28-04-2022

เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี พร้อมวิธีเลือกซื้อ 2023

เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี coffee machine 050122
ภาพจาก lacocinadediana.com

สำหรับใครที่ชื่นชอบกลิ่นหอมของกาแฟและนิยมดื่มกาแฟสดที่มีความหอมกรุ่นอยู่เป็นประจำ การมีเครื่องชงกาแฟแคปซูลติดบ้านเอาไว้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว เพราะช่วยให้คุณไม่ต้องออกไปเสี่ยงในสถานการณ์แพร่ระบาดของ Covid-19 ในปัจจุบันที่ยังคงมีความเสี่ยงเมื่อต้องออกไปข้างนอก รวมไปถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อกาแฟดื่ม สามารถดื่มกาแฟได้ทุกเวลาที่ต้องการ ได้ฝึกปรือและชื่นชมฝีมือการชงกาแฟของตัวเองหรือชงให้คนพิเศษดื่ม ใครมองหาอุปกรณ์นี้อยู่แต่ยังไม่รู้จะเลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี วันนี้เราคัดมาเน้น ๆ ให้คุณเลือกถึง 10 รุ่นจากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมวิธีการเลือกใช้งานอย่างเหมาะสม

วิธีเลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูล

สำหรับกาแฟแคปซูลก็คือการนำเอากาแฟคั่วบดสายพันธุ์ต่าง ๆ มาบรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับแคปซูลเพื่อคงคุณค่าและรสชาติของกาแฟเอาไว้ให้เหมือนกาแฟสดนั่นเอง ซึ่งแคปซูลกาแฟเหล่านี้ก็จะต้องมีการใช้งานร่วมกับเครื่องชงกาแฟแคปซูลโดยเฉพาะ ดังนั้นการเลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี จึงต้องพิจารณาข้อมูลต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อดังนี้

1. เลือกประเภทเครื่องชงกาแฟแคปซูลให้เหมาะกับรสชาติกาแฟที่ต้องการ

สำหรับเครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้นก็จะแบ่งรูปแบบของการชงออกเป็น 2 ประเภทก็คือ เครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบ Dolce Gusto และเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบ Nespresso ซึ่ง เครื่องชงกาแฟแบบ Dolce Gusto นั้นจะเป็นรูปแบบการชงที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟรวมไปถึงเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นโกโก้ ชาไทย หรือชาเขียว รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบกาแฟที่ผสมนมหรือน้ำเชื่อมเพิ่มเติมเข้ามา ข้อดีของเครื่องชงกาแฟประเภทนี้นอกจากจะสามารถชงเครื่องดื่มได้หลากหลายกว่าแล้วก็ยังสามารถชงกาแฟออกมาได้ในปริมาณที่มากกว่า แต่มีข้อเสียอยู่ตรงที่ความเข้มข้นของกาแฟนั้นจะค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับเครื่องชงกาแฟแคปซูลอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Nespresso

ส่วนเครื่องชงกาแฟแบบ Nespresso จะเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟรสชาติเข้มข้น ต้องการความเข้มและความหอมกรุ่นของกาแฟเป็นหลัก ซึ่งเครื่องชงกาแฟแบบ Nespresso เป็นเครื่องที่สามารถผลิตฟองนมได้และยังมีรสชาติของกาแฟให้เลือกหลากหลายตามความชอบของแต่ละคน นอกจากนี้ก็ยังมีแคปซูลของกาแฟให้เลือกค่อนข้างมากในท้องตลาด ดังนั้นถ้าหากใครที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟรสชาติเข้มข้นก็แนะนำให้เลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบ Nespresso จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้มากกว่า แต่ทั้งนี้เครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบ Nespresso ส่วนใหญ่ก็มักจะมีราคาที่สูงกว่าเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบ Dolce Gusto อยู่พอสมควร

