อัปเดตล่าสุด 8 พ.ย. 2024

ส่อง 10 รุ่น หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี เสียงดี แบตทน 2024

หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี bluetooth headphones 111121 01
ภาพจาก pixabay.com

เชื่อว่าหนึ่งในอุปกรณ์ที่แทบทุกคนต้องมีเอาไว้ในครอบครองก็คือหูฟัง เพราะในปัจจุบันเราสามารถเลือกรับชมความบันเทิงต่างๆ ได้จากหลากหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น เพลง ภาพยนตร์ คลิปวิดีโอต่างๆ หรือใช้เพื่อการสนทนาก็ตาม โดยปัจจุบันหูฟังมีการผลิตออกมามากมายหลายรุ่นหลายแบบและหลายยี่ห้อ การใช้งานและคุณสมบัติ ก็แตกต่างกันออกไป และส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นหูฟังแบบ Bluetooth ใช้งานแบบไร้สายได้ ใครกำลังมองหาอุปกรณ์นี้เอาไว้ใช้งานแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือก หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี วันนี้เรามีมาแนะนำกันอย่างจุใจถึง 10 รุ่นด้วยกัน

หูฟัง Bluetooth มีกี่ประเภท

ก่อนจะไปดูว่าหูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนน่าใช้เรามาทำความรู้จักกับประเภทของหูฟังชนิดนี้กันก่อน โดยหลักๆ แล้วหูฟังบลูทูธจะแบ่งออกเป็น 3 แบบด้วยกันคือ

1. หูฟังบลูทูธแบบเอียร์บัด (Earbuds)

หูฟังแบบ Earbuds เป็นหูฟังที่เราคุ้นเคยกันมาอย่างยาวนาน มีทั้งแบบมีสายและแบบไร้สาย ลักษณะของหูฟังประเภทนี้ก็คือเวลาใช้งานจะใส่เข้าไปแค่บริเวณหูด้านนอกไม่มีส่วนที่ยื่นเข้าไปในรูหู ซึ่งหลายคนชอบหูฟังแบบนี้เพราะรู้สึกว่าสวมแล้วไม่อึดอัดหรือปวดหูมากจนเกินไป แต่ก็อาจจะมีข้อด้อยอยู่บ้างคือไม่เหมาะกับการใช้งานระหว่างการเคลื่อนไหวร่างกายเนื่องจากหลุดง่าย และหูฟัง Earbuds ส่วนใหญ่ไม่มีคุณสมบัติในการตัดเสียงรบกวน ส่วนคุณภาพและราคาก็มีให้เลือกแตกต่างกันออกไป

2. หูฟังบลูทูธแบบคาดหัว (Headphones)

หูฟังบลูทูธแบบ Headphones เป็นอีกแบบที่ได้รับความนิยมใช้งานกันเนื่องจากคุณภาพเสียงที่ดีกว่าหูฟังขนาดเล็ก ให้เสียงเบสที่หนักแน่น มิติเสียงที่ครบถ้วน สามารถใช้งานได้ทั้งกับการดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมที่ต้องการรายละเอียดของเสียงมากกว่าปกติ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการตัดเสียงรบกวนได้ดี ในรุ่นที่ราคาแพงหน่อยนั้นจะให้เสียงแบบเรียลไทม์ระบุทิศทางได้ชัดเจน สำหรับการเลือกหูฟังแบบครอบหูนั้นควรทดลองสวมใส่ดูก่อนว่าน้ำหนักเบาและใส่สบาย เพราะถ้ารัดแน่นเกินไปอาจทำให้ปวดหูได้หากใช้ติดต่อกันนานๆ

3. หูฟังบลูทูธแบบอินเอียร์ (In Ear)

