รองเท้า คือไอเทมสุดรักสุดหวงของใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะราคาถูกหรือราคาแพงก็ตาม เพราะมักได้รับการคัดสรรมาแล้วว่าถูกใจและเหมาะกับตัวเองมากที่สุด การดูแลรองเท้าคู่โปรดจึงเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญ ทั้งการเก็บรักษาด้วยกล่องใส่รองเท้า การทำความสะอาดอย่างถูกวิธี เพื่อที่จะได้ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุดและดูดีอยู่เสมอเมื่อนำมาสวมใส่ ซึ่งหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยดูแลรองเท้าให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ก็คือ สเปรย์เคลือบรองเท้า ผู้ช่วยที่จะคอยปกป้องรองเท้าจากน้ำ ความชื้น และสิ่งสกปรกต่างๆ ส่วนจะเลือกสเปรย์เคลือบรองเท้า ยี่ห้อไหนดีและเลือกอย่างไร วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ มาฝากกัน
วิธีเลือกสเปรย์เคลือบรองเท้า
สเปรย์เคลือบรองเท้า ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องเลือกใช้อย่างเหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพที่สูงสุดและไม่เป็นการทำร้ายรองเท้าคู่โปรดของเรา ซึ่งการจะเลือกสเปรย์เคลือบรองเท้า ยี่ห้อไหนดีมาปกป้องรองเท้านั้นมีสิ่งที่ต้องพิจารณาดังต่อไปนี้
1. เลือกสเปรย์เคลือบรองเท้าจากประเภทของรองเท้า
ข้อแรกเลยที่เราต้องให้ความสำคัญก็คือการเลือกสเปรย์เคลือบรองเท้าให้เหมาะสมกับประเภทของรองเท้า โดยผลิตภัณฑ์สำหรับรองเท้าสามารถแบ่งออกได้ดังนี้คือ
- สเปรย์เคลือบรองเท้าแบบฟลูออรีน มีคุณสมบัติในการเคลือบเส้นใยได้แบบเส้นต่อเส้น ระบายความชื้นได้ค่อนข้างดี ใช้ได้กับทั้งรองเท้าผ้าใบและรองเท้าหนัง
- สเปรย์เคลือบรองเท้าแบบซิลิโคน เป็นแบบที่ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำซึมผ่านเข้าไปในเส้นใยได้ จึงเหมาะกับรองเท้าที่ต้องใส่ลุยน้ำบ่อยๆ หรือมีโอกาสเปียกสูง แต่อาจไม่เหมาะกับหนังขัดเรียบหรือหนังมีที่มีความนิ่มมาก
- สเปรย์เคลือบรองเท้าแบบพิเศษ เป็นแบบที่ผลิตออกมาเพื่อปกป้องสีของรองเท้า หรือใช้กับหนังบางประเภท อาทิ หนังที่มีการขัดมัน หนังกลับ และหนังที่มีความบอบบางเป็นพิเศษ
2. เลือกสเปรย์เคลือบรองเท้าที่แห้งเร็ว
คุณสมบัติของสเปรย์เคลือบรองเท้าแทบทุกยี่ห้อก็คือหลังจากที่เราทำความสะอาดรองเท้าและตกจนแห้งแล้วลงสเปรย์จะต้องทิ้งไว้สักพักเพื่อรอให้สเปรย์แห้งและสามารถนำรองเท้าไปใส่ได้ โดยทั่วไปมักใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามหากเป็นรองเท้าที่เราต้องใส่บ่อยๆ อาจมองหาสเปรย์เคลือบรองเท้าที่แห้งเร็วกว่าปกติเอาไว้ใช้งาน ซึ่งราคาก็อาจจะสูงขึ้นด้วย
3. เลือกสเปรย์เคลือบรองเท้าจากปริมาณที่บรรจุ
ต้องบอกว่าสเปรย์เคลือบรองเท้านั้นมีขนาดและปริมาณที่หลากหลายการจะเลือกสเปรย์เคลือบรองเท้า ยี่ห้อไหนดีจึงต้องเลือกให้เพียงพอกับการใช้งานของเราโดยเฉพาะกับคนที่มีรองเท้าหลายๆ คู่ ซึ่งการซื้อในปริมาณที่มากจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกทางหนึ่งด้วย โดยควรเลือกสเปรย์เคลือบรองเท้าที่มีความจุ 200-400 มิลลิลิตรขึ้นไป ทั้งนี้แล้วแต่ความต้องการใช้งานของเรา อาจมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ก็ได้
