ในยุคที่มีทั้งการระบาดของโควิด-19 ฝุ่น PM2.5 และมลพิษในอากาศหนาแน่นเช่นนี้ เพียงก้าวขาหรือขับรถยนต์ออกนอกบ้านก็นับว่ามีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อโรคและมลพิษเกิดขึ้นแล้ว นั่นทำให้เราได้เห็นการคิดค้นและพัฒนาอุปกรณ์ป้องกันและกำจัดเชื้อโรคต่างๆ ออกมามากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ “เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์” นวัตกรรมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศและสุขภาพที่ดีให้กับเราในยามที่อยู่ในรถ ซึ่งก็มีผลิตออกมามากมายหลายรุ่น หลายยี่ห้อ เราจึงไม่พลาดที่จะคัดสรรรุ่นที่น่าใช้มาให้คุณได้พิจารณากันกับ 10 อันดับ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2024 พร้อมด้วยแนวทางในการเลือกใช้งานอย่างเหมาะสม
ข้อดีของการมีเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ของคุณ
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ เป็นนวัตกรรมที่มีประโยชน์สำหรับผู้ใช้รถยนต์เป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากคุณเคยเจอกับปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ในรถยนต์ เช่น กลิ่นอาหารที่ค่อนข้างแรง กลิ่นบุหรี่หรือกลิ่นท่อไอเสีย หรือกลิ่นใดๆ ก็ตาม ที่จะอบอวลอยู่ในภายในรถของเรา โดยหลักการในการทำงานของมันก็คือจะทำการดูดเอาอากาศภายในรถเข้าไป กรองสิ่งแปลกปลอมในอากาศ และปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมา เพื่อให้อากาศในรถของเราบริสุทธิ์อย่าง 100% ฉะนั้นแล้ว เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์คือสิ่งที่รถยนต์ทุกคันควรต้องมี
วิธีการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์
เช่นเดียวกับนวัตกรรมอื่นๆ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์เองก็ถูกทำออกมาหลายรุ่น โดยผู้ผลิตหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละรุ่นก็ล้วนมีจุดเด่นในการใช้งานที่ต่างกันออกไปดังนั้นก่อนจะไปดูว่าควรเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี เรามาดูวิธีการเลือกใช้งานอุปกรณ์นี้กันก่อน ซึ่งหลักๆ แล้วจะประกอบไปด้วยเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. เลือกจากฟังก์ชันและประสิทธิภาพการใช้งาน
แม้จะมีหน้าที่หลักๆ ในการฟอกอากาศในรถยนต์เหมือนกัน แต่เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์แต่ละรุ่น ก็มีฟังก์ชันและประสิทธิภาพการใช้งานที่มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไปแล้วแต่รุ่น เช่นในหลายรุ่นจะมีชั้นกรอง คาร์บอน (Carbon) ที่เอาไว้สำหรับขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์โดยเฉพาะ, หลายรุ่นมีชั้นกรอง HEPA Filter ที่ใช้ดักจับอนุภาคและฝุ่นละอองไม่พึงประสงค์อย่างละเอียด, และหลายรุ่นก็มีก็สามารถผลิตอนุภาคอิออน (Ion) ที่สามารถใช้ดักจับกลิ่นและเชื้อโรคได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งในบางรุ่นก็มี บางรุ่นก็ไม่มี หรือบางรุ่นก็มีทุกอย่างที่ว่าไป (แล้วแต่ราคาและคุณภาพของรุ่นนั้นๆ)
2. เลือกจากวิธีการเชื่อมต่อ ที่เข้ากันได้กับรถยนต์ของคุณ