หูฟังแบบสุดท้ายก็คือหูฟังแบบ อินเอียร์ ที่ต้องบอกว่ากำลังมาแรงมากในยุคนี้ ลักษณะการใช้งานหูฟังแบบนี้ก็คือจะมีจุกยางที่สอดเข้าไปในรูหูต่างจากหูฟังแบบเอียร์บัด ซึ่งข้อดีของหูฟังแบบนี้ก็คือหลุดยาก มีระบบการตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดในบรรดาหูฟังทุกประเภท คุณภาพเสียงก็ชัดเจน รวมถึงมีฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย บางรุ่นสามารถสั่งงานด้วยเสียง หรือระบบสัมผัสได้ นิยมใช้ระหว่างการออกกำลังกาย เพราะทนน้ำทนเหงื่อได้ดี แต่ก็มีราคาแพงกว่าหูฟังแบบอื่นด้วยเช่นกัน

วิธีเลือกหูฟังบลูทูธ ที่เหมาะกับตัวเอง

เราได้ทำความรู้จักประเภทของหูฟังกันไปแล้วคราวนี้เรามาดูกันเลยว่าจะเลือกหูฟังหูฟังบลูทูธ อย่างไรถึงจะเหมาะกับตัวเองมากที่สุด

1. เลือกตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน

อันดับแรกเลยในการจะเลือกหูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี หรือว่ารุ่นไหนที่เหมาะกับเรามากที่สุดก็คือการพิจารณาจากวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เพราะส่งผลต่อการกำหนดสเปคของหูฟัง ยกตัวอย่างเช่น หากเน้นสวมใส่เวลาออกกำลังกายควรเลือกแบบที่หลุดยาก หรือมีสายคล้องคอ ทนน้ำกันเหงื่อได้ดี น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย หรือหากเน้นเล่นเกมควรเลือกหูฟังที่เชื่อมต่อได้เสถียรแบบเรียลไทม์ สัญญาณไม่ดีเลย์ ให้รายละเอียดของเสียงแม่นยำ เพราะเพียงเสี้ยววินาทีก็ส่งผลกับการเล่นได้ หรือหากเป็นคนที่ชอบฟังเพลงแทบจะตลอดเวลาก็ควรที่แบตเตอรี่ว่าใช้งานได้นานแค่ไหน เป็นต้น

2. คุณภาพเสียง

เมื่อมองหาหูฟัง แน่นอนว่าคุณภาพเสียงคือสิ่งสำคัญที่เราต้องพิถีพิถันในการเลือก โดยให้เราดูว่าหูฟังรุ่นที่เราสนใจนั้นให้เสียงแบบใด ระหว่าง เสียงโมโน, เสียงสเตอริโอ หรือเสียง HD เช่น หากเน้นการฟังเพลงหรือเล่นเกมที่ต้องการความคมชัดและมิติเสียงที่ดีก็ควรเลือกเป็นระบบ เสียงสเตอริโอ หรือเสียง HD ส่วนหูฟังรุ่นไหนที่ให้เสียงถูกใจนั้นหากเป็นไปได้ควรทดลองฟังด้วยตัวเองจะเป็นการดีที่สุด เพราะคำว่าหูฟังเสียงดีของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนแค่หูฟังราคาหลักร้อยก็ถือว่าเสียงดีพอแล้ว

3. ฟังก์ชันการใช้งาน

ปัจจุบันฟังก์ชันการทำงานของหูฟังบลูทูธนั้นพัฒนาขึ้นมามาก ช่วยให้ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลากหลาย ส่วนใครจะต้องการฟังก์ชันไหนเป็นพิเศษก็อยู่ที่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน โดยฟังก์ชันเริมที่มากับหูฟังนั้นอาทิเช่น สามารถจับคู่กับอุปกรณ์ได้หลายอย่างพร้อมกัน, ฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวน, การสั่งงานด้วยเสียงผ่านผู้ช่วยอัจฉริยะต่างๆ, การแปลภาษา, การใช้งานด้วยระบบสัมผัส, การเล่นหรือหยุดเล่นอัตโนมัติ เป็นต้น

