การเล่นเกมที่ในอดีตเคยถูกมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระและเสียเวลาแต่ในปัจจุบันได้รับการยอมรับถึงขนาดที่ว่ามีการจัดการแข่งขันอย่างจริงจังเพื่อให้เหล่าเกมเมอร์ได้ประลองฝีมือกัน ซึ่งคนที่เล่นเกมจริงจังนั้นสามารถสร้างรายได้จากเกมได้ในหลายรูปแบบหนึ่งในนั้นก็คือการเป็นนักแคสเกม หรือสตรีมเกม ที่ในบ้านเราเองก็มีสตรีมเมอร์มากฝีมือผู้ติดตามหลักล้านมากมายหลายคนด้วยกัน โดยอุปกรณ์สำคัญนอกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายรูปหรือสมาร์ทโฟนแล้ว จะขาดอุปกรณ์เสริมอย่างไมค์อัดเสียงหรือ “ไมค์สตรีมเกม” ที่มาเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับคอนเทนต์ให้ได้เสียงที่คมชัดฟังแล้วไม่น่ารำคาญ ส่วนจะเลือก ไมค์สตรีมเกม ยี่ห้อไหนดี และต้องเลือกแบบไหน บทความนี้มีคำตอบ
วิธีเลือกไมค์สตรีมเกม
ก่อนจะไปดูว่า ไมค์สตรีมเกม ยี่ห้อไหนดีที่น่าใช้งานบ้าง เรามาดูวิธีเลือกกันก่อน เนื่องจากอุปกรณ์นี้ค่อนข้างมีรายละเอียดเยอะพอสมควรหากจะให้ได้ประสิทธิภาพเหมาะกับการนำมาสตรีมเกมหรือใช้อัดเสียง โดยสิ่งที่เราสามารถใช้เป็นเกณฑ์ช่วยในการตัดสินใจนั้นประกอบไปด้วย
1. เลือกไมค์สตรีมเกมจากคุณภาพเสียง
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงไมโครโฟนสิ่งแรกที่เราต้องการก็คือคุณภาพเสียงที่จะมาช่วยให้การนำเสนอคอนเทนต์ของเราออกมาคมชัด เวลาตัดต่อก็จะง่ายขึ้น ไม่ต้องมาปรับให้เสียเวลา โดยหลายครั้งเราไม่สามารถทดสอบได้โดยเฉพาะกับการสั่งซื้อออนไลน์ แต่ก็สามารถตรวจสอบได้จากสเปคเบื้องต้นของไมค์ตัวนั้นด้วยการดูค่า Sample Rate หรือค่าความละเอียดในการอัดเสียง ที่พบบ่อยคือ 48 kHz, 88.2 kHz, 96 kHz หรือ 192 kHz ยิ่งตัวเลขสูงก็ยิ่งให้เสียงที่คมชัดเป็นธรรมชาติแต่ก็แลกมาด้วยราคาที่แพงกว่าเช่นกัน
2. เลือกไมค์สตรีมเกมจากดีไซน์
แม้ว่าไมค์สตรีมเกมจะเน้นการใช้งานของเสียงเป็นหลักแต่เนื่องจากคอนเทนต์ในปัจจุบันเราจำเป็นที่จะต้องนำเสนอทั้งภาพและเสียงไปพร้อมๆ กัน ดังนั้นดีไซน์ที่ดูเร้าใจ ดุดัน หรือหรูหรา ก็จะบอกรสนิยมของผู้ทำหน้าที่สตรีมเมอร์ ได้ เช่น ไมค์สีดำล้วนดูเข้มขรึม ไมค์สีชมพูดูหวานแหวว ไมค์สีทองดูหรูหรา และหากเป็นไมค์ของเกมเมอร์อีกอย่างที่เรามักเห็นกันก็คือไฟ RGB ที่ตัวไมค์ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของรูปทรง ขนาด น้ำหนัก และโครงสร้างที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย
3. เลือกไมค์สตรีมเกมจากทิศทางการรับเสียง
ทิศทางการรับเสียงก็ส่งผลต่อการใช้งานและคุณภาพของเสียงที่ออกมา ซึ่งที่พบโดยทั่วไปนั้นมักประกอบไปด้วย
- ทิศทางการรับเสียงแบบ Cardioid คือรับเสียงจากด้านหน้าเป็นหลัก ไม่รับเสียงจากด้านหลังเลย