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ถูกสร้างเพื่อใช้ในรถยนต์เป็นหลัก เพราะเหตุนี้เราจึงควรคำนึงถึง รูปแบบการเชื่อมต่อของเครื่องฟอกอากาศด้วยว่า สามารถเอามาใช้ภายในรถยนต์ของเราได้หรือไม่ โดยหลักๆ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ จะมีรูปแบบการเชื่อมต่อเพื่อใช้งานอยู่ 2 แบบ คือแบบที่เชื่อมต่อกับช่องจ่ายไฟ DC12V (ที่เป็นช่องสำหรับจุดบุหรี่) และแบบที่ เชื่อมต่อกับพอร์ต USB ซึ่งเราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า รถยนต์ของเรามีรูปแบบการเชื่อมต่อแบบไหนบ้าง
3. ตรวจสอบใบรับประกันสินค้า และบริการหลังการขาย
อย่างสุดท้ายที่ไม่ควรละเลย คือการถามหาใบรับประกันสินค้า และบริการหลังการขาย (เผื่อในกรณีที่เราได้สินค้าที่มีตำหนิหรือเสียหายโดยไม่ได้ตั้งใจ) เพราะเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์เป็นอุปกรณ์ที่มีระบบการทำงานภายในตัวเครื่องที่ต้องมีความแม่นยำและถูกต้อง คุณภาพของตัวสินค้าจึงควรได้การรับประกันจากผู้ผลิตและผู้ประกอบการเป็นอย่างดี
แนะนำ 10 อันดับ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2024
หลังจากได้ทราบจุดเด่นและวิธีการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์กันไปแล้ว คราวนี้เรามาเข้าสู่รายชื่อของ 10 อันดับ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ประจำปี 2024 กันเลย ว่ามีรุ่นไหนที่น่าใช้บ้าง โดยเราคัดมาให้คุณหลายช่วงราคาด้วยกัน เพื่อให้คุณมีตัวเลือกที่หลากหลายตามความต้องการ
1. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อ COMMY รุ่น AP002
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ฟอกอากาศด้วยไส้กรอง HEPA คุณภาพสูง | ไม่รองรับการเชื่อมต่อผ่านช่องจ่ายไฟ DC12V |
สามารถดูดซับสารพิษในอากาศได้ทุกประเภท | ไม่มีไส้กรองคาร์บอนที่ใช้ขจัดกลิ่น |
เชื่อมต่อเพื่อใช้งานกับรถยนต์ผ่านพอร์ต USB |
มาเริ่มต้นรายชื่อ 10 อันดับ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2024 กันด้วยผลิตภัณฑ์ตัวแรกจากยี่ห้อ COMMY รุ่น AP002 เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์รุ่นพกพาที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับวางไว้ตรงที่วางแก้วโดยเฉพาะ กับประสิทธิภาพในการใช้งานคุณภาพสูง ที่สามารถดูดซับสารพิษ ฝุ่นละออง ที่ลอยอยู่ในอากาศได้ทุกรูปแบบ แม้จะไม่มีไส้กรองคาร์บอน เพื่อใช้ขจัดกลิ่นได้อย่างหมดจด แต่ด้วยราคาที่ไม่แพง จึงเป็นเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์รุ่นที่เหมาะสำหรับทุกคน
2. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อ HAFELE รุ่น ECOM-220
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ฟอกอากาศด้วยตัวกรอง HEPA ถึง 7 ชั้น | ไม่มีพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับ USB |
มีไส้กรองคาร์บอนดักจับกลิ่นคุณภาพสูง | อายุการใช้งานของไส้กรองอยู่ที่ 3-6 เดือน |
ปล่อยประจุอิออนดักจับกลิ่นและสารพิษ | |
เชื่อมต่อเพื่อใช้งานกับรถยนต์ผ่านช่องจ่ายไฟ DC12V |
