สว่านไร้สาย เป็นเครื่องมือช่างพื้นฐาน ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจากสว่านแบบเดิมๆ ให้มีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา เพื่อการพกพาไปใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ ที่สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เป็นหลัก ทำให้ไม่ต้องต่อสายไฟให้วุ่นวาย ไม่มีไฟฟ้าก็สามารถใช้งานได้ ซึ่งในปัจจุบันมีวางจำหน่ายให้เลือกซื้อกันมากมายหลายรุ่น แต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการเจาะวัสดุที่เป็นไม้ ปูน หรือเหล็ก รวมทั้งอัตราการกระแทก แรงบิด กำลังไฟฟ้า และฟังก์ชันการใช้งานพิเศษให้ได้เลือกซื้อตามความต้องการ ส่วนจะต้องเลือกอย่างไร เลือกแบบไหนจึงจะสามารถนำไปใช้งานได้อย่างคุ้มค่า เรามีวิธีการเลือกสว่านไร้สาย ยี่ห้อไหนดีพร้อม 10 รุ่นน่าสนใจมาให้คุณพิจารณากัน
การเลือกสว่านไร้สาย ยี่ห้อไหนดีที่เหมาะกับการใช้งานในบ้านคุณ
สว่านเป็นเครื่องมือสำหรับช่วยทุ่นแรงในการเจาะ การขันสกรู ขันน็อต รวมทั้งงานเล็กๆ น้อยๆ ในบ้านให้สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดแรง ประหยัดเวลา แต่เนื่องจากมีการผลิตสว่านออกมามากมายหลายแบบ หลายราคา ในการจะเลือกสว่านไร้สาย ยี่ห้อไหนดี จึงต้องพิจารณาจากหลายส่วน โดยสามารถเลือกจากองค์ประกอบต่างๆ ได้ดังนี้
1. เลือกซื้อตามลักษณะการใช้งานของคุณ
การจะเลือกสว่านไร้สาย ยี่ห้อไหนดีที่เหมาะกับคุณสามารถพิจารณาได้จากการใช้งานของตัวเองเป็นหลัก ซึ่งสามารถแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ดังนี้
- สว่านไร้สายธรรมดา นิยมนำมาใช้ในงานเจาะวัสดุทั่วไป มีโหมดการเจาะ การกระแทก แต่ควรใช้ในวัสดุที่ไม่แข็งมากนัก เช่น เจาะปูน เจาะหิน แต่ไม่ควรใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานเพราะอาจจะทำให้มอเตอร์ไหม้ได้เช่นกัน
- สว่านไร้สายโรตารี คือ สว่านที่สามารถทนต่อแรงสั่นสะเทือนได้ดี มีประสิทธิภาพสูง ทนทาน เหมาะกับงานหนักๆ เช่น การใช้เจาะกระแทกหิน ปูน เหล็ก โดยเฉพาะงานก่อสร้างต่างๆ แต่มักจะมีราคาสูงกว่าสว่านชนิดอื่น
- สว่านไร้สายไขควง มีลักษณะการทำงานคล้ายไขควง ใช้สำหรับขันสกรูหรือน็อตเพื่อเพิ่มความรวดเร็ว สำหรับช่วยประหยัดแรง สามารถใช้เจาะวัสดุต่างๆ ได้ เพียงแต่ไม่เหมาะที่จะใช้งานกับวัสดุที่มีผิวแข็ง
2. เลือกจากแรงบิด
แรงบิดคืออีกเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเพราะการเจาะวัสดุต่างๆ ต้องอาศัยแรงบิดในการเจาะยิ่งมีแรงบิดสูงก็จะมีกำลังเจาะสูงตามไปด้วย โดยสามารถดูค่าได้จากข้อมูลข้างตัวเครื่อง ซึ่งมีหน่วยวัดเป็นนิวตันเมตร (NM) โดยวัสดุแต่ละชนิดจะใช้แรงบิดไม่เท่ากัน ยิ่งวัสดุมีความแข็งก็ต้องใช้แรงบิดมากขึ้น เช่น หากต้องการเจาะเหล็กก็จะใช้แรงบิดมากกว่าการเจาะไม้นั่นเอง การเลือกซื้อสว่านไร้สายที่มีแรงบิดสูงๆ ก็จะสามารถใช้งานได้ครอบคลุมมากกว่า แต่สว่านที่มีแรงบิดมากมักจะมีราคาแพงและยังกินไฟมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องประเมินดูก่อนว่าจะนำมาใช้กับงานประเภทไหน
