ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี แห้งทันใจ เสียงไม่ดัง 2024

ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี best Hair Dryer 01
ภาพจาก shopee.co.th

ไดร์เป่าผมนั้นเรียกว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กที่หลายคนอาจจะมองว่าไม่สำคัญแต่ก็ถือได้ว่าเป็นไอเทมที่ขาดไปไม่ได้ เพราะช่วยทำให้ผมของเรานั้นแห้งเร็วขึ้นและเป็นทรงมากกว่าการเป่าด้วยพัดลมตามปกติ นอกจากนี้บ้านใครที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ก็อาจจะใช้ไดร์เป่าผมเพื่อเป่าให้ผมแห้งหลังจากอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงแสนรักได้อีกด้วย หลายคนอาจคิดว่าไดร์เป่าผมก็คล้ายๆ กันหมดเพียงแค่เป่าลมร้อนออกมาเท่านั้น แต่ทราบหรือไม่ว่าไดร์เป่าผมที่มีวางจำหน่ายกันอยู่ในปัจจุบันนั้นต่างก็มีคุณสมบัติและความสามารถในการดูแลเส้นผมที่แตกต่างกันออกไป ส่วนจะเลือกไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง เรามีมาฝากกันถึง 10 รุ่นด้วยกัน

วิธีเลือกไดร์เป่าผม

ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี เรามาดูวิธีการเลือกไดร์เป่าผมกันก่อนว่าจะต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง ซึ่งการเลือกไดร์เป่าผมหลักๆ แล้วก็จะต้องดูจากคุณสมบัติต่างๆ ดังต่อไปนี้

1. เลือกจากวัสดุที่ใช้

ต้องบอกว่าวัสดุที่ใช้ทำไดร์เป่าผมที่มีความแตกต่างกันก็จะทำให้ประสิทธิภาพของไดร์เป่าผมนั้นมีความแตกต่างกันไปด้วย โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้

  • ไดร์เป่าผมที่เป็นแบบไอโอนิกหรือทัวร์มาลีน ถ้าหากคุณเป็นคนที่มีผมแห้งหนาชี้ฟูแนะนำให้เลือกใช้ไดร์เป่าผมที่เป็นแบบไอโอนิกหรือทัวร์มาลีน เพราะทัวร์มาลีนนั้นเป็นแร่ธาตุที่สามารถปล่อยประจุลบได้เข้มข้นที่สุดจึงช่วยทำให้เส้นผมแห้งเร็วขึ้น อีกทั้งช่วยรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผมไม่ให้แห้งเสีย ซึ่งไดร์เป่าผมแบบไอออนิกหรือทัวร์มาลีนนั้นเหมาะสำหรับผมทุกประเภทที่แห้งได้ยาก เพราะช่วยทำให้น้ำระเหยออกไปได้เร็วขึ้นจึงทำให้ผมแห้งเร็วขึ้นนั่นเอง
  • ไดร์เป่าผมแบบไททาเนียม สำหรับคนที่มีผมหนา เส้นใหญ่ สามารถเลือกไดร์เป่าผมแบบไททาเนียมที่ให้ความร้อนจัดรวมไปถึงให้อุณหภูมิคงที่และสม่ำเสมอได้ดีกว่า ช่วยทำให้ผมแห้งเร็วขึ้นได้มาก นอกจากนี้วัสดุที่เป็นไทเทเนียมนั้นก็ยังมีน้ำหนักน้อยกว่าพวกเซรามิคหรือพอร์ซเลน จึงทำให้สามารถถือไดร์เป่าผมเอาไว้ได้นานโดยที่ไม่รู้สึกเมื่อยอีกด้วย
  • ไดร์เป่าผมพลาสติกหรือโลหะเคลือบด้วยเซรามิคหรือพอร์ซเลน หากเส้นผมของคุณนั้นเป็นผมเส้นเล็ก ลีบแบน แนะนำให้เลือกไดร์เป่าผมที่เป็นโครงพลาสติกหรือโลหะแล้วเคลือบด้วยเซรามิคหรือพอร์ซเลนเพราะจะให้ความร้อนที่ไม่รุนแรงและสม่ำเสมอมากกว่าจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครที่มีผมเส้นเล็ก ลีบแบน แห้ง ขาดน้ำหนัก เพราะจะช่วยถนอมเส้นผมได้ดีกว่า นอกจากนี้ไดร์เป่าผมที่มีเซรามิคหรือพอร์ซเลนยังสามารถให้ไอออนลบเพื่อป้องกันไม่ให้ผมชี้ฟูและช่วยให้คุณเป่าผมได้แห้งเร็วขึ้น รวมไปถึงบางรุ่นก็จะมีเทคโนโลยีอินฟราเรดที่ใช้คลื่นพลังงานเข้าไปทำให้เส้นผมแห้งจากภายในสู่ภายนอก

