นอกจากงานประจำแล้ว การหาอาชีพเสริมก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่บางคนอาจจะไม่มีเวลาไปหาอาชีพเสริม ดังนั้นการหาเงินผ่านช่องทางออนไลน์ จึงเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ แต่หากคุณกลัวโดนหลอก กลัวไม่ได้เงินและกลัวผิดกฎหมายก็มาทางนี้เลยค่ะ เพราะทางเราจะแนะนำ “10 ช่องทางหาเงินออนไลน์” ที่ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถทำเงินได้ และที่สำคัญคือถูกกฎหมายด้วย หากอยากรู้ว่ามีช่องทางไหนที่น่าสนใจกันบ้าง ก็ตามมาดูกันได้ค่ะ
วิธีเลือก แหล่งหาเงินออนไลน์ ให้ได้เงินจริง ปลอดภัย
1. เลือกงานที่เหมาะกับตัวเอง
แน่นอนว่างานออนไลน์ที่ทำเงินได้จริงนั้นมีเยอะมากค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะถนัดหรือทำได้ ดังนั้นเมื่อต้องการทำงานเสริมให้ได้เงินสักหนึ่งงาน แนะนำให้เราเลือกแบบที่ตอบโจทย์กับเรามากที่สุดจะดีกว่า ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนนั้นมีความถนัดแตกต่างกันไป โดยทางเราจะแบ่งความถนัดออกไปดังต่อไปนี้ค่ะ
- ถนัดการเขียน คนที่ถนัดในเรื่องของการเขียน การเลือกเขียนบทความ เขียนรีวิว หรือเขียนนิยายออนไลน์จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะหากเราชอบหรือถนัดมากมันจะเป็นแหล่งหารายได้ที่ดี หากเราทำเป็นประจำ มันจะสามารถสร้างรายได้ให้กับเราอย่างต่อเนื่อง
- ถนัดการอ่าน นอกจากการเขียนแล้ว การอ่านก็เป็นทักษะอย่างหนึ่งที่เราสามารถนำมาสร้างเป็นเม็ดเงินได้ เพราะมีหลายแอปที่เปิดรับสมัครคนอ่านหนังสือเสียงแบบฟรีแลนซ์ค่ะ แต่หากไม่ชอบอ่านหนังสือเสียงแบบทั่วไป ก็สามารถทำคอนเทนต์อ่านนิทาน หรือพากย์เสียงแบบฟรีแลนซ์ก็ได้ แต่คนที่ต้องการจะทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการอ่านจะต้องมีน้ำเสียงที่ไพเราะ สะกดคำได้ถูกต้องและมีความมั่นใจในน้ำเสียงของตัวเองพอสมควรค่ะ
- ถนัดด้านกราฟิก คนที่ถนัดทางด้านกราฟิกถือว่ามีความเหนือกว่าคนอื่นอยู่เล็กน้อยค่ะ เพราะสามารถทำเงินได้เร็วมาก โดยงานทางด้านกราฟิกที่เราพูดถึงคือการทำโลโก้ ทำพรีเซนเทชัน รวมไปถึงการตัดต่อวิดีโอ ในการหาเงินเราสามารถเปิดรับงานในกลุ่ม Facebook Instagram และ Tiktok ได้ แต่หากไม่ชอบที่จะเปิดรับงานผ่านโซเชียล ก็สามารถร่วมงานกับแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้ ส่วนอีกหนึ่งงานที่ไม่พูดไม่ได้สำหรับสายกราฟิก ก็คือการออกแบบสติกเกอร์แล้วขายใน Line ค่ะ งานนี้เป็นงานที่น้อง ๆ นักเรียน และนักศึกษาสามารถทำได้ แต่อาจจะต้องตามเทรนด์ปัจจุบันสักหน่อย เพื่อให้สติกเกอร์ที่เราออกแบบ ตอบโจทย์คนในหลากหลายกลุ่มมากขึ้น
- ถนัดโซเชียล คนที่มีความถนัดในด้านโซเชียล ชอบไถดูคอนเทนต์ หรือชอบสร้างคอนเทนต์ ทั้งใน Tiktok หรือ Facebook จะเหมาะมากสำหรับงานเป็นนายหน้าขายของ (Affiliate Marketing) ค่ะ ยิ่งใครที่มีฐานคนติดตามเยอะยิ่งต้องทำ เพราะสร้างรายได้ได้ดีมาก ที่สำคัญคือไม่ต้องสต๊อกของเองด้วย ส่วนอีกงานที่คนถนัดโซเชียลสามารถทำได้คือการทำคลิปวิดีโอค่ะ จะทำเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ชีวิตประจำวัน หรือรีวิวอะไรก็ได้ หากมีคนดูคลิปของเราเยอะและมีการโดเนทให้เรา เราก็จะได้รับเงินจากแอปพลิเคชันค่ะ