3. เลือกจากความเร็วรอบ
อัตราความเร็วรอบ Revolutions per minute (rpm) คือ จำนวนรอบในหนึ่งนาที เป็นค่าที่ใช้บอกความสามารถในการเจาะว่าจะเสร็จเร็วมากแค่ไหน หากมีความเร็วรอบสูงการเจาะก็จะเสร็จเร็วมากขึ้น ซึ่งความเร็วรอบสามารถดูค่าได้จากข้างตัวเครื่องเช่นเดียวกันกับค่าแรงบิด โดยจะมีหน่อยเป็น rpm ดังนั้นการเลือกซื้อสว่านไร้สาย ยี่ห้อไหนดีควรเลือกรุ่นที่มีอัตราความเร็วรอบสูง และสามารถปรับระดับความเร็วได้หลายระดับ เพื่อให้สามารถปรับใช้งานกับวัสดุที่มีความแข็งความอ่อนแตกต่างกันได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
4. เลือกจากแบตเตอรี่
เนื่องจากสว่านไร้สายต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ในการจ่ายพลังให้กับมอเตอร์ ดังนั้นการเลือกซื้อต้องให้ความสำคัญกับแบตเตอรี่ไม่แพ้เรื่องอื่นๆ โดยดูจากความจุของตัวแบตซึ่งมีหน่วยเป็นแอมป์ โดยค่าความจุนี้คือค่าที่จะบอกว่าแบตเตอรี่สามารถจ่ายพลังงานให้กับสว่านได้นานแค่ไหน ยิ่งมีค่าตัวเลขมากก็จะยิ่งจ่ายไฟได้นานขึ้น แต่ต้องดูด้วยว่ามอเตอร์มีขนาดเท่าไหร่ หากมีขนาดใหญ่ก็จะทำให้แบตหมดเร็วมากขึ้น เมื่อแบตหมดก็จะทำให้งานหยุดชะงักลงได้ การมีแบตสำรองจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหา ด้วยเหตุนี้ขณะเลือกซื้อจึงต้องพิจารณาด้วยว่าแบตเตอรี่รุ่นนั้นๆ มีราคาสูงหรือไม่ เพราะสว่านบางรุ่นแบตเตอรี่อาจมีราคาแพงมากนั่นเอง
5. เลือกจากน้ำหนักและขนาดของปากจับ
การเลือกสว่านไร้สาย ยี่ห้อไหนดีอีกข้อที่ไม่ควรมองข้าม คือน้ำหนักและขนาดของปากจับ ซึ่งต้องบอกว่าน้ำหนักของสว่านที่มากเกินไป อาจทำให้ขณะใช้งานเกิดความเมื่อยล้า ใช้งานยาก โดยเฉพาะในปัจจุบันสุภาพสตรีส่วนใหญ่หันมาตกแต่ง ซ่อมแซมบ้านด้วยตัวเอง การเลือกสว่านที่มีขนาดกะทัดรัดไม่ใหญ่หรือหนักจนเกินไปก็จะช่วยให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น รวมทั้งขนาดปากจับที่ควรดูด้วยว่าในรุ่นนั้นๆ มีเส้นผ่านศูนย์กลางสูงสุดของการเจาะอยู่ที่เท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะมีหน่วยเป็นมิลลิเมตรหรือนิ้ว เช่น 6.35 mm. หรือ 1/4″ เป็นต้น
6. เลือกจากกำลังไฟฟ้า (โวลต์)