2. ขนาดของแคปซูลที่ใช้กับเครื่องชงกาแฟแคปซูล

โดยทั่วไปแล้วเครื่องชงกาแฟแคปซูลแต่ละยี่ห้อนั้นก็จะมีการผลิตกาแฟแคปซูลที่เอาไว้สำหรับใช้กับเครื่องชงกาแฟแคปซูลของตนเองโดยเฉพาะกันอยู่แล้ว แต่ก็จะมีเครื่องชงกาแฟแคปซูลบางยี่ห้อที่สามารถใช้งานร่วมกับกาแฟแคปซูลยี่ห้ออื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าหากใครที่ไม่อยากจำเพาะเจาะจงว่าจะต้องกินกาแฟแคปซูลของยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ก็แนะนำให้เลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่สามารถใช้งานร่วมกับกาแฟแคปซูลยี่ห้ออื่น ๆ ได้ โดยก่อนที่จะตัดสินใจซื้อควรถามร้านค้าหรือพนักงานขายดูก่อนว่าเครื่องชงกาแฟรุ่นที่คุณสนใจนั้นสามารถใช้ชงแคปซูลกาแฟยี่ห้ออื่นได้หรือไม่ ซึ่งตามปกติแล้วแคปซูลกาแฟที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดโดยทั่วไปก็จะมีให้เลือกอยู่ 2 ขนาด ก็คือ แคปซูลกาแฟขนาด 13x13x38 เซนติเมตร และแคปซูลกาแฟขนาด 12x12x34 เซนติเมตร และควรที่จะดูด้วยว่าเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่คุณเลือกมานั้นใช้แคปซูลขนาดเท่าไหร่จะได้ซื้อแคปซูลกาแฟได้ถูกต้อง ไม่ต้องซื้อมาผิดขนาดและเสียของรวมไปถึงเสียเงินโดยใช่เหตุ

3. สามารถปรับโหมดการชงกาแฟได้

ใครที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟหลากหลายรสชาติแต่ก็ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกเครื่องชงกาแฟ ยี่ห้อไหนดี อย่างที่กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่าใครที่ชื่นชอบดื่มกาแฟที่มีความเข้มข้นเป็นหลักและชอบรสชาติกาแฟที่มีความหลากหลายก็แนะนำให้เลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบ Nespresso หรือถ้าอยากดื่มเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ นอกเหนือจากกาแฟด้วยก็ให้เลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบ Dolce Gusto ซึ่งในขั้นต่อมาก็ดูว่าเครื่องชงกาแฟรุ่นที่คุณเลือกนั้นมีโหมดการชงกาแฟที่สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างหลากหลายตามความต้องการด้วยหรือไม่ ในเบื้องต้นแนะนำให้เลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่สามารถปรับโหมดการชงกาแฟได้อย่างน้อย 2 แบบก็คือ แบบ Espresso และแบบ Lungo ซึ่งในโหมดการชงแบบ Espresso จะเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟสดเข้ม ๆ ตามปกติ ที่ให้รสชาติเข้มของกาแฟพร้อมด้วยครีมนุ่ม ๆ ด้านบน ซึ่งถือได้ว่าเป็นโหมดการชงกาแฟพื้นฐานสำหรับเครื่องชงกาแฟแคปซูลเลยก็ว่าได้

แต่ถ้าหากใครที่ชื่นชอบกาแฟสดที่ต้องมีการเติมนมหรือน้ำเชื่อมเพิ่มเติมเข้าใหม่ด้วยก็ให้เลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มีโหมดการชงแบบ Lungo ซึ่งเป็นโหมดที่จะสกัดกาแฟออกมาเป็นช็อตยาว ให้กาแฟที่มีความนุ่มนวลกลมกล่อม ให้รสชาติที่มีความเข้มข้นมากกว่ากาแฟแบบ Americano อยู่เล็กน้อย ซึ่งเหมาะสำหรับการดื่มเป็นกาแฟสดตามปกติหรือจะเติมนม เติมน้ำเชื่อมรวมไปถึงการทำกาแฟเย็นได้อย่างลงตัว โดยเราแนะนำให้เลือกแคปซูลกาแฟ Lungo มาใช้โดยเฉพาะแทนที่จะใช้แคปซูลกาแฟ Espresso จะเป็นการดีที่สุด