- ถนัดไลฟ์สด หรือสตรีมเกม สำหรับคนที่มีความกล้า หรือชอบพูดมาก ๆ การไลฟ์สดและการสตรีมเกมนั้นสามารถสร้างรายได้ให้กับคุณได้ค่ะ คนที่ต้องการไลฟ์สดสามารถใช้แอป TikTok และ Bigo Live ได้ หากถามว่าไลฟ์สดจะต้องพูดถึงอะไร อันที่จริงเรื่องนี้ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวนะคะ เราสามารถพูดเรื่องอะไรก็ได้ จะเล่าเรื่องสยองขวัญ เรื่องตลก หรือพูดไปเรื่อยกับคนที่เข้ามาดูก็ได้ หากเขาอยากสนับสนุนเรา เขาจะโดเนทให้เราผ่านสติกเกอร์ หรือไอเทมในไลฟ์ค่ะ ส่วนสายเกมเมอร์สามารถสตรีมเกมผ่าน Facebook Gaming ได้เลยค่ะ เพราะทำเงินได้ง่ายที่สุดแล้ว แค่เล่นเกมก็สามารถทำเงินได้แบบสบาย ๆ แต่ถ้ายังเป็นมือใหม่ก็ต้องฝึกฝน หรือหาฐานคนดูไปสักพักก่อนค่ะ
- ถนัดทำคอนเทนต์ หรือชอบถ่ายคลิป หากใครที่ชอบถ่ายคลิป และชอบทำคอนเทนต์อยู่แล้ว การเปิดช่องยูทูป (Youtube) เป็นหนทางหารายได้ที่ดีมากค่ะ ผู้เขียนมองว่าการมีช่องยูทูปทำอะไรได้หลายอย่าง เปิดช่องทำคอนเทนต์ก็ได้ ไว้ไลฟ์สดก็ได้ หรือจะไว้อัปโหลดวิดีโออื่น ๆ ที่ชอบก็ได้ค่ะ หากคอนเทนต์ที่คุณทำน่าสนใจ หรือมีคนชอบ การจะได้โล่เงิน โล่ทอง รวมไปถึงเงินรางวัลจากยูทูปก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากเท่าไหร่ค่ะ แต่ก็ต้องขยันหน่อยอัปคลิปบ่อย ๆ อัปคลิปเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมแชร์ลงโซเชียลด้วย ยิ่งแชร์มากก็ยิ่งสามารถดึงดูดคนเข้ามาดูช่องหลักของเราได้ง่ายมากขึ้น
2. ดูรีวิวจากคนที่เคยทำงานมาก่อน
ก่อนที่เราจะทำงานอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาชีพหลัก หรืออาชีพเสริม การดูรีวิวและดูความเชื่อถือของงานเป็นเรื่องที่สำคัญมากค่ะ เพราะหากงานที่เราต้องการทำไม่มีการพูดถึงเลย เราสามารถอนุมานไปได้ว่า งานนั้นอาจจะไม่ได้ดีเท่าไหร่ หรืออาจจะไม่สามารถทำเงินได้จริง ๆ ผู้เขียนแนะนำให้ทุกคนหาความรู้ให้รอบคอบก่อนทำงาน โดยนอกจากการดูรีวิวในเว็บไซต์และแพลตฟอร์มต่าง ๆ แล้ว เราสามารถตั้งกระทู้ถามคนอื่นได้ด้วย โดยอาจจะถามเกี่ยวกับลักษณะของงาน การได้เงิน รวมไปถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เราควรรู้ด้วยค่ะ อันที่จริงงานหารายได้เสริมผ่านออนไลน์ เป็นงานที่หลายคนทำกันเยอะมากนะคะ และพวกเขาก็มักจะมาแชร์ประสบการณ์ด้วย เราสามารถไปดูได้ที่นั่นเลยว่างานไหนที่เหมาะกับเรา แต่จำไว้นะคะว่าคนที่เริ่มก่อน มักจะได้เปรียบเสมอ
3. ไม่แนะนำงานที่เกี่ยวข้องกับการพนัน
หากคุณอยากได้งาน และอยากได้เงินจริง ๆ ควรจะเลือกงานที่ตรงไปตรงมา และไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายค่ะ แน่นอนว่างานรับโปรโมตเว็บพนัน การเล่นสล็อต รวมไปถึงเกมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพนัน เป็นหนทางในการหาเงินที่ง่ายก็จริง แต่ก็แค่ช่วงแรก ๆ เท่านั้น บางคนอาจจะหมดตัวไปกับการทำงานแบบนี้ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการติดคุกด้วยค่ะ ดังนั้นหากต้องการหางานออนไลน์ แนะนำให้หางานที่ใช้ความสามารถของตัวเองเป็นหลัก และพิจารณาแพลตฟอร์มหางานที่เหมาะสม โดยอาจจะอิงจากข้อมูลที่ทางเราให้ไปก็ได้ค่ะ ที่สำคัญคือห้ามโอนเงินไปก่อนนะคะ เราหางานไม่ได้มาเสียเงินนะคะทุกคน งานที่เราต้องเสียเงินไปก่อน (ยกเว้นการขายของ) เป็นงานที่ไม่ค่อยจะปลอดภัยอย่างแน่นอน
10 ช่องทางหาเงินออนไลน์