การเลือกสว่านไร้สาย ยี่ห้อไหนดีควรดูจากกำลังไฟฟ้า (โวลต์) ด้วย เพราะเป็นค่าที่ใช้พิจารณาว่าสว่านมีกำลังในการหมุนทะลุทะลวงดีแค่ไหน หากมีโวลต์สูงก็จะสามารถใช้งานหนักได้อย่างต่อเนื่องและยาวนานมากกว่าสว่านที่มีกำลังโวลต์ต่ำ แต่ถ้าหากคุณต้องการใช้สว่านสำหรับงานในบ้านทั่วไปที่ไม่มีความจำเป็นต้องเจาะวัสดุแข็งๆ สามารถเลือกกำลังไฟฟ้าที่ 12-18 โวลล์ ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ที่สำคัญการเลือกกำลังโวลต์ต่ำมักจะมีราคาถูกกว่าโวลต์สูงและยังใช้ไฟน้อยกว่าด้วย จึงไม่เปลืองแบตเตอรี่ไม่ต้องชาร์จแบตบ่อยๆ นั่นเอง
10 อันดับ สว่านไร้สาย ยี่ห้อไหนดี
ผ่านไปแล้วกับวิธีการเลือกสว่านไร้สาย คราวนี้มาดูกันเลยว่า 10 อันดับ สว่านไร้สาย ยี่ห้อไหนดีที่เรานำมาแนะนำ จะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจและเหมาะกับบ้านคุณบ้าง
1. สว่านไร้สาย ยี่ห้อ DELTON รุ่น GSB-99VP-D
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| มีขนาดปากจับ 10 mm. | ไม่ระบุน้ำหนักตัวเครื่อง |
| มีระบบการกระแทก 3 ระดับ | ไม่ระบุอัตราการกระแทก |
| แรงบิด 42 Nm ปรับแรงบิดได้ 18 ระดับ | |
| อัตราความเร็วรอบ 0-550 / 0-1,550 รอบต่อนาที | |
| ให้แท่นชาร์จ พร้อมแบตเตอรี่ Li-ion ขนาด 99V 2 ก้อน |
สว่านไร้สาย ยี่ห้อไหนดีที่เราเลือกมาแนะนำเป็นรายชื่อแรกก็คือ DELTON รุ่น GSB-99VP-D ที่มาพร้อมกับราคาเบาๆ แต่จัดฟังก์ชันมาให้ครบ โดยมีระบบการกระแทกมาให้ถึง 3 ระดับ สามารถปรับความเร็วได้ 2 ระดับ มีอัตราความเร็วอยู่ที่ 0-550 / 0-1,550 รอบต่อนาที ให้แรงบิดมาถึง 42 Nm ปรับแรงบิดได้ถึง 18 ระดับ ปรับหมุนซ้ายขวาเพื่อการทำงานที่สะดวกมากขึ้น มีขนาดปากจับสูงสุด 10 mm. เป็นรุ่นที่เปลี่ยนดอกสว่านได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้จำปา มีไฟส่องสว่างในตัวสำหรับการใช้งานในที่มืด ให้แท่นชาร์จ พร้อมแบตเตอรี่ Li-ion ขนาด 99V มาถึง 2 ก้อน รุ่นนี้สามารถใช้ได้ทั้งงานเจาะไม้ เจาะเหล็ก เจาะปูน รวมทั้งใช้ขันสกรู นับว่าเป็นรุ่นที่ให้ฟังก์ชันมาคุ้มค่าคุ้มราคาเป็นอย่างยิ่ง
2. สว่านไร้สาย ยี่ห้อ BOSCH รุ่น GSR 120 li
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| มีขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัม | ไม่ระบุอัตราการกระแทก |
| เจาะเหล็กได้ 8 มม. เจาะไม้ได้ถึง 20 มม. | ตัวเครื่องเล็กไม่เหมาะกับคนที่มีมือใหญ่เพราะอาจจับเครื่องไม่ถนัดเท่าที่ควร |
| แรงบิด 30 Nm ปรับแรงบิดได้ 20 ระดับ | |
| อัตราความเร็วรอบ 0-380 / 0-1,300 รอบต่อนาที | |
| ให้แท่นชาร์จ พร้อมแบตเตอรี่ Li-ion ขนาด 99V 2 ก้อน |
