ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี ช่วยป้องกันฟันผุ เด็กๆ ชอบ 2024

ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี ยาสีฟันเด็ก
ภาพจาก shopee.co.th

สุขภาพช่องปากเป็นเรื่องสำคัญ ปากสะอาด ฟันแข็งแรง เป็นสิ่งที่ควรดูแลเสียตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะนานวันเข้าจะยิ่งแก้ไขยาก เสียทั้งเงินและเวลารวมถึงมีความเจ็บปวดทรมานมากอีกด้วย ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการแปรงฟันนั่นเอง โดยคุณพ่อคุณแม่ควรที่จะฝึกให้ลูกแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี ซึ่งไอเทมที่สำคัญมากก็คือ “ยาสีฟันเด็ก” ที่ปัจจุบันมีทั้งรสชาติที่เด็กๆ ชอบและแพ็กเกจที่สวยงาม ส่งผลต่อการอยากแปรงฟันไม่น้อยเลยล่ะ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี บทความนี้เรามีมาฝาก พร้อมด้วยวิธีการเลือกซื้ออย่างเหมาะสม

เหตุผลที่ควรให้ลูกใช้ยาสีฟันเด็กโดยเฉพาะ

ก่อนอื่นเลยเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าเหตุใดจึงควรให้ลูกน้อยใช้ยาสีฟันสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ทั้งนี้ก็เพราะว่าช่องปาก เหงือก และฟันของเด็กนั้นค่อนข้างบอบบางกว่าผู้ใหญ่อย่างเรามาก จึงต้องเลือกยาสีฟันที่คิดค้นมาเพื่อเด็กแต่ละช่วงวัยโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรสชาติ ปริมาณของฟลูออไรด์ ไซลิทอล สารป้องกันฟันผุ ซึ่งหากมากเกินไปก็อาจเกิดอันตรายหรือทำให้เด็กรู้สึกไม่ดีกับการแปรงฟันอันจะส่งผลต่ออนาคตด้วย นอกจากนี้ยังควรดูด้วยว่ายาสีฟันนั้นเหมาะสำหรับเด็กในช่วงวัยใด

วิธีเลือกยาสีฟันเด็ก

ยาสีฟันเด็กมีมากมายหลายยี่ห้อ หลายรสชาติ คุณสมบัติก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งการจะเลือกยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดีนั้น เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีมีหลายสิ่งที่เราต้องพิจารณาในการเลือกซื้อ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1. เลือกยาสีฟันเด็กจากความเหมาะสมกับช่วงวัย

  • ยาสีฟันสำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 1 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ยังไม่มีฟันและบอบบางมาก ในช่องปากยังมีที่ว่าง ช่วงนี้ควรใช้ยาสีฟันแบบแผ่นก๊อซและผ้าบางๆ ในการเช็ดทำความสะอาดช่องปาก เพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และกลิ่นปาก
  • ยาสีฟันสำหรับเด็กวัย 1-3 ปี ช่วงวัยนี้ควรเลือกยาสีฟันแบบเจล ซึ่งมีข้อดีคือถึงแม้ว่าจะไม่มีฟองแต่ก็ซอกซอนเข้าไปทำความสะอาดได้ดี เหมาะกับเด็กที่อาจยังบ้วนยาสีฟันทิ้งไม่เป็น ทั้งนี้ควรเลือกยาสีฟันที่มีความอ่อนโยน ปลอดภัย กลืนได้โดยไม่มีอันตราย
  • ยาสีฟันสำหรับเด็กวัย 3 ปี ขึ้นไป ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการแปรงฟันและปัญหาสุขภาพในช่องปากเลยก็ว่าได้ สามารถเริ่มให้ใช้ยาสีฟันเนื้อครีมที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ได้แล้ว โดยควรเลือกรสชาติที่เด็กชอบ เพื่อกระตุ้นการอยากแปรงฟัน เพราะเด็กวัยนี้มักชอบขนมหวานและลูกอมที่เป็นสาเหตุของคราบหินปูนและปัญหาฟันผุ

2. เลือกยาสีฟันเด็กจากส่วนผสมของฟลูออไรด์และไซลิทอล

ฟลูออไรด์และไซลิทอล เป็นส่วนผสมสำคัญในยาสีฟันโดยมีหน้าที่ในการเคลือบฟันให้แข็งแรง ลดการสะสมของคราบสกปรกต่างๆ โดยสิ่งที่ต้องพิจารณาก็คือความเข้มข้นของฟลูออไรด์ ซึ่งหากอ้างอิงจากทันตยแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ควรมีความเข้มข้นระหว่าง 500-1,000 ppm หรือหากไม่มั่นใจสามารถสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญหรือทันตแพทย์ได้

