ผมเรียบตรงเส้นผมเรียงตัวสวยคือหนึ่งในทรงผมเบสิกที่ช่วยในการเสริมสร้างบุคลิกของเราให้ดูดี ได้ในทุกสถานการณ์ เรียกได้ว่าเป็นทรงผมกันตายสำหรับทุกคนที่วันไหนรีบ ๆ คิดอะไรไม่ออก ต้องมาจบที่เครื่องหนีบผมทุกที แต่เครื่องหนีบตรงก็มีมากมายหลายรูปแบบ เราจะมีวิธีเลือกเครื่องหนีบผมตรงยังไง และ เครื่องหนีบผมตรง ยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนเด็ด ตามมาเลยเพราะในบทความนี้เรารวบรวมมาให้แล้ว
วิธีเลือกเครื่องหนีบผมตรง
ก็อย่างที่บอกว่าเจ้าเครื่องหนีบผมตรงเนี่ยมีมากมายหลายแบบดังนั้นก่อนจะไปดูว่าเครื่องหนีบผมตรง ยี่ห้อไหนดี เรามาดูวิธีการเลือกกันก่อนดีกว่า
1. เลือกตามวัสดุทำแผ่นหนีบ
วิธีเลือกเครื่องหนีบผมตรง ยี่ห้อไหนดีที่ง่ายที่สุดคือการเลือกตามวัสดุที่ใช้ทำแผ่นหนีบผม เพราะแผ่นหนีบผมเป็นส่วนที่สัมผัสกับเส้นผมโดยตรง วัสดุแต่ละชนิดต่างก็มีคุณสมบัติที่เหมาะกับเส้นผมแต่ละแบบแตกต่างกันออกไป
- ไทเทเนียม (Titanium) ไทเทเนียม เป็นวัสดุที่มีประสิทธิภาพในการให้ความร้อนได้สูงที่สุด ทั้งยังทำความร้อนได้อย่างรวดเร็ว สม่ำเสมอ จึงเหมาะกับผู้ที่มีเส้นผมหนา หยิก หรือหยักศก แต่คนที่มีเส้นผมบาง อ่อนแอ ควรหลีกเลี่ยง เพราะเสี่ยงต่อการที่เส้นผมจะถูกความร้อนจนไหม้ หรือกรอบได้
- เซรามิก (Ceramic) เซรามิกเป็นวัสดุที่นิยมนำมาทำเป็นแผ่นหนีบมากที่สุด เพราะทำความร้อนได้เร็ว กระจายความร้อนได้ทั่วถึง สม่ำเสมอ ช่วยถนอมเส้นผมไม่ให้โดนความร้อนโดยตรง จึงไม่ทำให้ผมเสีย หรือเปราะ ขาดง่าย วัสดุเซรามิกจึงเหมาะกับผมทุกประเภท และวัสดุเซรามิกบางรุ่นมักจะเคลือบด้วยสารต่าง ๆ เช่น ทัวร์มาลีน เคราติน น้ำมันต่าง ๆ ที่นอกจากจะช่วยให้หนีบผมได้ลื่นขึ้นแล้ว ยังช่วยในการบำรุงได้อีกด้วย แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ก็คุ้มค่า ถ้าให้เราแนะนำว่า เครื่องหนีบผมตรง ยี่ห้อไหนดี หากไม่ติดเรื่องราคา รุ่นที่มีสารเคลือบบำรุงเพิ่มเติมเข้ามาก็เป็นตัวเลือกน่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะ
- ทัวร์มาลีน (Tourmaline) ทัวร์มาลีน คือ แร่ชนิดหนึ่ง ที่นิยมนำมาเคลือบบนแผ่นหนีบ บางคนก็เรียกว่าแผ่นไอโอนิค เพราะสามารถผลิตไอออนประจุลบออกมา ไอออนประจุลบ จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ลดความชี้ฟู ทำให้เส้นผมสุขภาพดี แผ่นหนีบเคลือบทัวร์มาลีนสามารถทำงานได้ดีแม้ใช้อุณหภูมิต่ำ ทำให้เหมาะกับคนที่มีผมแห้งเสีย ขาดน้ำหนัก
2. เลือกตามรูปทรงด้านนอกของเครื่องหนีบผม