- ทิศทางการรับเสียงแบบ Super Cardioid คล้ายกับแบบแรกแต่สามารถรับเสียงจากด้านหลังได้บ้าง
- ทิศทางการรับเสียงแบบ Bidirectional สามารถรับเสียงได้จากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- ทิศทางการรับเสียงแบบ Omnidirectional เป็นแบบที่รับเสียงได้จากทุกทิศทาง
4. เลือกไมค์สตรีมเกมจากการเชื่อมต่อ
การจะเลือกไมค์สตรีมเกม ยี่ห้อไหนดีอีกเรื่องที่ต้องพิจารณาก็คือรูปแบบการเชื่อมต่อเพราะส่งผลต่อการใช้งานโดยตรง ซึ่งหลักๆ ก็จะเชื่อมต่อผ่านแจ็ค 3.5mm หรือ พอร์ต USB-A และ USB-C บางรุ่นอาจสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งสองแบบเพิ่มความสะดวกและคุ้มค่าในการใช้งาน โดยมีทั้งแบบ Plug-and-Play และแบบที่ต้องลงซอฟต์แวร์หรือ Driver เพิ่ม นอกจากนี้ไมค์สตรีมเกมบางยี่ห้ออาจใส่ช่องเสียบหูฟังมาให้ที่ตัวเครื่องด้วยเพื่อใช้ในการมอนิเตอร์เสียงระหว่างการใช้งาน
5. เลือกไมค์สตรีมเกมจากฟังก์ชันการทำงาน
ไมโครโฟนในปัจจุบันมากับความสามารถที่ครบครันมากขึ้นเพื่อให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ซึ่งฟังก์ชันในไมค์สตรีมเกมที่เราควรมองหาก็คือ คุณสมบัติในการลดเสียงรบกวน ปุ่มเปิด-ปิด และปุ่มควบคุมรวมถึงไฟแสดงสถานการณ์ทำงาน นอกจากนี้บางรุ่นยังรองรับการปรับตั้งค่าผ่านทางแอปพลิเคชันของผู้ผลิตทั้งการแสดงผลไฟ RGB การตั้งค่าการรับเสียง และโหมดการทำงานต่างๆ ด้วย
6. เลือกไมค์สตรีมเกมจากอุปกรณ์เสริม
อุปกรณ์เสริมที่มากับไมโครโฟนแต่ละรุ่นนั้น ถือเป็นส่วนที่จะมาเติมเต็มการใช้งานให้สะดวกหรือมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฟองน้ำสำหรับกรองเสียง, แผ่นบังลมหรือ POP Filter, ขาตั้งไมโครโฟนที่มีทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบหนีบ, ความยาวของสายและหัว Jack ที่ใช้ในการเชื่อมต่อ, Adaptor, กล่องใส่ไมค์สำหรับเอาไว้ใช้นอกสถานที่ เหล่านี้ล้วนช่วยเติมเต็มการใช้งานไมโครโฟนให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
7. เลือกไมค์สตรีมเกมจากยี่ห้อ ราคา และการรับประกัน
เนื่องจากไมค์สตรีมเกมเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความซับซ้อนทางเทคนิคพอสมควร ดังนั้นการที่จะได้ไมโครโฟนคุณภาพและเสียงดีเอามาไว้ใช้ยี่ห้อหรือชื่อเสียงของผู้ผลิตจึงมีความสำคัญ เพราะช่วยการันตีในเบื้องต้นได้ว่าเราจะได้สินค้าที่มีมาตรฐาน ตรงตามที่ระบุเอาไว้ในสเปค รวมถึงหากเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมักมากับบริการหลังการขายการรับประกันสินค้าที่น่าพอใจด้วย ส่วนราคาก็มีให้เลือกตั้งแต่หลักร้อยไปจนหลักหมื่น อยู่ที่ว่าเรามีงบประมาณในช่วงไหน
เลือกไมค์สตรีมเกม ยี่ห้อไหนดี ที่ฟังก์ชันครบ ดีไซน์ดุดัน เสียงดี
