การออกกำลังกายอาจทำได้หลายรูปแบบ แต่ที่เรามักจะคุ้นเคยกันดี ก็คือการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง ซึ่งเป็นการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ โดยการออกแรงต้านเข้าไปที่บริเวณกล้ามเนื้ออยู่เป็นประจำ จนทำให้กล้ามเนื้อเกิดการปรับตัวและมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ใครที่ต้องการมี “ซิกซ์แพ็ค” (six packs) หรือต้องการมีรูปร่างสมส่วน การออกกำลังกายด้วยเวทเทรนนิ่งก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว ซึ่ง ดัมเบล (Dumbbells) คือ อุปกรณ์ออกกำลังกายที่สามารถช่วยเพิ่มแรงต้านให้กล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี และยังเป็นมีราคาค่อนข้างถูก ขนาดไม่ใหญ่มากนัก เหมาะที่จะมีไว้สำหรับใช้ออกกำลังกายที่บ้าน แต่จะมีวิธีการเลือกอย่างไรให้เหมาะสม เรามีวิธีเลือกดัมเบล พร้อมทั้งแนะนำ10 อันดับ ดัมเบล ยี่ห้อไหนดี ให้คุณได้เลือกใช้สำหรับฟิตหุ่นกัน
วิธีเลือก ดัมเบล ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับคุณมากที่สุด
ดัมเบล (Dumbbells) คือ ลูกน้ำหนัก ที่นำมาใช้เพื่อเป็นแรงต้านกล้ามเนื้อ ช่วยบริหารกล้ามเนื้อให้กระชับ ดูสมส่วน สวยงาม เป็นอุปกรณ์สำหรับเวทเทรนนิ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถซื้อหาได้ง่าย ใช้งานสะดวก ทนทาน มีราคาไม่สูงจนเกินไป และยังสามารถจัดเก็บอย่างไม่เปลืองพื้นที่ ส่วนจะต้องเลือกอย่างไรให้เหมาะสมนั้น เรามีวิธีการเลือกมาฝาก พร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย
1. เลือกตามประเภทของดัมเบล
การจะเลือกว่าดัมเบล ยี่ห้อไหนดี สามารถเลือกได้จากประเภทต่างๆ ดังนี้
- ดัมเบลล์แบบปรับน้ำหนัก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเล่นเวทเทรนนิ่งอย่างจริงจัง เพราะสามารถเลือกปรับน้ำหนักให้เหมาะกับการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น
- ดัมเบลล์แบบคานเกลียว ดัมเบลประเภทนี้จะมีน้ำหนักให้เลือกหลากหลายโดยจะมีก้านและห่วงน้ำหนักแยกออกจากกัน ผู้เล่นจึงสามารถเปลี่ยนน้ำหนักให้เหมาะสมกับท่าที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อหรือความแข็งแรงในส่วนต่างๆ ได้
- ดัมเบลล์แบบหล่อเหล็ก (fixed weight dumbbells) เป็นดัมเบลที่ไม่สามารถเปลี่ยนแผ่นน้ำหนักได้ เหมาะกับนักเล่นเวทเทรนนิ่งมือใหม่ หรือมือสมัครเล่น ใช้งานสะดวก ไม่ต้องปรับเปลี่ยนน้ำหนักให้ยุ่งยาก และมีราคาถูกกว่าแบบอื่นๆ
