สำหรับคนที่ต้องการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก เครื่องชั่งดิจิตอลคืออุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีติดบ้านไว้อย่างขาดไม่ได้ โดยเฉพาะเครื่องชั่งดิจิตอลรุ่นใหม่ ๆ ที่มีฟังก์ชันในการวัดค่าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรูปร่างไม่ว่าจะเป็นน้ำหนัก, วัดไขมันในร่างกาย, ดัชนีมวลกาย BMI, มวลกระดูก, น้ำในร่างกาย, พลังงานที่ใช้ต่อวัน, ระดับไขมันภายในช่องท้อง เป็นต้น ซึ่งค่าต่าง ๆ เหล่านี้สามารถใช้เป็นข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์และใช้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เกิดผลตามที่ต้องการได้ แต่จะต้องเลือกอย่างไร เลือกรุ่นไหนจึงจะเหมาะสม รุ่นไหนน่าใช้ รวมถึงเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล ซื้อที่ไหน วันนี้เรารวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว
เครื่องชั่งมีกี่ประเภท
เครื่องชั่งน้ำหนัก คือ เครื่องมือสำหรับใช้เพื่อบอกน้ำหนักของสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งสามารถแยกได้ 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
- เครื่องชั่งแบบสปริง คือเครื่องชั่งรุ่นเก่า วัดน้ำหนักโดยการหาค่าการโก่งตัวของสปริง มีความแม่นยำพอสมควร แต่เมื่อผ่านระยะเวลาการใช้งานไปสักระยะอาจจะเกิดการสึกหรอ จนทำให้ค่าน้ำหนักที่ชั่งเกิดการคลาดเคลื่อน แต่ข้อดีก็คือมีราคาถูก และใช้งานง่าย
- เครื่องชั่งดิจิตอล คือ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับชั่งน้ำหนักโดยการใช้ระบบไฟฟ้า และระบบอิเล็กทรอนิกส์มาช่วยในการคำนวณค่าน้ำหนัก เป็นเครื่องชั่งที่มีความแม่นยำสูงแต่ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสิ่งของที่ต้องการชั่ง เพราะเครื่องชั่งประเภทนี้มีหลายแบบให้เลือกใช้นั่นเอง
วิธีเลือกการเครื่องชั่งน้ำหนักให้เหมาะสมกับคุณมากที่สุด
ก่อนจะไปดูว่าเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล ซื้อที่ไหน มีรุ่นใดน่าใช้บ้าง เรามาดูวิธีการเลือกเครื่องช่างน้ำหนักดิจิตอลกันก่อน เพื่อจะได้นำมาใช้ชั่งน้ำหนักตัว ช่วยวิเคราะห์และวางแผนการออกกำลังกายให้มีรูปร่างและสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
1. เลือกจากโปรแกรมการวัดค่าต่าง ๆ ของเครื่อง
สำหรับคนที่เน้นเรื่องการวัดผลเพื่อนำข้อมูลไปใช้ประเมินสุขภาพและวางแผนให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างเหมาะสม องค์ประกอบแรกในการเลือกเครื่องชั่งน้ำหนักก็คือโปรแกรมการวัดที่มีมากับตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวัดแคลอรี การวัดค่าBMI การวัดไขมัน การวัดปริมาณน้ำในร่างกาย ซึ่งในเครื่องชั่งแต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติในการวัดค่าต่าง ๆ ได้ไม่เท่ากัน บางรุ่นมี 12 ค่า บางรุ่นอาจให้มาถึง 21 ค่าเลยก็มี ดังนั้นจึงต้องพิจารณาดูว่าค่าต่าง ๆ ที่ให้มาในแต่ละรุ่นเพียงพอกับความต้องการของตนเองหรือไม่
2. เลือกจากฟังก์ชันการใช้งาน
ในการเลือกเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลสิ่งสำคัญอีกข้อก็คือควรเลือกจากฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย เช่น เลือกเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลที่สามารถเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth หรือ WIFI ได้ เพื่อให้สามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชันสำหรับบันทึกผล บันทึกค่าต่าง ๆ ของตัวเองลงในโทรศัพท์ ช่วยให้เก็บข้อมูลได้มากขึ้น และยังเรียกดูได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ในบางรุ่นยังถูกออกแบบมาให้ช่วยในการวางแผนการออกกำลังกาย วิเคราะห์ข้อมูล ประมวลผลร่างกาย เป็นการสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานมากขึ้นไปอีก
3. เลือกจากความทนทานและการรองรับน้ำหนัก
เรื่องของความทนทานและการรองรับก็เป็นอีกเรื่องสำคัญในการเลือกเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลเพราะเครื่องชั่งน้ำหนักแต่เครื่อง แต่ละรุ่นมีข้อกำจัดเรื่องการรองรับน้ำหนักหรือความสามารถในการชั่งที่แตกต่างกัน บางรุ่นอาจจะรับน้ำหนักได้ 120 กิโลกรัม หรือ บางรุ่นอาจรับน้ำหนักได้ถึง 180 กิโลกรัม ดังนั้นก่อนการเลือกมาใช้งานควรดูรายละเอียดเรื่องการรองรับน้ำหนักด้วย โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ควรตรวจสอบความทนทานเสียก่อน เนื่องจากขณะใช้งานเราต้องขึ้นไปยืนอยู่บนเครื่องชั่ง หากมีความแข็งแรงไม่มากพอ อาจทำให้เกิดความเสียหาย หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
4. เลือกจากหน้าจอในการแสดงผล
หน้าจอแสดงผลใครคิดว่าไม่สำคัญ เพราะการมีหน้าจอแสดงผลใหญ่ ๆ ดีกว่าการมีหน้าจอแสดงผลเล็ก ๆ แน่นอน เนื่องจากโดยส่วนใหญ่เครื่องชั่งน้ำหนักแบบดิจิตอลมักจะสามารถวัดค่าต่าง ๆ ได้หลายค่าด้วยกัน บริเวณหน้าจอจึงมักจะเต็มไว้ด้วยตัวเลข และตัวอักษรต่าง ๆ เมื่อเราต้องยืนอยู่บนเครื่องชั่งและมองลงไปที่หน้าจอแสดงผล หากหน้าจอเล็กเกินไปก็จะสร้างความลำบากในการอ่านค่า ทำให้ต้องเพ่งมอง จนบางครั้งอาจเห็นค่าคลาดเคลื่อนไปอีก เครื่องชั่งน้ำหนักที่ดี ควรมีหน้าจอแสดงผลที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนพอสมควร
5. เลือกจากความแม่นยำในการวัด
ความแม่นยำในการวัดคืออีกปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล เครื่องชั่งที่ดีไม่ควรมีค่าความคลาดเคลื่อนที่สูงเกินไป เพราะหากมีความคลาดเคลื่อนมากก็จะทำให้การประมวลผล การวางแผนออกกำลังกายผิดพลาด นอกจากความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากตัวเครื่องชั่งน้ำหนักแล้ว ยังสามารถเกิดความคลาดเคลื่อนจากปัจจัยอื่นได้ด้วย เช่น การวางเครื่องชั่งในพื้นที่ไม่เรียบ การชั่งน้ำหนักโดยไม่ถอดรองเท้า หรือมีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ใต้เครื่องชั่ง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อาจส่งผลให้ความแม่นยำในการวัดลดลง
6. เลือกจากราคาและความคุ้มค่า
เรื่องของราคาและความคุ้มค่าก็เป็นอีกเรื่องที่มีส่วนในการตัดสินใจเลือกเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล เพราะโดยส่วนใหญ่เครื่องชั่งดิจิตอลที่มีคุณสมบัติดี มีฟังก์ชันให้เลือกใช้มากมาย มักจะมีราคาแพง หลายคนเลือกที่จะซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักที่มีฟังก์ชันเยอะ ๆ มีราคาแพงไว้ก่อน เพราะคิดว่าของแพงคือของดี ทั้งที่เมื่อซื้อมาแล้วแทบไม่ได้ใช้งานฟังก์ชันพิเศษอะไรเลย แบบนี้ถือเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ การเลือกที่ดีควรพิจารณาให้รอบด้าน เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นหลัก และหากจำเป็นต้องใช้งานในรุ่นพิเศษที่ราคาอาจจะสูงไปบ้างก็ถือว่าคุ้มค่ากว่ารุ่นธรรมดาแน่นอน
เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล ซื้อที่ไหน
สำหรับใครที่สนใจอุปกรณ์นี้แต่ยังไม่รู้ว่าเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล ซื้อที่ไหน เราสามารถหาซื้อได้จากหลายช่องทางด้วยกันดังต่อไปนี้
- ร้านอุปกรณ์กีฬา เนื่องจากเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลอยู่ในหมวดการใช้เพื่อสุขภาพ ดังนั้นจึงสามารถหาซื้อได้ในร้านขายอุปกรณ์กีฬาต่าง ๆ โดยมีหลายรุ่นหลายยี่ห้อให้เลือก
- ห้างสรรพสินค้า เป็นที่รู้กันดีว่าห้างสรรพสินค้าคือศูนย์รวมข้าวของเครื่องใช้มากมาย หากคุณต้องการซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลก็มีให้เลือกซื้อเช่นกัน แต่เนื่องจากไม่ใช่ร้านที่ขายอุปกรณ์ด้านนี้โดยเฉพาะจึงมีให้เลือกไม่มากนัก
- ร้านค้าออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง และยังมีให้เลือกหลากหลายอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น Lazada, Shoppe, ร้านเค.บี.ไทยสเกล, Office Mate เป็นต้น
แนะนำ 10 เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลรุ่นน่าใช้
หลังจากได้รู้วิธีการเลือกเครื่องชั่งน้ำหนักไปแล้วว่าควรพิจารณาเลือกจากปัจจัยใดบ้าง คราวนี้เรามาดูกันต่อเลยว่าเครื่องชั่งน้ำหนักที่เรานำมาแนะนำมีรุ่นไหนบ้างที่ตรงตามความต้องการของคุณมากที่สุด
1. เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล HomeHuk
เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลตัวแรกขอแนะนำ HomeHuk ที่มาในราคาสบายกระเป๋า ด้วยดีไซน์ทรงกลม วัสดุผลิตจากกระจกนิรภัย Tempered Glass แบบใส มีความแข็งแรง ทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 180 กิโลกรัม หน้าจอแสดงผลแบบ LCD ตัวเลขมีความชัดเจน มองง่าย สามารถเลือกได้ว่าต้องการวัดหน่วยเป็นกิโลกรัมหรือปอนด์ เมื่อยืนบนเครื่องชั่งระบบเซนเซอร์จะทำการวัดน้ำหนักทันที รุ่นนี้มีฟังก์ชันการแจ้งเตือนการชั่งน้ำหนักเกิน และสามารถปิดการทำงานได้เองโดยอัตโนมัติหลังเลิกใช้งานในเวลา 60 วินาที และยังประหยัดพลังงาน เป็นรุ่นที่ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการชั่งน้ำหนักเพียงอย่างเดียว
2. เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล Xiaomi Scale Body Composition Scale 2
ต่อกันด้วย Xiaomi Scale Body Composition Scale 2 เป็นเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลราคาเบา ๆ แต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพแบบจัดเต็ม เพราะสามารถวัดค่าต่าง ๆ ได้ถึง 13 ค่า ยกตัวอย่างเช่น ตรวจวัดไขมัน BIA, ค่า BMI, มวลกล้ามเนื้อ, อัตราการเผาผลาญ, มวลกระดูก เป็นต้น สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ผ่าน App Mi Fit บันทึกข้อมูลผู้ใช้งานได้ถึง 16 คน จอแสดงผลเป็นแบบ Hidden LED display วัสดุตัวเครื่องชั่งผลิตจาก ABS และกระจกนิรภัย มีความแข็งแรง ทนทาน รองรับน้ำหนักได้ถึง 150 กิโลกรัม ใช้พลังงานจากถ่าน AAA โดยสามารถอยู่ได้นานถึง 12 เดือน เรียกได้ว่าถูกและดี คุ้มค่า คุ้มราคาเป็นที่สุด
3. เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล ALLWELL รุ่น GBF-1719