รูปทรงด้านนอกของเครื่องหนีบผมตรง เป็นสิ่งที่ช่วยในการจัดแต่งทรงผมเช่นกัน แม้ว่ารูปทรงด้านนอกจะไม่สามารถบอกได้ว่า เครื่องหนีบผมตรง ยี่ห้อไหนดี แต่รูปทรงภายนอกของเครื่องหนีบผม กลับมีผลต่อการจัดแต่งทรงผมด้วยเครื่องหนีบอยู่พอสมควรเลยค่ะ
- รูปทรงโค้งมน เครื่องหนีบผมตรงที่ด้านนอกมีรูปทรงโค้งมน มักจะมีแผ่นหนีบที่มีความแคบ เพราะนอกจากจะใช้ในการหนีบผมตรงแล้วยังเหมาะกับการม้วนผมจัดลอน เพราะความโค้งมนของรูปทรงด้านนอกของเครื่องหนีบผมตรง โค้งรับกับโรลของผม ไม่ทำให้เส้นผมหักตามเหลี่ยมมุมเหมือนรูปทรงแบน
- รูปทรงแบน รูปทรงแบนส่วนใหญ่จะมีขนาดแผ่นหนีบกว้าง ที่เหมาะกับการหนีบผมตรงมากที่สุด เพราะยิ่งแผ่นหนีบกว้างเท่าไหร่ ยิ่งหนีบผมได้รวดเร็วขึ้นเท่านั้น ซึ่งรูปทรงแบนก็สามารถม้วนลอนได้แต่ต้องอาศัยความชำนาญพอสมควร
3. เลือกความกว้างที่เหมาะกับความยาวของผม
วิธีเลือกเครื่องหนีบผมแบบนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก เพราะสาว ๆ ส่วนใหญ่มักจะสลับสับเปลี่ยนระหว่างผมยาวและผมสั้นอยู่ตลอดเวลา และไม่มีเครื่องหนีบผมตรง ยี่ห้อไหนดีที่สุดสำหรับทุกขนาดความยาวของเส้นผม แต่เราก็ควรรู้จักวิธีเลือกเครื่องหนีบผมตรงให้เหมาะกับขนาดความยาวของเส้นผม
- ผมสั้น หรือ ผมผู้ชายที่ตัดสั้น ควรเลือกเครื่องหนีบผมตรง ที่มีแผ่นหนีบกว้าง 9 – 15 มิลลิเมตร หรือเครื่องหนีบผมตรงแบบสลิมที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด เพราะสามารถจัดการเส้นผมปอยเล็ก ๆ ที่กระดกเป็นหางเป็ดออกมาได้ง่ายกว่า ทั้งยังจัดทรงได้สะดวกกว่าเครื่องหนีบผมตรงขนาดใหญ่
- ผมยาวปานกลาง หรือยาวประบ่า หรือผมทรงบ็อบ ควรเลือกใช้เครื่องหนีบผมที่มีแผ่นหนีบกว้าง 25 – 35 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานทั่วไป ด้วยขนาดที่กำลังดี จึงใช้งานง่าย สามารถใช้จัดทรง ม้วนลอนได้ และยังเหมาะกับมือใหม่หัดหนีบผมอีกด้วย
- ผมยาว วิธีเลือกเครื่องหนีบผมสำรับสาว ๆ ที่มีผมยาวเลยบ่า ควรเลือกที่มีแผ่นหนีบใหญ่ที่สุด เพราะคนที่มีผมยาวหรือหนาส่วนใหญ่จะต้องใช้เวลาในการหนีบผมค่อนข้างนาน ควรเลือกใช้เครื่องหนีบผมตรงที่มีแผ่นหนีบกว้าง 40-45 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถหนีบผมเป็นบริเวณกว้างได้ ทำให้จัดแต่งทรงผมได้รวดเร็ว ประหยัดเวลา แต่ข้อเสียคือ ด้วยขนาดที่แบนและใหญ่ จึงมีน้ำหนักมาก ไม่เหมาะกับการจัดแต่งทรงเฉพาะจุด หรือการม้วนลอนนัก
4. เลือกตามระดับความร้อน
ระดับความร้อนก็เป็นอีกวิธีเลือกเครื่องหนีบผมที่สาว ๆ หลายคนเลือกใช้ เพราะสภาพเส้นผมแต่ละแบบใช้ความร้อนไม่เหมือนกัน
| ความร้อน 40°C | เหมาะกับผมเสียมาก ผมที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟู |
| ความร้อน 10°C – 160°C | เหมาะกับผมแห้งเสียมาก ต้องการการจัดทรงไม่มากนัก |
| ความร้อน 100°C – 160°C | เหมาะกับผมเส้นเล็ก และผมที่แห้งเสียเล็กน้อยถึงปานกลาง |
| ความร้อน 160°C – 180°C | เหมาะกับเส้นผมหนาปานกลาง สุขภาพดีไม่แห้งเสีย |
| ความร้อน 180°C – 220°C | เหมาะกับผมเส้นใหญ่ หนา หรือผมที่จัดทรงยาก |
| ความร้อน 180°C – 240°C | เหมาะกับผมเส้นใหญ่ หนา หยิก ผมเส้นหยาบ |
| ความร้อนไม่เกิน 200°C | ผมทำสีไม่ควรใช้ความร้อนเกิน 200°C เพราะจะทำให้สีผมซีดจางเร็ว |
ระดับความร้อนไม่สามารถบอกได้ว่า เครื่องหนีบผมตรง ยี่ห้อไหนดีที่สุด แต่ควรเลือกเครื่องหนีบผมที่สามารถการรักษาระดับความร้อนให้คงที่ ป้องกันไม่ให้ความร้อนมากเกินกว่าที่เราต้องการใช้ จนกลายเป็นทำร้ายเส้นผม หรือความร้อนลดต่ำเกินไป จนทำให้ต้องหนีบผมซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบค่ะ
วิธีเลือกเครื่องหนีบผมตรงข้างต้นน่าจะพอใช้เป็นไกด์สำหรับการเลือกเครื่องหนีบผมให้เหมาะกับเส้นผมและการใช้งานของคุณสาว ๆ แต่ถ้าหากวิธีเลือกเครื่องหนีบผมยังไม่เพียงพอที่จะทำให้คุณมั่นใจ เราขอแนะนำ 10 รุ่น เครื่องหนีบผมตรง ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนน่าใช้ ในหลากหลายราคา ให้คุณใช้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจค่ะ
แนะนำ 10 รุ่น เครื่องหนีบผมตรง ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนน่าใช้
1. Panasonic รุ่น EH-HV20
เริ่มรายชื่อเครื่องหนีบผมตรง ยี่ห้อไหนดีกันเลยกับ Panasonic EH-HV20 เครื่องหนีบผม 2 in 1 ที่ให้ความร้อนได้สูงสุดถึง 230°C ร้อนเร็วใช้เวลาเพียง 15 วินาที ในการทำความร้อนที่ระดับ 100°c พร้อมใช้งานได้ทันที สามารถปรับอุณหภูมิได้ 3 ระดับคือ 180°C, 200°C และ 230°C ในส่วนของแผ่นหนีบเคลือบด้วยโฟโต้เซรามิก ที่มีคุณสมบัติกระจายความร้อนได้สม่ำเสมอ ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นของเส้นผมได้ถึง 20% และช่วยลดปัญหาสีผมซีดจางได้ถึง 40% รุ่นนี้จึงเหมาะกับสาวที่ทำสีผม และสาว ๆ ที่มีเวลาน้อย เพราะสามารถทำความร้อนได้เร็ว ทำให้เส้นผมชุ่มชื้น เงางาม ไม่แห้งเสีย และสีผมไม่ซีดจางเร็ว สามารถใช้ได้ทั้งหนีบผมให้เรียบตรง และม้วนลอนขนาดปานกลาง ให้ผมสวยครบได้ในหนึ่งเดียว
2. Super V Inter รุ่น SU186