4. เลือกปริมาณความจุของแท็งก์น้ำให้เหมาะสม

แน่นอนว่าในการชงกาแฟก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้น้ำร้อนสำหรับสกัดช็อตกาแฟกันอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่ควรจะต้องพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี ก็คือขนาดความจุของแท็งก์น้ำที่มากับตัวเครื่องชงกาแฟแคปซูลนั่นเอง ซึ่งขนาดของแท็งก์น้ำนั้นก็มีผลสำหรับปริมาณการชงกาแฟในแต่ละครั้งด้วย โดยปกติทั่วไปแล้วกาแฟที่ดื่มต่อแก้วนั้นก็จะใช้น้ำอยู่ที่ปริมาณ 120 – 140 มิลลิลิตร ถ้าหากปริมาณการชงกาแฟในแต่ละวันมีค่อนข้างมากก็ควรที่จะมองหาเครื่องชงกาแฟแคปซูล ที่มีแท็งก์น้ำความจุเพียงพอสำหรับการใช้งานในแต่ละวันโดยที่ไม่ต้องเติมน้ำไปที่เครื่องชงกาแฟกันอยู่บ่อย ๆ อย่างเช่นหากใครดื่มกาแฟประมาณ 2-3 แก้วต่อวัน ก็อาจจะเลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มีขนาดแท็งก์น้ำความจุอยู่ที่ 750 มิลลิลิตรขึ้นไป แต่ถ้าหากเป็นการใช้เครื่องชงกาแฟแคปซูลในบ้านที่มีสมาชิกหลายคนหรือตามออฟฟิศก็อาจจะเลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มีทั้งน้ำขนาดใหญ่ขึ้นหรือสามารถติดตั้งแท็งก์น้ำภายนอกเพิ่มเติมในภายหลังได้

5. มีฟังก์ชันสำหรับปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน

และสำหรับใครที่มีงานใช้เครื่องชงกาแฟแคปซูลกันอยู่เป็นประจำ นอกจากฟังก์ชันในเรื่องของโหมดการชงกาแฟที่มีความหลากหลายแล้ว อีกหนึ่งฟังก์ชันที่บอกได้เลยว่ามีความสำคัญไม่แพ้กันก็คือระบบปิดเครื่องโดยอัตโนมัติ เพราะจะเป็นระบบที่สามารถช่วยปิดเครื่องชงกาแฟแคปซูลให้เมื่อไม่ได้มีการใช้งานโดยที่เราไม่ต้องทำการปิดเปิดเองให้ยุ่งยาก ซึ่งก็สามารถตั้งค่าการปิดเครื่องอัตโนมัติได้เมื่อไม่มีการใช้งานเป็นระยะเวลาตามที่เรากำหนด ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในช่วงประมาณ 1 ถึง 15 นาที แล้วแต่รุ่น หรือบางรุ่นก็อาจจะมาพร้อมกับฟังก์ชันสำหรับการปิดเครื่องทันทีเมื่อไม่มีการใช้งาน ซึ่งฟังก์ชันนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นฟังก์ชันที่ช่วยในการประหยัดพลังงานและช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าไฟได้เป็นอย่างดี เพราะเครื่องชงกาแฟแคปซูลนั้นค่อนข้างกินไฟอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ดังนั้นฟังก์ชันนี้นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกสบายในกรณีที่เร่งรีบหรือลืมปิดเครื่องแล้ว ก็ยังช่วยประหยัดไฟได้อีกด้วย

6. เลือกจากคุณสมบัติโดยทั่วไปของเครื่องชงกาแฟแคปซูล

นอกเหนือจากดูในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ รวมไปถึงโหมดชงกาแฟและขนาดของแท็งก์น้ำแล้ว ก็ยังมีคุณสมบัติอีกหลายข้อที่ควรพิจารณาสำหรับการเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูลไม่ว่าจะเป็นความดันของบาร์เครื่องชงกาแฟที่ใช้ปั๊มน้ำในการสกัดช็อตกาแฟ โดยควรเลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มีแรงดันอย่างน้อย 15 บาร์ ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องชงกาแฟตามร้าน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการสกัดช็อตกาแฟที่ดียิ่งขึ้น

