ไมโครเวฟ ยี่ห้อไหนดี ฟังก์ชันเยอะ ทำอาหารได้หลายอย่าง 2023

ไมโครเวฟเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนอีกอย่างที่ควรมีติดครัวเอาไว้ เพราะเป็นตัวช่วยให้เราสามารถประกอบอาหารได้อย่างหลากหลายโดยที่ไม่ต้องใช้แก๊ส และยังสามารถช่วยอุ่นอาหารได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ก็ยังตอบโจทย์ผู้ที่อยู่ตามหอพักและคอนโดที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วและไม่ยุ่งยากในการเตรียมอาหาร สำหรับใครที่กำลังมองหาไอเทมคู่ครัวนี้แต่ยังลังเลว่าจะเลือกไมโครเวฟ ยี่ห้อไหนดี รวมถึงต้องพิจารณาอะไรบ้าง วันนี้เรารวบรวมคำตอบมาให้แล้ว

วิธีเลือกไมโครเวฟ

ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อ ไมโครเวฟ ยี่ห้อไหนดี เรามาดูข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีเลือกไมโครเวฟกันก่อน เพราะจะช่วยให้เราสามารถเลือกซื้อไมโครเวฟที่ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการใช้งานของเราได้มากที่สุดนั่นเอง โดยวิธีการเลือกไมโครเวฟก็ควรที่จะพิจารณาเรื่องต่างๆ ดังนี้

1. เลือกไมโครเวฟจากฟังก์ชันการใช้งาน

ในปัจจุบันไมโครเวฟรุ่นใหม่ ๆ ก็มีหลายประเภทให้เลือกด้วยกันคือ

• ไมโครเวฟธรรมดา เป็นไมโครเวฟที่ใช้หลักการของคลื่นไมโครเวฟในการทำให้อาหารสุกจากภายในตามปกติ โดยจะใช้อุ่นอาหาร ต้มหรือนึ่งเพื่อให้อาหารสุก 
• ไมโครเวฟระบบย่าง เป็นไมโครเวฟที่ใช้การทำงานของไมโครเวฟร่วมกับเตาอบไฟฟ้า สามารถปรุงเมนูได้หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการย่างหรือการอบขนม รวมไปถึงการทำให้อาหารกรอบนอกนุ่มใน 
• ไมโครเวฟแบบอบลมร้อน ใช้หลักการของไมโครเวฟร่วมกับเตาอบลมร้อน มีการกระจายความร้อนอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ จึงสามารถทำให้อาหารสามารถปรุงสุกได้เร็วกว่า 
• ไมโครเวฟแบบอบไอน้ำ ใช้หลักการของเตาอบไมโครเวฟร่วมกับเตาอบไอน้ำ เหมาะสำหรับการทำเมนูนึ่งต่างๆ รวมไปถึงการอบหรือย่างที่ต้องการความชุ่มชื้นและสดอร่อยของอาหาร

2. เลือกไมโครเวฟจากขนาด   

โดยทั่วไปแล้วไมโครเวฟที่วางจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดก็จะมีหลายขนาดให้เลือก ซึ่งก็มีทั้งขนาดเล็กความจุตั้งแต่ 17-20 ลิตร, ขนาดกลาง 21-29 ลิตร และขนาดใหญ่ มากกว่า 30 ลิตรขึ้นไป ซึ่งการเลือกว่าจะใช้ขนาดใหญ่แค่ไหน ก็อาจจะดูจากจำนวนสมาชิกในบ้าน ความต้องการใช้งานเพื่อประกอบหรืออุ่นอาหารแต่ละมื้อมีมากน้อยเพียงใด รวมไปถึงพื้นที่สำหรับจัดวางว่ามีความกว้างขวางเพียงพอกับไมโครเวฟได้หรือไม่ 

