แอร์ หรือ เครื่องปรับอากาศ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าคู่บ้านและสำนักงานที่จะมาช่วยเพิ่มความเย็นสบายในช่วงเวลาที่ต้องการ โดยเฉพาะกับเมืองร้อนอย่างบ้านเรา ซึ่งการจะซื้อแอร์ยี่ห้อไหนดีเป็นคำถามหนักใจของหลายคนเนื่องจากในปัจจุบันมีมากมายหลายยี่ห้อ แต่ละเจ้าก็มีหลายรุ่นคุณสมบัติ ราคา และการใช้งานก็แตกต่างกันออกไป ในบทความนี้เราเลยจะมาแนะนำแนวทางในการเลือกซื้อแอร์ให้เหมาะกับการใช้งาน รวมถึงแนะนำรุ่นที่น่าสนใจให้คุณพิจารณาเลือกซื้อกันด้วย
วิธีเลือกแอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเอง
การจะเลือกซื้อแอร์ยี่ห้อไหนดีที่ลงตัวกับความต้องการและงบประมาณของเรามากที่สุดนั้น เราสามารถใช้เกณฑ์การตัดสินใจเหล่านี้เพื่อเป็นแนวทางในเบื้องต้น ลองมาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
1. เลือกจากประเภทของแอร์
อันดับแรกเลยก็คือการเลือกจากประเภทของแอร์โดยปกติแล้วจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ก็คือ
- แอร์บ้านหรือที่พักอาศัย เป็นแบบที่เห็นกันทั่วไปมีขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถติดตั้งบนผนังหรือวางกับพื้นได้ เย็นเร็ว ดูแลรักษาง่ายตามอายุการใช้งาน โดยควรล้างอย่างน้อง 6 เดือนครั้ง เพื่อให้ยังคงทำความเย็นได้ดีและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
- แอร์เชิงอุตสาหกรรม เป็นแบบที่เหมาะกับการติดตั้งในสำนักงานขนาดใหญ่ โรงงาน หรือร้านอาหารที่มีพื้นที่เยอะๆ ใช้ระบบการคอนโทรลแบบรวมศูนย์ VRF หรือ VRV สามารถทำความเย็นได้ทั่วถึงแต่อาจต้องใช้เวลาสักระยะ มักติดตั้งเอาไว้บนฝ้าเพดานและมีท่อทำความเย็นกระจายไปตามจุดที่ต้องการ
2. พิจารณาจากขนาดของห้องที่จะติดตั้ง
ข้อนี้หลายคนน่าจะเคยได้ยินกันมาว่าห้องขนาดไหนต้องใช้แอร์กี่ BTU ซึ่งค่านี้หมายถึงความสามารถในการดึงความร้อนออกจากห้องของเราในเวลา 1 ชั่วโมง โดยควรเลือกอย่างเหมาะสมเพราะหากน้อยไปนอกจากห้องจะไม่เย็นแล้วเครื่องยังต้องทำงานหนักทำให้สิ้นเปลืองค่าไฟตอนสิ้นเดือนมากขึ้นด้วย ส่วนการพิจารณาว่าต้องใช้กี่ BTU สามารถดูได้ดังนี้
ห้องพื้นที่ 12-15 ตารางเมตร | ควรใช้แอร์ 9,000 BTU |
ห้องพื้นที่ 16-20 ตารางเมตร | ควรใช้แอร์ 12,000 BTU |
ห้องพื้นที่ 24-30 ตารางเมตร | ควรใช้แอร์ 18,000 BTU |
ห้องพื้นที่ 32-40 ตารางเมตร | ควรใช้แอร์ 24,000 BTU |
3. คุณสมบัติในการประหยัดพลังงาน
ต้องยอมรับแอร์นั้นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากในอันดับต้นๆ การจะเลือกแอร์ยี่ห้อไหนดี จึงควรต้องใส่ใจเรื่องของการประหยัดพลังงาน โดยสามารถดูได้จากฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่แบ่งออกเป็น 1-4 ดาว ซึ่งเบอร์ 5 ที่มี 4 ดาวจะประหยัดพลังงานได้สูงสุด หรือสามารถเลือกใช้เป็นแอร์ระบบ อินเวอร์เตอร์ (Inverter) ที่ทั้งประหยัด เสียงเงียบ และให้ความเย็นที่คงที่กว่าแอร์ทั่วไป แต่ราคาก็จะสูงกว่าด้วย
4. ความเงียบระหว่างใช้งาน
ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการเลือกซื้อแอร์ก็คือความเงียบในระหว่างทำงาน โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานภายในห้องนอน แอร์ที่เงียบจะช่วยให้อากาศเย็นสบายแบบไม่มีเสียงดังรบกวน ซึ่งในเรื่องนี้แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเนื่องจากสามารถลดรอบมอเตอร์คอมเพรสเซอร์เพื่อควบคุมความคงที่ของอุณหภูมิในขณะที่แอร์ทั่วไปจะใช้วิธีตัดการทำงานเมื่ออุณหภูมิถึงจุดที่ตั้งไว้ทำให้เกิดเสียงดัง บางคนถึงขั้นต้องถอดเปลี่ยนเมื่อใช้ไปสักพักเพราะทนเสียงรบกวนในเวลานอนไม่ไหว
5. ดีไซน์และความทนทาน
นอกจากข้อที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ดีไซน์ของแอร์ก็เป็นเหตุผลที่หลายคนใช้เลือกว่าจะซื้อรุ่นไหนมาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นขนาด รูปทรง รวมถึงการออกแบบที่ช่วยให้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายด้วยตัวเอง และควรเลือกแอร์ที่มีระบบ Surge Protection หรือระบบป้องกันไฟกระชาก เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งานและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเช่นในกรณีกระแสไฟเกินหรือฟ้าผ่า เป็นต้น
6. ฟังก์ชันการทำงาน
ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้แอร์แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อมากับฟังก์ชันการทำงานอันทันสมัยมากขึ้น สะดวกต่อการควบคุมและให้ประสิทธิภาพที่น่าพอใจ โดยหลายรุ่นมาพร้อมกับคุณสมบัติในการปรับอุณหภูมิให้ลดลงหากตรวจพบว่าในห้องไม่มีการเคลื่อนไหวช่วยให้ประหยัดค่าไฟ สามารถควบคุมการทำงานได้ผ่านแอพพลิเคชันของผู้ผลิตผ่านสมาร์ทโฟนหรือลำโพงอัจฉริยะ มีเทคโนโลยีกระจายความเย็นที่ทั่วถึง สามารถกรองฝุ่นและอนุภาคขนาดเล็กหรือฟอกอากาศได้ในตัว แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่แพงขึ้นเช่นกัน จึงควรเลือกตามการใช้งานของตัวเองเป็นหลัก
7. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เราอยู่ในยุคที่ควรต้องใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในการใช้ชีวิตและเลือกใช้งานข้าวของต่างๆ รวมถึงแอร์ด้วย ซึ่งการจะเลือกซื้อแอร์ยี่ห้อไหนดีนั้นควรเลือกรุ่นที่ใช้น้ำยาทำความเย็นเป็นแบบ R32 ที่มีคุณสมบัติในการทำความเย็นได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เป็นสารที่ไม่ลามไฟ ราคาประหยัด และยังช่วยสิ่งแวดล้อมทางอ้อมเพราะไม่เป็นสาเหตุในการทำลายชั้นโอโซนของโลกเรา
8. ยี่ห้อ ราคา และการรับประกันหลังการขาย
ในการจะเลือกแอร์ยี่ห้อไหนดีนั้นเราควรพิจารณาจากศูนย์บริการที่ครอบคลุม บริการหลังการขายที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในกรณีที่มีปัญหาระหว่างใช้งาน รวมถึงเงื่อนไขและระยะเวลาในการรับประกัน โดยเฉพาะการรับประกันคอมเพรสเซอร์เพราะเป็นส่วนที่ทำงานหนักที่สุด ซึ่งแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็แตกต่างกันออกไปจึงควรต้องตรวจสอบก่อนทุกครั้ง
10 อันดับ แอร์ยี่ห้อไหนดี คัดมาแบบเน้นๆ
1. Mitsubishi Heavy Duty รุ่น SRK13CXV-W1