1. เขียนนิยายออนไลน์ผ่านแอป readAwrite, Tunwalai และ Dek-D
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| เหมาะสำหรับคนที่ชอบจินตนาการ และชอบอ่านนิยายเป็นหลัก | อาจจะต้องใช้เวลาเล็กน้อย ถึงจะได้ยอดเงินตามเป้าที่ต้องการ |
| ไม่จำเป็นต้องลงทุนอะไร แต่สามารถทำเงินได้ | เหมาะสำหรับคนชอบคิดและใช้จินตนาการ |
| ตอบโจทย์สำหรับคนทุกช่วงอายุที่รักการเขียน |
การเขียนนิยายถือเป็นช่องทางหาเงินออนไลน์ ที่กำลังได้รับความนิยมมากที่สุดก็ว่าได้ค่ะ โดยในตอนนี้มีหลายแอปให้เราเลือกเขียนนิยาย แต่แอปที่มีความโดดเด่นมาก ๆ คือ readAwrite, Tunwalai และ Dek-D วิธีการเขียนนิยายก็เหมือนการเล่าเรื่องให้น่าสนใจค่ะ ที่สำคัญคือเราจะต้องทำหน้าปกให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องของเราด้วย ขอยอมรับตามตรงเลยว่า ส่วนใหญ่ตัวผู้เขียนชอบดูหน้าปกของนิยายก่อนอ่านค่ะ เพราะมันสามารถดึงดูดความสนใจได้ดี
ในการเลือกแนวนิยายที่ต้องการจะเขียน เราก็สามารถเลือกแบบที่ถนัดได้ จะเลือกเป็นนิยายวาย, นิยายโรแมนติก, นิยายจีนโบราณ หรือเรื่องสั้นก็ได้ตามความชอบ และความสะดวก โดยรายได้ส่วนใหญ่ที่เราได้รับ จะมาจากการที่ผู้อ่านซื้อตอนนิยายและโดเนทให้กับผลงานของเราค่ะ แต่ยังไม่จบแค่นั้นนะคะเพราะถ้าเราแต่งนิยายครบจนจบแล้ว เราสามารถนำไปสร้างเป็นอีบุ๊กเพื่อหาเงินได้อีกทอด ขอพูดตรงนี้จริง ๆ ค่ะว่าการเขียนนิยาย ถือเป็นช่องทางการหาเงินที่ทำเงินได้เร็ว และสามารถทำได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นน้อง ๆ นักเรียน นักศึกษา หรือคนทั่วไปก็สามารถทำได้ค่ะ
2. เป็นนายหน้าขายของ (Affiliate Marketing) ใน Tiktok หรือ Facebook
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| ไม่จำเป็นต้องสต๊อกของ หรือส่งของก็สามารถทำเงินได้ | ตอบโจทย์สำหรับคนที่มียอดผู้ติดตามในโซเชียลเยอะ |
| เหมาะสำหรับคนที่เล่นโซเชียลอย่าง Facebook และ Tiktok เป็นประจำ | การแข่งขันสูง เพราะมีคนทำ Affiliate Marketing จำนวนมาก |
| สามารถสร้างรายได้ได้ทุกที่ ทุกเวลา และเหมาะสำหรับทุกคน | ไม่สามารถทำ Affiliate ได้ทุกร้าน เพราะบางร้านปิดระบบเอาไว้ จำเป็นต้องเช็กก่อนที่จะโพสต์ |
อาชีพ Affiliate Marketing เป็นอาชีพที่เรียกว่าฮิตมาก ๆ เพราะไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ กลไกของการทำงานแบบนี้คือ เราจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนขาย แต่ไม่จำเป็นต้องสต๊อกของ และไม่จำเป็นต้องแพ็กของส่งเอง หากมีคนคลิกในลิงก์ที่เราแนบ หรือซื้อของผ่านลิงก์ของเรา เราก็จะสามารถรับเงินได้ในทันทีค่ะ จากที่ผู้เขียนเห็นมาก็พบว่า มันทำเงินได้ดีมาก ๆ เลย บางคนก็ได้ยอดหลักพัน ยอดหลักหมื่น ไปจนถึงยอดหลักแสนค่ะ เป็นรายได้ที่ปังสุด ๆ
หากถามว่าเราจะหาลิงก์จากไหนได้บ้าง คำถามนี้ไม่ยากค่ะ เพราะว่าแอปที่เราซื้อสินค้าอยู่บ่อย ๆ อย่าง Shopee และ Lazada ต่างมีระบบ Affiliate Marketing เป็นของตัวเอง เราแค่ไปลงทะเบียนก็สามารถสร้างลิงก์สินค้าได้แล้ว โดยในการโพสต์ลิงก์สินค้า แนะนำว่าอย่าทำให้มันโจ่งแจ้งจนเกินไปค่ะ เพราะถ้ามันดูตั้งใจจนเกินไป มันจะดูเป็นสแปมได้ง่าย และดูน่ารำคาญสำหรับคนที่พบเห็นด้วย แนะนำให้เริ่มทำจากสินค้าที่เราใช้เองจริง ๆ เช่น สกินแคร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องสำอางที่เรามองว่าดี