สว่านไร้สาย ยี่ห้อ BOSCH รุ่น GSR 120 li เป็นสว่านขนาดเล็ก ด้ามจับทำด้วยยางพิเศษที่ออกแบบมาให้เข้ากับสรีระ จึงถือได้ถนัดมือทำให้ง่ายต่อการควบคุม ช่วยลดความเมื่อยล้าขณะทำงาน เหมาะกับการพกพาไปทำงานบนที่สูง หรืองานที่ต้องเข้ามุมแคบๆเพราะมีขนาดเล็กมีน้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัมเท่านั้น ให้แรงบิดมาถึง 30 Nm สามารถปรับแรงบิดได้ถึง 20 ระดับ มีอัตราความเร็วรอบอยู่ที่ 0-380 / 0-1,300 รอบ/นาที ใช้กำลังไฟ 12 โวลล์ รองรับงานเจาะ งานขัน และงานกระแทก โดยใช้เจาะเหล็กได้ 8 มม. เจาะไม้ได้ถึง 20 มม. และยังมีไฟ LED สำหรับส่องสว่างในสถานที่แสงน้อย ให้แบตเตอรี่มาถึง 2 ก้อน พร้อมแท่นชาร์จอย่างดี หากต้องการสว่านไร้สาย ยี่ห้อไหนดีที่ตัวเล็กแต่ที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูง รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์
3. สว่านไร้สาย ยี่ห้อ Total รุ่น TRHLI1601
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| เจาะเหล็กได้ 10 มม.เจาะปูน 16 มม.และเจาะไม้ได้ 20 มม. | ไม่ระบุแรงบิด |
| อัตราความเร็วรอบ 0 – 900 รอบต่อนาที | ไม่มีแบตเตอรี่และแท่นชาร์จแถมให้ |
| อัตราการกระแทก 0 – 5100 bmp / นาที | |
| หัวจับดอกสกัดใช้ระบบ SDS Plus ช่วยให้สั่นสะเทือนน้อย | |
| มีแรงกระแทกคงที่ อัตราการเจาะมีความเสถียร ช่วยให้ทำงานได้โดยไม่เมื่อยล้า |
มาต่อกันเลยกับสว่านไร้สาย ยี่ห้อไหนดีที่น่าใช้กับสว่านโรตารี่ Total รุ่น TRHLI1601เป็นสว่าน 2 ระบบ สามารถปรับการทำงาน ซ้าย – ขวาได้ ให้อัตราความเร็วสูงสุด 0 – 900 รอบต่อนาที มีอัตราการกระแทกอยู่ที่ 0 – 5100 bmp / นาที โดยสามารถเจาะเหล็กได้ 10 มม.เจาะปูนได้ถึง 16 มม.และเจาะไม้ได้สูงสุด 20 มม. ชนิดหัวจับดอกสกัดใช้ระบบ SDS Plus จึงสั่นสะเทือนน้อยใช้งานง่าย เป็นสว่านที่มีแรงกระแทกคงที่รวมทั้งมีอัตราการเจาะที่เสถียรทำให้สามารถทำงานได้โดยไม่เมื่อยล้า และยังมีหลอดไฟ LED สำหรับใช้งานในที่มืด จึงเป็นอีกรุ่นที่จัดได้ว่ามีคุณภาพและใช้งานทนทานไม่แพ้รุ่นอื่น
4. สว่านไร้สาย ยี่ห้อ Black & Decker รุ่น BDCHD12US1-B1
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| เจาะเหล็กได้ 10 มม.เจาะปูน 8 มม.และเจาะไม้ได้ 25 มม. | ไม่ระบุน้ำหนัก |
| อัตราความเร็วรอบ 0-550 รอบต่อนาที | ไม่ระบุแรงบิด |
| อัตราการกระแทก 21,250 ครั้งต่อนาที | มอเตอร์เป็นแบบแปรงถ่าน ไม่เหมาะที่จะใช้งานต่อเนื่อง |
| แบตเตอรี่ขนาด 12 โวตล์ 1 ก้อน พร้อมแท่นชาร์จ | |
| มีไฟส่องสว่าง LED สำหรับใช้งานในที่มืด |
Black & Decker รุ่น BDCHD12US1-B1 เป็นสว่านตัวเล็กอีกรุ่นที่สามารถเจาะได้ทั้งไม้ เหล็ก และปูน มาพร้อมกับอัตราความเร็ว 0-550 รอบต่อนาที ตั้งค่าความเร็ว 11 ระดับ มีอัตราการกระแทก 21,250 ครั้งต่อนาที สามารถเจาะไม้สูงสุด 25 มม. เจาะเหล็กสูงสุด 10 มม. และเจาะปูนสูงสุด 8 มม. มีไฟส่องสว่างในตัวหมดกังวลเรื่องทำงานในที่มืดหรือที่มีแสงน้อยไปได้เลย ให้แบตเตอรี่ขนาด 12 โวตล์ 1 ก้อน พร้อมแท่นชาร์จ เหมาะสำหรับใช้ในงาน DIY ที่ไม่หนักจนเกินไป ใครที่อยากจะมีตัวช่วยขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย รุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่นน่าใช้
