ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีการผลิตเครื่องเล่นเกมรวมไปถึงการออกแบบให้สมาร์ทโฟนนั้นสามารถตอบโจทย์การเล่นเกมได้ดีมากยิ่งขึ้น แต่เกมบางเกมก็จำเป็นที่จะต้องมีการเล่นผ่านทางคอมพิวเตอร์หรือ Notebook เป็นหลัก ซึ่งหลายคนก็ชื่นชอบที่จะเล่นเกมผ่านทางคอมพิวเตอร์หรือ Notebook ที่เป็นแบบ Gaming กันโดยเฉพาะ รวมถึงเลือกที่จะจัดสเปคด้วยตนเองเพราะตอบโจทย์ได้ตรงใจมากกว่าเพื่อตอบโจทย์สำหรับการเล่นเกมให้ดียิ่งขึ้น โดยหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญก็คือการเลือกการ์ดจอเล่นเกมนั่นเอง วันนี้เราจึงได้คัดเลือก 10 อันดับ การ์ดจอเล่นเกม ยี่ห้อไหนดี มาแนะนำให้คุณได้พิจารณาเลือกใช้งานกันเพื่อเสริมประสิทธิภาพด้านกราฟิกให้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
วิธีเลือกการ์ดจอเล่นเกม ยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะสำหรับความต้องการเล่นเกมของคุณ
ต้องยอมรับว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับการเล่นเกมนั้นในปัจจุบันก็ถือว่ายังค่อนข้างมีราคาที่แพงอยู่พอสมควร เพราะจะต้องเป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อตอบสนองให้สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลมากที่สุด ดังนั้นในการจะเลือกการ์ดจอเล่นเกม ยี่ห้อไหนดี ก็ควรที่จะต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ในหลาย ๆ ด้าน เพื่อให้สามารถเลือกการ์ดจอเล่นเกมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้มากที่สุด
1. เลือกการ์ดจอเล่นเกมจากงบประมาณที่มีอยู่
ต้องบอกว่าเรื่องงบประมาณนั้นเป็นตัวกำหนดที่สำคัญในการเลือกการ์ดจอเล่น เกมยี่ห้อไหนดี เลยทีเดียว นั่นก็เป็นเพราะว่ายิ่งการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูงก็จะมีราคาที่สูงตามไปด้วย ซึ่งก็หมายความว่าจะสามารถทำให้เราเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการกระตุกหรือหน่วง ได้ภาพที่สมจริงคมชัดรายละเอียดครบถ้วน รวมไปถึงสามารถปรับตั้งค่าในเกมแบบสูงสุดได้ทุกอย่าง และสามารถรองรับการเล่นเกมที่ออกมาใหม่ ๆ ในปัจจุบันรวมไปถึงในอนาคตได้เป็นอย่างดี ดังนั้นถ้าหากมีงบประมาณที่จำกัดก็ควรที่จะต้องพิจารณาซื้อการ์ดจอเล่นเกมที่อยู่ในช่วงราคาที่เราสามารถรับได้ และให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมโดยรวมอยู่ในระดับที่เราพึงพอใจให้ได้มากที่สุด
2. เลือกการ์ดจอจากความจุของ RAM
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกการ์ดจอเล่นเกมอย่างไร ก็มักจะเลือกดูที่หน่วยความจำแรม (RAM) กันก่อนเป็นลำดับแรก นั่นก็เป็นเพราะว่าหน่วยความจำ RAM นั้นเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการใช้ประมวลผลข้อมูล ดูง่าย ๆ ก็คือถ้าหากตัวเลขของหน่วยความจำ RAM มาก ก็จะยิ่งทำให้มีความสามารถในการประมวลผลที่เร็วมากตามไปด้วยนั่นเอง นอกจากนี้ก็ควรที่จะดูชนิดของหน่วยความจำ RAM ด้วย ซึ่งหลักในการเลือกดู RAM ก็ให้ดูจาก DDR หรือ Double Data Rate RAM ซึ่งในปัจจุบันก็จะมี RAM ให้เลือกก็คือตัวรุ่นเก่ากว่าอย่าง DDR4, DDR5 และตัวใหม่ล่าสุดก็คือ DDR6 ซึ่งก็จะมีประสิทธิภาพในการประมวลผลที่รวดเร็วมากกว่าเดิม