เครื่องหนีบผม “ถูกและดี” ที่ช่างทำผมและร้านซาลอนนิยมใช้ โดย Super V Inter รุ่น SU186 สามารถปรับระดับความร้อนได้ถึง 4 ระดับ คือ 220°C, 200°C, 180°C และ 160°C ร้อนเร็วพร้อมใช้งานใน 30 วินาที ตัวแผ่นหนีบมีขนาด 32 มิลลิเมตร มีรองหวีในตัว ความกว้างของแผ่น กว้าง x ยาว = 3.2x 10 ซม. ตัวแผ่นหนีบเคลือบด้วย Ionic ช่วยทำให้ผมเรียบรื่น เงางาม ตัวเครื่องทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน สามารถจัดแต่งทรงผมได้หลากหลาย เป็นเครื่องหนีบผมที่จัดว่าเป็นรุ่น “ถูกและดี” ทำความร้อนได้เร็วพอสมควร ทั้งยังทนทาน จึงเป็นที่นิยมใช้ในร้านทำผม ซาลอนต่าง ๆ
3. Remington Keratin Protect Intelligent Straightener
Remington Keratin Protect Intelligent Straightener รุ่น S-8598 เครื่องหนีบผมที่มาพร้อมเซ็นเซอร์อัจฉริยะ โดดเด่นด้วยเซ็นเซอร์ป้องกันความร้อนอัจฉริยะคอยตรวจจับความชื้นในเส้นผมและปรับอุณหภูมิความร้อนอย่างต่อเนื่อง 8 ครั้งต่อวินาที เพื่อปล่อยความร้อนในระดับที่เหมาะสมกับเส้นผม จึงช่วยลดและป้องกันผมแห้งเสียได้ถึง 3 เท่า ร้อนเร็วภายใน 15 วินาที ร้อนไวด้วยฟังก์ชั่นเทอร์โบ บูสท์ ที่สามารถปรับอุณหภูมิความร้อนถึง 230°C ได้ในครั้งเดียว แผ่นหนีบแอดวานซ์เซรามิกแบบลอยทำให้ยืดหยุ่น สามารถรองรับการหนีบและแรงกดได้ทุกสภาพเส้นผม และแผ่นหนีบยังเคลือบด้วยเคราตินและน้ำมันอัลมอนด์ ที่ช่วยทำให้ผมนุ่ม เรียบสวย ดูเงางาม
4. Babyliss PRO รุ่น Nano Titanium
เครื่องหนีบผมตรง ยี่ห้อไหนดี ที่หนีบได้ลื่น ไม่กินเส้นผม ต้อง Babyliss PRO รุ่น Nano Titanium มีจุดเด่นอยู่ที่แผ่นหนีบหน้ากว้าง 38 มิลลิเมตร แผ่นใหญ่หนีบได้ทั่วถึง เคลือบด้วยนาโนไททาเนียม ช่วยให้หนีบผมได้ลื่น ไม่กินเส้นผม ลดการเกิดไฟฟ้าสถิต ให้ผมเรียบตรง ไม่ชี้ฟู ทั้งยังถนอมเส้นผมอย่างอ่อนโยน Babyliss PRO รุ่น Nano Titanium ปรับความร้อนได้ 3 ระดับ ทำความร้อนสูงสุดถึง 230°C และสามารถรักษาความร้อนได้อย่างเสถียร ปล่อยความร้อนต่อเนื่องได้ยาวนาน พร้อมจอแสดงผลบอกอุณหภูมิแบบดิจิตอลแสดงค่าได้อย่างแม่นยำ อ่านง่าย เพิ่มความปลอดภัยและประหยัดไฟฟ้าด้วยระบบปรับความร้อนลงอัตโนมัติหากไม่มีการใช้งาน มาพร้อมสายไฟยาว 2.7 เมตร สามารถหมุนได้ 360 องศา ใช้งานได้สะดวกสุด ๆ
5. Lesasha รุ่น LS1180
ต่อกันเลยกับเครื่องหนีบผมรุ่นยอดนิยมอีกรุ่นจาก Lesasha ที่มาพร้อมกับแผ่นหนีบเคลือบทัวร์มาลีนและเคราติน ช่วยคงความชุ่มชื้นให้เส้นผม ให้ผมไม่แห้งกระด้าง ดูเงางาม และช่วยปกป้องผมจากความร้อน พลังไอโอนิคที่ปล่อยออกมาจากช่องด้านล่าง จะช่วยลดไฟฟ้าสถิตบนเส้นผม ทำให้ผมตรงเร็วขึ้น ดูมีน้ำหนัก เรียงตัวสวย ไม่ชี้ฟู ตัวแผ่นหนีบเป็นแบบสปริง ที่เรียกว่า Floating Plate ช่วยให้หนีบลื่น โดยไม่กดรั้งและไม่ดึงเส้นผมจนทำให้ผมขาด และยังมีร่องหยักช่วยยึดผมขณะม้วน สำหรับใครที่อยากทำผมลอนหรือจัดแต่ทรงอย่างมีลูกเล่น นอกจากนี้ยังสามารถปรับอุณหภูมิตั้งแต่ 130 – 230°C ได้ด้วยระบบหน้าจอดิจิตอล และสายไฟหมุนได้ 360 องศา
