13-02-2022

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี กรองฝุ่นควัน และ PM 2.5 2023

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี air purifier 271121
ภาพจาก mi.com

ปฏิเสธไม่ได้ว่ารอบตัวเรานั้นเต็มไปด้วยมลภาวะจากฝุ่นควัน และมลพิษต่างๆ โดยเฉพาะกับฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นปัญหาน่าหนักใจของยุคนี้ ซึ่งไม่เพียงแค่นอกบ้านเท่านั้นในบ้านของเราเองก็เป็นที่แฝงตัวของฝุ่นและเชื้อโรคต่างๆ มากมาย ที่อาจสร้างความเจ็บไข้ได้ป่วยให้กับคนในครอบครัว ยิ่งกับบ้านที่มีเด็กหรือมีคนที่เป็นภูมิแพ้ เครื่องฟอกอากาศจึงเป็นตัวช่วยที่หลายบ้านเลือกใช้งาน สำหรับใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์นี้อยู่แต่ยังไม่รู้ว่า เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี และควรเลือกซื้ออย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศ

ในการที่จะตัดสินใจซื้อเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดีหรือว่ารุ่นไหนที่เหมาะกับบ้านเรามากที่สุดนั้นมีปัจจัยหลายอย่างด้วยกันที่เราสามารถนำมาพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจ เนื่องจากเครื่องฟอกอากาศในปัจจุบันมีมากมายหลายรุ่นหลายราคา เรามาดูกันว่าหากอยากได้ผู้ช่วยที่จะมาทำให้บ้านเรามีอากาศที่บริสุทธิ์มากขึ้นนั้นต้องดูเรื่องไหนบ้าง

1. เลือกตามประเภทของเครื่องปรับอากาศ

อันดับแรกเลยที่เราสามารถใช้เป็นเกณฑ์เบื้องต้นในการเลือกก็คือประเภทของเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้

  • แบบไฟฟ้าสถิต เป็นแบบที่ใช้การปล่อยกระแสไฟเพื่อจับฝุ่น กลิ่นไม่พึงประสงค์ แบคทีเรีย หรือมลภาวะต่างๆ เข้าไปยังแผ่นกรองอากาศ ข้อดีอย่างหนึ่งของเครื่องฟอกอากาศแบบนี้คือไม่ต้องคอยเปลี่ยนไส้กรองบ่อยๆ เพราะมักมากับระบบคลีนนิ่งตัวเองแบบอัตโนมัติ เสียงก็ค่อนข้างเงียบ ราคาค่อนข้างสูงกว่าแบบอื่น
  • แบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นแบบที่เน้นกรองฝุ่นมากกว่าเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ต้องหมั่นเปลี่ยนไส้กรองอากาศตามอายุการใช้งาน ราคาไม่แพงมาก
  • แบบพัดลม เป็นแบบที่ใช้หลักการทำงานง่ายๆ คือดูดฝุ่นและกลิ่นไม่พึงประสงค์เข้าสู่ตัวเครื่อง ไปที่แผ่นกรองอากาศแล้วปล่อยกลับคืนมาเมื่อทำการฟอกให้บริสุทธิ์แล้ว เสียงอาจจะค่อนข้างดัง และต้องคอยเปลี่ยนไส้กรองตามอายุ ราคาถือว่าไม่แพงจนเกินไป
  • แบบ HEPA Filters เป็นแบบที่หลายครอบครัวนิยมเลือกใช้ เพราะถือว่าฟอกอากาศได้ค่อนข้างบริสุทธิ์กว่าแบบอื่น กรองได้ทั้งฝุ่น PM 2.5, กลิ่น, แบคทีเรีย, ฝุ่นละออง, และเชื้อโรคต่างๆ เหมาะกับบ้านที่ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้
  • แบบไอออนิค เป็นแบบที่ใช้การปล่อยประจุลบเพื่อกรองเอาฝุ่นละออง ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ เชื้อโรคและกลิ่นต่างๆ หลักการทำงานคล้ายกับแบบไฟฟ้าสถิต แต่จะมีขนาดที่เล็กกว่า การเลือกใช้งานต้องพิจารณาพื้นที่ของห้องร่วมด้วย