3. เลือกการ์ดจอเล่นเกมจากสเปคของหน้าจอมอนิเตอร์ที่ใช้งานอยู่
ในบางครั้งถ้าหากเลือกการ์ดจอสเปคสูง ๆ มาแต่พบว่าหน้าจอที่ใช้อยู่ไม่สามารถรองรับประสิทธิภาพของการ์ดจอได้อย่างเต็มที่ ก็อาจจะต้องทำให้คุณเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อหน้าจอใหม่ให้รองรับกับการ์ดจอเล่นเกมที่ซื้อมาก็ได้ ดังนั้นถ้าหากไม่อยากซื้อหน้าจอใหม่ให้งบประมาณบานปลาย ก็ต้องดูหน้าจอมอนิเตอร์ที่เราใช้อยู่ว่ามีความละเอียดเท่าไหร่ก่อน ซึ่งความละเอียดของหน้าจอก็จะมีอยู่หลายแบบ โดยสามารถเรียงจากความสามารถในการกินสเปคของการ์ดจอจากน้อยไปมากได้ดังนี้ก็คือ หน้าจอFull HD (1920×1080) หน้าจอ QHD หรือ 2K (2560×1440) และหน้าจอ UHD หรือ 4K (3840×2160) นอกจากนี้ก็อาจจะมีหน้าจอที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ อย่างเช่นหน้าจอแบบ Ultra Wide อย่างเช่น 2K Ultrawide ซึ่งจะมีความละเอียดมากขึ้นเป็น 3440×1440 หรือหน้าจอแบบ Full HD Ultrawide (2560×1080) เป็นต้น
นอกจากนี้ก็ต้องดูในเรื่องของค่า Refresh Rate หน้าจอด้วยว่าเป็นแบบไหน ซึ่งโดย ทั่วไปแล้วหน้าจอปกติก็จะมีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 60Hz แต่สำหรับหน้าจอที่ใช้สำหรับการเล่นเกมก็จะมีค่า Refresh Rate ที่สูงกว่านั้น ดังนั้นจึงควรเลือกการ์ดจอให้เหมาะสมกับคุณสมบัติของหน้าจอมอนิเตอร์ที่เรามีอยู่นั่นเอง
4. เลือกการ์ดจอสำหรับเล่นเกมจาก Series ของการ์ดจอ
ปัจจุบันการ์ดจอที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดก็จะถูกแบ่งออกเป็นหลาย Series ด้วยกันเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่มีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าหากเรายังไม่แน่ใจว่าจะเลือกการ์ดจอเล่นเกม ยี่ห้อไหนดี ก็ต้องดูการ์ดจอที่มาพร้อมกับความสามารถในเรื่องของการประมวลผลด้าน Graphic ที่สวยงามและสามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งต้องบอกว่าในท้องตลาดก็มีการ์ดจอจำหน่ายอยู่ด้วยกันมากมายหลายยี่ห้อ แต่ในความเป็นจริงแล้วบริษัทที่ทำการผลิตการ์ดจอในปัจจุบันนี้ก็จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ค่ายก็คือ NVIDIA และ AMD หรือที่ชอบเรียกติดปากกันว่าค่ายเขียวและแดง ซึ่งพวกแบรนด์ต่าง ๆ ก็จะนำเอาหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือที่เรียกว่า GPU ที่ผลิตจากสองค่ายนี้มาปรับแต่งออกแบบใหม่แล้วนำมาจำหน่ายภายใต้ชื่อแบรนด์ของตนเอง จึงทำให้มีความแตกต่างกันบ้างในส่วนของรายละเอียดต่าง ๆ นั่นเอง โดย Series ของการ์ดจอทั้งสองค่ายที่เหมาะสำหรับการเล่นเกมก็จะมีดังนี้
การ์ดจอ NVIDIA
การ์ดจอเล่นเกมจากค่ายเขียวซึ่งรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมจากค่ายนี้ก็จะเริ่มต้นที่ Series ตัวท็อปอย่าง “RTX” ซึ่งจุดเด่นก็คือเทคโนโลยี “Ray Tracing” ที่เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีแบบใหม่ของทางค่ายซึ่งสามารถทำให้ภาพที่ออกมาดูสมจริงในทุกมิติ จึงเป็นที่มาของตัวย่อของ Series RTX ซึ่งจะถูกใส่เข้ามาพร้อมกับสถาปัตยกรรมการผลิตการ์ดจอในรูปแบบใหม่ที่ช่วยทำให้กราฟิกในเกมได้รับการประมวลผลออกมาอย่างมีประสิทธิภาพและมีความเร็วที่มากขึ้น พร้อมให้ภาพที่มีแสงเงาสมจริงในทุกมุมมอง โดยใน Series นี้ก็จะมีรุ่นที่ได้รับการอัปเกรดความแรงของการ์ดจอให้ตอบโจทย์การเล่นเกมได้ดีและประมวลผลได้อย่างลื่นไหลมากยิ่งขึ้นออกมาเป็นรุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น “Super” และ “Ti” อีกด้วย