6. Philips รุ่น BHS674
Philips BHS674 เครื่องหนีบผมรุ่นดังจาก Philips มาพร้อมกับแผ่นหนีบยาวพิเศษ 105 มิลลิเมตร เคลือบเซรามิกที่ช่วยให้หนีบผมได้ลื่นไหล ป้องกันผมเสีย และถนอมเส้นผมด้วยการปล่อยประจุไอออนลบที่ช่วยลดไฟฟ้าสถิต ปรับสภาพเส้นผมด้วยการปิดผิวชั้นนอกของเส้นผม ทำให้เส้นผมดูเงางาม เรียบตรง ไม่หยิกชี้ฟู สามารถทำความร้อนได้รวดเร็ว พร้อมใช้งานได้ใน 30 วินาที ทั้งยังสามารถปรับอุณหภูมิด้วยระบบดิจิตอลได้ 10 ระดับ อุณหภูมิสูงสุด 220°C เพิ่มความใส่ใจด้วยส่วนปลายของเครื่องหนีบผม ทำจากวัสดุทนความร้อนพิเศษ เพื่อให้สามารถจับได้โดยไม่ร้อนมือ และระบบปิดการทำงานอัตโนมัติหลังจาก 60 นาที สายไฟยาว 1.8 เมตร หมุนได้ 360 องศา ใช้งานง่ายสายไม่พัน
7. Kemei Hair Straightener รุ่น KM-531
Kemei Hair Straightener รุ่น KM-531 เครื่องหนีบผมราคาหลักร้อยแต่คุณภาพเกินราคา สามารถปรับอุณหภูมิได้ 4 ระดับ ตั้งแต่ 160°C, 180°C, 200°C และสูงสุด 220°C ด้วยปุ่มเพียงปุ่มเดียว ทำความร้อนได้เร็วเพียง 30 วินาทีก็พร้อมใช้งาน แผ่นหนีบทำจากเซรามิก (Ceramic Hot Plates) กระจายความร้อนได้ทั่วถึง ช่วยถนอมเส้นผมไม่ให้โดนความร้อนโดยตรง จึงไม่ทำให้ผมเสีย หรือเปราะ ขาดง่าย และทำให้ผมที่ผ่านการหนีบเงางามมากขึ้น สามารถจัดแต่งทรงผมได้ทั้งแบบหนีบเรียบตรง หรือจัดลอน รูปทรงถูกออกแบบมาให้มีลักษณะปลายแบน ทำให้ใช้นิ้วมือจับได้ง่ายขึ้น และสามารถใช้ได้แม้ผมเปียกหมาด ๆ ทำให้ประหยัดเวลาไม่ต้องรอเป่าให้ผมแห้งสนิทก่อนหนีบ
8. Remington รุ่น S9600
ให้การหนีบผมเป็นเรื่องง่าย ด้วยเครื่องหนีบผม Remington รุ่น S9600 เครื่องหนีบผมพลังไอออนนิค ลดการเกิดไฟฟ้าสถิต ทำให้ผมเรียบสวยไม่ชี้ฟู พร้อมแผ่นหนีบยาว 110 มิลลิเมตร เคลือบด้วยแอดวานซ์ ซิลค์ เซรามิก (Advanced Silk Ceramic Coating) ที่ทำให้หนีบได้ลื่นกว่า เส้นผมเงางามเป็นประกายดุจใยไหม ตัวเครื่องทำความร้อนได้ตั้งแต่ 150°C – 235°C พร้อมฟังก์ชันล็อคอุณหภูมิเพื่อให้ความร้อนคงที่สม่ำเสมอ และเทอร์โบบูสท์ 240°C ที่ร้อนเร็วภายใน 10 วินาที ปลอดภัยด้วยระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้ต่อเนื่องหลัง 60 นาที ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุคุณภาพดี ทนทาน มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก และสายไฟยาว 3 เมตร ทำให้ใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องหาปลั๊กต่อเพิ่ม