2. เลือกจากกำลังไฟฟ้า

โดยปกติแล้วแรงลมและความร้อนของไดร์เป่าผมนั้นขึ้นอยู่กับกำลังไฟฟ้าที่มีอยู่ ดังนั้นการจะเลือกไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี สิ่งที่สำคัญก็คือจะต้องดูกำลังไฟฟ้าที่มากับตัวเครื่องด้วย หากอยากได้ไดร์เป่าผมที่สามารถใช้งานได้ดีแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีกำลังไฟตั้งแต่ 1,500 วัตต์ ขึ้นไป เพราะสามารถให้กำลังของมอเตอร์ที่มีความแรงจึงทำให้ลมที่เป่าออกมานั้นมีความเร็วและสามารถทำความร้อนได้ดีกว่า แต่ถ้าหากมีเส้นผมที่หนาและแห้งฟูมาก แนะนำให้เลือกไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟอยู่ในช่วง 1,800 วัตต์ ถึง 2,000 วัตต์ ซึ่งจะเป็นระดับของไดร์เป่าผมที่มักจะใช้กันในร้านทำผม ก็จะช่วยทำความร้อนและให้แรงลมที่ดีทำให้ผมแห้งเร็วยิ่งขึ้น

3. น้ำหนักของตัวเครื่อง

อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกไดร์เป่าผมก็คือน้ำหนักตัวเครื่อง ซึ่งต้องดูว่าไดร์เป่าผมรุ่นที่คุณเลือกนั้นสามารถถือได้ในช่วงระยะหนึ่งโดยที่ไม่ทำให้รู้สึกเมื่อยล้าหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่าในการเป่าผมนั้นคุณจะต้องถือไดร์เป่าผมเอาไว้อยู่ตลอดเวลา การเลือกไดร์เป่าผมที่มีน้ำหนักเบาสามารถจับได้ถนัดมือก็จะทำให้สามารถเป่าผมได้อย่างสะดวกและง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดยน้ำหนักที่แนะนำก็คืออยู่ในช่วงประมาณไม่เกิน 1 กิโลกรัมถือว่ากำลังเหมาะสม หรือถ้าหากใครต้องมีการพกไดร์เป่าผมใส่กระเป๋าออกไปนอกสถานที่อยู่บ่อยๆ ก็อาจจะเลือกไดร์เป่าผมที่มีน้ำหนักเบามากกว่านั้นและสามารถพับได้เพื่อความสะดวกในการพกพามากยิ่งขึ้น