5. สว่านไร้สาย ยี่ห้อ MAKITA รุ่น HP333DWYE
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| เจาะปูนได้ 8 มม. เจาะเหล็กได้ 10 มม. และเจาะไม้ได้ 21 มม. | ตัวเครื่องเล็กไม่เหมาะกับงานก่อสร้างขนาดใหญ่ |
| อัตราความเร็วรอบ 0-450 / 0-1700 รอบต่อนาที | สำหรับคนที่ต้องใช้ประกอบอาชีพหลักควรเลือกรุ่นใหญ่กว่านี้ |
| อัตราการกระแทก 0-5300 / 0-19500 bpm. | |
| แบตเตอรี่ขนาด 12 โวตล์ 2 ก้อน พร้อมแท่นชาร์จ | |
| มีไฟส่องสว่าง LED สำหรับใช้งานในที่มืด | |
| แรงบิด 14/30 Nm |
หากคุณกำลังมองหาสว่านไร้สาย ยี่ห้อไหนดีที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงเหมาะสำหรับมืออาชีพแล้วล่ะก็ MAKITA ถือเป็นแบรนด์คุณภาพที่ช่างส่วนใหญ่เลือกใช้ ซึ่งในรุ่น HP333DWYE มีการออกแบบด้ามจับให้เข้ากับสรีระ จึงสามารถจับได้ถนัดมือ ควบคุมง่าย มีโหมดการกระแทก มีแรงบิดอยู่ที่ 14 / 30 Nm. มาพร้อมกับอัตราความเร็วรอบอยู่ที่ 0-450 / 0-1700 rpm รวมทั้งอัตราการกระแทกที่ให้มาถึง 0-5300 / 0-19500 bpm. สามารถเจาะปูนได้ 8 มม. เจาะเหล็กได้ 10 มม. และเจาะไม้ได้ 21 มม. มีไฟ LED ส่องสว่างในตัว ให้แบตเตอรี่มาถึง 2 ก้อน พร้อมแท่นชาร์จ สามารถใช้ได้ทั้งงานหนักและงานเบา จะมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพก็น่าเลือกมาไว้ใช้ประจำบ้าน
6. สว่านไร้สาย ยี่ห้อ Pumpkin รุ่น 12BID1504
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| มอเตอร์แบบไร้แปรงถ่าน | อัตราความเร็วรอบปานกลาง |
| เจาะปูนได้ 8 มม. เจาะเหล็กได้ 10 มม. และเจาะไม้ได้ 28 มม. | ตัวเครื่องเล็กไม่เหมาะกับงานก่อสร้างขนาดใหญ่ |
| อัตราความเร็วรอบ 0 – 1,350 รอบต่อนาที -แรงบิด 35 Nm | |
| อัตราการกระแทก 0 – 6,750 และ 0 – 23,250 ภาพ/นาที | |
| แบตเตอรี่ขนาด 12 โวตล์ 2 ก้อน พร้อมแท่นชาร์จ | |
| มีไฟส่องสว่าง LED สำหรับใช้งานในที่มืด |
หากถามว่าสว่านไร้สาย ยี่ห้อไหนดีที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพก็ต้องยกให้ Pumpkin รุ่น 12BID1504 ด้วยมอเตอร์แบบไร้แปรงถ่าน มีระบบเจาะและระบบกระแทกในตัว ให้แรงบิดสูงสุดถึง 35 นิวตันเมตร ปรับระดับได้ถึง 21ระดับ มีอัตราความเร็วรอบอยู่ที่ 0 – 1,350 รอบ/นาที อัตราการกระแทกอยู่ที่ 0 – 6,750 และ 0 – 23,250 ภาพ/นาที สามารถใช้งานได้ทั้งงานไม้, ปูน และเหล็ก มีไฟสำหรับบอกระดับของแบตเตอรี่พร้อมไฟ LED สำหรับให้ความสว่างเมื่อต้องทำงานในที่มืด มีขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย มีน้ำหนักเพียง 0.98 กิโลกรัมเท่านั้น มาพร้อมกับเฟืองคุณภาพสูง และระบบล็อคแกนหมุน ให้แบตเตอรี่ขนาด 12 โวลต์ จำนวน 2 ก้อน พร้อมแท่นชาร์จ ใครที่ชอบความอึด ความทน บอกเลยว่ารุ่นนี้ไม่แพ้ใครแน่นอน