และสำหรับใครที่ชื่นชอบเมนูกาแฟใส่นมอย่างเช่นลาเต้หรือคาปูชิโน่ การเลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มีเครื่องทำฟองนมก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ขาดไปไม่ได้ ดังนั้นจึงควรเลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบที่มีเครื่องทำฟองนมหรือแบบที่สามารถผลิตฟองนมได้ในตัวก็จะตอบโจทย์การชงกาแฟในเมนูที่ชื่นชอบได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ควรดูในเรื่องของพื้นที่สำหรับการวางแก้วกาแฟของเครื่องชงกาแฟแคปซูลว่าสามารถวางแก้วกาแฟที่คุณชื่นชอบหรือสามารถวางแก้วกาแฟรวมไปถึงแก้วน้ำได้อย่างหลากหลายรูปทรงมากน้อยแค่ไหน เพราะในบางครั้งคุณอาจจะไม่ได้ต้องการเพียงแค่ดื่มเมนูกาแฟร้อนเพียงอย่างเดียว แต่อาจจะรวมไปถึงการชงเครื่องดื่มอื่น ๆ อย่างเช่นโกโก้ ชา หรือสกัดช็อตกาแฟเพื่อชงกาแฟเย็น สุดท้ายที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับเครื่องชงกาแฟแคปซูลก็คือความสะดวกง่ายดายในการทำความสะอาด ที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลามากจนเกินไปในการดูแลรักษา

แนะนำ 10 เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี คัดมาหลากรุ่นหลายราคาให้คุณเลือก

1. Duchess เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น CM6300

เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี Duchess เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น CM6102R

เริ่มต้นรายชื่อ เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี กันด้วย Duchess เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น CM6300 เครื่องชงกาแฟแคปซูลที่ช่วยสกัดช็อตกาแฟออกมาได้อย่างเข้มข้นด้วยแรงดันถึง 19 บาร์ พร้อมกำลังไฟ 1,400 วัตต์ มาพร้อมโปรแกรมที่สามารถเลือกปริมาณการชงกาแฟได้ถึง 9 ระดับ โดยมีปริมาตรให้เลือกตั้งแต่ 15 มล. – 180 มล. มีความจุถังน้ำอยู่ที่ 600 ml. มีถุงรองน้ำกาแฟทนความร้อน น้ำหนักตัวเครื่องเบาขนาดกำลังดีสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก มาพร้อมโหมดสแตนบายและโหมดชงกาแฟด้วยตนเองที่สามารถเลือกปริมาณกาแฟได้ตามความต้องการ

2. Tefal Krups MINI ME เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น KP120

เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี Tefal Krups MINI ME เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น KP120

Tefal Krups MINI ME เครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มาพร้อมแรงดัน 15 บาร์ สกัดช็อต Espresso ออกมาได้อย่างเข้มข้น พร้อมกำลังไฟ 1,500 วัตต์ ความจุแท็งก์น้ำ 0.8 ลิตร ที่สามารถถอดออกมาเติมน้ำได้อย่างสะดวก มีระบบหยุดน้ำอัตโนมัติ สามารถเลือกชงได้ทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็น พร้อมด้วยวัสดุถาดรองน้ำหยดที่สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ สามารถวางแก้วน้ำได้หลากหลายรูปทรง สามารถถอดทำความสะอาดได้ง่าย และโหมดประหยัดพลังงานที่จะปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งานใน 5 นาที เรียกว่าครบถ้วนเพื่อคนรักกาแฟเลยล่ะ

3. Duchess เครื่องชงกาแฟสด-แคปซูล CM3000B

เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี Duchess เครื่องชงกาแฟสด แคปซูล CM3000B

หากใครกำลังมองหาเครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี ที่ใช้เป็นเครื่องชงกาแฟสดด้วยได้ ขอแนะนำDuchess เครื่องชงกาแฟสด รุ่น CM3000B ที่เป็นได้ทั้งเครื่องชงกาแฟแคปซูลและเครื่องชงกาแฟสดในตัว มาพร้อมฟังก์ชันที่ใช้งานง่ายและสะดวกสบายตอบโจทย์การชงเครื่องดื่มได้หลากหลายเมนู ใช้กำลังไฟ 1,050 วัตต์ ระบบแรงดันน้ำ 15 บาร์ ความจุถังน้ำ 1.5 ลิตร พร้อมดีไซน์ภายนอกที่มีความเรียบง่ายหรูหรา ตัวเครื่องใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน และยังทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย

4. KRUPS เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น KP1A01

เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี KRUPS เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น KP1A01

KRUPS KP1A01 เครื่องชงกาแฟแคปซูลขนาดเล็กกะทัดรัด กำลังไป 1,340 – 1,600 วัตต์ แรงดัน 15 บาร์ ความจุถังน้ำ 0.8 ลิตร มาพร้อมดีไซน์สวยงามสไตล์โมเดิร์น สามารถทำกาแฟรวมไปถึงเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลายและต่อเนื่อง รองรับการทำเครื่องดื่มจากแคปซูลที่หลากหลายกว่า 13 รสชาติ สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้อย่างสะดวก ใช้งานง่ายเพียงแค่กดปุ่มเลือกโหมดการชง ถาดรองน้ำปรับได้ 3 ระดับสามารถวางแก้วได้หลายรูปแบบ มีโหมดหยุดทำงานอัตโนมัติเมื่อใช้งานเสร็จหรือไม่ได้ใช้งาน 1 นาที ที่สำคัญราคาน่ารักมาก

5. Xiaomi เครื่องชงกาแฟแคปซูล YouPin Official Store SCISHARE Smart Capsule Coffee Manchine (Wi-Fi)

เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี Xiaomi เครื่องชงกาแฟแคปซูล

เครื่องชงกาแฟแคปซูลภายใต้แบรนด์ของ Xiaomi ที่มาพร้อมฟังก์ชันสุดล้ำใช้งานง่ายให้คุณดื่มด่ำกับกาแฟได้ภายในเวลาเพียง 1 นาที มาพร้อมแรงดันน้ำ 19 บาร์ ใช้กำลังไฟ 1,200 วัตต์ ความจุถังน้ำ 580 ml. สามารถตั้งค่าความเข้มข้นของการชงกาแฟได้ 9 ระดับ สามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น Mi Home เพื่อควบคุมการทำงานผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมถาดปรับได้หลายระดับรองรับแก้วกาแฟทุกขนาด และสามารถใช้งานร่วมกับแคปซูลกาแฟได้หลากหลายยี่ห้อ และมีโหมดปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบความทันสมัย

6. เครื่องชงกาแฟแคปซูล Boncafe รุ่น Capristta N

เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี Boncafe รุ่น Capristta N

Boncafe รุ่น Capristta N เครื่องชงกาแฟแคปซูลที่ใช้งานง่ายให้รสชาติกาแฟอันยอดเยี่ยม การทำงานของเครื่องง่าย มีเสถียรภาพให้รสชาติทุกเยี่ยมในทุก ๆ แก้ว มีโหมดประหยัดพลังงาน ปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อเครื่องหยุดการใช้งานใน 10 นาที สามารถตั้งปริมาณน้ำกาแฟได้ตามความชอบ ถาดวางของเครื่องถูกออกแบบมาให้สามารถวางแก้วกาแฟได้ทุกไซส์ เติมน้ำในถังง่ายเพียงเปิดฝา ตัวเครื่องใช้กำลังไฟ 1,300 – 1,500 วัตต์ พร้อมแรงดันน้ำ 15 บาร์ และความจุของถังน้ำ 0.55 ลิตร รูปทรงสวยงาม รองรับกาแฟแคปซูลหลายรูปแบบ เหมาะสำหรับคอกาแฟที่ชื่นชอบความหลากหลาย

7. Nespresso เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น Essenza Mini Bundle

เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี Nespresso เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น Essenza Mini Bundle

Nespresso Essenza Mini Bundle เครื่องชงกาแฟแคปซูลที่ให้ช็อตกาแฟอันเข้มข้นด้วยแรงดันสูงถึง 19 บาร์ กำลังไฟ 1,250 วัตต์ ใช้งานง่ายควบคุมเพียงแค่ปุ่มก็สามารถทำกาแฟได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 30 วินาที มาพร้อม 2 โปรแกรมอัตโนมัติทั้งแบบ Espresso และ Lungo ความจุแท็งก์น้ำ 0.6 ลิตร มีฟังก์ชันประหยัดพลังงานอัตโนมัติโดยจะปิดเครื่องเมื่อไม่มีการใช้งานมีฟังชันประหยัดพลังงานอัตโนมัติโดยจะปิดเครื่องเมื่อไม่มีการใช้งานเป็นเวลา 9 นาที ใครนึกไม่ออกว่าเครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี แนะนำเลยว่าตัวนี้น่ามีไว้ติดบ้าน