9. Coolastyler
เครื่องหนีบผมประจุไออนลบ Coolastyler มาพร้อมระบบสัมผัสและเทคโนโลยีประจุไออนลบที่ช่วยให้ผมที่แห้งชี้ฟู กลับมามีประกายเงางาม โดยการปล่อยประจุไอออนลบถึง 3 ล้านตัว/cm3 ซึ่งช่วยป้องกันไฟฟ้าสถิตและทำให้เกล็ดผมกลับมาปิดสนิท จึงทำให้เส้นผมเงางาม เรียบลื่นไม่แตกปลาย หรือชี้ฟู แผ่นหนีบเซรามิกเคลือบด้วยน้ำมันสกัดจาก Morocco Argan oil ช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มลื่น เงางาม ลดการเสียดสีกับเส้นผมและป้องกันไม่ให้เส้นผมถูกทำร้ายจากความร้อนมากเกินไป ปรับอุณหภูมิด้วยระบบสัมผัสได้ 8 ระดับ ตั้งแต่ 160°C –230°C ทำความร้อนได้รวดเร็วพร้อมใช้งานใน 12 วินาที ด้ามจับผลิตจากวัสดุ Polymer คุณภาพเยี่ยมที่กันความร้อนได้ดี ทั้งหมดนี้ในราคาไม่ถึงพัน
10. Create Ion รุ่น Hybrid Straight
ส่งท้ายเครื่องหนีบผมตรง ยี่ห้อไหนดีกับ Create Ion รุ่น Hybrid Straight ที่มาปฏิวัติทุกมิติของการทำผมด้วยเทคโนโลยี Ionx2 Technology เทคโนโลยีลิขสิทธิ์จากญี่ปุ่น ที่มีช่องปล่อยประจุไอออนแยกส่วน ทำให้ผมเงางาม ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ มาพร้อมกับเทคโนโลยีอินฟาเรด ที่อยู่ตรงแผ่นหนีบผมด้านบน ทำหน้าที่ช่วยลดความมันบนเส้นผม ล็อคผมให้พลิ้วสวยอยู่ทรงยาวนานตลอดทั้งวัน และเพิ่มความยืดหยุ่นในการหนีบด้วย Cushion Plate ที่แผ่นหนีบทั้งสองด้าน ช่วยลดการกดทับเส้นผมไม่ทำให้เส้นผมลีบแบนหรือฉีกขาด สามารถปรับความร้อนได้ 8 ระดับ ตั้งแต่ 80°C – 220°C ปลอดภัยด้วยระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อเปิดทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง Create Ion รุ่น Hybrid Straight เครื่องหนีบผมที่จะทำให้ผมของคุณดูเรียบสวย สุขภาพดีขึ้น 2 เท่า รู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
เครื่องหนีบผมตรง ยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนเลิศ ที่เราคัดมาให้ 10 รุ่น มีรุ่นไหนถูกใจคุณสาว ๆ กันบ้าง แต่ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีเลือกเครื่องหนีบผมตรงแบบไหน หรือจะสนใจรุ่นไหน ยี่ห้อใดก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องคำนึงถึงคือ คุณภาพ ความปลอดภัย และการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อปกป้องผมจากความร้อนก่อนหนีบผมทุกครั้ง เพื่อให้เส้นผมของเรามีสุขภาพดี ไม่ถูกทำร้ายจากความร้อน และเส้นผมสวย ๆ จะได้อยู่คู่กับเราไปนาน ๆ นั่นเอง