สำหรับใน Series รองท็อปที่ตอบโจทย์สำหรับการเล่นเกมได้ดีก็คือการ์ดจอในตระกูล “GTX” ที่เราค่อนข้างคุ้นเคยกันดีนั่นเอง โดยที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันก็จะเป็น Series ใหม่ที่ออกมาเพียงตัวเดียวก็คือ “GTX 16 Series” ซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นสำหรับใครที่กำลังมองหาการ์ดจอเล่นเกม ยี่ห้อไหนดี เพราะมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไปและให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมโดยทั่วไปได้อย่างครบถ้วน ซึ่งใน Series นี้ก็จะมีรุ่นย่อยที่ถูกอัปเกรดอยู่อีก 2 รุ่นเช่นเดียวกันก็คือรุ่น “Super” และรุ่น “Ti”
การ์ดจอ AMD
การ์ดจอจากค่ายแดงที่ต้องบอกว่าถูกมองเป็นพระรองมาโดยตลอด แต่ต้องบอกว่าเป็นการ์ดจอที่น่าสนใจเพราะถ้าเทียบสเปคกับงบประมาณถือได้ว่าค่อนข้างคุ้มค่าเลยทีเดียว ซึ่งในปัจจุบันการ์ดจอจากค่ายนี้ก็ได้รับการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจุดด้อยต่าง ๆ โดยเฉพาะในเรื่องของความร้อนได้ค่อนข้างดีพอสมควรแล้ว เรียกได้ว่าพัฒนาประสิทธิภาพตีตื้นกับค่าย NVIDIA ขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ โดยการ์ดจอเล่นเกมของ AMD ก็จะเป็นการ์ดจอในกลุ่ม “RX 6000 Series” ที่มีรุ่นย่อยลงไปอีก 3 รุ่น ก็คือ RX 6600, 6700, 6800 และ 6900 โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นก็แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่แรงมากขึ้นรวมไปถึงราคาด้วยเช่นกัน โดยจุดเด่นของการ์ดจอใน Series นี้จากค่าย AMD ก็จะเป็นในเรื่องของเทคโนโลยี Game Fidelity, Image Sharpening และ Radeon Anti-Lag นอกจากนี้ก็ยังมีรุ่นอัปเกรดย่อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในด้านความเร็วของ GPU ให้เร็วขึ้นกว่าเดิมก็คือรุ่นที่มี “XT” ต่อท้าย อย่างเช่น RX 6600 XT เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะทำให้การประมวลผลแรงขึ้นแล้วก็ยังมีในส่วนของลูกเล่นต่าง ๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามาอย่างเช่นพวกไฟ RGB และการระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
5. เลือกการ์ดจอเล่นเกมจากสเปคของเกมที่เล่น
ในการพิจารณาเพื่อซื้อการ์ดจอเล่นเกม ยี่ห้อไหนดี อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือสเปคของเกมที่เล่นว่าต้องการความสามารถของการ์ดจอถึงระดับไหน เพราะต้องบอกว่าเกมในปัจจุบันก็มีการพัฒนาไปมากขึ้นซึ่งส่วนใหญ่ก็จะใช้ความสามารถของการ์ดจอที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นต้องดูก่อนว่าเกมส่วนใหญ่ที่เราต้องการเล่นนั้นมีความต้องการสเปคของการ์ดจอเป็นแบบไหน การ์ดจอรุ่นไหนบ้างที่เหมาะสำหรับเกมที่คุณต้องการเล่น โดยควรเลือกพิจารณาจากเกมที่นิยมเล่นเป็นส่วนใหญ่หลาย ๆ เกม แล้วดูว่าการ์ดจอที่คุณเลือกนั้นมีสเปคครอบคลุมตอบโจทย์สำหรับเกมที่เลือกเอาไว้หรือไม่ และควรที่จะเผื่อไปถึงเกมใหม่ ๆ ที่อาจจะออกมารวมไปถึงการอัปเดตของเกมในอนาคตอีกด้วย เพื่อให้สามารถมั่นใจได้ว่าการ์ดจอเล่นเกมที่เราเลือกนั้นสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าในระยะเวลานาน