ALLWELL รุ่น GBF-1719 คือเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล ที่สามารถวัดไขมันและมวลกายได้รวมทั้งยังสามารถวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกาย (BIA) ไม่ว่าจะเป็น ไขมันในร่างกาย มวลกล้ามเนื้อ มวลกระดูก น้ำ ด้วยระบบ Sensor ที่มีความแม่นยำสูง ชั่งน้ำหนักได้ทั้งหน่วยแบบกิโลกรัมและปอนด์ สามารถบันทึกข้อมูลผู้ใช้งานได้ถึง 8 คน หน้าจอแสดงผลแบบ LED มีระบบปิดอัตโนมัติ รองรับน้ำหนักได้มากสุดถึง 180 กิโลกรัม ตัวเครื่องทำจากกระจกนิรภัย มีความแข็งแรง ทนทานมากเป็นพิเศษ มาพร้อมกับดีไซน์เรียบหรู ใช้แบตเตอรี่ AAA 4 ก้อน ในการให้พลังงาน เป็นอีกรุ่นที่มีราคาย่อมเยา
4. เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล Omron รุ่น HN-289
เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล Omron แบรนด์ จากประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อเรื่องการพัฒนานวัตกรรม และการผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน มาในดีไซน์ที่ดูสบายตาในสีโอเชี่ยนบลู ใช้งานง่าย เมื่อขึ้นชั่งน้ำหนักระบบจะเปิด ปิด อัตโนมัติ ผลิตจากกระจกนิรภัย มั่นใจได้ถึงความแข็ง ทนทาน จอแสดงผลเป็นแบบ LCD สามารถเปลี่ยนหน่วยได้ทั้งกิโลกรัม, ปอนด์ และสโตน รองรับน้ำหนักได้ 150 กิโลกรัม ใช้พลังงานจากถ่านกระดุม เป็นเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลอีกรุ่นที่มั่นใจได้ถึงคุณภาพและมาตรฐานในสไตล์ญี่ปุ่นที่เราคุ้นเคย
5. เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล Eufy Body Scale Weight C1
มาต่อกันเลยกับเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลที่ให้คุณรู้ทันสุขภาพได้ง่าย ๆ อย่าง Eufy Body Scale Weight C1 ที่มาพร้อมกับการวัดค่าสุขภาพ 12 รายการ โดยวิเคราะห์และแสดงค่าผ่าน App EufyLife สามารถบันทึกข้อมูลได้ถึง 16 คน และยังเก็บสถิติได้ทั้งแบบรายอาทิตย์ รายเดือน รายปี ตัวเครื่องออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ดูสวยงาม หรูหรา พื้นผิวไม่ลื่น ขอบโค้งมนไม่มีคม จอแสดงผลแบบ LED ขนาดใหญ่ รองรับน้ำหนักได้มากถึง 180 กิโลกรัม ใช้พลังงานจากถ่าน AAA จำนวน 3 ก้อน ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ที่มีความแข็งแรง ทนทาน และยังเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมทั้งในอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศ
6. เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล TANITA รุ่น HD-394 Black
หากคุณต้องการเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลที่หน้าจอแสดงผลใหญ่เต็มตา TANITA รุ่น HD-394 Black คือรุ่นที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะให้หน้าจอแสดงผลแบบ LED ในขนาด 34 มิลลิเมตร ทำให้มองเห็นตัวเลขได้ชัดเจน มาด้วยรูปลักษณ์ Modern Style สีดำ มีเสน่ห์ ใช้พลังงานจากถ่าน AAA จำนวน 4 ก้อน ชั่งน้ำหนักสูงสุดได้ 150 กิโลกรัม และมีค่าความละเอียดอยู่ที่ 100 กรัม (Weight Capacity) ตัวเครื่องคงทน แข็งแรง โดยการรับประกันนานถึง 3 ปี ใครที่ต้องการเครื่องชั่งน้ำหนักที่สามารถอ่านค่าตัวเลขได้แบบชัดเจนรุ่นนี้แหละใช่เลย
7. เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล Amazfit Smart Scale
เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลที่เราอยากแนะนำอีกรุ่นก็คือ Amazfit Smart Scale ที่สามารถวัดมวลร่างกายได้ถึง 16 ค่า มีความแม่นยำสูงผ่านชิปประมวลผลของเครื่องชั่ง รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Wi-Fi และ Bluetooth โดยประมวลผลผ่าน App Zepp รองรับโหมดกีฬาถึง 18 โหมด จอแสดงผลแบบ LCD หน้าจอขนาด 3.4 นิ้ว รองรับน้ำหนักได้ถึง 180 กิโลกรัม ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุ ABS และกระจกนิรภัย ใช้พลังงานจากถ่าน AAA จำนวน 4 ก้อน และยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจในขณะที่ยืนชั่งได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลในราคากลาง ๆ แต่คุณภาพจัดเต็มอีกรุ่น
8. เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล THOMPSON รุ่น RBS Fit Day
THOMPSON รุ่น RBS Fit Day คือเครื่องชั่งน้ำหนักที่ได้รับการออกแบบมาอย่างทันสมัย ด้วยสีขาวในสไตล์มินิมอล มีเซนเซอร์ที่มีความแม่นยำในการวัดค่าสูง สามารถวัดค่ามวลกระดูก, น้ำ ปริมาณไขมัน รวมทั้งกล้ามเนื้อในร่างกายได้อย่างแม่นยำ เชื่อมต่อให้คุณได้เช็คน้ำหนักผ่านและวิเคราะห์สุขภาพผ่านทาง App Fit Day ตัวเครื่องผลิตจากกระจกนิรภัย แข็งแรง ทนทาน หน้าจอแสดงผลแบบ LED เปิด ปิดการทำงานอัตโนมัติ รองรับน้ำหนักได้ถึง 180 กิโลกรัม มีฟังก์ชันการเตือนเมื่อแบตเตอรี่ต่ำ หรือน้ำหนักเกิน ใช้พลังงานจากถ่าน AAA จำนวน 3 ก้อน เป็นอีกรุ่นที่มีดีไซน์สวยงามหรูหราไม่แพ้ใคร
9. เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล Huawei Body Fat Scale
มาต่อกับแบรนด์ดังอย่าง Huawei ที่ผลิตเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล ออกมาให้สามารถเชื่อมต่อมือถือได้ทั้งระบบ Android และ iOS สามารถวัดองค์ประกอบในร่างกายได้ 9 อย่างด้วยกัน คือน้ำหนัก, เปอร์เซ็นต์น้ำในร่างกาย, มวลกล้ามเนื้อ, ไขมันในช่องท้อง การเผาผลาญพลังงาน, โปรตีน, BMI และมวลกระดูก ทั้งยังสามารถวิเคราะห์และแนะนำเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ ผ่านแอrพลิเคชัน และยังรองรับน้ำหนักได้ 150 กิโลกรัม ตัวเครื่องผลิตจากกระจกนิรภัย ใช้แบตเตอรี่ AAA 4 ก้อน ในการให้พลังงาน และมีความพิเศษไม่เหมือนใครนั่นก็คือสามารถใช้แทนนาฬิกาปลุกได้อีกด้วย
10. เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล Bodivis
Bodivis คือเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลที่มีระบบการประมวลผลอัจฉริยะที่สามารถช่วยแนะนำเมนูอาหารให้เลือกในแต่ละมื้อ พร้อมทั้งคำนวณแคลอรีของแต่ละเมนูให้เสร็จสรรพ และยังช่วยแนะนำการออกกำลังกาย คำนวณระยะเวลารวมทั้งพลังงานที่ใช้ เพื่อให้คุณดูแลสุขภาพได้เหมาะสมมากขึ้น มีความแม่นยำในการวัดค่าต่าง ๆ ค่อนข้างสูง สามารถวัดได้มากกว่า 21 ค่า ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ ( US FDA) หากคุณต้องการเครื่องชั่งน้ำหนักที่มีความแม่นยำและสามารถทำงานได้อย่างอัจฉริยะ รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าเครื่องช่างน้ำหนักดิจิตอล ซื้อที่ไหน สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละร้านได้จากลิ้งก์สินค้าที่เราใส่ไว้ในแต่ละรุ่น โดยการเลือกเครื่องช่างน้ำหนักดิจิตอลที่ดีควรเลือกจากความเหมาะสมในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมการวัดต่าง ๆ ฟังก์ชันการใช้งาน ความทนทานและการรองรับน้ำหนัก ความแม่นยำในการวัด วัสดุที่ใช้ผลิต รวมทั้งราคาและความคุ้มค่า ด้วยหลักการเพียงเท่านี้ก็สามารถเลือกเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลดี ๆ มาใช้งานสำหรับเป็นอุปกรณ์เสริมเพื่อให้การออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพของคุณเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น