4. เลือกสเปรย์เคลือบรองเท้าจากคุณสมบัติเด่น
สเปรย์เคลือบรองเท้าแต่ละขวดมักมากับคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกันออกไป จึงควรตรวจสอบรายละเอียดว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง อาทิ มีคุณสมบัติในการกันน้ำ, ช่วยในการระบายอากาศและลดการสะสมของความชื้นต้นเหตุของเชื้อรา, ไม่มีสารที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับระบบทางเดินหายใจของผู้ใช้, สามารถใช้ได้ทั้งกับกระเป๋าและรองเท้า, มีส่วนช่วยป้องกันรังสี UV, เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือมีส่วนช่วยเพิ่มความเงางามให้กับรองเท้า เป็นต้น
5. เลือกสเปรย์เคลือบรองเท้าจากยี่ห้อและราคา
เพื่อให้แน่ใจว่าสเปรย์เคลือบรองเท้าที่เราเลือกปกป้องรองเท้าคู่โปรดของเราได้ดีและไม่ทำให้เกิดความเสียหาย การเลือกซื้อจากยี่ห้อที่วางใจได้จะช่วยให้เราใช้งานได้อย่างสบายใจขึ้น อาทิ สเปรย์เคลือบรองเท้า BAZOOKA, WETLESS, Shucare, Bewell, Eykosi, BOSNY, Solitaire, Collonil, Always Dry หรือ Wilkins เป็นต้น ส่วนราคานั้นก็มีตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลายร้อยบาท ที่ต้องไม่ลืมก็คือเลือกให้เหมาะสมตามประเภทของรองเท้าของเราด้วย
สเปรย์เคลือบรองเท้า ยี่ห้อไหนดี
ได้ทราบกันไปแล้วว่าการจะเลือกสเปรย์เคลือบรองเท้า ยี่ห้อไหนดีเอาไว้คอยปกป้องรองเท้าของเรานั้นต้องพิจารณาจากเรื่องใดบ้าง คราวนี้เรามาดกันเลยว่ามีสเปรย์เคลือบรองเท้าแบบไหนที่น่าจะเหมาะกับรองเท้าของคุณบ้าง
1. สเปรย์เคลือบรองเท้า BAZOOKA
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
มีคุณสมบัติในการกันน้ำ | ไม่ควรใช้กลับวัสดุผ้าสักหลาด กำมะหยี่ และ หนังกลับ |
ใช้ได้กับรองเท้า หมวก กระเป๋า | ไม่สามารถเคลือบช่องว่างของรองเท้าได้ |
กลิ่นไม่ฉุน | |
ช่วยปกป้องรองเท้าจากแสง UV |
เริ่มต้นรายชื่อ สเปรย์เคลือบรองเท้า ยี่ห้อไหนดีของเรากันด้วยผลิตภัณฑ์จาก BAZOOKA ตัวช่วยปกป้องรองเท้าคู่โปรดที่ใช้งานง่าย เพียงฉีดพ่นห่างจากรองเท้า 15-20 เซนติเมตร ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วพ่นซ้ำอีกรอบ โดยใช้เวลารอให้แห้ง 24 ชั่วโมง มีคุณสมบัติในการกันน้ำและสิ่งสกปรกที่เป็นของเหลว รวมถึงยังช่วยป้องกันรองเท้าสีซีดจากการสัมผัสกับรังสี UV ได้ด้วย สามารถใช้ได้กับรองเท้า หมวก กระเป๋า กลิ่นไม่ฉุน ไม่ทิ้งคราบลงบนวัสดุ มีให้เลือกในขนาด 150 และ 250 มิลลิลิตร
2. สเปรย์เคลือบรองเท้า WETLESS Nano Protective Spray
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เทคโนโลยีนาโนขั้นสูง | ฉีดพ่นห่างจากพื้นผิว 15-20 ซม. |
ช่วยป้องกันคราบสกปรกและของเหลว | ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วทำการพ่นอีกรอบ |
ช่วยป้องกันรังสี UV | |
ไม่ทำให้เหม็นอับเพราะอากาศยังระบายได้ |