4. ดีไซน์ของหูฟัง

ข้อต่อมาที่สำคัญสำหรับใครหลายคนก็คือดีไซน์การออกแบบของหูฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสีสัน หรือความสบายในการสวมใส่ หูฟังที่ดีไม่ควรใส่นานๆ แล้วทำให้เรารู้สึกปวดหูหรือเป็นภาระ จึงควรต้องมีน้ำหนักเบา ออกแบบให้กระชับรับกับใบหู เช่น ถ้าเป็นหูฟังเกมมิ่งหรือหูฟังแบบครอบหู ควรมีก้านหูฟังที่สามารถปรับระดับได้ แข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา ฟองน้ำระบายอากาศได้ดี หรือมีไฟสีสันเพิ่มความเร้าใจขณะใช้งาน

5. การเชื่อมต่อ

หูฟังบลูทูธเน้นการใช้งานแบบไร้สาย การเชื่อมต่อสัญญาณกับแหล่งกำเนิดเสียงจึงเป็นเรื่องสำคัญอีกอย่างที่เราต้องตรวจสอบ ซึ่งสิ่งที่เราสามารถใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกก็คือเวอร์ชันของ Bluetooth ที่มากับหูฟังรุ่นนั้นๆ ยิ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ก็ยิ่งมีความเสถียรของสัญญาณและรับส่งได้เร็วขึ้น โดยปัจจุบันมีตั้งแต่ Bluetooth 4.0, Bluetooth 4.1, Bluetooth 4.2, Bluetooth 5.0, และ Bluetooth 5.1 ใครไม่อยากอารมณ์เสียเรื่องเสียงมาช้ากว่าภาพห้ามลืมเรื่องนี้โดยเด็ดขาด

6. อายุการใช้งานแบตเตอรี่

นอกจากจะสวย เสียงดี ฟังก์ชันครับ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในหูฟังบลูทูธก็สำคัญไม่แพ้ข้ออื่น โดยเงื่อนไขการใช้งานของแต่ละรุ่นก็แตกต่างกันออกไป โดยยิ่งเราใช้งานฟังก์ชันเสริมอื่นๆ มากขึ้นเท่าไหร่แบตเตอรี่ก็จะหมดเร็วขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ไม่ควรน้อยกว่า 5-7 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง หรือหากมีระบบชาร์จเร็วมาด้วยก็จะยิ่งดีมาก

7. การรับประกัน

สุดท้ายก็คือเรื่องระยะเวลาและเงื่อนไขในการรับประกัน หูฟังแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ มักมาพร้อมกับการรับประกันที่มีเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป เช่น 6 เดือน, 12 เดือน หรือ 24 เดือน ก่อนการชำระเงินแนะนำว่าควรตรวจสอบเงื่อนไขให้ดีว่าทางผู้ขายรับประกันให้ในเรื่องใดบ้าง และระยะเวลานานเพียงใด จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการใช้งานให้มากขึ้น โดยเฉพาะกับหูฟังที่มีราคาแพง

แนะนำ 10 รุ่น หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี

1. Xiaomi Redmi AirDots S 2

หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี Xiaomi Redmi AirDots S2
จุดเด่น
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0ขนาดค่อนข้างเล็ก ควรเก็บไว้ในพ็อดให้เรียบร้อยทุกครั้งหลังเลิกใช้งาน
ระยะเวลาในการใช้งาน 4 ชั่วโมง (ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง)
Game Mode ปรับปรุงคุณภาพเสียงระหว่างการเล่นเกม
ค่า Latency ที่ต่ำ เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกๆ สถานการณ์