3. เลือกไมโครเวฟจากกำลังไฟที่ใช้

แน่นอนว่าไมโครเวฟเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง ดังนั้นสิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อไมโครเวฟ ยี่ห้อไหนดี ก็คือกำลังไฟฟ้านั่นเอง ซึ่งเราสามารถดูได้จากค่าวัตต์ไฟฟ้า ถ้าหากยิ่งมีกำลังวัตต์สูงมากเท่าไหร่ นั่นก็แปลว่าไมโครเวฟสามารถทำความร้อนได้อย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอมากเท่านั้น โดยทั่วไปแล้วไมโครเวฟที่มีวางจำหน่ายกันอยู่ตามท้องตลาด ก็จะมีกำลังไฟอยู่ระหว่าง 600 ถึง 1,200 วัตต์ หรืออาจมากกว่านั้นถ้าหากเป็นไมโครเวฟตัวใหญ่ แต่ทั้งนี้ก็ต้องพิจารณาในเรื่องของความเหมาะสมเกี่ยวกับจำนวนวัตต์ของเครื่องใช้ไฟฟ้ากับหม้อแปลงไฟบ้าน และการใช้งานร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ด้วย   

4. เลือกไมโครเวฟจากดีไซน์และวัสดุที่ใช้

ถึงแม้ว่ารูปร่างหน้าตาของไมโครเวฟอาจจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าคล้ายกันทั้งหมด แต่วัสดุที่ใช้รวมไปถึงดีไซน์การออกแบบก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้าง โดยทั่วไปและวัสดุที่ใช้ทำไมโครเวฟก็มีหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเซรามิค กระจก สเตนเลส พลาสติก เป็นต้น ซึ่งไมโครเวฟก็มีราคา ความสวยงามและความทนทานแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้ รวมไปถึงรูปแบบการดีไซน์ที่ทำให้ไมโครเวฟนั้นมีความสวยงามที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง  

5. เลือกไมโครเวฟจากระบบการทำงาน

โดยทั่วไปแล้วไมโครเวฟที่มีวางจำหน่ายกันอยู่ในปัจจุบัน ก็จะมีระบบการทำงานแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ ก็คือ ระบบ Manual ที่ใช้ระบบมือหมุนตั้งอุณหภูมิ ฟังก์ชัน และเวลา ข้อดีก็คือส่วนใหญ่มีราคาไม่แพง ใช้งานไม่ยาก และมีความทนทาน อีกแบบหนึ่งก็คือระบบดิจิทัล ที่มาพร้อมปุ่มกดและหน้าจอเพื่อเลือกฟังก์ชันการทำงาน ข้อดีของระบบนี้ก็คือสามารถตั้งการทำงานได้อย่างละเอียด มีฟังก์ชันการใช้งานให้เลือกมากกว่า แต่ก็มีราคาแพงกว่าและการใช้งานที่ยุ่งยากมากกว่าตามไปด้วย 

6. เลือกไมโครเวฟจากยี่ห้อที่ไว้ใจได้

อีกหนึ่งความสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่เพียงแค่ไมโครเวฟเท่านั้นก็คือการเลือกซื้อจากยี่ห้อที่ไว้ใจได้ โดยปัจจุบันมีไมโครเวฟมากมายหลายยี่ห้อให้เราได้เลือกซื้อกัน แต่ทั้งนี้การเลือกไมโครเวฟจากยี่ห้อดังหรือยี่ห้อที่เราคุ้นเคย อาทิ SHARP, TOSHIBA, Electrolux, SAMSUNG, Midea, HAIER, HAFELE, Xiaomi YouPin, MEX ก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะมีคุณภาพที่ได้มาตรฐานและมีบริการหลังการขายที่ดีกว่านั่นเอง 

ไมโครเวฟ ยี่ห้อไหนดี

เมื่อทราบข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับการพิจารณาเพื่อเลือกซื้อไมโครเวฟกันแล้ว วันนี้เราก็มีไมโครเวฟรุ่นและยี่ห้อต่างๆ ที่น่าสนใจมาแนะนำให้ได้เลือกกันถึง 10 รุ่นเลยทีเดียว ตามมาดูกันได้เลยว่ามีรุ่นไหนที่น่าสนใจกันบ้าง