4. การให้ความร้อน

การให้ความร้อนเป็นองค์ประกอบสำคัญของอุปกรณ์นี้ โดยควรเลือกไดร์เป่าผมที่สามารถตั้งค่าความร้อนและแรงลมได้หลายระดับ ซึ่งถ้าต้องการไดร์เป่าผมที่สามารถใช้งานได้อย่างครอบคลุมแนะนำเป็นไดร์เป่าผมที่สามารถปรับได้ 3 ระดับก็คือ ต่ำ ปานกลาง และสูง อย่างเช่นใครที่มีผมบาง ผมเส้นเล็ก หรือผมแห้ง ก็ให้ตั้งค่าความร้อนและแรงลมเป็นระดับต่ำ ใครที่มีผมธรรมดาก็ใช้การตั้งค่าในระดับกลาง และใครที่มีผมหยาบหนา เส้นใหญ่ ก็เลือกตั้งค่าเป็นระดับสูง เป็นต้น

5. เลือกจากฟังก์ชั่นการใช้งานเสริม

ไดร์เป่าผมโดยทั่วไปแล้วจะมีในส่วนของฟังก์ชันการปรับระดับความแรงลมและความร้อนมาให้อยู่แล้ว แต่สำหรับใครที่มีความต้องการเพิ่มเติมเป็นพิเศษ ก็อาจมองหาไดร์เป่าผมที่มาพร้อมฟังก์ชันพิเศษเพิ่มเติมอย่างเช่น มีโหมดการเป่าลมเย็นเพื่อป้องกันผมแห้งฟูและช่วยถนอมหนังศีรษะ เพราะแทนที่จะเลือกเป่าด้วยลมร้อนจนผมแห้ง ถ้าหากไดร์เป่าผมรุ่นไหนมีโหมดเป่าลมเย็น เมื่อเป่าผมด้วยลมร้อนจนแห้งถึงประมาณ 80% แล้ว ก็ให้เปิดเป็นโหมดเป่าลมเย็นเพื่อปิดรูขุมขนช่วยถนอมหนังศีรษะและช่วยถนอมเส้นผมให้เรียบลื่นยิ่งขึ้น

6. อุปกรณ์เสริม

นอกจากนี้ในส่วนของอุปกรณ์เสริมที่มาในลักษณะของหัวเปลี่ยนที่ด้านปลายของไดร์เป่าผมก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข้อที่ควรพิจารณาสำหรับการเลือกไดร์เป่าผม อย่างเช่นใครที่มีผมหยิกชี้ฟู ผมหยักลอน การเลือกไดร์เป่าผมที่มีหัวเปลี่ยนแบบ diffuser หรือแบบกระจายลมมาให้ด้วยก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการกระจายลมร้อนได้มากขึ้นและทำให้หนังศีรษะไม่สัมผัสกับความร้อนมากจนเกินไปจนทำให้ผมแห้งชี้ฟู หรือหากใครที่ต้องการไดร์เป่าผมเพื่อช่วยทำให้ผมยืดตรงยิ่งขึ้นก็เลือกหัวเปลี่ยนแบบแบนเพื่อบีบแรงลมและความร้อนให้มีความเข้มข้นมากขึ้น ช่วยทำให้เส้นผมสามารถเรียบตรง หรืออาจจะเลือกเป็นไดร์เป่าผมที่มาพร้อมกับหวีในตัว เพราะจะสามารถช่วยทำให้ผมของคุณเรียบตรงได้มากขึ้นในขณะที่เป่าผม และยังสะดวกมากยิ่งขึ้นเพราะไม่ต้องคอยหยิบหวีมาใช้ในขณะที่กำลังเป่าผมนั่นเอง

7. ความปลอดภัย

ไดร์เป่าผมนั้นคืออุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่มีการใช้งานใกล้ชิดกับตัวเราค่อนข้างมาก หากมีอุบัติเหตุอะไรขึ้นมาย่อมมีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตราย นอกจากนี้ก็ยังอาจก่อให้เกิดอัคคีภัยได้อีกด้วย ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกไดร์เป่าผมจึงควรพิจารณาในเรื่องของระบบความปลอดภัยของตัวเครื่องด้วย อย่างเช่นมีระบบตัดไฟอัตโนมัติถ้าหากตัวเครื่องมีความร้อนมากผิดปกติหรือเกิดไฟฟ้าลัดวงจร เพราะถ้าหากมอเตอร์มีการทำงานมากจนเกิดความร้อนมากเกินไปอาจทำให้ตัวเครื่องเกิดการช็อตและลุกไหม้ขึ้นมาได้ ทางที่ดีแนะนำให้เลือกไดร์เป่าผมจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือได้จะเป็นการดีที่สุด