มาเริ่มต้นรายชื่อ หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี กันเลยกับ Xiaomi Redmi AirDots S 2 ที่ออกมาสานต่อจากรุ่นแรกที่ทำคะแนนเอาไว้ดีพอสมควรกับคุณภาพที่คุ้มราคา โดดเด่นด้วยดีไซน์สวยงามทันสมัย สวมใส่สบาย น้ำหนักเบาเพียง 4.1 กรัม มาพร้อมเคสชาร์จส่วนตัว สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาในรุ่นนี้ก็คือฟังก์ชัน Game Mode ที่มาช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้นระหว่างการเล่นเกม ลดการดีเลย์ด้วยค่า Latency ที่ต่ำ รองรับการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Bluetooth 5.0 สั่งงานด้วยเสียงได้ผ่าน Google Assistant ใช้งานแยกข้างหูฟังได้ แบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสุดถึง 4 ชั่วโมง ที่สำคัญราคาน่าคบหาดูใจมาก

2. Jabees Firefly Pro

หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี Jabees Firefly Pro
จุดเด่น
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0ระยะเวลาในการใช้ไม่นานมาก แม้จะชาร์จเร็ว
ระยะเวลาในการใช้งาน 3 ชั่วโมง (ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง)
โหมด Ambient Sound ผสมเสียงเพลงและเสียงรอบข้างเข้าด้วยกัน
ป้องกันเหงื่อและฝุ่นละอองได้อย่าง 100%

หูฟังบลูทูธจากยี่ห้อที่ไม่ค่อยจะคุ้นตากันสักเท่าไหร่ แต่พอดูราคา กับฟังก์ชันการใช้งานแล้ว หลายคนอาจจะหันมาสนใจ เพราะเป็นหูฟัง In Ear ในราคาที่จับต้องได้ มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยลงตัว และยังแอบล้ำด้วยโหมด Ambient Sound ที่สามารถทำให้เสียงภายนอก กับเสียงที่อยู่ในหู สามารถเบลนด์เข้ากันได้อย่างลงตัว ทำให้เราสามารถได้ยินเสียงเพลง คลอไปกับบรรยากาศรอบๆ ตัวได้อย่างละมุนหูอย่างมาก แม้ว่าระยะเวลาของแบตเตอรี่จะค่อนข้างสั้นไปหน่อย (แค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง) แต่ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่น่าสนใจอีกรุ่นครับ

3. Sony WF-1000XM3

หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี Sony WF 1000XM3
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0สาย USB-C ที่ให้มาค่อนข้างสั้น
ระยะเวลาในการใช้งาน 5-10 ชั่วโมง (ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง)
ประกอบด้วยวัสดุแม่เหล็กนีโอดิเมียมคุณภาพสูง
ตอบสนองความถี่ของเสียงได้สูง 20Hz-20,000Hz

Sony ยังถือเป็นแบรนด์ที่หลายคนวางใจคุณภาพ เพราะอยู่คู่กับวงการมายาวนาน ซึ่ง Sony WF-1000XM3 นั้นจัดว่าเป็นรุ่นยอดนิยมอีกรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ รุ่นนี้เป็นหูฟัง True Wireless แบบอินเอียร์ มาพร้อมชิป QN1e ที่ทำให้มีความสามารถในการตัดเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม และให้เสียงที่ทรงพลังด้วยไดรเวอร์ยูนิตเล็กแต่ทรงพลังขนาด 6 มม. พ่วงเทคโนโลยี Digital Sound Enhancement Engine HX หรือ (DSEE HX) ปรับความละเอียดของไฟล์ให้ได้คุณภาพที่ดียิ่งขึ้นได้แบบเท่าตัว และแบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 8 ชั่วโมง รวมกับเคสชาร์จอีก 24 ชั่วโมงเป็น 32 ชั่วโมง รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย Bluetooth 5.0 และ NFC ตัวหูฟังออกแบบมาตามหลักสรีรศาสตร์สวมใส่สบาย งานสร้างไม่เสียชื่อแน่นอน