ในการสร้างสรรค์เราอาจจะทำเป็นรูปภาพสวย ๆ ก็ได้ หรือทำเป็นรีวิวเป็นวิดีโอขนาดสั้นก็ได้เหมือนกันค่ะ หลังจากนั้นก็เขียนรีวิวเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วแนบลิงก์เข้าไป เมื่อมีคนกดลิงก์เราก็สามารถสร้างรายได้ได้ในทันที แต่ถ้ามีคนซื้อผ่านลิงก์ของเรา เราก็จะยิ่งได้เงินมากกว่าเดิมค่ะ โดยเม็ดเงินที่ได้จะเป็นไปตามราคาของสินค้านั้น ๆ
3. สร้างผลงานกราฟิกขายผ่าน Canva และ Facebook
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการออกแบบเป็นชีวิตจิตใจ | จำเป็นต้องมีความคิดสร้างสรรค์แบบแหวกแนวจริง ๆ ถึงจะได้เงินเร็ว |
| สามารถวางขายผลงานกราฟิกได้ในหลายช่องทาง | |
| ออกแบบได้หลากหลายประเภท ทั้งโลโก้ ภาพเคลื่อนไหว รวมไปถึงกราฟิกจาก AI |
สำหรับใครที่มีความสามารถในด้านของการออกแบบ ขอบอกตรงนี้ว่าคุณไม่มีวันอด หรือเงินหมดอย่างแน่นอน เพราะการออกแบบผลงานมักจะมีคนจ้างเยอะมาก อีกทั้งยังมีหลายแพลตฟอร์มให้คุณได้ลงผลงานด้วย โดยงานกราฟิกที่ได้รับความนิยมมาก คือการออกแบบโลโก้, แบนเนอร์, ป้ายโฆษณา, ป้ายสมัครงาน รวมไปถึงการทำพรีเซนเทชันต่าง ๆ หากคุณมีแม่แบบที่ไม่เหมือนใครอยู่ในมือ ก็สามารถที่จะนำไปฝากขายที่ Canva ได้ค่ะ
ในการร่วมงานกับ Canva สามารถเสิร์ชหาคำว่า Canva Creator ค่ะ เมื่อสมัครสมาชิกเรียบร้อยแล้วก็เริ่มการออกแบบเทมเพลต พรีเซนเทชัน และงานกราฟิกอื่น ๆ ได้ หากมีคนมาใช้ผลงานที่เราออกแบบ เราก็จะได้เงินจากแคนวาค่ะ โดยผลงานที่ออกแบบไปยิ่งแปลกใหม่ก็จะยิ่งดีค่ะ เพราะมันจะดูสะดุดตา และสามารถดึงดูดลูกค้าสายอาร์ตได้
นอกจากจะสามารถขายผลงานกราฟิกผ่าน Canva ได้แล้ว เรายังสามารถเปิดขายกราฟิกของเราบนเฟซบุ๊กได้ด้วยค่ะ แน่นอนว่าหาเงินได้จริง เพราะเดี๋ยวนี้คนเริ่มหันมาทำแบรนด์ของตัวเองกันเยอะ พอมีแบรนด์ก็ต้องมีโลโก้ใช่ไหมคะ ดังนั้นถ้าคุณสามารถออกแบบโลโก้แบบทันสมัยได้ แบบไม่มีเหมือนใคร คุณก็จะได้รับเงินจากงานนี้ไม่มากก็น้อยค่ะ
4. รับงานฟรีแลนซ์จาก Fastwork
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| เหมาะสำหรับคนทุกสายงาน ทั้งงานออกแบบ, งานอักษร, งานไอที ฯลฯ | แนะนำให้เปิดการแจ้งเตือนไว้เสมอ หากมีลูกค้าติดต่อมาเราจะสามารถตอบกลับได้เร็ว และจะไม่สูญเสียงานนั้นไปให้กับคนอื่น |
| ทำเงินได้จริง ถูกกฎหมาย เราสามารถตั้งเรตราคาที่ต้องการได้ | หากเป็นมือใหม่การแข่งขันภายในค่อนข้างสูง |
| ตอบโจทย์สำหรับทั้งคนที่ทำงานประจำ และคนที่ผันตัวมาเป็นฟรีแลนซ์แบบถาวร |
ตอนนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์อย่าง Fastwork แน่นอนค่ะ เพราะเว็บไซต์เขาดังมาก และมักจะมีเหล่าฟรีแลนซ์มืออาชีพรวมตัวกันอยู่ในนี้ โดยเมื่อเขาเว็บไซต์ไปแล้ว คุณสามารถสั่งงานที่ต้องการจะทำได้ หรือจะสมัครเป็นฟรีแลนซ์เองก็ได้เหมือนกันค่ะ ภายใน Fastwork จะมีงานให้ทำมากมาย รับรองว่าจะต้องมีสักงาน ที่ตรงกับความต้องการของคุณอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบกราฟิก, เว็บไซต์และเทคโนโลยี, การตลาดและโฆษณา, การเขียนและแปลภาษา, ภาพและเสียง, ธุรกิจและที่ปรึกษา ฯลฯ ก็มีหมดค่ะ อีกทั้งด้านใน ยังมีหมวดย่อยอีกมากมายให้เราเลือกทำด้วย