แนะนำ 10 อันดับ ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี

1. BHD720/10 Philips Hair Dryer 7000 Series

ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี BHD720 10 Philips Hair Dryer 7000 Series 01

เริ่มต้นรายชื่อไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี กันด้วย BHD720/10 Philips Hair Dryer 7000 Series ไดร์เป่าผมที่มาพร้อมเทคโนโลยี ThermoShield สุดล้ำจาก Philips ที่มีเซ็นเซอร์รับรู้อุณหภูมิเพื่อปกป้องเส้นผมจากความร้อนที่สูงเกินไป ปรับความร้อนและความเร็วพัดลมได้ทุกทรงอย่างมีประสิทธิภาพด้วยกำลังไฟ 1,800 วัตต์ มาพร้อมระบบดูแลเส้นผมด้วยไอออนสูงสุดกว่า 80 ล้าน ที่มีทั้งน้ำไอออนนำความชุ่มชื้นมาสู่เส้นผม, ไอออนแร่ธาตุช่วยปกป้องเส้นผมเสียจากรังสี UV ที่จะช่วยเสริมให้เส้นผมเงางาม จัดทรงง่ายไม่ชี้ฟู มีโหมดร้อนและเย็นอัจฉริยะเพื่อความสะดวกสบาย สามารถตั้งค่าความร้อนได้ 4 ระดับและความเร็วพัดลม 2 ระดับผ่านแผง LED ใช้งานง่าย ใช้พลังงานน้อยลงถึง 22% ตัวเครื่องเบาขึ้น 20% ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน มีหัวเป่าจัดทรงหลายแบบใช้งานง่ายเพราะมีแม่เหล็กดึงดูด ติดได้เป๊ะแม้ในช่วงเวลาเร่งรีบ และสามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัวในทุกมุมด้วยสายไฟที่ยาว 1.8 เมตร พร้อมมอบความปลอดภัยในการใช้งานยิ่งขึ้นด้วยระบบตัดไฟอัตโนมัติ

2. Xiaomi Mijia Negative Ion Hair Dryer H501

ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี Xiaomi Mijia Negative Ion Hair Dryer H501 01

ต่อกันเลยกับไดร์เป่าผมจากแบรนด์ Mijia ซึ่งเป็นสินค้าในเครือ Xiaomi มาพร้อมดีไซน์สวยงามกะทัดรัด มีสามสีให้เลือกซื้อ สีขาว,สีดำ และสีม่วง ออกแบบหัวเป่าให้มีการไหลเวียนของกระแสลมที่แรงพร้อมด้วยใบพัดที่มีขนาดใหญ่และกำลังไฟ 1600 วัตต์ สามารถปล่อยประจุไออนลบกว่า 200 ล้านเพื่อช่วยทำให้ผมแห้งได้ไวขึ้นและไม่ชี้ฟู สามารถปรับความแรงของลมได้ถึง 2 ระดับและอุณหภูมิลมได้ 4 แบบ ทำให้ผู฿้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนวิธีการเป่าได้ถึง 8 แบบอย่างอิสระมีการจดจำการตั้งค่าการเป่าผมแบบที่ชอบได้ ทำให้ไม่ต้องตั้งค่าซ้ำ ๆ ทุกครั้งที่ใช้งาน มีระบบแสดงผลของอุณหภูมิลมที่จะแสดงวงแหวนไฟสี 4 แบบ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเป่าผมได้อย่างสบายใจ มีประสิทธิภาพในการลดเสียงรบกวนหลายวิธีสายไฟมีความยาวมาให้ถึง 1.7 เมตรออกแบบมาให้ไม่พันกันจึงสะดวกสำหรับการนำไปใช้งานตามจุดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 345 กรัม พกพาสะดวก