8. Nespresso เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น New Lattissima One

เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี Nespresso เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น New Lattissima One

Nespresso รุ่น New Lattissima One เครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มาพร้อมดีไซน์หรูหราสะดุดตามีขนาดกะทัดรัด ปรับปรุงเพื่อให้ตอบโจทย์การสร้างสรรค์เมนูกาแฟนมได้ง่ายขึ้นถึง 6 เมนู ด้วยกระบอกบรรจุนมรูปแบบใหม่ที่สามารถเติมนมได้อย่างง่ายดายและสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องล้างจานได้ ให้ช็อตกาแฟที่เข้มข้นด้วยแรงดัน 19 บาร์ มาพร้อม 2 โปรแกรมอัตโนมัติสำหรับการทำกาแฟ Espresso และ Lungo สามารถชงสามารถชงได้ทั้งกาแฟดำและกาแฟนม ความจุถังน้ำ 1.3 ลิตร กำลังไฟ 1,400 วัตต์ ตัวช่วยของคนรักกาแฟที่น่ารับไว้พิจารณา

9. ILLY เครื่องชงกาแฟแคปซูล ILLY รุ่น Y3.2

เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี ILLY เครื่องชงกาแฟแคปซูล

เครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่จะทำให้คุณสามารถได้เลือกดื่มกาแฟเอสเปรสโซและกาแฟอเมริกาโน่ได้ตามต้องการ ให้ช็อตกาแฟที่เข้มข้นด้วยความดันที่ 19 บาร์ กำลังไฟ 850 วัตต์ ความจุถังน้ำ 0.75 ลิตร มาพร้อมดีไซน์กะทัดรัดให้คุณประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า มีระบบความร้อนภายในเป็นอะลูมิเนียมและมีระบบประหยัดพลังงาน พร้อมถาดรองที่สามารถปรับระดับได้รองรับแก้วกาแฟได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อให้คุณได้เข้าถึงรสชาติกาแฟ ILLY แท้ ๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา

10. Tefal เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น KP240166 GENIO S BASIC

เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี Tefal เครื่องชงกาแฟแคปซูล รุ่น KP240166

ส่งท้ายรายชื่อ เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี กันด้วย Tefal KP240166 GENIO S BASIC เครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบออโต้ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด ใช้กำลังไฟ 1,500 วัตต์ พร้อมด้วยระบบ LED Control Ring ที่ช่วยควบคุมการทำงานของตัวเครื่องได้ง่าย มีแรงดัน 15 บาร์ ให้ช็อตกาแฟที่เข้มข้นเทียบเท่าเครื่องชงกาแฟขนาดใหญ่ มี XL function สำหรับผู้ที่ชอบการดื่มกาแฟแก้วใหญ่ ๆ ถาดรองน้ำสามารถปรับได้ 3 ระดับตอบโจทย์การวางแก้วสำหรับการชงเครื่องดื่มได้หลายรูปแบบ พร้อมแท็งก์น้ำขนาด 0.8 ลิตร สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ และมีระบบหยุดทำงานอัตโนมัติเมื่อใช้งานเสร็จ สวยและดีในราคาย่อมเยา

บทส่งท้ายจากผู้เขียน

การจะเลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี เอาไว้เติมเต็มความสุขภายในบ้านหรือสำนักงานให้กับคอกาแฟนั้น มีรายละเอียดหลายอย่างที่เราต้องพิจารณา เพื่อให้ได้รุ่นที่ลงตัวกับความต้องการของเรามากที่สุด โดยแต่ละรุ่นที่เราคัดมานั้นก็มีคุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกันออกไป ส่วนรุ่นไหนจะโดนใจมากที่สุดคงต้องเปรียบเทียบในรายละเอียดกันอีกครั้งเพื่อหาเครื่องชงกาแฟแก้วโปรดที่จะมาช่วยสร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มสุดพิเศษให้กับทุกวันของคุณ

หมวดหมู่สินค้า