มาที่เครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดใหญ่กว่าแบบพกพาขึ้นมาอีกขนาด กับเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ของ HAFELE รุ่น ECOM-220 เครื่องกรองอากาศที่มาในรูปทรงสุดล้ำราวกับเครื่องเกมคอนโซล มาพร้อมกับตัวกรอง HEPA ถึง 7 ชั้น ที่สามารถทำได้ทั้งกรองฝุ่นละอองและสารพิษในอากาศ ดักจับกลิ่นด้วยคาร์บอนและประจุอิออน และมีอโรมากระจายความสดชื่นไปทั่วทั้งตัวรถ เรียกได้ว่าเป็นอีกรุ่นของเครื่องฟอกอากาศที่ทำให้คุณอุ่นใจได้ทั้งครอบครัวเมื่อต้องใช้เวลาอยู่ในรถนานๆ
3. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อ PHILIPS รุ่น GoPure 5211
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ฟอกอากาศอย่างละเอียดด้วย SelectFilter Plus ของ Phillips เอง | ไม่มีไส้กรองคาร์บอนที่ใช้ขจัดกลิ่น |
มีเซนเซอร์ AQI ตรวจสอบสภาพอากาศภายในรถ | ไม่มีพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับ USB |
ได้รับการรองรับโดย Airmid ขจัดสารก่อภูมิแพ้ได้ 90% | |
เชื่อมต่อเพื่อใช้งานกับรถยนต์ผ่านช่องจ่ายไฟ DC12V |
มาที่เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ระดับพรีเมียมจากแบรนด์ดัง PHILIPS รุ่น GoPure 5211 เครื่องฟอกอากาศรูปทรงเรียบง่าย แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพการใช้งาน ด้วยตัวกรองที่เรียกว่า “SelectFilter Plus” อันเป็นนวัตกรรมเฉพาะตัวของ PHILLIPS ที่กรองสิ่งไม่พึงประสงค์ในอากาศได้อย่างละเอียดลออและหมดจด ที่ได้รับการรองรับจาก Airmid องค์กรชีวะการแพทย์ระดับโลก ยืนยันในคุณภาพ จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์จาก PHILLIPS ตัวนี้มีคุณภาพที่สมกับราคาอย่างแน่นอน ใครยังไม่รู้จะเลือกเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี รุ่นนี้ก็น่าสนใจ
4. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อ ARTEX รุ่น Car Air Purifier ไร้สาย
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ฟอกอากาศด้วยไส้กรอง HEPA คุณภาพสูง | ไม่รองรับการเชื่อมต่อผ่านช่องจ่ายไฟ DC12V |
สามารถดูดซับสารพิษในอากาศได้ทุกประเภท | อายุการใช้งานของไส้กรองอยู่ที่ 3-6 เดือน |
เชื่อมต่อเพื่อใช้งานกับรถยนต์ผ่านพอร์ต USB |
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์จาก ARTEX รุ่น Car Air Purifer อีกหนึ่งเครื่องฟอกอากาศขนาดพกพารูปทรงเรียบง่ายแต่ประสิทธิภาพการใช้งานไม่ธรรมดา มาพร้อมกับตัวกรอง HEPA คุณภาพสูงที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ทุกชนิด ดูดซับสารพิษที่เป็นอันตรายกับร่างกายได้อย่างหมดจด ที่สำคัญคือ เป็นรุ่นที่ประหยัดไฟด้วย เพราะนอกจากจะมีแบตเตอรี่ในตัว ยังใช้กำลังไฟน้อยเพียง 5 V เท่านั้น สำหรับผู้มองหาเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ที่ใช้งานง่าย พกพาสะดวก นี่คือรุ่นที่เหมาะสำหรับคุณ
5. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อ MITSUTA รุ่น MCA101
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ฟอกอากาศด้วยไส้กรอง HEPA คุณภาพสูง | ไม่มีพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับ USB |
มีไส้กรองคาร์บอนดักจับกลิ่นคุณภาพสูง | อายุการใช้งานของไส้กรองอยู่ที่ 3-6 เดือน |
ปล่อยประจุอิออนดักจับกลิ่นและสารพิษ | |
เชื่อมต่อเพื่อใช้งานกับรถยนต์ผ่านช่องจ่ายไฟ DC12V |