2. พิจารณาจากขนาดของห้อง

การจะเลือก เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ขนาดของห้องที่จะติดตั้งก็มีผลกับประสิทธิภาพการใช้งานโดยรวม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสเปคเครื่องมักจะระบุว่าเครื่องรุ่นนั้นเหมาะกับห้องขนาดไหน พื้นที่เท่าไหร่ แต่หากให้เราแนะนำขอบอกว่าควรเลือกที่มีรัศมีการทำงานมากกว่าพื้นที่ห้องเล็กน้อยเพื่อให้เครื่องทำงานได้ไม่หนักเกินไป นอกจากนี้ยังอาจดูค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) ร่วมด้วย เพราะจะบอกเราว่าเครื่องฟอกอากาศรุ่นนั้นให้อากาศบริสุทธิ์กับเรามากแค่ไหนในเวลา 1 นาที

3. เลือกรุ่นที่ใช้แผ่นกรองแบบ HEPA Filters

หากคุณต้องการเครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพดีสามารถกรองได้แม้อนุภาคขนาดเล็กให้มองหารุ่นที่ใช้แผ่นกรองแบบ HEPA Filters เพราะสามารถกรองสิ่งต่างๆ ได้แบบครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ มลพิษและกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ สามารถกรองฝุ่น PM2.5 ได้ หรือบางรุ่นอาจสามารถกรองฝุ่นขนาด 0.3 ไมครอน ได้ถึง 99.97 เปอร์เซ็นต์เลยด้วย ซึ่งตัวเลือกนั้นก็มีให้หลายขนาดหลายราคา

4. ขนาดและดีไซน์ตัวเครื่อง

สำหรับบางบ้านอาจจะใช้เครื่องฟอกอากาศตัวเดียวแต่สับเปลี่ยนไปตามห้องต่างๆ การเลือกรุ่นที่ขนาดไม่ใหญ่จนเกินไปและมีน้ำหนักที่เบาจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเคลื่อนย้าย หรือบางครั้งอาจต้องนำไปใช้งานที่นอกบ้านด้วยจึงต้องคำนึงถึงขนาดของตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะชอบแบบไหน สีอะไร ก็สามารถเลือกได้ตามต้องการ

5. ฟังก์ชันการใช้งาน

ฟังก์ชันการใช้งานของเครื่องฟอกอากาศในปัจจุบันถือว่ามีความทันสมัยมากขึ้น แต่แน่นอนว่าย่อมแลกมาด้วยราคาที่แพงขึ้นด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น สามารถควบคุมการทำงานผ่านแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนได้ มีเซ็นเซอร์ตรวจจับและบอกค่าฝุ่น PM2.5 ฟังก์ชันตรวจจับและปรับค่าความชื้น การแจ้งเตือนให้เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ สามารถปรับระดับความแรงได้ ตั้งค่าการทำงานในโหมด Sleep ได้ หรือมีฟังก์ชันในการช่วยประหยัดพลังงาน เป็นต้น

6. ความเงียบในระหว่างการทำงาน

ในการจะเลือกว่าเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดีหลายคนมักพิจารณาเรื่องของเสียงการทำงานของตัวเครื่องด้วยซึ่งเครื่องฟอกอากาศกับเครื่องปรับอากาศเป็นอุปกรณ์ที่หากเราใช้งานในห้องนอนแล้วคงไม่อยากให้เกิดเสียงดังรบกวนการนอน เพราะถึงอากาศจะดีแต่ทำให้นอนไม่หลับก็คงจะไม่เหมาะสมเป็นแน่ โดยระดับเสียงที่เหมาะสมนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 30 เดซิเบล ทั้งนี้ในช่วงแรกของการทำงานเครื่องอาจจะปรับความสมดุลทำให้มีเสียงดังกว่าปกติแต่หลังจากนั้นระดับเสียงจะลดลงโดยเฉพาะในโหมด Sleep

7. ยี่ห้อ ราคา และการรับประกัน

ข้อสุดท้ายแต่ก็สำคัญในอันดับต้นๆ ในการเลือกว่าจะซื้อเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ก็คือ ยี่ห้อ ราคา และการรับประกัน โดยเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อที่ได้มาตรฐานย่อมช่วยให้เราวางใจได้ในคุณภาพของสินค้าที่จะช่วยดูแลอากาศในบ้านเราให้บริสุทธิ์ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีการรับประกันและศูนย์บริการที่ครอบคลุมในกรณีที่ตัวเครื่องเกิดมีปัญหาระหว่างการใช้งาน ส่วนราคานั้นมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ฟังก์ชันการทำงานก็ต่างกันออกไป ขึ้นกับว่าเรามีงบประมาณในกระเป๋าที่พร้อมจ่ายมากน้อยแค่ไหน

10 อันดับแนะนำ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี

1. Sharp FP-J30TA-P

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี Sharp FP J30TA P

เริ่มต้นรายชื่อ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี กันด้วย Sharp FP-J30TA-P เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กกะทัดรัดดีไซน์ทันสมัย สามารถใช้งานได้กับห้องที่พื้นที่ประมาณ 23 ตารางเมตร ตัวเครื่องใช้พลังงานน้อยช่วยประหยัดค่าไฟ และมีเสียงดังเพียง 23 เดซิเบล เท่านั้น จุดเด่นของรุ่นนี้คงต้องยกให้เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ที่ใช้การปล่อยอนุภาคประจุบวกและประจุลบ เพื่อกำจัดเชื้อโรคและไวรัสในอากาศ ช่วยลดปริมาณของสารก่อภูมิแพ้ภายในบ้าน ปรับความแรงได้ถึง 3 ระดับ ใช้แผ่นกรองอากาศแบบ HEPA สามารถกรองเชื้อ H5N1 ได้ และกรองอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97% เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไปอีกด้วย

2. MITSUTA MAP450

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี MITSUTA MAP450

ต่อกันด้วยเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อ MITSUTA รุ่น MAP450 นวัตกรรมเพื่ออากาศที่บริสุทธิ์คู่บ้านที่จะมาช่วยให้คนในบ้านสุขภาพดี ปราศจากภูมิแพ้ ด้วยขั้นตอนการฟอกอากาศแบบ 6 ขั้นตอน เพิ่มความมั่นใจให้คุณมากขึ้นว่าอากาศภายในบ้านจะสะอาดสดชื่น รุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงามทันสมัย ผลิตจากวัสดุชั้นดี แข็งแรงทนทาน มีค่า CADR อยู่ที่ 218 m3/h ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว มีแผ่นกรองแบบ HEPA Filter กรองฝุ่นขนาด 0.3 ไมครอนได้ 99.97% กำจัดได้ทั้งไรฝุ่น กลิ่นไม่พึงประสงค์ สารก่อภูมิแพ้ กลิ่นของสัตว์เลี้ยง สารเคมีอันตราย ใช้งานได้กับห้องพื้นที่ 20-40 ตารางเมตร มีระบบตั้งเวลาทำงานอัตโนมัติ และโหมด Sleep ไม่รบกวนการนอนหลับ

3. Philips AC0820/20

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี Philips AC0820 20

Philips AC0820/20 เครื่องฟอกอากาศในซีรีส์ 800 จากผู้ผลิตชั้นนำของวงการเครื่องใช้ไฟฟ้า มาพร้อมคุณภาพที่ผ่านการรับรองจากหลายสถาบัน ชูจุดเด่นด้วยความสามารถในการกำจัดอนุภาคขนาด 0.003 ไมครอน ได้ถึง 99.5% กำจัดไวรัสและสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99% มั่นใจได้ว่าบ้านจะสะอาดอากาศจะสดชื่น ใช้งานได้กับห้องที่มีพื้นที่ 16-49 ตารางเมตร ค่า Particle CADR อยู่ที่ 190 ลบ.ม./ชม. มีเซ็นเซอร์อัจฉริยะสำหรับการกรองอากาศ ใช้เทคโนโลยี VITASHIELD ที่เป็นการหมุนเวียนอากาศแบบ 3D ระดับความดังอยู่ที่ 35 dB มีโหมดการนอนที่เสียงเงียบเป็นพิเศษ และหรี่ไฟลงไม่ให้รบกวนสายตา ใช้พลังงานเพียง 20W เทียบเท่าหลอดไฟ และยังมีไฟแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนแผ่นกรองอีกด้วย