ต่อกันด้วยสเปรย์เคลือบรองเท้า WETLESS Nano Protective Spray ผลิตภัณฑ์ที่ใช้นวัตกรรมนาโนขั้นสูง มาพร้อมสโลแกน “ฉีดให้ทั่ว แล้วพร้อมลุย” เพราะคราบสกปรกและของเหลวจะไม่สามารถทำร้ายรองเท้าคู่โปรดได้ ใช้งานง่าย ไม่ทิ้งคราบสกปรก มีคุณสมบัติในการเคลือบผิว ช่วยป้องกันพื้นผิวจากรังสี UV ทำให้สีไม่ซีดง่าย สามารถใช้ได้ทั้งกับเสื้อผ้า กระเป๋า หมวก รองเท้า ไม่ว่าจะเป็นสีขาวหรือสีเข้ม นอกจากนี้ยังไม่ทำให้เกิดการเหม็นอับเนื่องจากอากาศยังสามารถถ่ายเทได้ดี มาในขนาด 300 มิลลิลิตร ใช้งานได้หลายครั้ง
3. สเปรย์เคลือบรองเท้า Shucare Nano Water Proofer
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ใช้ได้กับผ้าและเครื่องหนังทุกชนิด | ปกป้องได้เต็มประสิทธิภาพหลังผ่าน 24 ชั่วโมงไปแล้ว |
ปกป้องรองเท้าจากฝุ่นละอองและของเหลว | |
ประสิทธิภาพสูง ใช้งานสะดวก | |
ความจุ 325 มิลลิลิตร ใช้ได้หลายครั้ง |
ใครยังไม่รู้จะเลือกสเปรย์เคลือบรองเท้า ยี่ห้อไหนดี Shucare Nano Water Proofer คืออีกตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพน่าพอใจ ใช้งานง่ายเพียงฉีดลงบนวัสดุที่ต้องการ โดยให้ห่าง 20-25 เซนติเมตร ทิ้งไว้ 5 นาทีจากนั้นฉีดซ้ำอีกรอบ ตัวสเปรย์มีคุณสมบัติในการป้องกันฝุ่นละออง ความชื้น ละอองน้ำ สามารถใช้ได้กับรองเท้าหนังทุกประเภท รองเท้าผ้าใบ ผ้าเต็นท์ รวมถึงใช้ได้กับทุกสีโดยไม่ทำให้เกิดรอยด่าง มาในปริมาณ 325 มิลลิลิตร ทั้งนี้ควรทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงหลังฉีด และสามารถใช้ได้ทุก 1-2 สัปดาห์
4. สเปรย์เคลือบรองเท้า DK WATERPROOF
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ป้องกันแสงแดด, UV, น้ำและของเหลวได้ดี | ควรรอให้สเปรย์แห้งสนิทก่อนนำไปใช้งาน |
ปกป้องยาวนานถึง 1 ปี | สามารถฉีดพ่นซ้ำทุก ๆ 3-4 สัปดาห์ |
สเปรย์โปร่งแสง ไม่ทิ้งคราบขาว | |
สามารถใช้ได้กับวัสดุหลายแบบ |
DK WATERPROOF สเปร์ยเคลือบรองเท้าที่มาพร้อมเทคโนโลยี Nano Hydrophobic ที่ทำให้สเปรย์มีความโปร่งแสง ไม่ปิดกั้นอากาศ ทำหน้าที่เหมือนฟิล์มบาง ๆ คอยปกป้องรองเท้าจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ ทั้งยังป้องกันแสงแดด รังสี UV ได้อีกด้วย สเปรย์ตัวนี้เหมาะกับวัสดุทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นหนัง, หนังกลับ, ผ้าฝ้าย, ไนล่อน, ผ้าใบ และอื่น ๆ ฉีดเพียง 1 ครั้งก็สามารถปกป้องได้ยาวนานสูงสุดถึง 12 เดือน หรือจะพ่นซ้ำได้ทุก 3-4 สัปดาห์เพื่อความมั่นใจก็ได้เช่นเดียวกัน สเปรย์ 1 ขวดบรรจุ 300 ml สามารถใช้ได้ประมาณ 5-7 คู่ต่อการพ่นทับ 2 รอบ ราคาเบาสบายกระเป๋า
5. สเปรย์เคลือบรองเท้า Eykosi Water Repellent Nano Spray
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ช่วยป้องกันน้ำและคราบสกปรก | ขนาดบรรจุ 250 มิลลิลิตร |
ช่วยป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย | ควรทิ้งไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง |
ใช้งานง่าย ปกป้องได้ยาวนาน | |
ใช้ทั้งกับวัสดุหนังและผ้ารวมถึงร่มกันแดด |