ได้ทราบกันไปแล้วว่าในการจะเลือกไมค์สตรีมเกมนั้นเราควรต้องพิจารณาจากเรื่องใดบ้าง คราวนี้เรามาเข้าสู่รายชื่อ 10 รุ่นของ ไมค์สตรีมเกม ยี่ห้อไหนดีกันเลย โดยเราคัดมาให้คุณเลือกจากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Razer, EPOS, Elgato, Signo, HyperX, NUBWO ลองดูว่ารุ่นไหนน่าจะโดนใจคุณมากที่สุด
1. ไมค์สตรีมเกม Blue Yeti
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เหมาะกับการสตรีมเกม บันทึกเสียง ทำ Podcast | ตอบสนองความถี่ที่ 20Hz-20kHz |
ปรับทิศทางการรับเสียงได้ 4 แบบ | ควรวางไมค์ในแนวตั้งตรง ไม่โน้มเข้าหาตัว |
มีช่องหูฟังสำหรับมอนิเตอร์เสียง | |
ใช้งานง่ายไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่ม |
มาเริ่มต้นรายชื่อ ไมค์สตรีมเกม ยี่ห้อไหนดีของเรากันด้วย Blue Yeti ไมโครโฟนสำหรับสายสตรีมเมอร์และคนทำคอนเทนต์ที่มากับความสามารถรอบตัว เป็นไมค์แบบ Condenser ที่สามารถปรับทิศทางการรับเสียงได้ 4 แบบ ทั้ง Stereo, Cardioid, Bidirectional และ Omnidirectional รุ่นนี้ตอบสนองความถี่ที่ 20Hz-20kHz 16-Bit ให้เสียงคมชัด รายละเอียดครบถ้วน ใช้งานง่ายด้วยการเชื่อมต่อผ่าน USB มีช่องเสียบหูฟังที่ตัวไมค์เอาไว้ให้มอนิเตอร์เสียง ปุ่มควบคุมทั้งหมดและปุ่มปิดเสียงอยู่ที่ตัวไมค์ ความสามารถนั้นบอกเลยว่าครบถ้วน
2. ไมค์สตรีมเกม EPOS STREAMING MICROPHONE B20
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เลือกการรับเสียงได้ 4 แบบ | ตอบสนองช่วงความถี่ 50-20,000 Hz ความละเอียด 24 บิต |
ให้รายละเอียดเสียงที่ครบถ้วน คมชัด | ไม่มี Pop Filter ช่วยบังลม |
รองรับการใช้งานทั้ง PS4, PC, MacOSX | |
เชื่อมต่อผ่าน USB แบบ Plug-and-Play |
ต่อกันเลยกับไมค์สตรีมเกม EPOS B20 ไมโครโฟนคุณภาพอีกตัวที่จะช่วยให้คุณเป็นสตรีมเมอร์แบบมืออาชีพด้วยเสียงที่คมชัดทุกรายละเอียด สามารถเลือกใช้งานทิศทางการรับเสียงได้ถึง 4 แบบ ตามความเหมาะสม ใช้ได้ทั้งกับคอนเทนต์เกมและการบันทึกเสียงด้วยคุณภาพระดับ Studio ใช้งานง่ายแบบ แบบ Plug-and-Play ผ่านพอร์ต USB ไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่ม สามารถควบคุมการทำงานได้จากตัวไมค์ มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5mm ให้มอนิเตอร์เสียงแบบเรียลไทม์ รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ทั้ง PS4, PC และMacOSX
3. ไมค์สตรีมเกม Elgato WAVE 3
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
คุณภาพเสียงระดับ Hi-res | ตอบสนองช่วงความถี่ 70 Hz – 20 kHz |
ควบคุมการทำงานได้จากตัวไมค์ | เชื่อมต่อผ่านสาย USB-C |
มีช่องเสียบหูฟังสำหรับมอนิเตอร์เสียง | |