3. Panasonic รุ่น EH-NA0J-AL

ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี Panasonic รุ่น EH NA0J AL 01

Panasonic EH-NA0J-AL ไดร์เป่าผมเครื่องเล็ก กะทัดรัดแต่ทรงประสิทธิภาพด้วยกำลังไฟถึง 1,600 วัตต์ ประสิทธิภาพในการเป่าผมให้แห้งได้เร็วขึ้นอย่างเหนือชั้น พร้อมปกป้องเส้นผมและหนังศีรษะของคุณไม่ให้เสียหายจากความร้อนที่มากเกินไปด้วย nanoe™ MOISTURE+ และ Mineral ที่จะช่วยดูแลเส้นผม ป้องกันสีผมซีดจางและผมเสีย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นถึง 18 เท่า มีระบบการตรวจจับอุณหภูมิโดยรอบเพื่อป้องกันไม่ให้สูงเกินไปจนเส้นผมเสียหายจากความร้อนที่มากเกินไป สามารถปรับกระแสลมได้ถึง 3 ระดับ มีโหมดสลับลมร้อน ลมเย็นได้อย่างอิสระ มีโหมดดูแลหนังศีรษะ ที่เป่าผมด้วยกระแสลมอ่อนโดยนที่ 50 องศา และโหมดดูแลผิว ที่จะเติมน้ำให้ผิวหลังอาบน้ำ ช่วยให้ผิวนุ่มละมุน ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุคุณภาพดีแข็งแรงทนทาน ออกแบบให้เหมาะสมตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อสะดวกต่อการจับถือ มีน้ำหนักโดยรวมเพียงแค่ประมาณ 460 กรัมเท่านั้น

4. Dyson supersonic

ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี Dyson supersonic

Dyson supersonic ไดร์เป่าผมยี่ห้อดังที่มอบศาสตร์แห่งการดูแลเส้นผมได้อย่างครอบคลุมในทุกสไตล์ มาพร้อมดิจิทัลมอเตอร์ขนาดเล็ก กำลังไฟ 1,600 วัตต์ ที่สามารถทำงานได้อย่างทรงพลัง มีเทคโนโลยี Air Multiplier และระบบควบคุมความร้อนอัจฉริยะ เทคโนโลยีล่าสุดที่ช่วยเป่าผมให้แห้งเร็วขึ้นโดยไม่ใช้ความร้อนมากจนเกินไป พร้อมปล่อยประจุลบเพื่อช่วยลดปัญหาเส้นผมชี้ฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากปลายนิ้วมืออาชีพ ออกแบบมาเพื่อดูแลเส้นผมและหนังศีรษะได้อย่างแท้จริง พร้อมหัวเป่า 5 รูปแบบสำหรับการจัดแต่งทรงผมได้ตามต้องการในสไตล์ที่เป็นคุณ ติดตั้งง่ายด้วยการประกอบติดกับแม่เหล็ก สามารถปรับความเร็วลมได้ 3 ระดับและความร้อนได้ถึง 4 ระดับ พร้อมโหมดลมเย็นเพื่อเส้นผมของคุณให้อยู่ทรง พร้อมให้คุณสามารถมีผมสวยได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยดีไซน์สวยหรูกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียงแค่ประมาณ 700 กรัมเท่านั้น หากไม่รู้จะเลือกไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี Dyson คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด

5. Remington Travel Dryer รุ่น D-2400

ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี Remington Travel Dryer รุ่น D 2400 01