3. เลือกยาสีฟันเด็กสูตรออร์แกนิก

การจะเลือกยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดีนั้นความปลอดภัยคือสิ่งที่ต้องคำนึงถึง คุณพ่อคุณแม่ควรมองหายาสีฟันสูตรออร์แกนิกที่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติมาเป็นส่วนผสม เพราะหากเด็กกลืนยาสีฟันลงไปก็ไม่มีอันตราย นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงยาสีฟันเด็กที่มีสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง อาทิ วัตถุกันเสีย, SLS, SLES, Paraben, น้ำตาล รวมถึงสารขัดฟัน เช่น Hydrogen Peroxide, Calcium Carbonate, Silicon หรือ Sodium Dodecyl Sulfate ซึ่งเป็นสารช่วยให้มีฟอง โดยคุณพ่อคุณแม่ควรอ่านรายละเอียดของผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดหรือสอบถามจากผู้ขายก่อนซื้อ

4. เลือกยาสีฟันเด็กจากรสชาติและกลิ่นที่เด็กชอบ

ปฏิเสธไม่ได้ว่ารสชาติของยาสีฟันนั้นคือองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้เด็กมีความรู้สึกดีต่อการแปรงฟัน บางคนอาจจะอยากแปรงฟันวันละหลายครั้งเลยก็ได้ โดยยาสีฟันเด็กนั้นมีหลายรสชาติให้เลือกไม่ว่าจะเป็น รสส้ม, สตรอว์เบอร์รี, รสองุ่น, รสเลมอน, รสมินต์ หรือกลิ่นผลไม้อื่นๆ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องสังเกตในระยะแรกว่าลูกชอบกลิ่นหรือรสชาติยาสีฟันแบบไหน เพราะส่วนใหญ่พอเด็กใช้ไปสักพักก็จะติดกับรสชาตินั้นไปเลยจนไม่อยากใช้แบบอื่นหรือยี่ห้ออื่น

5. แพ็กเกจและของของแถม

ข้อสุดท้ายในการเลือกยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดีก็คือการพิจารณาจากแพ็กเกจของยาสีฟัน ซึ่งมีผลไม่น้อยในการที่จะทำให้เด็กรู้สึกอยากแปรงฟัน ไม่ว่าจะเป็นลายการ์ตูนที่เด็กชอบ สีสันของยาสีฟัน รูปทรงของหลอดยาสีฟัน ซึ่งโดยปกติแล้วยาสีฟันกับแปรงสีฟันมักจะถูกขายมาเป็นเซ็ตและลวดลายเดียวกัน นอกจากนี้ทางผู้ผลิตยังอาจมีโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเป็นของแถมที่เด็กๆ ชอบ เช่น โมเดลการ์ตูน สมุดวาดภาพ ดินสอสี หรือผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กอื่นๆ เหล่านี้ล้วนช่วยให้เด็กมีความรู้สึกที่ดีต่อการแปรงฟันทั้งสิ้น

ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี

ยาสีฟันเด็กนั้นมีมากมายหลายยี่ห้อ อาทิ Kodomo, Colgate Kids, Pigeon, Chicco, Lamoonbaby, Molar Bear, Baybee, KINDEE, Wonder Smile Kids, Fluocaril เป็นต้น ส่วนแต่ละยี่ห้อจะน่าสนใจแค่ไหน เรารวบรวมรายละเอียดมาให้คุณได้พิจารณากัน

1. ยาสีฟันเด็ก Kodomo Organic Baby Toothpaste Fluoride Formula

ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี Kodomo Organic Baby Toothpaste Fluoride Formula
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
สูตรออร์แกนิก อ่อนโยนและปลอดภัยเหมาะสำหรับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป
ฟลูออไรด์เข้มข้น 1,000 ppmขนาดบรรจุ 40 กรัม
ผ่านการรับรองมาตรฐาน ECOCERT
ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

เรามาเริ่มต้นรายชื่อ ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดีกันด้วย Kodomo Organic Baby Toothpaste Fluoride Formula ยาสีฟันกลิ่น Strawberry Banana จากแบรนด์ขวัญใจเด็กๆ สูตรออร์แกนิก อ่อนโยนและปลอดภัย ปราศจาก สีสังเคราะห์, Paraben, SLS, SLES และน้ำตาล มีส่วนผสมของสารสกัด Organic Aloe ที่ผ่านการรับรอง ECOCERT จากฝรั่งเศส มีฟลูออไรด์เข้มข้น 1,000 ppm ช่วยทำความสะอาดและเคลือบฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นตัวเลือกที่คุณพ่อคุณแม่วางใจและเด็กๆ ชอบ

