพงในตัวเครื่อง พร้อมแบตเตอรี่ในตัวชาร์จไฟได้ | |
ความถี่คลื่นอัลตร้าซาวด์ 2.5 MHz ปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ |
เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่แสดงผลได้ 2 รูปแบบก็คือ รูปแบบกราฟและรูปแบบตัวเลขดิจิตอล ทำให้สามารถอ่านผลได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย หัวโพรบแบบใหม่ High sensitive ดีไซน์โค้งมน ตรวจจับสัญญาณได้อย่างแม่นยำและชัดเจน มั่นใจได้ถึงคุณภาพด้วยการรับรองมาตรฐานทั้งการผลิตและการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น อย. EU CE และ ISO 13485 จึงมีความปลอดภัยและมีความแม่นยำสูง
10. เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก FETAL DOPPLER รุ่น JPD-200 C
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบ Doppler เกรดสำหรับใช้ในคลินิกหรือโรงพยาบาล | ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE และผ่านมาตรฐานการนำเข้าเครื่องมือแพทย์ประเทศไทย |
หน้าจอแสดงผล LCD แสดงอัตราการเต้นของหัวใจ | เหมาะสำหรับอายุครรภ์ที่ 9 สัปดาห์ขึ้นไป |
มีลำโพงในตัวเครื่อง | |
ความถี่คลื่นอัลตร้าซาวด์ 3.3 MHz ปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ |
ปิดท้ายรายชื่อเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดีกันด้วยเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก FETAL DOPPLER รุ่น JPD-200 C เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกแบบ Doppler เกรดสำหรับใช้ในคลินิกหรือโรงพยาบาล สำหรับใครที่อยากจัดหนักจัดเต็มด้วยเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกคุณภาพสูง สำหรับรุ่นนี้ก็สำหรับรุ่นนี้ก็สามารถแสดงผลได้แบบ Real-time ตรวจวัดการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำด้วยหัวตรวจความไวสูง โดยมีความคลาดเคลื่อนเพียงแค่ ±2 BPM สามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่อายุครรภ์ที่ 9 สัปดาห์
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
และทั้งหมดนี้ก็คือรายชื่อแนะนำเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดี ที่เราได้ทำการคัดเลือกมาฝากกันสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากจะใกล้ชิดกับลูกน้อยในครรภ์ให้มากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังสามารถติดตามสุขภาพและการเจริญเติบโตของลูกน้อยในเบื้องต้นด้วยตนเองกันได้อย่างสะดวก และจะเห็นได้ว่าเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่มีวางจำหน่ายกันอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นในรูปแบบของการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์กันเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือเจลสำหรับอัลตราซาวน์ เพื่อใช้เป็นตัวกลางควบคู่ไปกับเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกนั่นเอง