Remington Travel Dryer รุ่น D-2400 ไดร์เป่าผมดีไซน์ขนาดเล็ก พกพาง่าย เหมาะสำหรับเดินทางพร้อมกำลังไฟเพียง 1,400 วัตถ์ ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย มีมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง อายุการใช้งานยาวนาน สามารถกระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึง ควบคุมการไหลเวียนของอากาศ ช่วยลดผมชี้ฟู เพื่อเส้นผมที่เงางาม สามารถตั้งค่าความร้อน/ความเร็วได้ 2 แบบ เพื่อให้ผมแห้งอย่างรวดเร็วและสะดวก นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกแรงดันไฟแบบคู่ที่สามารถใช้ในภูมิภาคและประเทศต่าง ๆ สามารถใช้งานได้ทั่วโลก ด้ามจับเป็นแบบพับเก็บได้ทำให้ประหยัดพื้นที่จัดเก็บในกระเป๋า รับประกันยาวนานถึง 2 ปี ราคาก็ไม่แรงเหมาะมากสำหรับสายท่องเที่ยวที่ต้องตะเวนไปในสถานที่ต่าง ๆ

6. Lesasha Airmax Extreme LS1200

ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี Lesasha Airmax Extreme LS1200

เลือกไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดีที่ราคาไม่แพงและพกพาง่าย ขอแนะนำ Lesasha Airmax Extreme LS1200 ไดร์เป่าผมขนาดเล็กราคาเบาๆ สีชมพูพาสเทลสุดหวานจาก Lesasha ที่มาพร้อมประสิทธิภาพเกินราคา ด้วยกำลังไฟ 1200 วัตต์ และหัวไดร์แบบแคบที่ช่วยทำให้พลังลมแรงโฟกัสได้ตรงจุด ทำให้เส้นผมแห้งเร็วและจัดทรงง่ายไม่ชี้ฟู หรือจะถอดออกเพื่อให้แรงลมกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้นก็ได้ มีขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาง่าย ออกแบบให้ด้ามจับสามารถพับเก็บได้ พร้อมให้คุณผมสวยได้ทุกที่ทุกเวลา มีปุ่มสำหรับปรับแรงลมได้ 2 ระดับและปุ่มเปิดปิด มีที่แขวนสายไฟช่วยเพิ่มความสะดวกในการจัดเก็บและประหยัดพื้นที่ และมาพร้อมสายไฟยาว 1.8 เมตร สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก

7. Super V Su 3600

ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี Super V Su 3600

Super V Su 3600 ไดร์เป่าผมที่ร้านเสริมสวยนิยมเลือกใช้ เป็นรุ่นที่ช่างผมมืออาชีพให้การยอมรับ มาพร้อมกำลังไฟ 2,100 วัตต์ รอบมอเตอร์ 19,000 RPM ให้แรงลมที่ทรงพลัง ดีไซน์สวยงามทันสมัยใช้วัสดุที่แข็งแรงทนทานได้มาตรฐาน สามารถปรับระดับความร้อนได้ 2 ระดับและปรับความเร็วลมได้ 2 ระดับ มีระบบเป่าลมเย็นและระบบไอออนเพื่อลดไฟฟ้าสถิตบนเส้นผม การทำงานเงียบไม่ส่งเสียงรบกวนมากจนเกินไป มาพร้อมหัวไดร์แบบปากแบนแคบเพื่อช่วยรีดแรงลมให้แรงขึ้นและไดร์ผมได้อย่างตรงจุด สามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างสะดวก

8. CKL-3900

ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี CKL 3900

ไปกันต่อกับ CKL-3900 ไดร์เป่าผมราคาเบาๆ ที่มาพร้อมประสิทธิภาพการใช้งานเกินราคาด้วยกำลังไฟ 2,000 วัตต์ ที่สามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับ และสามารถเลือกปรับอุณหภูมิร้อนเย็นได้ เหมาะสำหรับใช้งานในบ้านหรือร้านเสริมสวยรวมไปถึงใช้เป่าขนสัตว์เลี้ยงก็ได้เช่นกัน มีขนาดใหญ่เหมาะมือให้ลมที่แรงจึงทำให้ผมแห้งเร็วได้ดียิ่งขึ้น พร้อมด้ามจับที่ถนัดเหมาะมือและหัวไดร์แบบปากแบนแคบที่ช่วยบีบแรงลมได้อย่างตรงจุดทำให้ผมเรียบตรงอยู่ทรงมากยิ่งขึ้น พร้อมห่วงเก็บที่สามารถจัดเก็บได้อย่างสะดวกเพียงแค่แขวน ใครหาของดีราคาไม่แพงตัวนี้เลย