7. สว่านไร้สาย ยี่ห้อ MAXNUM รุ่น 330DWE
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| อัตราความเร็วรอบ 0 – 360 รอบต่อนาที | ไม่บอกน้ำหนักตัวเครื่อง |
| อัตราการกระแทก 0 – 1,300 รอบ/นาที | ไม่เหมาะที่จะใช้ในงานหนักๆ เพราะมอเตอร์อาจจะไหม้ได้ |
| ให้แบตเตอรี่ 68V จำนวน 2 ก้อน พร้อมแท่นชาร์จ | |
| มีไฟส่องสว่าง LED สำหรับใช้งานในที่มืด | |
| แรงบิด 24/14 Nm |
ใครที่ชอบสว่านไร้สายราคาเบาๆ MAXNUM รุ่น 330DWE เป็นอีกรุ่นที่มาในราคาหลักร้อย แต่มีประสิทธิภาพการใช้งานที่ครอบคลุมทั้งการเจาะไม้ เจาะเหล็ก เจาะคอนกรีต ขันน็อต สกรู สามารถหมุนซ้ายขวาได้ มาพร้อมกับอัตราความเร็วรอบ 0-360 รอบ/นาที อัตราการกระแทกที่ 0-1300 รอบ/นาที ให้แรงบิดมากถึง 24/14nm และปรับแรงบิดได้ถึง 18 ระดับ ให้แบตเตอรี่ขนาด 68V มาถึง 2 ก้อน พร้อมแท่นชาร์จ จัดว่าเป็นสว่านอีกรุ่นที่มีราคาไม่แพงเลยหากเทียบกับฟังก์ชันต่างๆ ที่จัดให้มา
8. สว่านไร้สาย ยี่ห้อ ENZO รุ่น 54V 2 ระบบ ปรับสปีดได้
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| ทำงาน 2 ระบบ คือ ระบบขันน็อต และแบบเจาะธรรมดา | ไม่สามารถใช้ในการกระแทกได้ |
| ให้แบตเตอรี่ 54V จำนวน 2 ก้อน พร้อมแท่นชาร์จ | ไม่เหมาะที่จะใช้ในงานหนักๆ |
| มีไฟส่องสว่าง LED สำหรับใช้งานในที่มืด | |
| สามารถปรับซ้ายขวาได้ | |
| มีของแถมมากมาย |
มาต่อกันเลยกับสว่านไร้สาย ยี่ห้อ ENZO รุ่น 54V 2 ระบบ ใช้ได้ทั้งแบบขันน็อต และแบบเจาะธรรมดา ปรับสปีดได้ มีราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับการใช้งานซ่อมแซม งานประกอบต่างๆ ภายในบ้าน มีขนาดปากจับ 10 มม. พร้อมให้แบตเตอรี่ Li-ion ขนาด 54V จำนวน 2 ก้อน สามารถปรับซ้าย-ขวาได้ ปรับความแน่นในการขันได้ถึง 25 ระดับ มีไฟ LED สำหรับใช้ส่องสว่างเวลาทำงานในที่มืด มาพร้อมของแถมหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น ดอกสว่านเจาะไม้ เจาะเหล็ก ขนาด 5, 6, 8 มม. ชุดหัวไขควง ชุดดอกไขควง กระดูกงู ด้ามต่อดอกไขควง และตลับเมตร จัดมาในกระเป๋าอย่างเรียบร้อย พกพาง่าย
9. สว่านไร้สาย ยี่ห้อ InnTech รุ่น DCD-88VP
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| ทำงาน 3 ระบบ ทั้งขัน เจาะ และกระแทกปูน | ไม่เหมาะที่จะใช้ในงานหนักๆ |
| ให้แบตเตอรี่ 88V จำนวน 2 ก้อน พร้อมแท่นชาร์จ | ไม่ควรใช้งานต่อเนื่องนาเกินไปเพราะอาจทำให้มอเตอร์ไหม้ได้ |
| มีอัตราความเร็วรอบ 0-550/0-1,550 รอบ/นาที | |