1. ไมโครเวฟ SHARP รุ่น R-2231F-S

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดความจุ 23 ลิตร กำลังไฟ 800 วัตต์	มีการรับประกันจากผู้ผลิต 1 ปี
ใช้งานด้วยระบบปุ่มแบบสัมผัส (touch control)	ขนาด 48.5 x 29.3 x 40.5 cm. น้ำหนัก 12.6 kg.
สามารถปรับความร้อนได้ 5 ระดับ และโปรแกรมอัตโนมัติ 6 โปรแกรม
มีโปรแกรมป้องกันเด็กใช้เครื่อง (CHILD LOCK)

มาเริ่มต้นรายชื่อไมโครเวฟ ยี่ห้อไหนดีของเรากันด้วย ไมโครเวฟดีไซน์เรียบง่ายยี่ห้อที่ไว้ใจได้ ในราคากำลังดี กับไมโครเวฟ SHARP รุ่น R-2231F-S เตาอบไมโครเวฟที่ใช้งานง่ายแม่นยำด้วยระบบปุ่มกดแบบสัมผัส สามารถปรับความร้อนได้ 5 ระดับพร้อมเมนูอาหารมากถึง 6 เมนู พร้อมโปรแกรมละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ สามารถตั้งเวลาทำอาหารได้นานถึง 99.50 นาที ปลอดภัยสำหรับเด็กๆ ในบ้าน ด้วยโปรแกรมป้องกันเด็กใช้เครื่อง (Child lock) มาพร้อมขนาดความจุ 23 ลิตร กำลังไฟ 800 วัตต์ ราคาค่าตัวก็ถือว่าไม่สูงจนเกินไปด้วย

2. ไมโครเวฟ TOSHIBA รุ่น ER-SS23 (K)TH

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดความจุ 23 ลิตร กำลังไฟ 800 วัตต์	ขนาด 31.4×21.2×34.9 cm. น้ำหนัก 14.4 kg.
ใช้งานด้วยระบบดิจิทัลพร้อมปุ่มกดแบบสัมผัส	รับประกันตัวเครื่อง 1 ปี และรับประกันแมกนีตรอน 5 ปี
สามารถปรับความร้อนได้ 11 ระดับ (0 -100%) และ 6 โปรแกรมปรุงอาหารอัตโนมัติ
อุ่นอาหารได้รวดเร็วด้วยปุ่ม Express Cook

มาต่อกันที่ ไมโครเวฟ TOSHIBA รุ่น ER-SS23 (K)TH ซึ่งรุ่นนี้ก็มีฟังก์ชันการใช้งาน 2 แบบก็คือการทำความร้อนโดยใช้คลื่นไมโครเวฟเป็นหลักเพื่อให้อาหารสุกจากด้านใน และการทำความร้อนโดยใช้ฮีตเตอร์เพื่อให้อาหารสุกจากด้านนอกรวมกับไมโครเวฟจึงทำให้อาหารมีความจำและอร่อยกรอบนอกนุ่มใน สามารถปรับความร้อนได้ 11 ระดับ (0 -100%) และ 6 โปรแกรมปรุงอาหารอัตโนมัติ ตอบโจทย์เมนูที่หลากหลายมากกว่า ให้คุณปรุงอาหารแสนอร่อยได้อย่างง่ายดายในทุกมื้อ สินค้า- รับประกันตัวเครื่อง 1 ปี และรับประกันแมกนีตรอน 5 ปีด้วยกัน

3. ไมโครเวฟ Electrolux รุ่น EMM2331MK

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดความจุ 23 ลิตร กำลังไฟ 800 วัตต์	ขนาด 48.5 x 40.0 x 29.3 cm. น้ำหนัก 13 kg.
ใช้งานด้วยระบบมือหมุนลูกบิด	รับประกันสินค้า 2 ปีจากผู้ผลิต และรับประกันหลอดแมกนีตรอน 5 ปี
ปรับความร้อนได้ 6 ระดับ พร้อมโปรแกรมละลายอาหารแช่แข็ง
มีระบบจานหมุนทำให้อาหารสุกได้ทั่วถึง