Eykosi Water Repellent Nano Spray อีกกระป๋องในรายชื่อ สเปรย์เคลือบรองเท้า ยี่ห้อไหนดีที่มากับการปกป้องระดับนาโนที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพ ช่วยในการปกป้องรองเท้าคู่โปรดจากน้ำและสิ่งสกปรก ช่วยป้องกันแบคทีเรียและเชื้อราที่ทำให้รองเท้าเหม็นอับ ใช้งานง่ายเพียงฉีดพ่นให้ทั่ว เว้นระยะห่างจากพื้นผิวประมาณ 20 เซนติเมตร ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วพ่นซ้ำอีกรอบ สเปรย์แห้งเร็วไม่ทิ้งคราบ โดยควรรอให้เซ็ตตัวอย่างน้อย 4 ชั่วโมงหรือแห้งสนิท ใช้ได้ทั้งกับผ้า หนัง หรือผ้าร่ม ตัวนี้ไม่ทิ้งสารตกค้าง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
6. สเปรย์เคลือบรองเท้า BOSNY FABRIC & STONE PROTECTOR
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ปริมาณ 600 มิลลิลิตร | ควรพ่นซ้ำ 2-3 ครั้งจนทั่ว |
เคลือบได้ทั้งรองเท้าหนังและรองเท้าผ้าใบ | รอจนแห้งสนิทถึงนำไปสวมใส่ |
ปกป้องรองเท้าจากน้ำ ความชื้น และสิ่งสกปรกได้ดี | |
ไม่ทำให้รองเท้าเปลี่ยนสี |
สเปรย์เคลือบรองเท้า BOSNY FABRIC & STONE PROTECTOR ผลิตภัณฑ์ดูแลรองเท้าที่มากับความจุถึง 600 มิลลิลิตร สามารถใช้ได้หลายครั้ง มีคุณสมบัติในการเคลือบกันน้ำและสิ่งสกปรกต่างๆ ใช้ได้กับทั้งรองเท้าหนัง รองเท้าผ้าใบ กระเป๋า หมวก เป้สะพาย รวมถึงผ้าเต็นท์ จุดเด่นอีกอย่างคือใช้แล้วไม่ทำให้เนื้อวัสดุที่ฉีดมีการเปลี่ยนสีหรือมีผิวสัมผัสที่เปลี่ยนไป และด้วยคุณสมบัติที่ไม่ซึมน้ำทำให้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ทั้งนี้ควรฉีดพ่น 2-3 รอบจนทั่วและรอให้แห้งสนิทก่อนนำรองเท้าไปสวมใส่
7. สเปรย์เคลือบรองเท้า Solitaire Sneaker Protector
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
สามารถใช้ได้กับรองเท้ากีฬาและรองเท้าหนัง | ควรปิดส่วนที่เป็นโลหะบนรองเท้าก่อนฉีดสเปรย์ |
ช่วยปกป้องรองเท้าจากน้ำและความชื้น | ควรเขย่ากระป๋องก่อนฉีด ระยะห่างกับพื้นผิวราว 30 เซนติเมตร |
ช่วยให้ทำความสะอาดรองเท้าได้ง่ายขึ้น | |
ใช้ได้กับวัสดุหนังทุกสี |
สเปรย์เคลือบรองเท้า Solitaire Sneaker Protector ไอเทมคู่ใจคนรักรองเท้าและเครื่องหนังที่ต้องมีติดบ้านเอาไว้ โดยสามารถใช้ได้กับทั้งรองเท้าหรือกระเป๋าที่ผลิตด้วยหนังและผ้าทุกสี ไม่ก่อให้เกิดรอยหรือคราบบนเนื้อวัสดุ ช่วยเคลือบผิวป้องกันน้ำและสิ่งสกปรก ลดการสะสมของความชื้นที่ทำให้เกิดกลิ่นอับ ไม่ส่งผลต่อการถ่ายเทอากาศในรองเท้า ป้องกันคราบฝังแน่น ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น ประหยัดแรงและเวลา ช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น เป็นหนึ่งในลิสต์สเปรย์เคลือบรองเท้า ยี่ห้อไหนดีที่ขายดีเพราะหลายคนใช้แล้วบอกต่อ
8. สเปรย์เคลือบรองเท้า Collonil 1909 Supreme Protect Spray
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ช่วยปกป้องรองเท้าจากน้ำและสิ่งสกปรก | ราคาค่อนข้างสูง |
ช่วยป้องกันรองเท้าจากเชื้อราและแสง UV | ไม่ควรใช้กับหนังแก้วหรือหนังขัดมัน |
ไม่ทำให้รองเท้าเกิดการเสียทรง | |