ทิศทางการรับเสียงแบบ Cardioid ให้รายละเอียดคมชัด |
หากถามว่า ไมค์สตรีมเกม ยี่ห้อไหนดี Elgato WAVE 3 เป็นอีกรุ่นที่ควรนำเข้าลิสต์ของมันต้องมี เรียกว่าเป็นรุ่นยอดนิยมของสตรีมเมอร์ในช่วงนี้ก็ว่าได้ เพราะมากับฟังก์ชันการทำงานและคุณภาพเสียงที่น่าประทับใจ แถมดีไซน์ก็ยังเรียบหรูดูดี ตัวนี้รับเสียงแบบ Cardioid ใช้ได้ทั้งกับเสียงร้อง เสียงดนตรี การสตรีมเกม ด้วยคุณภาพระดับ Hi-res มี Sample Rate สูงถึง 96 KHz แบบ 24-bit ตอบสนองช่วงความถี่ที่ 70 Hz – 20 kHz เชื่อมต่อผ่าน USB แบบ Plug-and-Play มีช่องเสียบหูฟังสำหรับการมอนิเตอร์เสียง ควบคุมการทำงานได้จากตัวไมค์โดยตรง ลองดูว่าโดนใจคุณหรือไม่
4. ไมค์สตรีมเกม Razer Seiren Mini
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เหมาะสำหรับการสตรีมเกม | ตอบสนองช่วงความถี่ที่ 20-20kHz แบบ 16-bit |
มี Shockmount ช่วยลดการสั่นสะเทือน | ทิศทางการรับเสียงแบบ Supercardioid |
มีฟังก์ชันลดเสียงรบกวน | |
มีให้เลือก 3 สีคือ สีดำ สีขาว และสีชมพู |
มาแนะนำ ไมค์สตรีมเกม ยี่ห้อไหนดี ถ้าขาดค่ายเขียว Razer ไปก็คงไม่ได้ กับ Razer Seiren Mini ไมค์สตรีมเกมที่แม้จะดูขนาดเล็กดีไซน์เรียบง่ายแต่ก็อัดแน่นด้วยคุณภาพแถมมีสีให้เลือกถึง 3 สีด้วยกันคือ สีดำ สีขาว และสีชมพู จุดเด่นของตัวนี้ก็คือตอบสนองช่วงความถี่ที่ 20-20kHz แบบ 16-bit ทิศทางการรับเสียงเป็นแบบ Supercardioid เน้นที่ด้านหน้าและด้านข้าง มี Shockmount ช่วยลดการสั่นสะเทือน พ่วงระบบการตัดเสียงรบกวนขณะใช้งาน เชื่อมต่อผ่าน USB ไม่ต้องลงโปรแกรมเสริม ที่สำคัญราคาถือว่าไม่แพงจนเกินไป
5. ไมค์สตรีมเกม Signo MP-704
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ใช้ได้ทั้งสตรีมเกมและร้องเพลง | ตอบสนองช่วงความถี่ที่ 30 Hz-20 kHz |
มีฟองน้ำหุ้มไมค์และที่บังลม | ความไวในการรับเสียง 32dB+-5dB |
ใช้งานง่าย เชื่อมต่อผ่าน USB | |
ราคาไม่แพงจนเกินไป |
สำหรับไมค์สตรีมเกม Signo MP-704 มาจากผู้ผลิตอุปกรณ์เกมมิ่งชื่อดังรายหนึ่งของวงการ มีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่กำลังหาไมโครโฟนเอาไว้สตรีมเกม หรือทำคอนเทนต์ต่างๆ ตัวนี้เป็นไมโครโฟนแบบ Condenser รับเสียงทางเดียว ตอบสนองช่วงความถี่ที่ 30 Hz-20 kHz คุณภาพเสียงระดับกลางๆ ใช้งานง่ายเชื่อมต่อผ่าน USB มาพร้อมขาตั้งไมค์แบบหนีบกับโต๊ะ ที่บังลม และฟองน้ำหุ้มไมค์ สินค้ารับประกันให้นาน 1 ปี
6. ไมค์สตรีมเกม AverMedia Game Caster Microphone AM310
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เหมาะกับการใช้สตรีมเกม | ตอบสนองช่วงความถี่ที่ 20–20,000 Hz |
ไมโครโฟนแบบ Condenser รับเสียงทางเดียว | ค่า Sample rate 48 kHz 16-Bit |