หากถามว่าไมโครเวฟ ยี่ห้อไหนดี ชื่อของ Electrolux เป็นอีกแบรนด์ที่ไว้วางใจได้ สำหรับใครที่กำลังมองหาไมโครเวฟแบบ Manual ที่ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ขอแนะนำไมโครเวฟ Electrolux รุ่น EMM2331MK ที่มาพร้อมกับตัวเครื่องสีดำพร้อมขอบสีสเตนเลสที่มีความสวยหรู สามารถปรับความร้อนได้ถึง 6 ระดับพร้อมโปรแกรมละลายอาหารแช่แข็ง และสามารถตั้งเวลาทำอาหารสูงสุดได้นาน 30 นาที ตอบโจทย์การปรุงอาหารง่ายๆ ละลายน้ำแข็ง หรือการอุ่นอาหารให้ร้อนได้อย่างสะดวกและง่ายดาย โดยมีขนาดความจุ 23 ลิตร กำลังไฟ 800 วัตต์ สินค้ารับประกัน 2 ปีจากผู้ผลิต และรับประกันหลอดแมกนีตรอน 5 ปี

4. ไมโครเวฟ SAMSUNG รุ่น MS23K3513AW/ST |MC|

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ควบคุมการทำงานด้วยระบบปุ่มกดแบบสัมผัส	ขนาด 48.9 x 27.5 x 27.5 cm. น้ำหนัก 12 kg.
มี ECO Mode ช่วยประหยัดพลังงาน	รับประกัน 2 ปี จากผู้ผลิต
LOCAL RECIPE โปรแกรมทำอาหารอัตโนมัติ
มีระบบ DEODORIZER กำจัดกลิ่นอาหารในไมโครเวฟ

มาต่อกันที่ SAMSUNG รุ่น MS23K3513AW/ST |MC| ไมโครเวฟขนาดความจุ 23 ลิตร กำลังไฟ 800 วัตต์ ดีไซน์สวยหรูพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ยุคดิจิทัล ซึ่งในรุ่นนี้ก็มาพร้อมด้านในที่เป็นเซรามิค (CERAMIC INSIDE) ซึ่งมีคุณสมบัติทนทาน ทำความสะอาดง่าย ไร้รอยขีดข่วน พร้อมโปรแกรมปรุงอาหารที่หลากหลาย มี LOCAL RECIPE โปรแกรมทำอาหารอัตโนมัติ พร้อม QUICK DEFROST เทคโนโลยีเร่งการละลายน้ำแข็ง  และ ECO Mode ที่ช่วยประหยัดพลังงาน  มอบไลฟ์สไตล์และดีไซน์สุดพรีเมียมให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี 

5. ไมโครเวฟ Midea รุ่น MMO-237GDS

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดความจุ 23 ลิตร กำลังไฟ 800 วัตต์	ขนาด 48.5 x 39.75 x 29.3 cm. น้ำหนัก 13.20 kg.
ควบคุมการทำงานด้วยระบบดิจิทัล	รับประกันสินค้า 3 ปี รับประกันแมกนิตรอน 5 ปี
มาพร้อมฟังก์ชันย่างที่ให้กำลังไฟถึง 1000 วัตต์
ด้านในเคลือบ Nano silver ง่ายต่อการทำความสะอาด

สำหรับไมโครเวฟ Midea รุ่น MMO-237GDS มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครันคุ้มค่า ตอบโจทย์ทั้งระบบไมโครเวฟระบบย่างภายในเครื่องเดียว ให้คุณปรุงอาหารได้อย่างง่ายดายด้วยระบบดิจิทัลพร้อมหน้าจอแสดงผล LED ที่มีฟังก์ชันละลายน้ำแข็ง คำนวณตามเวลาหรือน้ำหนัก และฟังก์ชัน Quick Cook ปรุงอาหารได้อย่างเร็ว ด้านในเคลือบ Nano silver ง่ายต่อการทำความสะอาดและไม่ก่อให้เกิดแบคทีเรีย พ่วงมาด้วยระบบ Child Safety Lock ป้องกันอันตรายในการใช้งานสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก ใครยังไม่รู้จะเลือกไมโครเวฟ ยี่ห้อไหนดีรุ่นนี้ก็ถือว่าน่าสนใจ