- ดัมเบลล์ Spinlock เป็นดัมเบลที่ทำจากเหล็ก 100 % จึงมีความทนทานมากที่สุด ใช้งานง่าย บาร์จับมีเกลียวล็อคหลายขนาด สามารถเลื่อนน้ำหนักไปยังแถบที่ต้องการได้เช่นเดียวกับบาเบล และยังเลือกปรับแผ่นน้ำหนักในแต่ละด้านได้ตามต้องการ แต่ต้องล็อคให้แน่นเพราะข้างที่มีน้ำหนักมากกว่ามักจะหลวมง่ายกว่า
2. เลือกให้สอดคล้องกับระดับของผู้ฝึก
การจะเลือกดัมเบล ยี่ห้อไหนดีควรเลือกให้เหมาะสมกับระดับของผู้ฝึก โดยดูจากการใช้งานหรือความต้องการเป็นหลัก เช่น
- ผู้ที่เริ่มต้นออกกำลังกาย ต้องการฝึกเพื่อเพิ่มความทนทานของกล้ามเนื้อมากกว่าการเพิ่มขนาดของกล้ามเนื้อ ควรเลือกใช้ดัมเบลแบบปรับน้ำหนักได้ จะเหมาะสมมากกว่าหรือใช้ดัมเบลแบบหล่อเหล็ก เพราะไม่ต้องเสียเวลาในการปรับน้ำหนัก และยังมีความปลอดภัยสูงอีกด้วย
- ผู้ที่ฝึกมาสักระยะแล้ว ควรเลือกดัมเบลแบบปรับน้ำหนักได้ เพราะสามารถถอดหรือเพิ่มน้ำหนักได้ตามจำนวนแผ่นน้ำหนักที่ต้องการ เพื่อช่วยสร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรง หรือเพิ่มขนาดกล้ามเนื้อให้ใหญ่มากขึ้นในอนาคต สำหรับผู้ที่คิดจะเวทเทรนนิ่งแบบจริงจังบอกเลยว่าแบบนี้เหมาะมากๆ
- ผู้เล่นที่มีความเชี่ยวชาญ เหมาะกับดัมเบลที่มีด้ามจับแบบปกติ เพราะสามารถเปลี่ยนแผ่นน้ำหนักได้ง่าย และรวดเร็ว แต่ก็มักจะหลุดได้ง่ายเช่นกัน ดัมเบลแบบปกติจึงเหมาะกับผู้ที่ออกกำลังมาจนเชี่ยวชาญแล้ว หรือเป็นผู้ที่มีเทรนเนอร์ช่วยดูแลความปลอดภัยขณะเล่น
3. เลือกจากชนิดของวัสดุ
หากต้องการเลือกว่าดัมเบล ยี่ห้อไหนดีที่เหมาะกับคุณ ควรพิจารณาจากวัสดุที่ใช้ผลิต เพราะวัสดุบางชนิดอาจไม่เหมาะกับพื้นบ้าน หรือพื้นห้องที่ใช้ออกกำลังกาย เช่น ดัมเบลที่ผลิตจากเหล็ก มีข้อดีคือ หาซื้อง่าย ราคาย่อมเยา แต่ก็มีข้อเสียคือมักจะเกิดสนิม ทำให้เกิดเสียงดัง หรืออาจทำให้พื้นห้องเกิดการเสียหายได้ ส่วนดัมเบลรุ่นที่มีการชุบโครเมียมถึงแม้จะสามารถป้องกันการเกิดสนิมได้ดี แต่ก็มักจะมีราคาแพง และหากเลือกดัมเบลแบบหุ้มพลาสติกก็อาจจะมีน้ำหนักเบาจนเกินไป ไม่ทนทาน ไม่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการออกกำลังกายแบบจริงจัง
4. เลือกที่น้ำหนัก
อีกข้อสำคัญในการดัมเบล ยี่ห้อไหนดีก็คือควรพิจารณาจากน้ำหนักของดัมเบลให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น เพศ ระดับการเล่น ท่าทางในการออกกำลังกาย ความต้องการสร้างกล้ามเนื้อ หรือเลือกให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ในการเล่น เช่น หากต้องการเลือกดัมเบลที่เหมาะสำหรับเพศหญิง ควรมีน้ำหนักประมาณ 2 – 3 กิโลกรัม และดัมเบลสำหรับเพศชายอยู่ที่ประมาณ 5 – 10 กิโลกรัม ซึ่งต้องพิจารณาจากหลายส่วนประกอบกัน