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์จาก MITSUTA รุ่น MCA 101 (อย่าจำสับสนกับ MITSUBISHI ที่ชื่อคล้าย ๆ กันนะ) เครื่องฟอกอากาศรูปทรงสุดล้ำ มาพร้อมกับการใช้งานที่ล้ำไม่แพ้กัน กับตัวกรองแบบ 3 in 1 รวมตัวกรอง HEPA, ไส้กรองคาร์บอน และชั้นกรอง Pro-Filter ไว้ในอันเดียว ทำให้ตัวเครื่องสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วทันใจ มาพร้อมกับไฟแสดงสถานะ และหน้าจอ LED ที่จะแสดงคุณภาพของอากาศภายในรถตลอดเวลา สำหรับผู้นิยมความโดดเด่นโดยเฉพาะ รุ่นนี้โดดเด่นและเตะตาอย่างแน่นอน
6. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อ Figo รุ่น Figo 4
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ฟอกอากาศด้วยไส้กรอง HEPA คุณภาพสูง | ไม่รองรับการเชื่อมต่อผ่านช่องจ่ายไฟ DC12V |
สามารถดูดซับสารพิษในอากาศได้ทุกประเภท | อายุการใช้งานของไส้กรองอยู่ที่ 3-6 เดือน |
ปล่อยประจุอิออนดักจับกลิ่นและสารพิษ | |
เชื่อมต่อเพื่อใช้งานกับรถยนต์ผ่านพอร์ต USB |
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์จาก Figo รุ่น Figo4 รุ่นที่ 4 ของเครื่องฟอกอากาศในเครือ Figo ที่ยังคงเอกลักษณ์ด้วยรูปทรงที่เรียบง่าย เข้ากันได้ดีการวางบนคอนโซลรถรุ่นใหม่ๆ ได้เกือบทุกรุ่น มาพร้อมฟังก์ชันอเนกประสงค์ในการขจัดสิ่งไม่พึงประสงค์ในอากาศ และสามารถปรับระดับการทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัดแบบพกพา แต่ด้วยประสิทธิภาพที่ไม่ธรรมดา นี่คือจึงเป็นอีกรุ่นของเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ที่เหมาะสำหรับหลายๆ คน
7. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อ AutoBot รุ่น 2 in 1
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
มีระบบเพิ่มความชื้นในอากาศด้วยน้ำสะอาด | ไม่รองรับการเชื่อมต่อผ่านช่องจ่ายไฟ DC12V |
ฟอกอากาศด้วยไส้กรอง HEPA คุณภาพสูง | อายุการใช้งานของไส้กรองอยู่ที่ 3-6 เดือน |
เชื่อมต่อเพื่อใช้งานกับรถยนต์ผ่านพอร์ต USB |
ใครยังไม่รู้จะเลือก เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี Autobot รุ่น 2 in 1 คือรุ่นที่เราไม่อยากให้คุณมองข้าม รุ่นนี้เป็นเครื่องฟอกอากาศดีไซน์เรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา ด้วยความที่เป็นเครื่องฟอกอากาศแบบรวม 2 การใช้งานในหนึ่งเครื่อง ที่นอกจากจะเอาไว้ใช้ขจัดสิ่งแปลกปลอมในอากาศแล้ว ยังสามารถทำให้อากาศสดชื่นมากขึ้น ด้วยระบบฟอกอากาศโดยใช้ไอน้ำ (ทำงานโดยการเติมน้ำเข้าไป) ทำให้อากาศในรถทั้งสะอาดชุ่มชื้น ใครที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศบนรถยนต์ที่ให้มากกว่าแค่อากาศบริสุทธิ์ นี่คือรุ่นที่ไม่ควรพลาด
8. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อ SHARP รุ่น IG-NX2B
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ระบบเครื่องฟอกอากาศพลาสม่าคลัสเตอร์แบบเข้มข้น | เหมาะกับพื้นที่ขนาด 3.6 ตารางเมตร |
ปรับความแรงพัดลมได้ 3 ระดับ | น้ำหนักตัวเครื่อง : 0.295 กก. |
ช่วยดับกลิ่น ฆ่าเชื้อโรค เติมความสดชื่น | |
มีระบบพ่นอนุภาคไฟฟ้าแบบเข้มข้น |