ใครกำลังมีคำถามว่าแอร์ยี่ห้อไหนดี หรือมีรุ่นไหนที่น่าใช้บ้าง ตัวแรกเลยเราขอแนะนำ Mitsubishi Heavy Duty รุ่น SRK13CXV-W1 จากผู้ผลิตที่มีเทคโนโลยีเครื่องปรับอากาศที่ทันสมัย พร้อมตัวเลือกรุ่นและราคาที่ครบตามความต้องการ รุ่นนี้เป็นแอร์ขนาด 12,262 BTU ที่เป็นทั้งเครื่องปรับอากาศและช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ด้วยแผ่นฟอกอาการ Air Nano Filter ที่สามารถกรองฝุ่น PM2.5 ได้ รวมถึงมีคุณสมบัติในการกำจัดกลิ่นและแบคทีเรียในอากาศ เย็นเร็วและทั่วถึงด้วยระบบ Jet Flow และระบบ Hi Power พร้อมฟังก์ชันปล่อยประจุลบช่วยเพิ่มความสดชื่น และยังมีระบบทำความสะอาดตัวเองเพื่อลดความชื้นในตัวอีกด้วย
2. Carrier รุ่น ION-STRIKE Inverter (42TVBA)
แอร์ยี่ห้อ Carrier คือตัวเลือกของหลายบ้านเพราะมาจากผู้ผลิตมืออาชีพเรื่องเครื่องปรับอากาศอีกรายของวงการ ซึ่งในรุ่น ION-STRIKE Inverter (42TVBA) ตัวนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง และยังสามารถเลือกได้ตั้งแต่ขนาด 9,200-20,400 BTU จุดเด่นนั้นยกให้กับเทคโนโลยี X-Ionizer ที่จะทำการปล่อยประจุลบออกมาช่วยฟอกอากาศ ทำให้ห้องปราศจากฝุ่น PM2.5, เชื้อโรคและแบคทีเรีย, สารก่อภูมิแพ้ขนาดเล็ก, และกลิ่นไม่พึงประสงค์ มาพร้อมแผ่นฟอกอากาศชนิดพิเศษที่ผ่านการรับรองจากหลายสถาบัน พ่วงระบบทำความสะอาดคอยล์เย็นลดความชื้นและกลิ่นอับ ลดการสะสมของเชื้อโรค กระจายความเย็นด้วยระบบ Windy Shower เย็นทั่วถึงทุกส่วนของห้อง และยังมากับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 อีกด้วย
3. Samsung รุ่น AR13TYHZCWKNST
เครื่องปรับอากาศยี่ห้อ Samsung รุ่น AR13TYHZCWKNST กับความเรียบหรูทันสมัยพร้อมขนาดให้เลือกระหว่าง 9,000-21,600 BTU เย็นเร็วและทั่วถึงมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี Digital Inverter Boost รวมถึงยังช่วยประหยัดค่าไฟตอนสิ้นเดือนและทำงานด้วยเสียงที่เงียบเพราะใช้ระบบอินเวอร์เตอร์ แม่เหล็กนีโอดิเมียมและ Twin Tube Muffler สามารถทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติผ่านฟังก์ชัน Auto Clean ที่จะขัดเศษฝุ่นและความชื้น ลดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อรา ไส้กรองถอดทำความสะอาดได้ง่าย แลกเปลี่ยนความร้อนด้วยระบบ DuraFin อุ่นใจด้วยเทคโนโลยี Triple Protector Plus ที่มีระบบป้องกันไฟกระชาก ใช้สารทำความเย็น R32 ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังดีต่อการพักผ่อนเพราะมีโหมด Good Sleep ช่วยปรับการทำงานให้เหมาะสมกับการนอน เรียกว่าครบถ้วนเรื่องการใช้งานทีเดียว
4. DAIKIN Sabai Plus Inverter (FTKQ-UV2S)
DAIKIN Sabai Plus Inverter (FTKQ-UV2S) แอร์ดีมีคุณภาพจากยี่ห้อชั้นนำ ที่มากับความสบายสมชื่อรุ่น ด้วยระบบ Inverter ที่มีให้ครบทั้งความประหยัดและประสิทธิภาพในการทำงาน โดยมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และค่า SEER สูงสุดถึง 17.49 ช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน มีให้เลือกตั้งแต่ 9,200-20,500 BTU ให้การทำงานที่เย็นเร็วและเต็ม BTU ตัวคอมเพรสเซอร์ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ใช้สารทำความเย็น R32 ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม แผงวงจรออกแบบมาให้ทนทาน มีระบบป้องกันไฟตกไฟกระชาก มีความสามารถในการกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์และเชื้อแบคทีเรีย พร้อม Auto Clean ปรับค่าอุณหภูมิได้ครั้งละ 0.5 องศา ตั้งอุณหภูมิต่ำสุดได้ 16 องศา ควบคุมง่ายผ่านรีโมทคอนโทรลแบบใหม่ ตัวคอมคอมเพรสเซอร์รับประกัน 5 ปี แผงคอยล์เย็นรับประกัน 3 ปี ลองดูว่ารุ่นนี้น่าสนใจพอหรือไม่