แนะนำ 10 อันดับ ดัมเบล ยี่ห้อไหนดี
เราได้ทำความรู้จักกับดัมเบลและวิธีเลือกใช้งานกันไปแล้ว คราวนี้เรามาเข้าสู่การแนะนำ 10 อันดับ ดัมเบล ยี่ห้อไหนดี กันเลยว่าแบบไหนที่น่าจะเหมาะกับคุณมากที่สุด
1. ดัมเบล Homefittools รุ่น GX – 5 ขนาด 5 กิโลกรัม
เริ่มต้นกันที่ดัมเบลจาก Homefittools รุ่น GX – 5 เป็นดัมเบลที่เหมาะกับผู้เริ่มต้นหรือเหมาะสำหรับสุภาพสตรีโดยเฉพาะ สามารถปรับน้ำหนักได้ โดยเลือกน้ำหนักได้ตั้งแต่ 1 กิโลกรัม ไปจนถึง 5 กิโลกรัม มียาง PP หุ้ม กันรอยมือ กันเหงื่อทำให้จับใช้ได้สะดวก นุ่มมือ ไม้ลื่นหลุดง่าย ตัวยางมีคุณสมบัติเป็นมิตรต่อธรรมชาติ โครงสร้างของตัวดัมเบลทำจากพลาสติก TPR ที่มีความยืดหยุ่น แข็งแรง ทนทาน สามารถใส่แท่งสเตนเลสสำหรับปรับน้ำหนักที่มีขนาดต่างๆ เข้าไปด้านในแล้วปิดด้วยระบบเกลียวเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น มากับขนาดด้ามจับยาว 12 cm แท่งน้ำหนักผลิตจากสเตนเลสอย่างดี หมดห่วงเรื่องสนิมมากวนใจในภายหลัง มีให้เลือก 2 สี คือ สีฟ้า และสีชมพู ออกแบบมาด้วยรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัย หากคุณกำลังมองหาดัมเบล ยี่ห้อไหนดีที่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักกำลังดี ราคาน่ารัก รุ่นนี้ก็น่าจะโดนใจไม่น้อย
2. ดัมเบล ThaiSunSport ขนาด 20 กิโลกรัม
ใครมองหาดัมเบลยี่ ห้อไหนดีที่มีเหมาะสำหรับคุณผู้ชาย เราขอแนะนำ ดัมเบลจาก ThaiSunSport ขนาด 20 กิโลกรัม เป็นดัมเบลพลาสติกแบบปรับน้ำหนักได้ มีแผ่นปรับน้ำหนัก 3 ขนาดด้วยกัน คือ แผ่นขนาด 1.25, 1.5 และ 2 กิโลกรัม อย่างละ 4 แผ่น พร้อมแกนดัมเบลและตัวล็อคอีก 1 คู่ มีน้ำหนักรวม 1 กิโลกรัม หากประกอบเข้าด้วยกันทั้งหมดจะมีน้ำหนักรวมทั้งสิ้น 20 กิโลกรัม จึงเหมาะกับคุณผู้ชายที่ต้องการแรงต้านสำหรับสร้างกล้ามเนื้อให้มากขึ้น โดยแกนแต่ละข้างมีความยาว 42 ซม. รุ่นนี้ยังมีข้อต่อความยาว 40 ซม. สามารถต่อแกนเข้าด้วยกันแล้วใช้งานเป็นบาร์เบลมีความยาวถึง 113 ซม. มีราคาถูก เพราะผลิตจากพลาสติก และยังเหมาะกับผู้ที่ไม่มั่นใจว่าตนเองชอบการเวทเทรนนิ่งจริงๆ หรือไม่ เพราะหากเปลี่ยนใจภายหลังก็จะได้ไม่ต้องเสียดายเงินที่จ่ายไป
3. ดัมเบล XtivePro ขนาด 30 กิโลกรัม