| แบตเตอรี่ใช้เป็นพาวเวอร์แบงค์ได้ | |
| หัวจับดอกสว่านเป็นแบบ Key less | |
| ปรับแรงบิดได้ 25 ระดับ |
InnTech สว่านไร้สาย รุ่น GSB-88V-LT ทำงานได้ 3 ระบบ ทั้งขัน เจาะ และกระแทก มาพร้อมกับแบตเตอรี่ Li-ion รุ่นใหม่ 88v ใช้งานแบบ 2 in 1 สามารถใช้เป็นพาวเวอร์แบงค์ได้ ปรับความเร็วได้ 2 ระดับ มีอัตราความเร็วรอบอยู่ที่ 0-550/0-1,550 รอบ/นาที ปรับแรงบิดได้ 25 ระดับ มีไฟ LED ส่องสว่างขณะใช้งานจะทำงานตอนกลางคืนหรือในที่มืดก็ทำได้อย่างสะดวก หัวจับดอกสว่านเป็นแบบ Key less เปลี่ยนดอกได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้จำปา และยังแถมชุดอุปกรณ์ช่างอีกหลายรายการไม่ว่าจะเป็น ดอกสว่าน ลูกบล็อก ดอกไขควง สายอ่อน ตะขอแขวน และ คลิปเหน็บสว่าน เรียกได้ว่าเป็นอีกรุ่นที่สามารถที่ทำงานได้ครบจบในตัวเดียว
10. สว่านไร้สาย ยี่ห้อ MAKTEC 128V 3 ระบบ เจาะกระแทกได้
| จุดเด่น | ข้อสังเกต-คำแนะนำ |
|---|---|
| ทำงาน 3 ระบบ ทั้งขัน เจาะ และกระแทกปูน | ไม่เหมาะที่จะใช้ในงานหนักๆ |
| ให้แบตเตอรี่ 32V จำนวน 2 ก้อน พร้อมแท่นชาร์จ | ไม่ควรใช้งานต่อเนื่องนานเกินไปเพราะอาจทำให้มอเตอร์ไหม้ได้ |
| มีอัตราความเร็วรอบ 0-1500 รอบ/นาที | |
| มีอัตราการกระแทกอยู่ที่ 0-350 รอบ/นาที | |
| ปรับความแน่นในการขันได้ถึง 18 ระดับ | |
| มีแรงบิด 24/14 nm |
สว่านไร้สาย ยี่ห้อไหนดีตัวสุดท้ายที่เรานำมาแนะนำก็คือ MAKTEC 128V ที่ใช้งานได้ถึง 3 ระบบ ไม่ว่าจะเป็นการเจาะ ขัน กระแทก โดยมีความเร็วรอบอยู่ที่ 0-1500 รอบ/นาที ความเร็วกระแทกอยู่ที่ 0-350 รอบ/นาที มีแรงบิดมากถึง 24/14 Nm สามารถปรับความแน่นในการขันได้ถึง 18 ระดับ ให้แบตเตอรี่ขนาด 32V มา 2 ก้อน พร้อมแท่นชาร์จ ปากจับมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 10 มม.(3/8″) สามารถปรับซ้าย-ขวาได้เพื่อความสะดวกในการขันสกรูและคลายสกรู มาพร้อมกระเป๋าและของแถมอีกหลายรายการ นับว่าเป็นสว่านไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปอีกรุ่น
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
จะเห็นได้ว่าการเลือกสว่านไร้สาย ยี่ห้อไหนดีนั้น ต้องพิจารณาจากองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการใช้งาน แรงบิด ความเร็วรอบ กำลังไฟ ความจุของแบตเตอรี่ น้ำหนักของตัวเครื่องและขนาดของปากจับ ซึ่งการเลือกที่ดีควรเลือกจากการใช้งานของตนเองด้วยว่ามีความจำเป็นต้องใช้ฟังก์ชันอะไรบ้าง เพราะยิ่งมีประสิทธิภาพสูงมากเท่าไหร่ ก็มักจะมีราคาที่สูงมากขึ้นตามไปด้วย หากซื้อมาในราคาแพงมีฟังก์ชันมากมาย แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่า ก็ถือเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุนั่นเอง