ส่วนการทำเงินก็ง่ายมาก ก่อนอื่นคุณต้องเข้าไปสมัครเป็นฟรีแลนซ์เสียก่อน หลังจากลงทะเบียนเสร็จสรรพตามขั้นตอนแล้ว ก็เริ่มวางแผนเลยค่ะว่าคุณจะเป็นฟรีแลนซ์สายไหนดี ตัวอย่างเช่น หากคุณชอบการแปลเอกสาร คุณก็สามารถลงรับงานในหมวดหมู่การเขียนและแปลภาษาได้
ในการหางานทางเราขอแนะนำว่า ให้พรีเซนต์ตัวเองให้น่าสนใจ เช่น เคยทำงานด้านการแปลมานานเท่าไหร่ มีตัวอย่างผลงานให้ดูไหม การันตีเรื่องอะไรได้บ้าง ฯลฯ เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาดูสนใจในผลงานของเรา หลังจากนั้นเราก็สามารถตั้งราคาของผลงานได้ตามความต้องการ เมื่อมีคนมาซื้อผลงานของเรา เราก็จะได้รับเงินจาก Fastwork ค่ะ ผู้เขียนมองว่าเว็บไซต์นี้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหารายได้เสริมมาก ๆ จริง ๆ
5. เขียนบทความออนไลน์ลง TrueID Blockdit หรือ แพลตฟอร์มอื่น ๆ
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| เหมาะสำหรับคนที่ชอบการเขียน สไตล์บรรยาย และสไตล์รีวิว | หากต้องการเริ่มเขียนบทความลงเว็บไซต์ จำเป็นต้องตามเทรนด์ให้มาก |
| มีแพลตฟอร์มฟรีมากมายให้เราได้โพสต์ผลงานเขียน | อาจจะต้องทำรูปประกอบให้น่าสนใจ และเหมาะสมกับบทความ |
| ตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบติดตามเทรนด์สมัยใหม่ |
สำหรับคนที่รักการเขียนเหมือนกับผู้เขียน บอกเลยว่าการเขียนบทความ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจค่ะ โดยเราสามารถรับงานเขียนผลงานจากข้างนอกได้ หรือจะสมัครเขียนบทความกับทาง TrueID หรือ Blockdit ก็ได้ค่ะ โดยในการเขียนบทความ เราสามารถเขียนได้หลายประเภท จะเป็นรีวิวซีรีส์ก็ได้ รีวิวสินค้าก็ได้ เขียนข่าวก็ได้ หรือจะเขียนบทความแนว How-To ก็ได้เหมือนกันค่ะ เมื่อเราเขียนลงเว็บไซต์ไปแล้ว หากผลงานของเราติดหน้าแรกของ Google หรือมียอดวิวจำนวนมากเราก็จะได้รับเงินค่ะ
แต่แน่นอนว่าการแข่งขันของวงการนี้ก็สูงมาก คุณจำเป็นต้องทันเทรนด์ก่อนใครเพื่อน เพราะยิ่งหาข้อมูลได้เร็วมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งได้เปรียบมากกว่าเดิมค่ะ แต่ถ้าใครไม่อยากเขียนบทความกับเว็บไซต์ ก็สามารถรับงานเขียนบทความผ่านกลุ่มจ้างงานได้ ข้อดีของการโปรโมตลงกลุ่ม คือเราสามารถเสนอราคาเองได้ และไม่ต้องไปกังวลเรื่องยอดวิวของบทความค่ะ
แต่ข้อเสียก็มีเหมือนกันนะคะไม่ใช่ไม่มี นั่นก็คือการเขียนบทความมีการแข่งขันที่สูงมาก เราจำเป็นต้องมีจุดเด่นมากกว่าคนอื่น หากเรามีจุดเด่นมากเพียงพอ ลูกค้าก็จะเลือกเรา และสนใจในผลงานของเราค่ะ ส่วนใครที่ทำบทความ หรือมีผลงานมาพอสมควรแล้ว การหางานก็จะง่ายขึ้นมากค่ะ ดังนั้นหากมีเวลาว่าง ทางเราอยากแนะนำให้ทุกคนสร้างผลงานเก็บไว้บ้าง เพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่ ๆ เพื่อให้เราได้รับเงินได้ง่ายขึ้น
6. สร้างสติกเกอร์ขายใน Line Sticker
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ แค่มีสมาร์ตโฟนก็สามารถทำสติกเกอร์ขายได้ | จำเป็นต้องคิดสติกเกอร์ที่แปลกใหม่ และดูไม่เหมือนใคร เพราะจะสร้างรายได้ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น |
| เหมาะสำหรับคนที่ชอบใช้ไลน์ในการสื่อสารเป็นประจำอยู่แล้ว | |
| สามารถตั้งค่าเรตราคาของสติกเกอร์ไลน์ได้ตามสะดวก |