แนะนำ 10 อันดับ การ์ดจอเล่นเกม ยี่ห้อไหนดี คัดมาเน้น ๆ เพื่อเกมเมอร์
1. MSI VGA Radeon RX 6900 XT GAMING X TRIO
เริ่มต้นรายชื่อ การ์ดจอเล่นเกม ยี่ห้อไหนดี กันด้วยการ์ดจอขั้นเทพจากค่าย AMD ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม AMD RDNA 2 สุดล้ำซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมอันทรงพลัง ตอบโจทย์การเล่นเกมในรูปแบบ 4K สำหรับมืออาชีพ พร้อมภาพที่สดใสคมชัดช่วยยกระดับประสบการณ์เล่นเกมได้ในทุกมิติ สามารถตั้งค่าต่าง ๆ ในเกมได้ในระดับสูงสุดด้วยอัตราเฟรมที่ราบรื่นเป็นพิเศษเพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินกับการเล่นเกมที่ลื่นไหลพร้อมด้วยอัตราการรีเฟรชที่สูงไปกับกราฟิกการ์ด AMD Radeon RX 6900 XT ที่มี Boost Clock / Memory Speed Up to 2340 MHz / 16 Gbps พร้อมด้วยระบบระบายความร้อน TORX Fan 4.0 และ RGB Mystic Light สำหรับควบคุมแสงไฟ RGB ใครอยากไปให้สุดตัวนี้เลย
2. GIGABYTE GEFORCE GTX 1650
การ์ดจอเล่นเกมสำหรับผู้เริ่มต้นที่ขับเคลื่อนด้วยสถาปัตยกรรม GeForce GTX 1650 NVIDIA Turing และ GeForce Experience พร้อมด้วยหน่วยความจำ 4GB GDDR5 128 บิต และระบบระบายความร้อน WINDFORCE 2X ที่มาพร้อมพัดลมหมุนสำรอง และพัดลมใบพัดขนาด 80 มม. ถึง 2 ตัว ช่วยมอบประสิทธิภาพในการระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น มาพร้อม Core Clock 1710 MHz (Reference card is 1665 MHz), Memory Clock 8002 MHz, Bus Interface PCI Express 3.0 x16 มีพอร์ต HDMI 2 Port (HDMI 2.0b) และ DisplayPort 1 Port (DP 1.4) พร้อมรองรับ Maximum Resolution ได้สูงสุดถึงในระดับ 7680 x 4320@60Hz ทั้งหมดนี้ในราคาจับต้องได้
3. ASUS ROG Strix Radeon RX 6600 XT
สำหรับการ์ดจอ ROG Strix Radeon RX 6600 XT ก็เรียกได้ว่าเป็นการ์ดจอรุ่นอัปเกรดที่ได้มีการปรับปรุงให้เพิ่มอัตราเฟรมเพื่อตอบสนองความต้องการของจอแสดงผลให้มีความเร็วมากยิ่งขึ้นในความละเอียดระดับ Full HD มาพร้อมพัดลมแบบ Dual Axial-tech ที่ช่วยปล่อยลมอย่างมีประสิทธิภาพผ่านฮีทซิงค์ขนาดใหญ่ จึงทำให้อุณหภูมิของ GPU เย็นได้ดั่งใจไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนเมื่อต้องเล่นเกมที่มีการประมวลผลสูง การจัดการแบบสวิตช์ Dual BIOS และใช้ Auto-Extreme Technology ซึ่งเป็นการใช้เครื่องจักรในการผลิต 100% ให้ความแม่นยำสูง เรียกได้ว่าเป็นการ์ดจอที่เด่นในเรื่องของประสิทธิภาพที่มีความลื่นไหลและการระบายความร้อนที่ดี
4. ASRock AMD Radeon RX 6600 Challenger D 8GB