4. DAIKIN MC55UVM6

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี DAIKIN MC55UVM6

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อ DAIKIN รุ่น MC55UVM6 เป็นอีกตัวที่น่ารับไว้พิจารณา ซึ่งต้องยอมรับว่าในเรื่องเทคโนโลยีเครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศนั้นยี่ห้อนี้วางใจได้ในคุณภาพ โดยมีทั้งระบบ Active Plasma Ion ใช้ฟอกอากาศภายนอกและ Streamer สำหรับฟอกอากาศภายในเครื่อง จัดการได้ทั้งเชื้อโรคและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ด้วย Deodorizing Filter ฟิลเตอร์กำจัดกลิ่น แม่นยำเพราะมีทั้งเซ็นเซอร์ PM2.5 ตรวจจับระดับฝุ่นได้ถึง 6 ระดับ และเซ็นเซอร์ตรวจจับกลิ่นเพื่อฟอกอากาศอัตโนมัติ ตัวเครื่องทำงานเงียบเพียง 19 dB ปลอดภัยและทนทานมากขึ้นด้วยระบบป้องกันไฟกระชากในตัว ใช้งานได้กับห้องพื้นที่ 41 ตารางเมตร และยังมีดีไซน์ที่สวยทันสมัยในขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไปอีกด้วย

5. Xiaomi Air Purifier 2s

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี Xiaomi Air Purifier 2s

หากถามว่า เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ที่คุ้มค่าน่าใช้งาน หนึ่งในนั้นคงต้องยกให้ Xiaomi Air Purifier 2s จากแบรนด์ชั้นนำด้านอุปกรณ์อัจฉริยะ โดยรุ่นนี้รองรับการใช้งานในพื้นที่ระหว่าง 21-37 ตารางเมตร ตัวเครื่องออกแบบมาอย่างเรียบหรูทันสมัยเหมาะกับบ้านยุคใหม่ ขนาดกะทัดรัดแต่คุณภาพจัดเต็มเกินตัว เพราะใช้ไส้กรองแบบ RFID ที่เอาอยู่ทั้งฝุ่น PM2.5, อนุภาคขนาด 0.3 ไมครอน, เชื้อรา แบคทีเรีย, กลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ มาพร้อมหน้าจอ OLED ที่ปรับความสว่างอัตโนมัติ สามารถปรับโหมดการใช้งานได้หลายแบบเช่นโหมดอัตโนมัติ หรือ Sleep Mode และยังควบคุมการทำงานผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย

6. Smart Air The Sqair (HEPA)

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี Smart Air The Sqair HEPA

Smart Air The Sqair (HEPA) เครื่องฟอกอากาศที่ไซน์ทันสมัยเข้ากับบ้านได้หลายแบบด้วยขาไม้บีชสไตล์ยุโรป เรียบง่ายแต่ทรงพลัง แม้ขนาดจะเล็กแต่ก็สามารถมอบอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างน่าพอใจ โดยสามารถฟอกอากาศภายในห้องขนาด 40 ตารางเมตรได้ในเวลาเพียง 25 นาที เหมาะมากกับการใช้งานในห้องนอนเพราะเสียงเบาเพียง 13 dB ทำให้ไม่รบกวนการนอนและยังมีอากาศที่สะอาดสดชื่น ดีต่อสุขภาพ ใช้งานง่ายเพียงกดปุ่มเลือกการทำงาน สามารถเลือกได้ทั้งรุ่นไส้กรอง HEPA หรือ HEPA + Carbon กรองได้ทั้งอนุภาคขนาดเล็ก 0.1 ไมครอน กลิ่นไม่พึงประสงค์ เชื้อโรค และฝุ่น PM2.5 ที่สำคัญคือราคาน่าลงทุนด้วยสุดๆ

7. Bwell CF-8400

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี Bwell CF 8400

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อ Bwell รุ่น CF-8400 เป็นอีกรุ่นที่เราอยากแนะนำ ซึ่งยี่ห้อนี้เน้นการทำตลาดสินค้าสุขภาพมาอย่างยาวนาน สำหรับเครื่องฟอกอากาศตัวนี้รองรับการทำงานภายในห้องขนาดตั้งแต่ 10-30 ตารางเมตร ด้วยระบบการกรองแบบ 6 ขั้นตอน แผ่นกรองเป็นแบบ HEPA สามารถกรองได้ทั้งขนสัตว์, เส้นผม, ฝุ่นละออง, อนุภาคขนาดเล็ก, ละอองเกสร, กลิ่นสัตว์เลี้ยง, กลิ่นอาหาร, ควันบุหรี่ สารก่อภูมิแพ้ สามารถฆ่าเชื้อไวรัสด้วย UV มี Antibacteria Filter ช่วยกรองแบคทีเรีย ควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส ปรับความแรงได้ 3 ระดับ รวมถึงยังตั้งเวลาปิดได้ตั้งแต่ 2-8 ชั่วโมงอีกด้วย