ใช้งานง่ายแบบ Plug-and-Play | |
มีช่องเสียบหูฟังสำหรับมอนิเตอร์เสียง |
ต่อกันเลยกับรายชื่อไมค์สตรีมเกม ยี่ห้อไหนดี รุ่นที่ 6 คือ AverMedia Game Caster Microphone AM310 ไมโครโฟนราคาจับต้องได้ที่มากับฟังก์ชันการทำงานและคุณภาพเสียงที่น่าพอใจ ดีไซน์การออกแบบเรียบง่าย มีปุ่มควบคุมการทำงานและไฟ LED แสดงสถานะ เป็นไมโครโฟนแบบ Condenser รับเสียงทางเดียว ค่า Sample rate อยู่ที่ 48 kHz 16-Bit ตอบสนองช่วงความถี่ที่ 20–20,000 Hz ใช้งานง่ายแบบ Plug-and-Play มีช่อง Live Monitoring สำหรับต่อกับหูฟังในตัว ฐานและเสาสามารถพับเก็บได้สะดวกต่อการพกพา รวมๆ แล้วถือว่าลงตัวสมราคา
7. ไมค์สตรีมเกม HyperX Quadcast S
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ปรับทิศทางการรับเสียงได้ 4 แบบ ตามการใช้งาน | ตอบสนองช่วงความถี่ที่ 20Hz – 20kHz |
มีปุ่มควบคุมในตัวใช้งานง่าย | ค่า Sample rate 48kHz/16-bit |
มีไฟ RGB ปรับแต่งได้ด้วยซอฟต์แวร์ | |
มีตัวกรองเสียงภายในช่วยให้ได้เสียงที่คมชัด |
อีกรุ่นที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ HyperX Quadcast S ไมค์สตรีมเกมจากแบรนด์เกมมิ่งเกียร์ยอดนิยมที่เกมเมอร์หลายคนไว้วางใจ ตัวนี้บอกเลยว่าครบทั้งดีไซน์ คุณภาพเสียง ฟังก์ชันการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นไฟ RGB แบบตั้งค่าได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY เพิ่มมาดเกมเมอร์ให้กับผู้ใช้ สามารถควบคุมระดับเสียงและเปิดปิดได้ง่าย มีช่องเสียบหูฟังเพื่อการมอนิเตอร์เสียง รุ่นนี้ ตอบสนองช่วงความถี่ที่ 20Hz – 20kHz ค่า Sample rate 48kHz/16-bit สามารถปรับทิศทางการรับเสียงได้ถึง 4 แบบ มีตัวกรองเสียงช่วยลดการรบกวน สามารถใช้งานกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย งานสร้างไม่เสียชื่อค่ายนี้แน่นอน
8. ไมค์สตรีมเกม NUBWO X300 Cypher
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ตั้งค่าการรับเสียงได้ 4 แบบ | ตอบสนองช่วงความถี่ที่ 20Hz – 20kHz |
มีปุ่มตั้งค่าไฟ LED ได้ 7 สี | ค่า Sample rate 96kHz/24-bit |
ให้เสียงคมชัด ตอบสนองได้รวดเร็ว | |
สินค้ารับประกันให้นาน 2 ปี |
NUBWO X300 Cypher ไมค์สตรีมเกมราคากลางๆ แต่คุณภาพจัดเต็มไม่แพ้ค่ายใหญ่ ซึ่ง NUBWO นั้นเด่นในเรื่องของการนำเสนอของดีราคาจับต้องได้จนติดตลาดในเวลาไม่นาน รุ่นนี้สามารถปรับตั้งค่าทิศทางการรับเสียงได้ 4 แบบตามความต้องการ มีไฟ LED ที่เปลี่ยนได้ 4 สี เพิ่มมาดเกมเมอร์ในตัว คุณภาพเสียงก็ถือว่าน่าพอใจ โดยตอบสนองช่วงความถี่ที่ 20Hz-20kHz มีค่า Sample rate 96kHz/24-bit เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB มีช่องสำหรับเสียบหูฟังมอนิเตอร์เสียง ขาตั้งสามารถถอดได้ ผลิตจากวัสดุที่แข็งแรงทนทาน ใครยังไม่รู้จะเลือกไมค์สตรีมเกม ยี่ห้อไหนดีตัวนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย
9. ไมค์สตรีมเกม FIFINE T683
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
คุณภาพเสียงระดับ High Quality | ตอบสนองช่วงความถี่ที่ 50Hz -17kHz |
ทิศทางการรับเสียงแบบ Cardioid ให้เสียงพูดคมชัด | ค่า Sample rate 192kHz/24-bit |
มีช่องเสียบหูฟังในตัว | |
มาพร้อม Pop Filter ช่วยกรองเสียง |
FIFINE T683 ไมโครโฟนขวัญใจสตรีมเมอร์อีกรุ่นที่น่าเอาไว้ในลิตส์ของมันต้องมี เรียกว่ามีครบทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้ในการสตรีมเกม เป็นไมโครโฟนแบบ Condenser รับเสียงแบบ Cardioid ทำให้ได้ยินเสียงพูดชัดเจน ตัดเสียงรบกวนด้านข้าง คุณภาพเสียงระดับ High Quality ตอบสนองช่วงความถี่ที่ 50Hz -17kHz ค่า Sample rate 192kHz/24-bit รองรับการเชื่อมต่อทั้ง USB-A และ USB-C ใช้งานง่ายแบบ Plug & Play มีช่องเสียบหูฟังเพื่อการมอนิเตอร์เสียง พร้อม Pop Filter ช่วยกรองเสียงที่ไม่ต้องการ มาพร้อมขาตั้งแบบหนีบที่ปรับระดับและระยะได้ตามต้องการ งานสร้างจัดว่าลงตัวเลยล่ะ
10. ไมค์สตรีมเกม EGA TYPE MC1
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
รูปทรงสะดุดตา มีไฟเพิ่มความเร้าใจ | ทิศทางการรับเสียงแบบ Cardioid |
เชื่อมต่อผ่าน USB ใช้ได้ทั้งเครื่อง PC และ Mac | ค่า Sample rate 48kHz/16-bit |
คุณภาพเสียงน่าพอใจสำหรับการแคสเกม | |
ราคาไม่แพงจนเกินไป |
ปิดท้ายรายชื่อ ไมค์สตรีมเกม ยี่ห้อไหนดีในรอบนี้กันด้วย EGA TYPE MC1 ไมโครโฟนที่ตั้งบนโต๊ะแล้วต้องมีคนถามว่ารุ่นไหนด้วยรูปทรงที่สุดตาพร้อมไฟสีเขียวด้านล่างเพิ่มความเร้าใจ ส่วนคุณภาพเสียงนั้นก็ไม่ธรรมดาด้วยค่า Sample rate 48kHz/16-bit แบบ Crystal Clear Audio ให้เสียงชัดใส ใช้งานง่ายด้วยการเชื่อมต่อแบบ Plug-and-Play ผ่านพอร์ต USB รองรับทั้งเครื่อง PC และ Mac ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพดี แข็งแรงทนทาน มาในราคาค่าตัวที่จับต้องได้
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับรายชื่อของ 10 รุ่น ไมค์สตรีมเกม ยี่ห้อไหนดี ที่เราคัดมาฝากกันจากแบรนด์ชั้นนำที่เกมเมอร์วางใจ โดยแต่ละรุ่นนั้นก็จะมากับคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกันไป ทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบ อุปกรณ์เสริมที่ให้มา คุณภาพเสียง และฟังก์ชันการทำงาน ลองเทียบราคาและรายละเอียดกันดูอีกครั้งว่าไมค์สตรีมเกมรุ่นไหน ยี่ห้อใด ที่น่าจะลงตัวกับการใช้งานและงบประมาณของคุณมากที่สุด