การ์ดจอที่ตอบโจทย์สำหรับการเล่นเกมในระดับ AAA ที่ความละเอียดในระดับ Full HD ได้อย่างลื่นไหลและรองรับการแสดงผลกราฟิกในระดับ 4K รวมไปถึงการแสดงผลวิดีโอ ในระดับ 8K ด้วยสถาปัตยกรรม RDNA2 ล่าสุด พร้อมระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้นด้วยชุดระบายความร้อน Triple Fan ที่ออกแบบพัดลมคู่ Striped Axial Fan Ultra-fit Heatpipe และเพลตโลหะด้านหลังที่ออกแบบให้สวยงามทันสมัย สามารถถ่ายเทอากาศและระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและไร้เสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยีทำความเย็นที่เงียบที่จะหยุดหมุนพัดลมหากมีการใช้งานน้อย รวมไปถึงช่วยเร่งประสิทธิภาพในการเล่นเกมด้วยการโอเวอร์คล็อกมาให้ตั้งแต่แกะกล่องกันเลยทีเดียว
5. GALAX VGA RTX 3070 Ti
GeForce RTX 3070 Ti มาพร้อมกับขุมพลัง Ampere สถาปัตยกรรม RTX เจนเนอเรชั่นที่ 2 ของค่าย NVIDIA ซึ่งในรุ่นนี้ก็มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเป็น 2 เท่าด้วยแกน Ray Tracing (RT), Tensor Cores และ Streaming Multiprocessor ใหม่ พร้อมด้วยหน่วยความจำ GDDR6X ความเร็วสูง และการระบายอากาศที่ดีเยี่ยมด้วยใบพัดลมที่ล้ำสมัย “Wings” อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ GALAX เพิ่มการไหลเวียนของอากาศและแรงดันอากาศอีกทั้งยังลดระดับเสียงรบกวนให้ต่ำลงด้วย Silent Extreme Technology จึงสามารถช่วยระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเงียบ รวมไปถึงให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี ใครมีงบในช่วงนี้แต่ไม่รู้จะเลือกการ์ดจอเล่นเกม ยี่ห้อไหนดี ตัวนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย
6. PNY GeForce RTX 3070 Ti
ใครที่กำลังมองหาการ์ดจอเล่นเกม ยี่ห้อไหนดีที่จะทำให้คุณสามารถยกระดับการเล่นเกมไปอีกขั้นในราคาที่ไม่แรงจนเกินไป ขอแนะนำ PNY GeForce RTX 3070 Ti การ์ดจอที่ขับเคลื่อนโดย Ampere ด้วยสถาปัตยกรรม RTX เจนเนอเรชั่น 2 ของ NVIDIA ซึ่งมีทั้ง Ray Tracing Cores รุ่นที่ 2 และ Tensor Cores รุ่นที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเข้ามาเป็นส่วนประกอบสำคัญของ GPU นอกจากนี้ก็ยังมีในส่วนของการเร่งความเร็ว AI จึงทำให้การประมวลผลที่ได้มีความเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับเกมเมอร์และครีเอเตอร์ นอกจากนี้ก็ยังมาพร้อมกับหน่วยความจำแบบ GDDR6X รุ่นใหม่ล่าสุดที่ให้ความเร็วสุดขีด มอบพลังและความแรงให้กับการเล่นเกมของคุณได้ในอย่างดีเยี่ยม
7. BIOSTAR Radeon RX560
มากันที่การ์ดจอเล่นเกมหลักพันที่บอกเลยว่ามาพร้อมความสามารถที่ไม่ธรรมดา ซึ่งการ์ดจอตัวนี้ก็จะเป็นตัวที่ใช้กราฟิกใหม่ของ AMD อย่าง Radeon RX 560 มาพร้อมหน่วยความจำ RAM แบบ GDDR5 ขนาด 4GB 128 บิตพร้อม DVI/พอร์ตแสดงผล/เอาต์พุต HDMI มาพร้อมระบบระบายความร้อนแบบคู่ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมในขั้นสูง พร้อมรองรับเทคโนโลยี Radeon Freesync ที่ช่วยให้การแสดงผลของภาพเป็นไปได้อย่างลื่นไหลไม่มีปัญหาภาพฉีกหรือภาพขาด เรียกได้ว่าเป็นการ์ดจอราคาไม่แพงที่ตอบโจทย์การเล่นเกมแบบ eSports ได้อย่างราบรื่น และยังเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มเล่นเกมเบื้องต้นเพื่อก้าวไปสู่การเล่นเกมในระดับมืออาชีพได้เป็นอย่างดี
8. PowerColor VGA Red Devil AMD Radeon RX 6700 XT