ดัมเบล XtivePro เป็นอีกแบรนด์สินค้าที่เราขอแนะนำ เพราะมากับเหล็กชุบโครเมียมผิวเรียบ เงางาม แข็งแรง มีขนาด 30 กิโลกรัม ที่รวมสองฟังก์ชันไว้ด้วยกัน คือ เป็นดัมเบล และ บาร์เบล จัดเก็บมาในกล่องพลาสติกเรียบร้อย จัดวางง่ายไม่เกะกะ แกนเป็นแบบเกลียวใช้งานคู่กับตัวล็อคแบบพิเศษ 2 ชั้น ให้ด้ามจับความยาว 37 ซม. มาจำนวน 1 คู่ พร้อมข้อต่อขนาด 10 และ 30 ซม. สำหรับใช้ต่อเป็นบาร์เบลเพื่อใช้ออกกำลังให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมแผ่นเหล็กขนาด 0.75, 1.5, 2 และ 2.25 กิโลกรัม อย่างละ 4 แผ่น สามารถปรับรูปแบบได้ตามระดับการฝึก ไม่ว่าจะแรงต้านระดับต่ำ หรือระดับสูงก็สามารถนำไปใช้สร้างกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี ใครที่ต้องการเล่นแบบจริงจัง บอกเลยว่ารุ่นนี้ควรต้องมี
4. ดัมเบล LANCAMP ขนาด 20 กิโลกรัมและขนาด 30 กิโลกรัม
ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกดัมเบลยี่ห้อไหนดี LANCAMP เป็นอีกแบรนด์สินค้า ที่เราขอแนะนำ เพราะจัดดัมเบลคุณภาพดีมาให้เลือกใช้งานถึงสองขนาดด้วยกันคือ ขนาด 20 กิโลกรัม และ 30 กิโลกรัม เป็นดัมเบลแบบปรับน้ำหนักได้ บรรจุมาในกล่องสีดำขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย แข็งแรง ออกแบบมาอย่างสวยงาม และยังสามารถประกอบได้ทั้งแบบดัมเบลและบาร์เบล เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกระตุ้นกล้ามเนื้อให้ฟิตแอนด์เฟิร์ม สร้างกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ ได้อย่างเจาะจงเฉพาะจุด เพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังได้อย่างไม่จำกัด ผลิตจากเหล็กกล้าชุบโครเมียม ชุบสีกันสนิมด้วยเทคโนโลยีการชุบแบบใหม่ จึงทนทานมากยิ่งขึ้น แกนจับถูกออกแบบมาให้กันลื่น ตัวล็อคเป็นแบบสองชั้น ล็อคได้แนบสนิท มีความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นมือสมัครเล่น ผู้ใช้งานทั่วไป รวมทั้งผู้ที่ต้องการเวทเทรนนิ่งแบบจริงจังในระยะยาว
5. ดัมเบล Power Reform Set 105 Kg.
ใครที่ชอบจัดหนัก จัดเต็ม ขอแนะนำ Power Reform ชุดดัมเบลแบบกลม พร้อมชั้นวางดัมเบลแบบสามเหลี่ยมที่ออกแบบมาให้ดูเท่ดูเก๋ราวกับกำลังออกกำลังกายอยู่ในฟิตเน็ต โดยมาพร้อมกับ ดัมเบลขนาดน้ำหนัก 2.5,5,7.5,10,12.5,15 kg. จำนวนอย่างละ 2 ข้าง รวม 6 คู่ เป็นดัมเบลแบบ fixed weight ผลิตจากเหล็ก และหุ้มด้วยยางคุณภาพดี แกนจับมีขนาดใหญ่พอดีมือ ชั้นวางดัมเบลผลิตจาก เหล็ก Cast Iron ทำสีด้วยเทคโนโลยี Powder Coating มีความทนทานสูงสามารถป้องกันการเกิดสนิมได้เป็นอย่างดี ชั้นวางยังสามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 300 kg. หยิบใช้งานง่าย สะดวก ตัวดัมเบลมีสีดำแกนจับสีโครเมียมเงางาม ใครที่ยังไม่รู้จะเลือกดัมเบล ยี่ห้อไหนดีที่สามารถปรับเปลี่ยนน้ำหนักและท่าทางการออกกำลังกายได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องเสียเวลาประกอบให้ยุ่งยากเสียเวลา Power Reform เป็นดัมเบลอีกรุ่นของสายเวทเทรนนิ่งที่บอกเลยว่าของมันต้องมี