9. Philips Essential Care HP8120/00

ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี Philips Essential Care HP8120 00 01

Philips Essential Care HP8120/00 ไดร์เป่าผมขนาดเล็กทรงพลังแต่ให้ความอ่อนโยนสำหรับเส้นผมและหนังศีรษะ ด้วยกำลังไฟ 1,200 วัตต์ ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะของคุณได้อย่างอ่อนโยนด้วยเทคโนโลยี ThermoProtect ที่จะปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมมากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมและหนังศีรษะของคุณเสียหายจากความร้อนที่มากเกินไป มาพร้อมระบบเป่าลมเย็นและหัวเป่าแบบกระจายลมและแบบปากแคบเพื่อตอบโจทย์การดูแลเส้นผมได้อย่างตรงจุด สะดวกต่อการพกพาด้วยด้ามจับที่ถูกออกแบบมาให้พับเก็บได้ ให้คุณผมสวยได้ทุกที่ทุกเวลา ดีไซน์สวยงามน่าใช้พร้อมใช้วัสดุ ABS ผิวด้านและไฮกลอส พร้อมสายไฟยาว 1.5 เมตร มอบความสะดวกในทุกพื้นที่การใช้งาน

10. Panasonic EH-ND25-PL

ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี Panasonic EH ND25 PL

ส่งท้ายไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี กันด้วย Panasonic EH-ND25-PL ไดร์เป่าผมราคาน่ารักกำลังดีสีชมพูสวยงามพร้อมดีไซน์ขนาดเล็กกะทัดรัด ด้วยการออกแบบให้ด้ามจับสามารถพับได้เพื่อการพกพาที่สะดวกยิ่งกว่าให้คุณผมสวยได้ทุกที่ทุกเวลา ให้กำลังไฟสูงสุด 1,500 วัตต์พร้อมปรับแรงลมได้ 3 ระดับ มีระบบ Turbo Dry ให้สายลมแรงเพื่อให้ผมแห้งได้เร็วยิ่งขึ้น และระบบลมเย็นเพื่อการจัดแต่งทรงผมให้สวยยิ่งขึ้นกว่าเดิม ปลอดภัยด้วยระบบตัดไฟอัตโนมัติที่จะทำการตัดไฟทันทีเมื่อมีความร้อนในตัวเครื่องสูงเกินไป ภาพรวมถือว่าน่าใช้เอามากๆ

บทส่งท้ายจากผู้เขียน

และทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลดีๆ ที่เราได้นำมาฝากกันสำหรับประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกไดร์เป่าผมยี่ห้อไหนดี ซึ่งถ้าหากตามปกติแล้วไม่ค่อยได้ออกไปไหนก็อาจจะเลือกไดร์เป่าผมที่ไม่ต้องพับเก็บก็ได้ โดยเลือกรุ่นที่มีฟังก์ชันการใช้งานตอบโจทย์สำหรับเส้นผมของคุณได้มากที่สุด แต่ถ้าหากต้องมีการเดินทางไปไหนมาไหนอยู่บ่อยๆ ก็แนะนำให้เลือกซื้อไดร์เป่าผมตัวเล็กๆ ที่สามารถพับเก็บง่ายๆ สะดวกต่อการพกพาเอาไว้อีก 1 เครื่องสำหรับติดกระเป๋าเดินทางไปด้วยเพื่อให้คุณได้ผมสวยทุกที่ มั่นใจได้ในทุกวัน

หมวดหมู่