การ์ดจอปีศาจแดงที่มอบประสบการณ์เล่นเกม1440p ขั้นสูงสุด สำหรับรุ่นนี้ก็เป็นการ์ดจอที่ใช้ GPU จากค่าย AMD ใน Series Radeon RX 6700 XT Graphics ที่ผลิตภายใต้สถาปัตยกรรม AMD RDNA 2 อันก้าวล้ำ เรียกได้ว่ารุ่นนี้เป็นการ์ดจอที่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์เล่นเกมในระดับ 1440p ที่ดีที่สุดอีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว พร้อมรองรับการเล่นเกมรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ภาพที่สดใสคมชัดในทุกรายละเอียด และยังเอาใจเหล่าเกมเมอร์ด้วยการออกแบบสุดเท่ตามสไตล์ Gaming ได้อย่างลงตัว รวมไปถึงการดีไซน์ระบบระบายความร้อนแบบพัดลมสามตัวเพื่อรักษาอุณหภูมิของการ์ดจอในขณะเล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำงานได้เงียบแม้ในขณะที่กำลังโหลดอยู่ก็ตาม
9. SAPPHIRE NITRO+ AMD Radeon RX 6900 XT SE
NITRO+ AMD Radeon RX 6900 XT SE การ์ดจอเล่นเกมที่มอบประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับ 4K ได้อย่างทรงประสิทธิภาพมากที่สุดอีกหนึ่งรุ่น มอบการแสดงผลภาพที่สดใสสมจริงคมชัดในทุกรายละเอียดเพื่อประสบการณ์เล่นเกมที่เหนือกว่า ระบบระบายความร้อนที่ได้รับการออกแบบด้วยนวัตกรรมใหม่ Wave Fin ทำงานควบคู่ไปกับ V-Shape Fin พี่ช่วยลดแรงเสียดทานของแรงลมรวมไปถึงควบคุมการไหลของอากาศเพื่อกระจายความร้อนสำหรับ GPU Cooling ได้ดีที่สุดและเงียบที่สุด มาพร้อม ARGB Lighting อันน่าทึ่งที่อยู่บนกราฟิกการ์ดโดยซอฟต์แวร์ SAPPHIRE TriXX พร้อมดีไซน์การออกแบบที่มีความสวยงามช่วยยกระดับทั้งในด้านของรูปลักษณ์และประสิทธิภาพในการเล่นเกมได้อย่างน่าทึ่ง
10. Colorful iGame GeForce RTX 3060 TI Ultra W OC
ปิดท้ายรายชื่อการ์ดจอเล่นเกม ยี่ห้อไหนดีกันที่ Colorful iGame GeForce RTX 3060 Ultra W OC การ์ดจอราคาประหยัดจากแบรนด์สัญชาติจีนที่บอกเลยว่าโดดเด่นมาตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกที่มาพร้อมกับสีขาวไล่เฉดสีน้ำเงินและม่วงดูสวยงาม นอกจากนี้ก็ยังมาพร้อมกับและสเปคที่สูงด้วยหน่วยความจำ RAM แบบ GDDR6 ที่มีมากถึง 12GB ตอบโจทย์การเล่นเกมที่มีกราฟิกสูง ๆ ได้อย่างสบาย นอกจากนี้ก็ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่เรียกว่า One-Key Overclock ที่ให้เราสามารถเร่งความเร็วได้อย่างง่ายดายเพียงปุ่มเดียว และยังมาพร้อมพัดลมระบายความร้อนถึงสามตัวทำงานร่วมกับ Heat-Sink ขนาดใหญ่ใต้พัดลม จึงช่วยมอบความสามารถในการระบายอากาศและรักษาอุณหภูมิได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ก็ยังมีไฟ RGB ที่สวยงามมาให้ใช้งานกันอีกด้วย
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
และทั้งหมดนี้ก็คือการ์ดจอเล่นเกมทั้ง 10 รุ่นที่เราได้ทำการคัดเลือกมาฝากกันสำหรับเหล่าบรรดาเกมเมอร์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ ซึ่งในการเลือกการ์ดจอเล่นเกม ยี่ห้อไหนดี ก็ต้องดูที่งบประมาณและความต้องการใช้งานของเราเป็นหลักเพื่อที่จะได้เลือกการ์ดจอเล่นเกมได้อย่างเหมาะสมมากที่สุดนั่นเอง ลองดูว่าการ์ดจอเล่นเกมจากค่ายใดและรุ่นไหนที่น่าจะเหมาะเป็นอาวุธคู่ใจในการลงสนามทุกครั้งของคุณมากที่สุด