6. ดัมเบล Power Strong ขนาด 20 กิโลกรัม
ต่อกันเลยกับดัมเบลที่สามารถใช้งานได้คุ้มค่าอย่างดัมเบลจาก Power Strong ขนาด 20 กก. แบบปรับน้ำหนักได้ และยังสามารถต่อเป็นบาร์เบลได้เช่นกัน เหมาะสำหรับผู้เริ่มยกน้ำหนัก เพราะสามารถปรับน้ำหนักได้ตามต้องการ ผลิตจากเหล็กชุบโครเมียมเงางามและยังหุ้มขอบยางเพื่อลดการกระแทก หรือการเกิดเสียงดังจากการวาง การกระแทกระหว่างดัมเบลและพื้นผิว มาพร้อมกับความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมด้วยระบบล็อค 2 ชั้น แกนเป็นแบบเกลียว มีแผ่นน้ำหนักขนาด 1, 1.25, และ 2 กิโลกรัมอย่างละ 4 แผ่น สามารถเลือกปรับน้ำหนักให้เหมาะกับการออกกำลังได้ตามต้องการ และยังได้รับการออกแบบให้ดูทันสมัย สวยงาม แกนจับโค้งกระชับมือ จัดเก็บในกล่องสีดำเรียบร้อยดูดี ใครที่ชอบงานคุณภาพ Power Strong ก็น่าสนใจไม่น้อย
7. ดัมเบล B&G Dumbbell ดัมเบลยาง รุ่น Q304 ขนาด 2 กิโลกรัม
ดัมเบลที่เหมาะสำหรับผู้หญิงอีกแบรนด์คงต้องยกให้ B&G Dumbbell ดัมเบลยาง รุ่น Q304 ที่มาแบบแพ็คคู่ ในราคาหลักร้อย มีสองสีให้เลือก คือ สีน้ำเงิน และสีแดง ในน้ำหนักขนาด 2 กิโลกรัม ผลิตจากยางนีโอพรีน ไม่อมเหงื่อ จับง่ายกระชับมือ ไม่ลื่น หยิบใช้งานง่าย สะดวก และเป็นดัมเบลแบบ fixed weight ไม่ต้องเสียเวลาประกอบให้ยุ่งยาก มีขนาดกะทัดรัด หากต้องเดินทางไปทำงานหรือไปทำธุระที่อื่น ก็สามารถพกติดกระเป๋าไปได้แบบไม่เกะกะ เป็นดัมเบลขนาดเล็ก แต่สามารถใช้ในการเวทเทรนนิ่งได้เหมาะกับสรีระของผู้หญิง ด้วยขนาดและน้ำหนักเพียงเท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับใช้ในการออกกำลังกายได้ในระดับหนึ่งแล้ว
8. ดัมเบล FIT LOVER ขนาด 20 กิโลกรัม
มาต่อกันกับดัมเบลแบบปรับน้ำหนักได้ ขนาด 20 กก. ของ FIT LOVER เหมาะกับคนที่ต้องการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ สร้างแรงต้านด้วยขนาดน้ำหนักที่มากกว่า จัดเก็บมาในกล่องเรียบร้อย แกนด้ามจับได้รับการออกแบบให้มีสีดำตัดกับแผ่นน้ำหนักเหล็กกล้าชุบโครเมียมเงางาม สามารถใช้งานได้สองฟังก์ชัน คือ ดัมเบลและบาร์เบล โดยเมื่อใส่แกนต่อเข้าไปสามารถแปลงเป็นบาร์เบลที่มีความยาว 92 ซม.แกนจับหุ้มด้วยยางจึงจับถนัดมือ ไม่ลื่น ไม่ต้องกังวลว่าจะหลุดมือจนทำให้เกิดอันตรายขึ้น ประกอบง่าย และยังมีราคาถูกอีกด้วย หากต้องการดัมเบลที่สามารถหยิบจับได้ถนัดมือ ราคาย่อมเยา รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว
9. ดัมเบล MERRIRA ขนาด 10, 20, 30 และ 40 กิโลกรัม
ใครที่กำลังตามหาดัมเบล ยี่ห้อไหนดีที่ราคาถูก ใช้งานง่าย MERRIRA ก็น่าสนใจทีเดียว เพราะมีราคาถูกแต่สามารถใช้ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ กระชับกล้ามเนื้อ ได้ดีไม่แพ้ดัมเบลที่ผลิตจากเหล็ก และยังมีหลายขนาดน้ำหนักให้เลือกไม่ว่าจะเป็น 10, 20, 30 และ 40 กก. โครงสร้างของดัมเบลเป็นปูนหุ้มด้วยพลาสติกอย่างดี มีความทนทาน ไม่มีสี ไม่แตกร่อน แกนดัมเบลมีความแข็งแรง หุ้มด้วยโฟมเพื่อให้สามารถจับง่าย กระชับมือ ไม่ลื่น สามารถต่อใช้งานเป็นบาร์เบลได้ด้วย ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มเล่น ผู้ที่มีงบประมาณน้อย หรือผู้ที่ยังไม่แน่ใจว่าชอบการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งหรือไม่ เพราะหากเปลี่ยนใจก็จะได้ไม่ต้องเสียดายเงินในภายหลัง
10. ดัมเบล XIAOMI ขนาด 0.5 และ 0.75 กิโลกรัม
ปิดท้ายรายชื่อ ดัมเบล ยี่ห้อไหนดีกันที่ XIAOMI ดัมเบล อัจฉริยะ ที่สามารถเชื่อมต่อกับ App Move It Fitness ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการออกกำลังกายแต่ละครั้งอย่างละเอียด จึงทำให้สามารถวางแผนการออกกำลังกายเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้เป็นอย่างดี มีขนาดเล็ก ดีไซน์เรียบหรูดูสมัย เหมาะกับคนยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกควบคู่กับฟังก์ชั่นที่หลากหลาย พกพาง่าย ใช้ได้ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน มีขนาดน้ำหนักให้เลือก 3 ขนาด คือ 0.5, 0.75 และ 1 กิโลกรัม ประหยัดพลังงาน ชาร์จไฟเพียง 30 นาที แต่สามารถเล่นได้ถึง 300 นาที เป็นดัมเบลที่ไม่ได้เน้นการเพิ่มแรงต้านให้กล้ามเนื้อ แต่ก็สามารถช่วยทำให้กล้ามเนื้อกระชับมากยิ่งขึ้น หากคุณต้องการดัมเบลที่ใช้งานง่าย และวัดผลการออกกำลังกายได้ทันทีว่าออกกำลังกายไปแล้วกี่แคลอรี XIAOMI ดัมเบล อัจฉริยะ คือดัมเบลที่ควรเลือกมาไว้ใช้
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลดีๆ ที่เรานำมาฝากให้คุณได้นำไปใช้เลือกดัมเบลให้เหมาะสมกับการออกกำลังกายของคุณมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากถามว่าดัมเบล ยี่ห้อไหนดี ก็ควรต้องพิจารณาให้รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นประเภทของดัมเบล ระดับของผู้ใช้งาน ชนิดของวัสดุที่ใช้ผลิต หรือน้ำหนักของดัมเบลแต่ละรุ่น คุณภาพ และราคาที่เหมาะสม เพราะทุกข้อล้วนมีส่วนทำให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรูปร่างที่ดี สมส่วน และยังทำให้มีสุขภาพดีตามมาอีกด้วย