4. Apple AirPods Max

หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี 4 Apple AirPods
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0ไม่รองรับอุปกรณ์ Add-Ons อื่นๆ ที่ไม่ใช่ของ Apple
ระยะเวลาในการใช้งาน 20 ชั่วโมง (ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง)ราคาค่อนข้างแพงพอสมควร
ใช้งานได้ดีที่สุดเมื่อเชื่อมต่อกับ iPhone และผลิตภัณฑ์ Apple อื่นๆ
ออกแบบมาให้สามารถสวมใส่ได้สบายตลอดวัน

พูดถึงหูฟังบลูทูธแล้ว จะไม่มีผลิตภัณฑ์จาก Apple เลยย่อมเป็นไปไม่ได้ สำหรับผู้ใช้ iPhone หรือ iPad ทาง Apple ก็มีหูฟังมาตอบสนองการใช้งานของคุณเป็นอย่างดี โดยเฉพาะหูฟังระดับพรีเมียมอย่าง Airpods Max ตัวนี้นี่เอง ที่มีฟังก์ชันการใช้งานครอบคลุมทุกอย่างที่คนใช้ iPhone ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ระบบเสียงที่ยอดเยี่ยม การควบคุมที่สามารถเชื่อมต่อการใช้ผ่าน iPhone และ iPad ได้เป็นอย่างดี และเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ ที่ใช้ได้ยาวนานมากจนไม่น่าเชื่อกว่า 20 ชั่วโมง เรียกได้ว่าใช้จนลืมไปเลย แม้ราคาจะถือว่าสูงมาก แต่สำหรับชาว Apple เราเชื่อว่าคงไม่มีความลังเลแน่นอนอยู่แล้ว

5. Beats Flex

หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี 5 Beats
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0สายหูฟังค่อนข้างสั้น ควรระมัดระวังเวลาแชร์หูฟังกับเพื่อน
ระยะเวลาในการใช้งาน 12 ชั่วโมง (ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง)
หูฟังแบบสายคล้องคอ พร้อมระบบควบคุมเสียงทั้ง 2 ข้าง
มีระบบลดเสียงลมในไมโครโฟน ทำให้ไร้เสียงรบกวนเวลาพูด

หูฟังแบบคล้องคอสำหรับสายออกกำลังกายและสายลุยโดยเฉพาะอีกรุ่น โดยเจ้า Beats Flex รุ่นมีแถบแม่เหล็กช่วยยึดหูฟังไม่ให้หลุดร่วงระหว่างการใช้งานหรือเคลื่อนไหวร่างกาย และด้วยสายคล้องแบบ Flex-Form ทำให้สวมใส่ได้สบาย เลือกจุกขนาดต่างๆ ได้ถึง 4 ขนาด มีฟีเจอร์เล่นและหยุดเล่นอัตโนมัติ พร้อมคุณภาพเสียงระดับพรีเมียม มีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนในตัว และด้วยชิป Apple W1 ทำให้สามารถเชื่อมต่อได้อย่างราบรื่นผ่าน Bluetooth 5.0 สามารถควบคุมการใช้งานได้จากตัวสายแบบ On-device แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 12 ชั่วโมง พร้อม Fast Fuel ที่ชาร์จเพียง 10 นาที ใช้ต่อได้ 1.5 ชั่วโมง ใครยังไม่รู้จะเลือก หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดีรุ่นนี้ก็น่ารับไว้พิจารณา

6. Sony LinkBuds หูฟังไร้สาย WF-L900

หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี 6 Sony LinkBuds หูฟังไร้สาย WF L900
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2ขนาดค่อนข้างเล็ก ควรเก็บไว้ในพ็อดให้เรียบร้อยทุกครั้งหลังเลิกใช้งาน
ระยะเวลาในการใช้งาน 17.5 ชั่วโมง (ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
ใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟนผ่านตัวหูฟังได้ง่ายมาก
ระบบเสียงที่สามารถบาลานซ์เสียงในหูและเสียงโลกภายนอกได้ดี