6. ไมโครเวฟ HAIER รุ่น HMW-M2002S/HMW-M2001W

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดความจุ 20 ลิตร กำลังไฟ 700 วัตต์	รับประกันสินค้า 1 ปีจากผู้ผลิต
ควบคุมการทำงานด้วยระบบมือหมุนลูกบิด	ขนาด 20.40 x 30.00 x 30.00 cm. น้ำหนัก 10.3 kg.
ปรับกำลังไฟได้ 6 ระดับ
มีโปรแกรมป้องกันการทำความร้อนสูงเกินกำหนด

ไมโครเวฟ HAIER รุ่น HMW-M2002S/HMW-M2001W มาในขนาดกะทัดรัดกำลังดีใช้งานง่ายราคาไม่แพง มีขนาดความจุ 20 ลิตร กำลังไฟ 700 วัตต์  พร้อมดีไซน์สวยงามเรียบหรูสีขาวสไตล์มินิมอล เหมาะสำหรับห้องพักหรือครอบครัวขนาดเล็ก สามารถปรับความร้อนได้ถึง 6 ระดับเพื่อให้เหมาะสมกับการปรุงอาหารแต่ละประเภท มีระบบกระจายความร้อนรอบทิศทาง 360 °C ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยโปรแกรมป้องกันการทำความร้อนสูงเกินกำหนด และสามารถตั้งเวลาในการทำอาหารได้สูงสุด 30 นาที  รุ่นนี้รับประกันสินค้า 1 ปีจากผู้ผลิต 

7. ไมโครเวฟ HAFELE รุ่น 495.06.432 RED CUTE (3-SERIES)

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดความจุ 20 ลิตร กำลังไฟ 700 วัตต์	รับประกัน 3 ปีโดยตรงกับทาง Hafele ประเทศไทย
ควบคุมการทำงานด้วยระบบมือหมุนลูกบิด
สามารถปรับระดับความร้อนได้ 5 ระดับ
มีฟังก์ชันละลายอาหารแช่แข็งได้ตามน้ำหนัก

ใครที่กำลังอยากได้ไมโครเวฟสีสันจัดจ้านขนาดเล็กกะทัดรัดแต่ยังไม่รู้จะเลือกไมโครเวฟ ยี่ห้อไหนดี ผลิตภัณฑ์จาก HAFELE รุ่น 495.06.432 RED CUTE (3-SERIES) เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ รุ่นนี้เหมาะสำหรับการอุ่นอาหาร ละลายน้ำแข็ง และปรุงอาหารให้สุก เป็นไมโครเวฟสีแดงโดดเด่นสะดุดตา ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับมุมทำอาหารได้อย่างลงตัว พร้อมระบบควบคุมแบบลูกบิดที่ใช้งานง่าย แข็งแรงทนทาน สามารถปรับความร้อนได้ถึง 5 ระดับ พร้อมโปรแกรมละลายน้ำแข็งได้ตามน้ำหนัก สินค้ามีรับประกัน 3 ปีโดยตรงกับทาง Hafele ประเทศไทย

8. ไมโครเวฟ Xiaomi YouPin รุ่น QCOOKER CR-WB01B

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดความจุ 20 ลิตร กำลังไฟ 700W	มีการรับประกันจากผู้ขาย
ควบคุมการทำงานด้วยระบบมือหมุนรอกเบส	เมนูเป็นภาษาจีน
สามารถปรับความร้อนได้ 6 ระดับเพื่อให้เหมาะสมกับประเภทของอาหาร
ระบบกระจายความร้อนแบบ 360 องศา ทั้งบนละล่าง

สำหรับใครที่กำลังอยากได้ไมโครเวฟดีไซน์เรียบง่ายสวยงามแบบวินเทจ ขนาดกะทัดรัดกำลังดี บอกเลยว่ารุ่นนี้น่าสนใจมากกับไมโครเวฟ Xiaomi YouPin รุ่น QCOOKER CR-WB01B ถึงแม้ว่าเมนูจะเป็นภาษาจีนแต่ก็สามารถใช้งานได้ไม่ยาก เพราะใช้การควบคุมแบบมือหมุนลูกบิด สามารถปรับความร้อนได้ 5 ระดับที่มีนวัตกรรม Magnetron และระบบการหมุน 360 องศา ช่วยกระจายความร้อนอย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ มาพร้อมสีสันสวยบาดตาและราคาที่ยากจะปฏิเสธ