8. Samsung Blue Sky AX3300

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี Samsung Blue Sky AX3300

Samsung Blue Sky AX3300 เครื่องฟอกอากาศจากยี่ห้อชั้นนำที่วางใจได้ในเรื่องของเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้า ตัวนี้นอกจากจะเป็นผู้ช่วยในการสร้างอากาศบริสุทธิ์แล้วยังสวยหรูดูดีราวกับเป็นนของตกแต่งบ้านอีกชิ้น การันตีด้วยรางวัล IF Design Award แต่ไม่ได้มีแค่ความสวยเพราะประสิทธิภาพก็น่าประทับใจเพราะสามารถกรองอนุภาค PM0.3 ได้ถึง 99.9% ด้วยแผ่นกรองแบบ 3 ชั้น ประกอบด้วย Pre-filter, Activated Carbon และ HEPA เอาอยู่ทั้งฝุ่น เชื้อโรค กลิ่น และแบคทีเรีย มาพร้อม Air Sensing Light ตรวจวัดและแสดงผลอากาศ 4 สี สามารถปรับโหมดได้ทั้งแบบ Auto Mode, Sleep Mode และ นาฬิกาตั้งเวลา เพื่อการใช้งานอย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา

9. Dyson Pure Cool air purifier tower fan TP04

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี Dyson Pure Cool air purifier tower fan TP04

Dyson Pure Cool air purifier tower fan TP04 เครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพสูงที่มาในแบบพัดลมฟอกอากาศดีไซน์ล้ำสมัย เทคโนโลยีอัดแน่นไม่ว่าจะเป็นระบบเซ็นเซอร์ที่คอยรายงานสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ไส้กรอง HEPA และ ถ่านกัมมันต์ ที่กรองอนุภาคได้ระดับ 0.1 ไมครอนได้ 99.95% กรองสารก่อภูมิแพ้และมลพิษที่มองไม่เห็น พ่วงมาด้วยเทคโนโลยี Air Multiplier ช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ทั่วห้อง ปรับมุมและองศาได้ตามต้องการ รองรับแอพพลิเคชั่นสุดชาญฉลาดอย่าง Dyson Link หรือควบคุมการทำงานผ่านรีโมทคอนโทรล แผ่นกรองอากาศดูแลรักษาได้ง่าย มีโหมดกลางคืนที่เสียงเงียบและไม่รบกวนสายตาด้วยการลดความสว่างลง ลองดูว่ารุ่นนี้จะโดนใจคุณหรือไม่

10. TCL Breeva A1

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี TCL Breeva A1

ส่งท้ายรายชื่อ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี กันด้วย TCL Breeva A1 เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กดีไซน์สวย เคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะกับการใช้งานกับห้องที่มีพื้นที่ประมาณ 10-20 ตารางเมตร มาพร้อมแผ่นกรอง HEPA H13 และ Activated Carbon ทำให้สามารถกรองได้ทั้งฝุ่น PM2.5, ละอองเกสร, ควันบุหรี่, กลิ่นอาหาร, ขนสัตว์ และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ สามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับ ความดังอยู่ที่ 20 dB ไม่รบกวนการนอนหลับ ปรับสีของไฟได้ มีแผงแสดงสถานะของการทำงาน รวมถึงโหมดป้องกันเด็กเข้ามาตั้งค่า สามารถกรองอากาศบริสุทธิ์ได้ 120 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง กระจายลมได้ 360 องศา เทียบสเปคกับราคาแล้วถือว่าลงตัวเลยล่ะ

บทส่งท้ายจากผู้เขียน

และนี่ก็คือ 10 รุ่น เครื่องฟอกอากาศน่าใช้ที่เราคัดมาให้คุณได้ทำความรู้จักกัน ส่วนการจะเลือก เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก ๆ สามประการคือคุณสมบัติของตัวเครื่อง ขนาดห้องที่จะใช้ และงบประมาณในกระเป๋า ลองเทียบข้อมูลกันดูว่ารุ่นไหน ยี่ห้อใด ที่น่าจะเหมาะกับบ้านของคุณมากที่สุด

หมวดหมู่สินค้า