มาถึงหูฟังบลูทูธระดับคุณภาพสูง จาก Sony กันบ้าง สำหรับหูฟังรุ่น LinkBuds จาก Sony ตัวนี้ ถือว่าออกแบบมาได้อย่างดี และดูมีความพิเศษแบบเฉพาะตัวอย่างมาก ดีไซน์แบบมีวงแหวนเล็กๆ พ่วงด้านข้าง ซึ่งเจ้าวงแหวนนี่เอง ที่จะเป็นตัวช่วยในการควบคุมการรับเสียง และทำให้คุณภาพเสียงมีความสมูทอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยระบบเสียงแบบ “Digital Sound Enhancement Engine” หรือ DSEE อันเป็นจุดเด่นของทาง Sony เอง ทำให้สามารถบาลานซ์ระดับเสียงทุกเสียง ที่ผ่านเข้าไปในหูของคุณได้อย่างลงตัว เสียงเพลง เสียงพูด ไปจนถึงเสียงโลกภายนอก สามารถรวมอยู่ด้วยกันได้ในเวลาเดียว ถือเป็นของแปลกใหม่ที่ใครได้ลองต้องชอบแน่นอน

7. Huawei FreeBuds 4i

หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี 7 Huawei FreeBuds 4i
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0ค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับฟังก์ชันที่มี
ระยะเวลาในการใช้งาน 10 ชั่วโมง (ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง)
ตอบสนองต่อระบบสัมผัสได้อย่างแม่นยำ
ตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างหมดจด

หูฟังบลูทูธจาก Huawei ที่หลายคนไว้วางใจในคุณภาพกับรุ่น FreeBuds ที่โดดเด่นทั้งในด้านดีไซน์และการใช้งาน ที่ออกแบบมาลงตัว แบบที่ไม่จำเป็นต้องใช้กับผลิตภัณฑ์ของ Huawei ก็สามารถให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมได้แบบเท่าๆ กัน และสามารถตอบสนองต่อระบบการควบคุมแบบ “แตะ” ได้ดีมาก แต่ด้วยราคา เมื่อเทียบกับฟังก์ชันการใช้งาน ที่ก็ดูไม่แตกต่างจากหูฟังบลูทูธโดยทั่วไปมากนัก หลายคนอาจจะมองว่ามันดูจะแพงไปสักนิด แต่ถ้าวัดในด้านระบบเสียงแบบล้วนๆ คุณภาพของหูฟังในรุ่นนี้ ก็ยังถือว่าคุ้มราคาอยู่แน่นอนครับ

8. BOSE QuietComfort 45

หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี 8 BOSE QuietComfort 45
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0ราคาค่อนข้างแพงพอสมควร
ระยะเวลาในการใช้งาน 20-24 ชั่วโมง (ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง)
ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้เป็นอย่างดี
มีโหมดจัดการเสียงภายในได้อย่างลงตัว

หูฟังบลูทูธแบบ Headphone คุณภาพสูงจากแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่าง BOSE นั่นเอง กับหูฟังดีไซน์เรียบง่าย แต่ดูดีและน่าใช้อย่างมาก ปุ่มควบคุมรอบๆ หูฟัง ได้รับการออกแบบมาอย่างดี ให้ดูกลมกลืน และไม่ขัดสายตา นอกจากเรื่องความสวยงาม การใช้งานก็อยู่ในระดับที่ดีมาก ด้วยฟีเจอร์หลักอย่าง “Active Noise Cancellation” ที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนทุกอย่างได้ในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นเสียงเพลง เสียงพูด ให้คุณเสียงมีความกลมกลืนกันเป็นอย่างดีตลอดการใช้งาน แถมยังใช้งานได้ยาวนานมาก 20-24 ชั่วโมง ใครที่ชอบหูฟังในสไตล์เรียบหรูดูดี เชื่อว่าต้องถูกใจเจ้าตัวนี้กันตั้งแต่แรกเห็นเลยล่ะ