งานทำสติกเกอร์ก็ถือเป็นงานด้านกราฟิกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจค่ะ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน หรืออยู่ในสถานการณ์แบบไหนก็สามารถสร้างสติกเกอร์ไลน์ได้ เพียงแค่มีสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือไอแพดก็สามารถทำสติกเกอร์ได้แล้ว โดยในการทำให้เข้าไปในแอป LINE Sticker Maker ได้เลยค่ะ ก่อนอื่นก็ลงทะเบียนก่อน จากนั้นก็ทำการสร้างสติกเกอร์ได้ ในการคิดรูปแบบสติกเกอร์สามารถทำตามเทรนด์ได้ หรือจะเน้นทำสติกเกอร์ที่ตัวเองชอบก็ได้เหมือนกันค่ะ ตัวอย่างเช่น หากคุณชอบแมวและเลี้ยงแมว คุณก็สามารถถ่ายรูปแมวมาทำเป็นสติกเกอร์ได้
หลังจากที่ได้รูปแบบของสติกเกอร์ที่ต้องการแล้ว เราต้องมีกับปรับแต่งสติกเกอร์ และสร้างเอกลักษณ์ให้กับสติกเกอร์ของเรา หลังจากนั้นให้ยื่นคำขอกับทาง LINE Sticker เพื่อให้ทางแอปได้พิจารณาสติกเกอร์ของเรา หากสติกเกอร์ของเราผ่าน เราจะสามารถเริ่มขายได้ในทันทีค่ะ โดยในเรื่องของเงินเราสามารถกำหนดเองได้ ว่าเราจะขายสติกเกอร์ในราคาเท่าไหร่ค่ะ หลายคนอาจจะสงสัยว่าถ้าเราไม่มีพื้นฐานกราฟิกเลย จะสามารถทำสติกเกอร์ได้ไหม ? ตอบตรง ๆ ว่าสามารถทำได้ค่ะ เพราะการสร้างสติกเกอร์ไม่ได้ยาก แค่ทำสติกเกอร์แบบตัวอักษรธรรมดา ก็สามารถขายได้ค่ะถ้าสติกเกอร์ของเราดูแหวกแนวพอ
7. ไลฟ์สดกับแอป Facebook, Bigo Live หรือ TikTok
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| สามารถหาเงินได้ง่าย ยิ่งเป็นคนคอนเทนต์เก่ง ยิ่งหาเงินได้เร็ว | เหมาะสำหรับคนที่พูดเก่ง และมีความมั่นใจในตัวเอง |
| เหมาะสำหรับคนที่ช่างพูดช่างจา | ในแอป Tiktok จำเป็นต้องมีคนติดตามอย่างน้อย 1,000 คนก่อน |
| สามารถไลฟ์ได้ทุกวัน ทั้งหลังเลิกเรียน และหลังเลิกงาน |
สำหรับคนที่ชอบพูดและชอบเจรจา การเป็นนักไลฟ์สดถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณค่ะ หลายคนอาจจะสงสัยว่านักไลฟ์สดต้องทำอะไรบ้าง ? ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบดูการไลฟ์สดมากค่ะ แต่ไม่เคยไลฟ์เองจริง ๆ แต่จากที่สังเกตมาการไลฟ์สดมีหลายแบบค่ะ บางคนเลือกที่จะขายสินค้าไปพร้อมกับไลฟ์สด บางคนไลฟ์สดพูดคุยผู้ชม ส่วนบางคนไลฟ์สดเพื่อร้องเพลงให้ผู้ชมฟัง แน่นอนว่าคุณสามารถเลือกในแบบที่ถนัดได้ ในตอนเริ่มแรกอาจจะยังไม่มีคนรู้จักเรามากนัก แต่หากพยายามไลฟ์ทุกวันเราจะได้รับรายได้อย่างแน่นอน
โดยแอปที่เราสามารถไลฟ์สดได้มีหลายแอปค่ะ แต่แอปที่ได้รับความนิยมมากคือ Facebook, Bigo Live และ TikTok ผู้ที่ไลฟ์สดจะได้รับของขวัญที่ผู้ชมส่งมาให้ ในแต่ละแอปจะมีของขวัญที่แตกต่างกันไป อาจจะเป็น ดาว โล่หรือเพชรก็ได้ หากเราสะสมของขวัญได้พอสมควรแล้ว เราจะสามารถแลกของขวัญออกมาเป็นเงินได้อย่างสบาย ๆ ค่ะ แน่นอนว่าไม่ว่าใครก็สามารถไลฟ์สดได้ แต่ใน Tiktok จะมีกฎอยู่คือ คุณต้องมีผู้ติดตามอย่างน้อย 1,000 คนก่อน ถึงจะสามารถไลฟ์สดได้ คนที่มีความมั่นใจ หรือชอบพูดคุยกับคนอื่น การไลฟ์สดถือเป็นการหารายได้ที่ดีมากเลย
8. สตรีมเกมผ่าน Facebook, Twitch หรือ Nimo TV
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| ตอบโจทย์คนที่ชอบเล่นเกมอยู่แล้ว และเหมาะสำหรับคอเกมทุกรูปแบบ | บางแอปจำเป็นต้องมีผู้ติดตามก่อน ตามจำนวนที่กำหนดก่อนถึงจะสามารถทำเงินได้ |
| สร้างรายได้ได้ง่าย ได้เงินจริง และถูกกฎหมายด้วย | จำเป็นต้องมีเวลาในการสตรีมเกมอย่างน้อย 1 – 2 ชม. ต่อวัน |