9. ไมโครเวฟ MEX รุ่น M120E

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดความจุ 30 ลิตร กำลังไฟ 1,600 วัตต์	มีการรับประกันสินค้าโดยผู้ผลิต
ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (มือหมุนลูกบิดและปุ่มกด)	ขนาด 3.9 x 33.0 x 25.8 cm. น้ำหนัก 10.4 kg.
มีโปรแกรมปรุงอาหารอัตโนมัติ 8 เมนู พร้อมโปรแกรมปรุงอาหารแบบเร่งด่วน
สามารถปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 100-250 องศา

ไมโครเวฟ MEX รุ่น M120E ไมโครเวฟขนาดเล็กกะทัดรัดกำลังดีที่มาพร้อมระบบย่างในตัว สามารถอบอาหารพร้อมย่างได้ ตั้งเวลาอบอาหารอัตโนมัติได้สูงสุดถึง 95 นาที และย่างด้วยกำลังไฟสูงสุด 1000 วัตต์ พร้อมโปรแกรมปรุงอาหารอัตโนมัติ 8 เมนู และปรุงอาหารแบบเร่งด่วน 30 วินาที สามารถปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 100-250 องศาพร้อม ฟังก์ชันละลายอาหารแช่แข็งโดยการตั้งเวลาหรือตามน้ำหนัก ให้คุณปรุงอาหารได้หลากหลายเมนูมากกว่าที่เคย 

10. ไมโครเวฟ ELECTROLUX รุ่น EMM20K18GW

จุดเด่น	ข้อสังเกต/คำแนะนำ
ขนาดความจุ 20 ลิตร กำลังไฟ 800 วัตต์	รับประกันตัวเครื่อง 2 ปี
ควบคุมการทำงานด้วยระบบมือหมุนลูกบิด	ขนาด 45.1 x 34.3 x 25.8 cm. น้ำหนัก 11.29 kg.
สามารถปรับความร้อนได้ 5 ระดับ
ประตูกระจก ทนทานต่อแรงกระแทก

มาปิดท้ายรายชื่อไมโครเวฟ ยี่ห้อไหนดีของเรากันด้วยไมโครเวฟ ELECTROLUX รุ่น EMM20K18GW ที่มากับขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับการอุ่น ละลายน้ำแข็ง และปรุงอาหารให้สุก สามารถปรับความร้อนได้ 5 ระดับ ตั้งเวลาในการทำอาหารและมีสัญญาณเตือนเมื่อทำอาหารเสร็จ มีจานหมุนที่ช่วยกระจายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น พร้อมดีไซน์เรียบง่าย น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก  เหมาะสำหรับการใช้งานในหอพัก คอนโด หรือพื้นที่ขนาดเล็ก 

บทส่งท้ายจากผู้เขียน

ผ่านไปแล้วกับ 10 รุ่น ไมโครเวฟจากแบรนด์ต่างๆ ทั้ง SHARP, TOSHIBA, Electrolux, SAMSUNG, Midea, HAIER, HAFELE, Xiaomi YouPin และ MEX โดยก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อไมโครเวฟ ยี่ห้อไหนดีหรือว่ารุ่นไหน สิ่งที่ต้องพิจารณาดูก่อนเลยก็คือความต้องการใช้งานของเราว่าเป็นแบบไหน ถ้าหากอยากได้ไมโครเวฟเพียงแค่อุ่นอาหาร ละลายน้ำแข็ง ปรุงอาหารให้สุกง่ายๆ ก็เลือกเป็นไมโครเวฟแบบทั่วไปก็ได้ แต่ถ้าหากอยากได้ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเพื่อตอบโจทย์การทำอาหารได้อย่างหลากหลายมากกว่า ก็แนะนำให้เลือกเป็นไมโครเวฟที่มาพร้อมระบบย่างในตัว และที่สำคัญเลยก็คือต้องเลือกยี่ห้อที่ไว้จะได้และมีการรับประกันหลังการขาย เพราะถ้าหากมีปัญหาเกิดขึ้นก็จะได้มีที่เคลมสินค้านั่นเอง