9. . Audio Technica Gaming หูฟังเกม รุ่น ATH G1W – Black

หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี 9 Audio Technica Gaming หูฟังเกม รุ่น ATH G1W – Black
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0ขนาดค่อนข้างใหญ่ อาจไม่เหมาะกับการนำไปใช้ข้างนอก
ระยะเวลาในการใช้งาน 15 ชั่วโมง (ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง)
ระบบเสียงรอบทิศทางแบบอลังการสะใจ
ดีไซน์สวยงามโฉบเฉี่ยวในแบบของหูฟังเกมมิ่ง

ถือเป็นหูฟังบลูทูธแบบ Headphone สำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ กับหูฟังเกมมิ่ง ดีไซน์เท่โฉบเฉี่ยว ตามสไตล์ของอุปกรณ์เกมเมอร์ ที่ต้องเน้นความล้ำอนาคตโดนใจคนเล่นเกมไว้เป็นหลัก สามารถเอามาใช้เข้าคู่กับคอมพิวเตอร์ PC เกมมิ่ง แสงสี RPG วิบวับได้แบบลงตัว และด้วยความที่เป็นหูฟังแบบเน้นเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ทำให้ระบบเสียงจะมีความเซอร์ราวด์แบบอลังการสะเทือนหูสะใจมาก ยิ่งถ้าเล่นเกมที่มีเอฟเฟกต์เสียงเยอะๆ จะทำให้รู้สึกเหมือนไปยืนกลางดงปืนจริงๆ ได้เลย ทำให้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่อยากได้เสียงที่สมูทระรื่นหูเท่าใดนัก แต่สำหรับเกมเมอร์ที่เน้นความอลังการอยู่แล้ว ก็จัดไปได้เลยครับ

10. Defunc True Gaming

หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี Defunc True Gaming
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0อาจมีอาการดีเลย์บ้าง หากใช้ในการเล่นเกมออนไลน์
ระยะเวลาในการใช้งาน 30 ชั่วโมง (ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง)
ระบบเสียงรอบทิศทางแบบ 360 องศา
ดีไซน์แบบพิเศษ เพื่อส่งเสียงเข้าไปในรูหูได้โดยตรง

ส่งท้ายรายชื่อหูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ด้วยการเอาในสายเกมกันบ้าง กับ Defunc True Gaming ที่จะมาทำให้คุณรู้ว่าหูฟังเล่นเกมไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่หรือราคาแพง เพราะรุ่นนี้จัดเต็มเกินตัวเพื่อการเล่นเกมที่สนุกยิ่งขึ้นผ่านระบบเสียงเซอร์ราวด์ 360 องศา ให้รายละเอียดของเสียงและทิศทางที่ยอดเยี่ยมสร้างความได้เปรียบในการเล่นเกม รองรับการใช้งานแบบไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 ค่าความหน่วงต่ำ พร้อมไมโครโฟนคู่ รองรับการควบคุมแบบสัมผัส แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุดถึง 30 ชั่วโมง มาพร้อมเคสชาร์จสีเดียวกันที่ช่วยเพิ่มเวลาการใช้งานให้มากขึ้น

บทส่งท้ายจากผู้เขียน

ผ่านไปแล้วกับ 10 รุ่น หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี พร้อมเคล็ดลับในการเลือกใช้งาน โดยเราคัดมาให้เลือกหลายแบบ หลายราคา คุณสมบัติก็แตกต่างกันออกไป เพื่อให้คุณสามารถเฟ้นหารุ่นที่ตรงใจมากที่สุด เอาไว้เป็นหูฟังคู่โปรด เพื่อความบันเทิงส่วนตัว ส่วนใครจะมีใจให้รุ่นไหนก็แล้วแต่ความชอบและงบประมาณในกระเป๋าแล้วล่ะ

หมวดหมู่