2. ยาสีฟันเด็ก Colgate Kids Minions Fun Minty Gel Flavor

ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี Colgate Kids Minions Fun Minty Gel Flavor
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
แพ็กเกจการ์ตูน มินเนี่ยนสำหรับเด็กวัย 2-6 ปี
มีฟลูออไรด์เข้มข้น 1,000 ppmขนาดบรรจุ 40 กรัม
รส Minty Gel ไม่เผ็ด
ทำความสะอาดฟันและช่องปากอย่างอ่อนโยน

เมื่อพูดถึงยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดีจะขาด Colgate Kids Minions Fun Minty Gel Flavor ไปได้อย่างไร เพราะอยู่คู่กับปากและฟันของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ในบ้านเรามาอย่างยาวนาน โดยสูตรนี้มากับรสมิ้นท์ตี้เจลที่ถูกใจเด็กๆ พร้อมลายการ์ตูนมินเนี่ยนที่ช่วยให้เด็กรู้สึกสนุกกับการแปรงฟัน สามารถใช้ได้กับเด็กอายุ 2-6 ปี มีความเข้มข้นของฟลูออไรด์ 1,000 ppm ช่วยทำความสะอาดและเคลือบฟันอย่างอ่อนโยน ป้องกันฟันผุอย่างได้ผลเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง

3. ยาสีฟันเด็กชนิดเจล Pigeon

ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี ยาสีฟันเด็กชนิดเจล Pigeon
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
ฟลูออไรด์เข้มข้น 1,000 ppmเหมาะกับเด็กอายุ 1-6 ปี
ไม่มีส่วนผสมของพาราเบนและ SLSควรใช้ในปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียว
ช่วยป้องกันฟันผุและเคลือบฟัน
ส่วนผสมแบบ Food grade อ่อนโยนและปลอดภัย

ต่อกันด้วยยาสีฟันเด็กชนิดเจล Pigeon อีกหนึ่งความไว้วางใจของคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นห่วงสุขภาพปากและฟันของลูกน้อย เป็นยาสีฟันที่มีส่วนผสมของไซลิทอลรสธรรมชาติและฟลูออไรด์เข้มข้น 1,000 ppm ใช้ได้กับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป โดยควรใช้ในปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียว สูตรนี้คิดค้นร่วมกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ว่าสามารถช่วยเคลือบฟันและเสริมสร้างความแข็งแรงของโครงสร้าง มีส่วนช่วยลดปัญหาฟันผุ ปลอดภัยเพราะผลิตด้วยส่วนผสม Food grade ปราศจาก SLS, PARABEN ไม่สร้างความระคายเคือง มีให้เลือกในรสธรรมชาติ, สตรอว์เบอร์รี และ องุ่น

4. ยาสีฟันเด็ก Chicco Oral Care Toothpaste

ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี Chicco Oral Care Toothpaste
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
คิดค้นรสชาติมาให้เหมาะกับช่วงวัยของเด็กเหมาะกับเด็กอายุ 1-5 ปี
ไม่มีฟลูออไรด์และสารกันบูดรส Apple Banana เหมาะกับเด็กช่วงหย่านม
มีส่วนผสมของสารขัดถูต่ำ ไม่ทำร้ายฟัน
มีไซลิทอลช่วยป้องกันฟันผุ

Chicco Oral Care Toothpaste ยาสีฟันเด็กจากอิตาลี ที่มากับคุณสมบัติในการดูแลและปกป้องฟันของลูกน้อย คิดค้นมาเป็นพิเศษด้วยรสชาติที่เหมาะกับช่วงวัยโดยรส Apple Banana เหมาะกับเด็กช่วงหย่านม ส่วนรสสตรอว์เบอร์รีเหมาะกับเด็กที่โตขึ้น ปลอดภัยเพราะไม่มีสารกันบูดและฟลูออไรด์ ใช้สารไซลิทอลช่วยป้องกันฟันผุ ผสมสารขัดถูในปริมาณที่น้อยจึงไม่ทำร้ายฟัน รวมถึงไม่เป็นอันตรายสำหรับเด็กที่อาจจะเผลอกลืนยาสีฟันเข้าไป เป็นอีกตัวเลือกที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนวางใจ

5. ยาสีฟันเด็ก Lamoonbaby

ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี Lamoonbaby
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
สูตรออร์แกนิก อ่อนโยนและปลอดภัยขนาดบรรจุ 40 กรัม
ปราศจากฟลูออไรด์เหมาะกับเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 3 ปี
ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก
มีกลิ่นแอปเปิล หอมและรสชาติถูกปาก

ใครยังไม่รู้จะเลือก ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี Lamoonbaby คืออีกชื่อที่เราอยากให้คุณรับไว้พิจารณา โดยเป็นยาสีฟันสูตรออร์แกนิกที่คิดค้นมาเพื่อเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 3 ขวบ หรือเด็กที่มีฟันขึ้นเป็นซี่แรก อ่อนโยนด้วยส่วนผสมของสารสกัดจากชาเขียวและคาโมมาย ใช้ส่วนผสมระดับ Food Grade ปราศจากสารอันตรายไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก มีกลิ่นแอปเปิล หอมและรสชาติถูกปาก รวมถึงไม่มีสารฟลูออไรด์จึงไม่ก่อให้เกิดโรคกระฟัน

6. ยาสีฟันเด็ก Molar Bear รุ่น Baby

ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี Molar Bear รุ่น Baby
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
มีฟลูออไรด์เข้มข้น 1,000 ppmมีให้เลือกในขนาด 25 กรัม และ 50 กรัม
ปราศจากสารอันตรายทั้ง SLS และ PARABENใช้ได้ตั้งแต่ฟันน้ำนมขึ้นซี่แรก
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากมะพร้าว
แบบเจล ไม่มีฟอง สามารถกลืนได้

หลอดที่ 6 ในรายชื่อ ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี ของเราคือ Molar Bear รุ่น Baby อีกหลอดที่พัฒนาขึ้นมาให้เหมาะสมกับช่วงวัย สำหรับสูตรนี้เป็นเนื้อเจลเหมาะกับเด็กที่ฟันน้ำนมเพิ่งขึ้นเป็นซี่แรก อ่อนโยนต่อช่องปากของลูกน้อยเพราะไม่มีทั้ง SLS และ PARABEN ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง รวมถึงไม่มีสารขัดฟันที่ทำร้ายเหงือกและฟัน ตัวยาสีฟันมีกลิ่นหอมมะพร้าวอ่อนๆ ไม่หวานจนเกินไป สามารถกลืนได้ รวมถึงไม่มีฟอง ง่ายต่อการฝึกลูกน้อยให้แปรงฟัน มีให้เลือกในขนาด 25 กรัม และ 50 กรัม

7. ยาสีฟันเด็ก Baybee Organic

ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี Baybee Organic
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
มีฟลูออไรด์เข้มข้น 1,000 ppmมีให้เลือกในขนาด 25 กรัม และ 50 กรัม
ปราศจากสารอันตรายทั้ง SLS และ PARABENใช้ได้ตั้งแต่ฟันน้ำนมขึ้นซี่แรก
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากมะพร้าว
แบบเจล ไม่มีฟอง สามารถกลืนได้

ต่อกันเลยกับยาสีฟันเด็ก Baybee Organic คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังหายาสีฟันที่ทั้งอ่อนโยน ปลอดภัย ถูกใจเจ้าตัวน้อย นี่อาจเป็นตัวเลือกที่คุณกำลังตามหา เพราะเป็นสูตรออร์แกนิก ปราศจากฟลูออไรด์ที่ทำให้เกิดกระฟัน ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองทั้ง SLS, SLES และ PARABEN ใช้สารสกัดจากคาโมมาย, แอปเปิล, ชะเอมเทศ, ว่านหางจระเข้ และ Milk Calcium ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงเหงือกและฟันช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติ สามารถกลืนได้ มีให้เลือกในรส สตรอว์เบอร์รี กล้วย และ ส้ม

8. ยาสีฟันเด็ก KINDEE

ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี KINDEE
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
ผลิตจากสารสกัดออร์แกนิกขนาดบรรจุ 50 กรัม
มีฟลูออไรด์เข้มข้น 500 ppmเหมาะกับเด็กอายุ 2-6 ปี
กลืนได้โดยไม่เกิดอันตราย
ช่วยบำรุงเหงือกและฟัน