ช่วยคงสภาพสีรองเท้าให้เหมือนใหม่ |
มาต่อกันด้วยสเปรย์เคลือบรองเท้า Collonil 1909 Supreme Protect Spray ผลิตภัณฑ์เกรดพรีเมียมสำหรับรองเท้าและเครื่องหนังที่คุณหวงแหน ใช้ได้กับหนังหลายแบบไม่ว่าจะเป็นหนังแกะ, หนังลูกวัว, หนังนกกระจอกเทศ และอื่นๆ มีคุณสมบัติในการเคลือบผิวป้องกันน้ำและสิ่งสกปรก ไม่ให้ซึมเข้าทำร้ายพื้นผิวและเส้นใย ช่วยคงสภาพและสีของวัสดุให้ดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ รวมถึงช่วยป้องกันเชื้อราและแสงยูวี เพียงใช้เป็นประจำทุก 1-2 สัปดาห์
9. สเปรย์เคลือบรองเท้า Always Dry Ultra
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ฟิล์มระดับนาโนสเกล ปกป้องโดยไม่ทิ้งคราบ | เก็บในที่อุณหภูมิต่ำกว่า 50 องศาเซลเซียส |
ใช้ได้กับหนังและผ้าหลายแบบ | ควรใช้กับรองเท้าที่แห้งสนิทเท่านั้น |
สามารถใช้กับหน้ากากผ้าได้ | |
ช่วยป้องกันน้ำและคราบสกปรก |
สเปรย์เคลือบรองเท้า Always Dry Ultra ก็มากับความน่าสนใจหลายอย่างด้วยกันในราคาที่ถือว่าไม่แพงจนเกินไป โดยเป็นผลิตภัณฑ์เคลือบกันน้ำสำหรับรองเท้า กระเป๋า เครื่องหนัง หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ รวมทั้งยังสามารถใช้กับหน้ากากผ้าได้อีกด้วย โดยเป็นฟิล์มระดับนาโนสเกลไม่ทำให้เกิดร่องรอย ไม่ส่งผลต่อรูปทรงและสีสันของผลิตภัณฑ์ ช่วยปกป้องรองเท้าคู่โปรดจากน้ำและคราบสกปรกที่ฝังแน่นจนทำความสะอาดยาก เพียงใช้อย่างสม่ำเสมอ
10. สเปรย์เคลือบรองเท้า Wilkins Waterproof Spray
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
นวัตกรรมจากประเทศเยอรมนี | ไม่ควรใช้กับหนังลูกวัวหรือหนังลูกแกะ |
ฉีดครั้งเดียวปกป้องนาน 1 ปี | ขนาดบรรจุ 160 มิลลิลิตร |
ปกป้องรองเท้าจากน้ำและรังสี UV | |
ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม |
ปิดท้ายรายชื่อ สเปรย์เคลือบรองเท้า ยี่ห้อไหนดีด้วย Wilkins Waterproof Spray ผลิตภัณฑ์เกรดพรีเมียมนวัตกรรมจากประเทศเยอรมนี เป็นสเปรย์กันน้ำสูตรไร้แอลกอฮอล์ ปลอดภัยกับรองเท้า ผู้ใช้ และสิ่งแวดล้อม ไม่มีกลิ่นฉุนที่ทำร้ายระบบทางเดินหายใจ จุดเด่นคือฉีดครั้งเดียวปกป้องได้ยาวนานถึง 1 ปีเลยทีเดียว มาพร้อมหัวฉีดแบบใหม่ให้ละอองทีละเอียด ไม่ทิ้งคราบขาว ไม่ส่งผลต่อสีและรูปทรงของรองเท้า เป็นหนึ่งในยี่ห้อที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้ทั่วโลก
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับรายชื่อของสเปรย์เคลือบรองเท้าหลากหลายแบรนด์ที่เรานำมาฝากกัน ไม่ว่าจะเป็น BAZOOKA, WETLESS, Shucare, DK, Eykosi, BOSNY, Solitaire, Collonil, Always Dry และ Wilkins ซึ่งแต่ลสูตรก็มีจุดเด่นของตัวเองที่แตกต่างกันออกไป แต่คุณสมบัติหลักก็คือการปกป้องรองเท้าหรือกระเป๋าจากน้ำและสิ่งสกปรก ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานและดูเหมือนใหม่เสมอ ส่วนการจะเลือกสเปรย์เคลือบรองเท้า ยี่ห้อไหนดีนั้นต้องไม่ลืมว่าตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถใช้กับรองเท้าหรือกระเป๋าใบโปรดของเราได้หรือไม่ครับ