5. Haier HSU-12VFRA03T
ใครที่กำลังมองหาแอร์สีดำเอาไว้ใช้งานให้เข้ากับการตกแต่งในสไตล์ของตัวเอง เราขอแนะนำแอร์ยี่ห้อ Haier รุ่น HSU-12VFRA03T ที่จะมาเติมเต็มบรรยากาศภายในห้องให้เรียบหรูและเย็นสบายได้ตามต้องการ รุ่นนี้มาพร้อมขนาด 12,300 BTU จุดเด่นยกให้กับเทคโนโลยี UV RAY ที่เป็นแสงยูวีที่มีความเข้มของรังสีในระดับที่สามารถทำลายสารพันธุกรรมอย่าง DNA และ RNA ได้ ประโยชน์ของมันก็คือช่วยให้ห้องเราสะอาดปราศจากเชื้อแบคทีเรียและไวรัสเพราะเหมือนมีการฆ่าเชื้อทุกครั้งที่ตัวเครื่องทำงาน เป็นแอร์ระบบ Inverter ทำงานเงียบ ประหยัดพลังงานด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบ 2 ดาว มาพร้อมระบบ Self-Cleaning ทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติ พ่วงมาด้วย Hyper PCB ช่วยควบคุมความผันผวนของแรงดันไฟฟ้า รุ่นนี้ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก ให้คุณภาพที่น่าพอใจ
6. Toshiba Magic Cool RAS-13PKSG-T
การจะเลือกแอร์ยี่ห้อไหนดีเอาไว้ใช้งานชื่อเสียงของผู้ผลิตก็มีส่วนสำคัญไม่น้อย ซึ่ง Toshiba นั้นเป็นที่คุ้นชินกันมาอย่างยาวนานด้วยสโลแกน “โตชิบา นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” ซึ่งเจ้า Toshiba Magic Cool RAS-13PKSG-T ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายแต่ดูดี มาพร้อมขนาด 12,200 BTU ได้ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ประหยัดไฟ SEER 14 ตัวคอมเพรสเซอร์เป็นแบบ Rotary ที่ทำงานได้ดีขึ้น เย็นเร็วและกระจายความเย็นได้ทั่วถึง ทำงานเงียบเพียง 28 dB เติมความสดชื่นและความเย็นได้พร้อมกันด้วยระบบการทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติ ที่ลดการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย ตัวคอยล์เคลือบด้วย Aqua Resin ลดการสะสมของคราบสกปรกต่างๆ แผ่นกรองสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ที่สำคัญคือราคาไม่แพงจนเกินไปด้วย
7. TCL Elite XA Series
แอร์ยี่ห้อ TCL อย่าง TCL Elite XA Series เป็นอีกรุ่นที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งจุดเด่นของแบรนด์นี้ก็คือสินค้าที่มีราคาสมเหตุสมผลไม่แพงจนเกินไปแต่คุณภาพถือว่าวางใจได้ รุ่นนี้เป็นแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ มีให้เลือกระหว่าง 9,000-22,000 BTU ใช้คอมเพรสเซอร์ความถี่สูงที่ช่วยให้ทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว มีระบบไหลเวียนอากาศอัจฉริยะช่วยให้ไม่หนาวหรือคัดจมูก สดชื่นในแบบฝักบัวอาบน้ำ พร้อมตัวป้องกันไฟกระชากช่วยถนอมเครื่องยืดอายุการใช้งาน ตัวเครื่องออกแบบมาให้สามารถเคลื่อนย้ายและติดตั้งได้สะดวก ใช้น้ำยา R-32 เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รับประกันคอมเพรสเซอร์ให้นาน 5 ปี