KINDEE สูตรออร์แกนิก หนึ่งในรายชื่อยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดีที่ขาดไม่ได้อีกหลอดเพราะมีครบทั้งคุณประโยชน์และความปลอดภัยต่อลูกน้อย ผลิตด้วยส่วนผสม Food Grade กลืนได้โดยไม่เป็นอันตราย พร้อมสารสกัดจากธรรมชาติอย่าง ว่านหางจระเข้ และข้าวโพด มีฟลูออไรด์เข้มข้น 500 ppm ใช้ Xylitol เป็นสารให้ความหวาน มีส่วนช่วยในการบำรุงเหงือกและฟัน ลดการสะสมของแบคทีเรีย อ่อนโยนไม่มีสารทำให้ระคายเคือง ใช้ได้กับเด็กอายุ 2-6 ขวบ

9. ยาสีฟันเด็ก Wonder Smile Kids

ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี Wonder Smile Kids
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
คิดค้นโดยทันตแพทย์และเภสัชกรขนาดบรรจุ 30 กรัม
รสชาติถูกปาก มีกลิ่นหอมอ่อนๆควรใช้ในปริมาณที่กำหนดในแต่ละช่วงวัย
ใช้ส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ
นวัตกรรม 3-Action Anticavity ช่วยป้องกันฟันผุ

Wonder Smile Kids ยาสีฟันเด็กที่มาแรงเพราะมีดีในตัวเอง เป็นสูตรออร์แกนิกที่คิดค้นโดยทันตแพทย์และเภสัชกร สามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน ถึง 6 ปี (ควรอ่านรายละเอียดและคำแนะนำอย่างละเอียด) หลอดนี้ผลิตจากสารสกัดจากธรรมชาติอาทิ ส้ม แครอท สาหร่ายแดง ว่านหางจระเข้ ไม่แต่งสี ปราศจากสารอันตราย มาพร้อมนวัตกรรม 3-Action Anticavity ประกอบด้วย ฟลูออไรด์ 1,000 ppm, ไซลิทอล และ Active Calcium ช่วยปกป้องเหงือกและฟัน ลดการสะสมของแบคทีเรีย รสชาติถูกปาก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เด็กใช้แล้วชอบ นอกจากนี้ยังมีสูตรสำหรับคุณพ่อคุณแม่ให้เลือกใช้ด้วย

10. ยาสีฟันเด็ก Fluocaril Deli Fruity

ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดี Fluocaril Deli Fruity
จุดเด่นข้อสังเกต/คำแนะนำ
กลิ่นผลไม้ถูกใจเด็กๆขนาดบรรจุ 65 กรัม
มีฟลูออไรด์ 1,000 ppmเหมาะกับเด็กในวัย 2-6 ขวบ
ปราศจากสารอันตราย
ช่วยป้องกันฟันผุ ลดการสะสมของแบคทีเรีย

ปิดท้ายรายชื่อ ยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดีกันด้วย Fluocaril Deli Fruity หลอดนี้เด่นมาตั้งแต่แพ็กเกจที่ถูกใจเจ้าตัวน้อยในลาย Frozen มาพร้อมกลิ่นผลไม้ ช่วยกระตุ้นให้เด็กรักการแปรงฟัน สามารถใช้ได้กับเด็กในช่วงฟันน้ำนม อายุระหว่าง 2-6 ขวบ สูตรนี้มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ 1,000 ppm ปราศจากสารกันบูดและสารก่อให้เกิดการระคายเคือง ช่วยปกป้องเหงือกและฟันให้แข็งแรง ลดการสะสมของแบคทีเรีย ช่วยให้ปากสะอาดสุขภาพดี เมื่อใช้อย่างสม่ำเสมอ

บทส่งท้ายจากผู้เขียน

ผ่านไปแล้ว 10 หลอด ยาสีฟันเด็ก จากแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็น Kodomo, Colgate Kids, Pigeon, Chicco, Lamoonbaby, Molar Bear, Baybee, KINDEE, Wonder Smile Kids, Fluocaril โดยจะเห็นได้ว่ายาสีฟันแต่ละหลอดก็จะแตกต่างกันออกไปในเรื่องของส่วนผสม กลิ่น รสชาติ แพ็กเกจ ราคา และปริมาณ ซึ่งการจะเลือกยาสีฟันเด็ก ยี่ห้อไหนดีนั้น ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับเด็กแต่ละช่วงวัยด้วย ลองดูรายละเอียดของแต่ละหลอดว่ายาสีฟันเด็กจากยี่ห้อใดที่น่าจะเหมาะกับเจ้าตัวน้อยของคุณมากที่สุด

หมวดหมู่