| มีหลายแอปที่ตอบโจทย์กับการสตรีมเกม |
การสตรีมเกมเปรียบเสมือนการไลฟ์สดนั่นแหละค่ะ แต่จุดเด่นก็คือมันจะไม่เห็นหน้าเรา แต่จะไปเห็นรายละเอียดเกมที่เราเล่นแทน หากถามว่าการสตรีมเกมเหมาะกับใคร ทางเราขอตอบว่าเหมาะสำหรับคนที่รักการเล่นเกมทุกคนค่ะ คุณจะเล่น RoV ก็ได้ PUBG ก็ได้ แต่หากไม่ถนัดเกมการต่อสู้ การสตรีมเกม Candy Crush ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมนะคะ เพราะผู้เขียนเองก็ชอบดูมากแน่นอนว่าในการสตรีมเกมเพื่อสร้างเงิน เราสามารถทำได้หลายแอปค่ะ แต่แอปที่ได้รับนิยมมากคือ Facebook Twitch และ Nimo TV
หากคุณต้องการสตรีมเกมใน Facebook บอกเลยว่าง่ายมาก เพราะทุกคนมี Facebook อยู่แล้วค่ะ แต่ไม่แนะนำให้ไลฟ์สตรีมแบบส่วนตัวนะคะ ต้องเปิดเป็น Facebook Fanpage ก่อน แล้วระบุว่าตัวเองเป็น Game Creator หลังจากนั้นก็สตรีมเกมได้ แต่ต้องสตรีมเป็นประจำ จนกว่าจะมีผู้ติดตามมากกว่า 100 คน เพราะถ้ายอดคนติดตามไม่ถึง เราจะไม่ได้เงินค่ะ ต่อมาคือ Twitch แอปนี้เป็นแอปชื่อดังจากอเมริกานะคะ แค่สมัครก็เข้าไปสตรีมเกมได้ ฟังก์ชันด้านในก็สะดวกไม่ยุ่งยากด้วย
ต่อมาคือ Nimo TV ค่ะ เป็นแอปสตรีมเกมมือถือที่ฮิตมาก ใช้งานได้หลายระบบ ไม่ว่าจะเป็น Android iOS รวมไปถึงระบบ Window จากการใช้งานของใครหลาย ๆ คน ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าระบบดีมาก ลื่นไหล และสามารถสร้างรายได้ได้ด้วย เพราะภายในแอปมีฟังก์ชันให้รางวัลกับคนที่สตรีมเกม และรางวัลเหล่านั้นสามารถแลกเป็นเงินเข้าบัญชีได้ ถือว่าปังมากทีเดียว อีกอย่างที่ทางเราอยากแนะนำมาก ๆ คือ เมื่อสตรีมเกมแล้ว อย่าลืมดาวน์โหลดเก็บไว้ แล้วนำไปเผยแพร่ในช่องยูทูปด้วย เพราะมันจะทำให้เรา สามารถรับรายได้แบบสองทางค่ะ
9. ขายของออนไลน์
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| เหมาะสำหรับคนที่รักการขาย และมีสินค้าที่อยากขายอยู่แล้ว | จำเป็นจะต้องสต๊อกของไว้เสมอ |
| สามารถขายได้หลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Shopee, Lazada, Tiktok รวมไปถึง Facebook | ในช่วงของการเริ่มต้นอาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก และต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก |
| สามารถไลฟ์สดขายของ เพื่อหารายได้จากคนที่มีดูไลฟ์ได้ |
การขายของออนไลน์ เป็นหนทางการหาเงินแบบออนไลน์ที่มีมานานมากแล้วค่ะ ผู้เขียนเองก็เคยหารายได้เสริมจากการขายของออนไลน์เหมือนกัน แต่การขายของออนไลน์จะแตกต่างจากการ “เป็นนายหน้าขายของ (Affiliate Marketing)” นะคะ เพราะเราจำเป็นต้องสต๊อกของ หรือมีของในมือ เพราะถ้าลูกค้าสั่งของเข้ามา เราจะได้มีสินค้าส่งลูกค้าค่ะ ซึ่งตอนนี้หนทางการขายของออนไลน์ก็มีเยอะมาก เราสามารถขายในแอปขายสินค้า อย่าง Shopee หรือ Lazada ก็ได้ แต่หากต้องการไลฟ์สดขายก็ได้เหมือนกันค่ะ เพราะทำได้ทุกแอป ทั้ง Shopee, Lazada, Tiktok รวมไปถึง Facebook
ผู้เขียนมองว่าการไลฟ์สดขายของ เป็นการได้กำไรสองต่อ เพราะนอกจากเราจะได้เงินจากคนที่มาซื้อของแล้ว เรายังสามารถรับเงินจากคนที่มาให้รางวัลเราจากการไลฟ์สดได้ด้วย แน่นอนว่าการขายของออนไลน์ เป็นเรื่องที่ยากในช่วงแรกก็จริง เพราะเราจะต้องสร้างฐานลูกค้าก่อน วันแรกอาจจะขายไม่ได้ แต่วันต่อไปต้องขายได้อย่างแน่นอนค่ะ