8. LG Dual Inverter รุ่น IT10R
LG Dual Inverter รุ่น IT10R แอร์ดีจากยี่ห้อดังที่ครบถ้วนทั้งงานออกแบบและประสิทธิภาพในการทำงาน มาพร้อมขนาด 9,200 BTU โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการทำความเย็นด้วยระบบ DUAL Inverter Compressor ที่ช่วยให้ห้องเย็นเร็วขึ้น เป็นคอมเพรสเซอร์ โรตารี่คู่ที่ทำงานได้เงียบและช่วยประหยัดพลังงานไปในตัว มีคอนเดนเซอร์ที่เคลือบด้วยวัสดุชั้นดียืดอายุการใช้งานเพราะไม่เป็นสนิมลดการสึกกร่อน ใช้สารทำความเย็น R32 ไม่ทำลายชั้นโอโซนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของโลกเรา ออกแบบมาตามแนวคิด Quick And Easy Installation ติดตั้งง่ายใช้งานสะดวก เสียงรบกวนน้อยไม่ทำลายช่วงเวลาในการพักผ่อน วางใจด้วยศูนย์บริการที่ครอบคลุมและยังรับประกันคอมเพรสเซอร์ให้ยาวนานถึง 10 ปี อีกด้วย
9. Saijo Denki Inverter Sure
Saijo Denki Inverter Sure แอร์คุณภาพดีราคาไม่แพง ที่ชูจุดขายด้วยระบบ Inverter Sure ด้วยนวัตกรรมการทำความเย็นที่ผสานกับการทำงานของระบบฟอกอากาศในตัวเพื่อกรองอนุภาคฝุ่นขนาด PM0.1 ที่เล็กกว่าฝุ่น PM2.5 ถึง 25 เท่าเลยทีเดียว และยังประหยัดไฟเบอร์ 5 ระดับ 2 ดาว เย็นเร็วเย็นทั่วถึงแบบไม่เปลืองเงินมากจนเกินไปด้วยระบบ Full Inverter ใช้ DC Inverter Precise Control ในการควบคุมการทำงานของมอเตอร์ช่วยให้ประหยัดไฟได้มากกว่าแบบ Fixed Speed มีแผงคอยล์ร้อนขนาดใหญ่ระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมการทำงานได้ตามต้องการด้วยตัวเลือกโหมดการใช้งาน 3 แบบ ทั้งหมดนี้ในราคาหมื่นต้นๆ เท่านั้น
10. Sharp AH-XP13WMB
ส่งท้ายรายชื่อแอร์ยี่ห้อไหนดีกันด้วย Sharp AH-XP13WMB นวัตกรรมการทำความเย็นจากผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าแถวหน้าของวงการอีกราย รุ่นนี้แป็นแอร์ขนาด 12,200 BTU ทรงสวย ดีไซน์ทันสมัย ระบบอินเวอร์เตอร์ทำงานเงียบ ประหยัดพลังงาน ให้ความเย็นที่คงที่ เย็นเร็วด้วยเทคโนโลยี Powerful Jet มีระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ช่วยฟอกอากาศและกรองเชื้อโรคต่างๆ เหมาะกับบ้านที่มีผู้ป่วยภูมิแพ้ กระจายความเย็นด้วยระบบ Coanda Airflow ไม่ให้ลมกระทบตัวโดยตรง ทำงานด้วยเสียงที่เงียบไม่รบกวนการพักผ่อน พร้อม Best Sleep Mode ช่วยปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ สารทำความเย็นเป็นชนิด R32 ไม่ทำลายชั้นบรรยากาศ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม งานสร้างถือว่าลงตัวเอามากๆ
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
ในการจะเลือกแอร์ยี่ห้อไหนดีนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานและงบประมาณที่มีเป็นหลัก โดยต้องพิจารณาจากขนาดของห้อง ฟังก์ชันการทำงานที่ต้องการ และความประหยัด ซึ่งหากมีงบสักหน่อยก็ควรเลือกที่เป็นระบบอินเวอร์เตอร์เพราะจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ดีกว่า รวมถึงทำงานเงียบกว่าด้วย ลองดูว่าใน 10 รุ่นที่เราคัดมานี้ รุ่นไหนที่น่าจะลงตัวกับบ้านของคุณมากที่สุด