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อ SHARP รุ่น IG-NX2B จากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ต้นๆ ของวงการ โดยรุ่นนี้เป็นเครื่องฟอกอากาศระบบพลาสม่าคลัสเตอร์แบบเข้มข้น ใช้แผ่นกรองแบบ PM10 ช่วยดับกลิ่นบุหรี่ อาหาร กลิ่นสัตว์เลี้ยง กลิ่นเหงื่อ มาพร้อม Turbo Mode ช่วยฟอกอากาศได้ดีขึ้น ผ่านการทดสอบแล้วว่าช่วยฆ่าเชื้อไวรัส H1N1 ได้ ปรับความแรงพัดลมได้ 3 ระดับ ดีไซน์ให้คล้ายกับแก้วน้ำ สามารถตั้งวางได้หลายที่ทั้งในระและนอกรถ มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ, สีขาว และสีฟ้ามิ้นท์
9. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อ Baseus รุ่น Car Air Purifier
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ฟอกอากาศในรถด้วยน้ำหอมปรับอากาศ | ไม่รองรับการเชื่อมต่อผ่านช่องจ่ายไฟ DC12V |
ตัวกรอง Nanofiber กรองสิ่งแปลกปลอมอย่างละเอียด | อายุการใช้งานของไส้กรองอยู่ที่ 3-6 เดือน |
เชื่อมต่อเพื่อใช้งานกับรถยนต์ผ่านพอร์ต USB |
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์จากยี่ห้อ Baseus รุ่น Car Air Purifier เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ขนาดพกพาที่โดดเด่นด้วยระบบน้ำหอมปรับอากาศกลิ่นมะนาว ช่วยให้ในรถมีกลิ่นที่น่าอภิรมย์และสดชื่น อีกทั้งระบบฟอกอากาศที่ประสิทธิภาพสูงด้วยตัวกรองแบบ Nanofiber ที่สามารถจับสิ่งแปลกปลอมและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ในระดับโมเลกุล พร้อมกับไส้กรองคาร์บอนขจัดกลิ่นที่ทำงานผ่านตัวกรอง Nanofiber เป็นอย่างดี จึงเป็นอีกรุ่นที่มั่นใจได้ในคุณภาพ และความหอมสดชื่น
10. เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อ Axon รุ่น Pure Fresh Purifier
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ฟอกอากาศด้วยไส้กรอง HEPA คุณภาพสูง | ไม่รองรับการเชื่อมต่อผ่านช่องจ่ายไฟ DC12V |
มีไส้กรองคาร์บอนดักจับกลิ่นคุณภาพสูง | อายุการใช้งานของไส้กรองอยู่ที่ 3-6 เดือน |
เชื่อมต่อเพื่อใช้งานกับรถยนต์ผ่านพอร์ต USB |
ปิดท้ายรายชื่อ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี กันด้วย Axon รุ่น Pure Fresh Purifier เครื่องฟอกอากาศขนาดพกพา ดีไซน์แปลกตาด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมโค้งมน (ไม่ตามกระแสเป็นทรงกลมแบบเจ้าอื่น) ตัวเครื่องเป็นพลาสติก ทำให้มีน้ำหนักและผิวสัมผัสแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ที่มักเป็นอะลูมิเนียมอัลลอยอย่างชัดเจน และยังโดดเด่นด้วยรูปแบบการทำงานโดยการฟอกอากาศแบบลมหมุนเวียน 360 องศา ทำให้อากาศสามารถออกมาได้จากทุกทิศทางของเครื่อง เรียกได้ว่าเป็นอีกรุ่นที่ดูเผินๆ อาจจะธรรมดา แต่ประสิทธิภาพไม่ธรรมดาเลย
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
ในยุคปัจจุบัน ความปลอดภัยของสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรคำนึงถึงเป็นอย่างแรกๆ ไม่ว่าจะออกไปทำงานหรือท่องเที่ยว เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ จึงเป็นนวัตกรรมอีกอย่างที่ถูกผลิตออกมาเพื่อให้รถยนต์ของเราเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของเราและครอบครัวได้อย่างแท้จริงหวังว่าในรายชื่อของ 10 อันดับ เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2024 ที่เราคัดสรรมาให้เลือกนี้ จะมีสักรุ่นที่ลงตัวกับความต้องการและงบประมาณที่คุณตั้งเอาไว้ เลือกได้แล้วก็ซื้อหามาเป็นไอเทมคู่รถกันได้เลย