ส่วนในการเลือกสินค้ามาขาย เราสามารถเลือกสินค้าอะไรก็ได้ค่ะ แต่ทางที่ดีคือให้เลือกสินค้าที่เรามีความถนัด ใช้งานแล้วเห็นผลจริง เพราะเราจะได้รีวิวออกมาได้อย่างถูกต้องนั่นเอง สำหรับคนที่เพิ่งหัดขายของออนไลน์ก็ห้ามท้อนะคะ เพราะมันต้องใช้เวลาสักพักจนกว่ามันจะลงตัวค่ะ
10. เป็นอินฟลูเอนเซอร์รีวิวสินค้าใน Buddy Review หรือ Tellscore
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| ตอบโจทย์เป็นพิเศษสำหรับคนที่เล่นโซเชียลเป็นประจำ | เหมาะสำหรับคนที่มีฐานผู้ติดตาม หรือยอดฟอลโลว์อยู่บ้างแล้ว |
| สามารถหารายได้ได้หลายทาง และสามารถสานงานต่อเป็น Affiliate Marketing ได้ | เป็นงานที่ต้องใช้เวลา เพราะต้องบ่มเพราะผู้ติดตาม |
| ไม่ว่าใครก็สามารถอัปเกรดเป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้ |
ใครที่เป็นคนชอบออกกล้อง หรือชอบการรีวิว หนทางเป็นอินฟลูเอนเซอร์เหมาะกับคุณมาก ๆ ค่ะ ตอนที่ผู้เขียนกำลังเรียนอยู่ ผู้เขียนก็เคยสมัครเป็นอินฟลูเอนเซอร์จริง ๆ เพราะมีฐานผู้ติดตามอยู่บ้าง แต่เพราะความขี้เกียจเลยเลิกทำไปค่ะ แต่ตอนนี้วงการอินฟลูเอนเซอร์ปังกว่าเมื่อก่อนมาก เพราะไม่ว่าใครก็สามารถเป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้ นอกจากเราจะได้รายได้จากการเป็นอินฟลูเอนเซอร์แล้ว เรายังสามารถสานต่อในอาชีพนายหน้าขายของ (Affiliate Marketing) ได้เช่นเดียวกัน
แน่นอนว่าแอปสำหรับอินฟลูเอนเซอร์มีเยอะมากค่ะ แต่แอปที่ได้รับความนิยม และสามารถใช้งานได้ง่ายมี 2 แอปหลัก ๆ คือ Buddy Review และ Tellscore ค่ะ คุณสามารถเลือกแอปใดแอปหนึ่งได้ หรือจะทำงานทั้งสองแอปก็ได้ จุดเด่นของแอปคือมีแคมเปญอยู่บ่อย ๆ ทำให้เราหาเงินได้ง่ายค่ะ ในแอป Tellscore เราจำเป็นต้องสมัครเป็นอินฟลูเอนเซอร์เสียก่อน เมื่อสมัครลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วก็เปิดรับงานค่ะ หากเจ้าของสินค้าท่านไหนสนใจในตัวคุณ ทางแบรนด์ก็จะมอบงาน และมอบรายได้ให้กับคุณ
ส่วน Buddy Review มีวิธีการทำงานที่ไม่แตกต่างจาก Tellscore เท่าไหร่นักค่ะ นั่นก็คือเราต้องลงทะเบียนเหมือนกัน แล้วเปิดรับงานเอาไว้ หากมีคนมาจ้างงานเราก็จะสามารถรับรายได้ได้เลย แต่กว่าเราจะได้รับรายได้ก็นานพอตัวค่ะ หากคุณเป็นคนที่มีฐานผู้ติดตามอยู่บ้างแล้ว อย่าลืมทำงานนายหน้าขายของ (Affiliate Marketing) เพิ่มไปด้วย เพื่อหารายได้เพิ่มอีกทางค่ะ
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 10 ช่องทางหาเงินออนไลน์ที่เราแนะนำให้ทุกคนในวันนี้ เราหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ทุกคนได้พบกับโอกาสในการสร้างรายได้ที่เหมาะสม เพราะทุกช่องทางที่เรานำเสนอเป็นช่องทางที่ถูกกฎหมายและได้เงินจริง
แต่อย่าลืมนะคะ ว่างานออนไลน์มักจะเป็นงานที่ต้องแข่งขันสูง ใครที่ทำได้เร็วกว่าและคว้าโอกาสได้ก่อนมักจะได้งานก่อน ดังนั้นจึงสำคัญมากที่เราต้องจับตามองโอกาสและทำงานอย่างสม่ำเสมอ งานออนไลน์ไม่ใช่งานที่สามารถทำแล้วหยุด แล้วกลับมาทำใหม่ได้ เพราะการทำงานอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เรามีรายได้ที่ชัดเจนและมั่นคง สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน เจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ
