อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 2023

หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี อร่อยทันใจ และประหยัดเวลา 2023

หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี
ภาพจาก shopee.co.th

สำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารเมนูตุ๋นก็คงพอจะทราบกันดีอยู่แล้วว่ากว่าจะได้มาซึ่งเมนูตุ๋นแต่ละอย่างนั้นต้องใช้เวลานานขนาดไหน เรียกได้ว่าเปลืองทั้งเวลา เปลืองแก๊ส เปลืองไฟ แต่ปัจจุบันนี้ต้องบอกว่าการทำอาหารเมนูตุ๋นนั้นไม่ใช่เรื่องยากและเสียเวลาอีกต่อไป เพราะเรามีไอเทมเด็ดสำหรับบ้านที่ชื่นชอบเมนูตุ๋นที่จะช่วยปรุงเมนูตุ๋นของคุณให้ออกมาเปื่อยนุ่มได้อย่างรวดเร็ว และไอเทมที่ว่านี้ก็คือ “หม้ออัดแรงดัน” นั่นเอง โดยวันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับหม้ออัดแรงดันให้มากขึ้น พร้อมทั้งแนะนำ 10 รุ่นเด็ด หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี เครื่องครัวที่จะมาช่วยให้การทำอาหารของคุณง่ายขึ้น

ทำความรู้จักกับหม้อแรงดันกันก่อน

ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อ หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี เรามาทำความรู้จักลักษณะการทำงานของหม้ออัดแรงดันกันก่อนว่ามีการทำงานเป็นแบบไหนถึงทำให้อาหารตุ๋นนั้นสามารถเสร็จได้อย่างรวดเร็ว โดยหม้ออัดแรงดันนั้นจะมีลักษณะเป็นหม้อที่มีฝาสำหรับปิดล็อคแน่นสนิทและมีวาล์วควบคุมแรงดันไอน้ำภายใน เมื่อทำการปรุงอาหาร อุณหภูมิภายนอกที่ของเหลวจะเริ่มเดือดก็คือ 100 องศาเซลเซียส อุณหภูมิที่เกิดขึ้นภายในหม้ออัดแรงดันก็จะสูงกว่านั้นเพราะแรงดันภายในที่เกิดขึ้นภายในหม้อนั่นเอง จึงทำให้อาหารสามารถสุกเร็วขึ้นได้ถึงกว่า 70% นั่นจึงทำให้หม้ออัดแรงดันสามารถปรุงอาหารประเภทเนื้อสัตว์ให้เปื่อยได้เร็วขึ้นมากกว่าปกติ ช่วยประหยัดเวลา ประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังช่วยคงคุณประโยชน์ของอาหารได้มากกว่าการตุ๋นแบบปกติ

วิธีเลือกหม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะสำหรับคุณ

รู้จักกับหม้ออัดแรงดันไปแล้วว่าคืออะไรและทำงานอย่างไร คราวนี้เรามาดูกันต่อว่าการจะเลือกหม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดีเอาไว้ในครัวที่บ้านควรต้องพิจารณาในเรื่องใดกันบ้าง

1. เลือกจากชนิดของหม้ออัดแรงดัน

หม้ออัดแรงดันสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ก็คือ

  • หม้ออัดแรงดันชนิดที่มีเสียงเตือน มีข้อดีตรงที่ เมื่อเกิดแรงดันในหม้อ ก็จะมีเสียงดังออกมาจากช่องระบายไอน้ำที่อยู่ด้านบนฝา ซึ่งก็ทำให้เราสามารถทราบได้ว่าภายในหม้อนั้นเกิดแรงดันขึ้นและทำให้สามารถกะระยะเวลาที่ใช้ปรุงอาหารได้ง่ายขึ้น หม้ออัดแรงดันประเภทนี้ก็เหมาะกับผู้ที่เริ่มปรุงอาหารโดยใช้หม้ออัดแรงดัน เพราะสามารถใช้งานง่ายและไม่ต้องคอยตรวจเช็คอาหารภายในหม้ออยู่เป็นระยะ แล้วยังเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทำเมนูที่ต้องใช้เวลานานอย่างเช่นการตุ๋นหรือเคี่ยวอีกด้วย
  • หม้ออัดแรงดันแบบสปริง มีจุดเด่นในเรื่องของการปรุงอาหารที่เงียบไร้เสียงรบกวน นอกจากนี้ก็ยังสามารถปรับแรงดันได้อย่างอิสระตามต้องการแล้วแต่ประเภทของอาหารที่ปรุง อย่างเช่นปรับเป็นระดับแรงดันต่ำเพื่อปรุงอาหารประเภทเมนูผัก ปรับระดับแรงดันสูงสำหรับปรุงเนื้อสัตว์ที่ค่อนข้างเปื่อยยากอย่างเช่นขาหมู ซี่โครงหมู หรือเนื้อวัว เป็นต้น ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีทักษะในเรื่องการปรุงอาหารกันอยู่แล้วและต้องการปรุงอาหารโดยใช้หม้ออัดแรงดันที่มีเมนูหลากหลายมากขึ้น

นอกจากนี้หม้ออัดแรงดันก็ยังมีรูปแบบการใช้งานให้เลือกก็คือแบบที่ไม่ใช้ไฟฟ้า โดยจะเป็นการใช้งานร่วมกับใช้กับเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้าและแบบที่ใช้ไฟฟ้าที่เพียงแค่เสียบปลั๊กก็สามารถใช้งานได้ทันที

2. เลือกจากวัสดุที่ใช้ทำหม้ออัดแรงดัน

การเลือกหม้ออัดแรงดันยังควรพิจารณาถึงวัสดุที่ใช้ทำหม้ออัดแรงดันด้วยเช่นกัน เพราะวัสดุที่ใช้ทำหม้ออัดแรงดันก็มีผลสำหรับการทำงานและประสิทธิภาพของหม้ออัดแรงดันด้วย โดยแบ่งออกเป็น

  • หม้ออัดแรงดันที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียม มีคุณสมบัติในการนำความร้อนได้ดี จึงทำให้หม้อสามารถทำความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาในการทำอาหารมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาจึงสามารถยกหรือเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวกและทำความสะอาดได้ง่าย แต่ข้อเสียของหม้ออัดแรงดันที่ทำมาจากอลูมิเนียมก็คือจะไม่สามารถกักเก็บความร้อนเอาไว้ได้นาน จึงไม่เหมาะสำหรับการปรุงอาหารที่เน่าเสียได้ง่าย อาหารที่มีความเป็นกรดหรือด่างสูง รวมไปถึงอาหารที่จำเป็นจะต้องมีการอุ่นให้ร้อนอยู่ตลอดเวลา
  • หม้ออัดแรงดันที่ใช้วัสดุเป็นสแตนเลส มีคุณสมบัติที่สามารถเก็บความร้อนได้ดีจึงทำให้อาหารสามารถอุ่นอยู่ในหม้อได้นานมากกว่า เหมาะสำหรับการปรุงอาหารที่ต้องใช้เวลานานโดยเฉพาะอาหารประเภทตุ๋น รวมไปถึงอาหารที่ต้องใช้ความร้อนสูง ซึ่งอัดแรงดันที่ใช้วัสดุสแตนเลสนี้นอกจากจะเก็บความร้อนได้ดีแล้วก็ยังบำรุงรักษาง่าย เกิดรอยขูดขีด สนิม และคราบสกปรกต่าง ๆ ได้ยาก และมีความเงางามดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ แต่ข้อเสียของหม้ออัดแรงดันแบบสแตนเลสก็คือค่อนข้างมีน้ำหนักมาก ถ้าหากปรุงอาหารในปริมาณมากก็อาจจะทำให้เคลื่อนย้ายหม้อได้ลำบาก
  • หม้ออัดแรงดันที่ใช้วัสดุผสมระหว่างสแตนเลสและอลูมิเนียม เป็นการนำเอาข้อดีของวัสดุทั้ง 2 แบบมาไว้ด้วยกัน ก็คือคุณสมบัติในการนำความร้อนได้ดีของอลูมิเนียมและคุณสมบัติที่สามารถกักเก็บความร้อนได้ดีของสแตนเลส ซึ่งถ้าหากใครยังลังเลไม่รู้จะเลือกหม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดีแนะนำให้เลือกหม้ออัดแรงดันที่ใช้วัสดุเป็นแบบผสมของอลูมิเนียมและสแตนเลส โดยลักษณะของหม้อประเภทนี้ก็จะมีตัวหม้ออลูมิเนียมขั้นกลางอยู่ระหว่างชั้นสแตนเลส จึงสามารถตอบโจทย์การปรุงอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งนำความร้อนได้ดีและกักเก็บความร้อนได้ดีภายในตัวเดียวกัน แม้มีราคาค่อนข้างสูง แต่เมื่อดูในภาพรวมของการใช้งานแล้วก็ถือได้ว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

3. เลือกหม้ออัดแรงดันที่มีค่าแรงดันตรงตามประเภทของเมนูอาหารที่ต้องการปรุง

ในการเลือกหม้ออัดแรงดัน สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือค่าแรงดันของหม้ออัดแรงดันนั่นเอง โดยค่าแรงดันที่แสดงของหม้ออัดแรงดันก็จะมีหน่วยเป็นกิโลปาสคาล (kPa) สังเกตดูง่าย ๆ ก็คือถ้าหม้ออัดแรงดันมีค่าแรงดันเยอะก็จะทำให้อุณหภูมิที่เกิดขึ้นภายในหม้อสูงตามไปด้วย จึงช่วยให้ประหยัดเวลาในการปรุงอาหารได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นถ้าหากเมนูของเราส่วนใหญ่แล้วเป็นวัตถุดิบประเภทที่สุกและเปื่อยได้ยากอย่างพวกเนื้อสัตว์ต่าง ๆ รวมไปถึงผักที่ต้องใช้เวลานานถึงจะเปื่อยอย่างเช่น หัวไชเท้า มะระ ก็แนะนำให้เลือกใช้แรงดันสูงในช่วงตั้งแต่ 80 kPa ขึ้นไป หรือถ้าหากปรุงอาหารเมนูผักตามปกติก็อาจจะใช้แรงดันแค่ประมาณ 50 kPa ก็เพียงพอแล้ว ดังนั้นถ้าหากเราไม่แน่ใจว่าจะเลือกตรงเมนูไหนหรืออย่างที่จะทำหลากหลายเมนูก็แนะนำให้เลือกหม้ออัดแรงดันที่สามารถปรับตั้งค่าแรงดันได้อย่างอิสระจะดีกว่า

4. เลือกขนาดของหม้ออัดแรงดันตามความต้องการใช้งานและสมาชิกในครอบครัว

ถ้าหากบ้านไหนมีสมาชิกในครอบครัวน้อยหรือเป็นคนโสดอยู่ตัวคนเดียว การเลือกหม้ออัดแรงดันที่มีขนาดไม่ใหญ่มากก็เพียงพอแล้ว อาจจะคิดง่าย ๆ โดยดูจากจำนวนของสมาชิกในครอบครัวว่ามีกี่คนแล้วบวกเพิ่มเข้าไปอีก 1 ลิตร อย่างเช่นถ้ามีกัน 1-2 คน ก็เลือกหม้ออัดแรงดันขนาด 2 หรือ 3 ลิตร ถ้าเป็นครอบครัวขนาดกลางอยู่กัน 3-5 คน ก็อาจเลือกแฟนหม้ออัดแรงดันที่มีความจุ 4 หรือ 5 ลิตร เป็นต้น นอกจากนี้ก็อย่าลืมดูด้วยว่าหม้ออัดแรงดันที่เราได้เลือกมานั้นสามารถใช้งานร่วมกับเตาประเภทไหนได้บ้าง จะได้ไม่เกิดปัญหาเมื่อซื้อหม้ออัดแรงดันมาแล้วไม่สามารถใช้งานร่วมกับเตาที่มีในบ้านได้นั่นเอง

แนะนำ 10 รุ่นเด็ด หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี

รู้จักวิธีเลือกหม้ออัดแรงดันกันไปแล้วว่าควรเลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน คราวนี้เรามาเข้าสู่10 รุ่นเด็ด หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดีกันเลยว่ารุ่นไหนที่น่าจะถูกใจคุณมากที่สุด

1. หม้ออัดแรงดัน Prestige รุ่น 57050-N

หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี หม้ออัดแรงดัน Prestige รุ่น 57050 N

สำหรับหม้ออัดแรงดัน Prestige รุ่น 57050-N มาพร้อมกับด้ามจับที่มีความแข็งแรง โดยมีความจุถึง 6 ลิตร ตอบโจทย์การปรุงอาหารได้อย่างหลากหลายเมนูไม่ว่าจะเป็นการ ต้ม ตุ๋น นึ่ง ด้วยไอน้ำที่หมุนเวียนและอุณหภูมิสูงกว่า 120 องศาเซลเซียส ช่วยทำให้อาหารสุกเร็วขึ้นถึง 50% ใช้วัสดุเป็นสแตนเลสคุณภาพพรีเมียมพร้อมเทคนิคพิเศษที่ช่วยทำให้ตัวหม้อมีความเงางาม ปลอดภัยด้วยระบบ Safety Lock & Valve พร้อมฝาสแตนเลสที่มีขอบยางปิดสนิท สามารถใช้งานร่วมกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้

2. หม้ออัดแรงดัน Seagull รุ่น 150000626

หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี หม้ออัดแรงดัน Seagull รุ่น 150000626

Seagull รุ่น 150000626 หม้ออัดแรงดันขนาด 6 ลิตร ที่ผลิตจาก Stainless Steel คุณภาพดีมีความทนทานอีกทั้งยังปลอดภัยต่อสุขภาพและช่วยกักเก็บประโยชน์ของอาหารเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ช่วยทำให้อาหารที่ปรุงสุกยากสามารถสุกได้เร็วขึ้นไม่ว่าจะเป็นเมนูต้มหรือตุ๋น มาพร้อมระบบระบายไอน้ำที่ช่วยควบคุมแรงดันภายในหม้อ โดยจะทำการระบายไอน้ำออกเมื่อมีความดันภายในหม้อเกินกว่า 60 KPa สำหรับการปรุงเมนูผัก และระบายน้ำออกเมื่อมีความดันภายในหม้อเดือนกว่า 100 KPa สำหรับเมนูเนื้อ จึงตอบโจทย์การปรุงอาหารได้อย่างหลากหลายทั้งเมนูผักและเนื้อได้อย่างลงตัว

3. หม้ออัดแรงดัน Tefal รุ่น P2530750

หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี หม้ออัดแรงดัน Tefal รุ่น P2530750

สำหรับรุ่นนี้เป็นหม้ออัดแรงดันที่จำหน่ายแบบ Online Exclusive มาพร้อมความจุขนาด 6 ลิตร สามารถปรุงอาหารได้หลากหลายเมนูอย่างง่ายดายภายในหม้อใบเดียวไม่ว่าจะเป็นการต้มหรือตุ๋น ก็สามารถทำให้อาหารมีความนุ่มเข้าเนื้อได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว มาพร้อม 2 โปรแกรมสำหรับเมนูอาหารประเภทผักและเนื้อสัตว์ พร้อมดีไซน์ฝาที่สามารถถอดออกเพื่อล้างทำความสะอาดได้อย่างสะดวกและสามารถล้างโดยใช้เครื่องล้างจานได้ ผลิตจากวัสดุ Stainless Steel ที่มีความทนทานและสามารถใช้งานได้กับเตาทุกประเภทรวมไปถึงเตาแม่เหล็กไฟฟ้า พร้อมความปลอดภัยในการใช้งานด้วยระบบป้องกัน 5 ชั้น ที่สำคัญราคาไม่แพงจนเกินไป

4. หม้ออัดแรงดัน OTTO รุ่น PC-225

หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี หม้ออัดแรงดัน OTTO รุ่น PC 225

หากใครกำลังมองหาหม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดีที่มีราคาไม่แพงเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน ขอแนะนำ OTTO หม้อแรงดัน PC-225 ขนาด 5 ลิตร ที่มาพร้อมดีไซน์สวยงามทันสมัยสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ปุ่มเดียว ช่วยประหยัดเวลาในการทำอาหารพร้อมระบบควบคุมความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน สามารถตั้งเวลาในการทำอาหารได้ 15-90 นาที ตอบโจทย์การปรุงอาหารได้หลายประเภทไม่ว่าจะเป็นการนึ่ง ต้ม ตุ๋น หรือทำซุปทำสตูว์ ด้วยพลังงานความร้อนสูงที่ได้จากไอน้ำจึงทำให้อาหารสุกและเปื่อยได้อย่างรวดเร็ว และยังคงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน

5. หม้ออัดแรงดัน Lacor รุ่น 71876

หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี หม้ออัดแรงดัน Lacor รุ่น 71876

หม้ออัดแรงดัน Lacor รุ่น 71876 เป็นหม้ออัดแรงดันสแตนเลสสตีลอย่างดี ของแบรนด์จากประเทศสเปน ขนาดความจุอยู่ที่ 6 ลิตร มีความแข็งแรงหนาทนทาน และออกแบบให้ตรงด้านใต้หม้อมีแผ่นทำความร้อนจึงทำให้หม้อร้อนเร็วและยังสามารถกระจายความร้อนได้ดีขึ้นทำให้อาหารไม่ติดหม้อและไม่ไหม้ โดยสามารถรับแรงดันได้ 0.8 บาร์ หรือ 80 กิโลปาสคาล จึงตอบโจทย์การปรุงอาหารประเภท ต้ม ตุ๋น ได้ภายในเวลาอันรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นเมนูผักหรือเนื้อสัตว์ สามารถใช้งานร่วมกับเตาได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า และเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

6. หม้ออัดแรงดัน HOMEMATE รุ่น HOM-127451

หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี หม้ออัดแรงดัน HOMEMATE รุ่น HOM 127451

ใครที่อยากได้หม้ออัดแรงดันที่สามารถเก็บความร้อนของอาหารได้อย่างยาวนาน ขอแนะนำ HOMEMATE รุ่น HOM-127451 หม้อตุ๋นไร้สาย ที่มาพร้อมความจุ 3.5 ลิตร ผลิตจากสแตนเลสคุณภาพดี ตัวหม้อออกแบบด้วยความพิเศษเพื่อให้สามารถเก็บความร้อนของอาหารได้อย่างยาวนานถึง 15 ชั่วโมงโดยที่ไม่ต้องเสียบปลั๊ก ช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี โดยที่ตัวหม้อด้านไหนก็สามารถถอดมาใช้งานได้กับเตาแก๊สและเตาไฟฟ้ารวมไปถึงเตาแม่เหล็กไฟฟ้า เหมาะสำหรับการใช้งานภายในบ้านหรือจะนำออกไปปาร์ตี้ ท่องเที่ยวนอกสถานที่ก็ได้

7. หม้ออัดแรงดัน Clartè รุ่น FC45PC

หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี หม้ออัดแรงดัน Clarte รุ่น FC45PC

Clartè รุ่น FC45PC หม้ออัดแรงดันระบบไฟฟ้าขนาด 6 ลิตรที่ช่วยให้คุณสามารถปรุงอาหารได้อย่างหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ต้ม ตุ๋น เคี่ยว นึ่ง อุ่น รวมไปถึงการใช้หุงข้าว ใช้งานได้ง่ายและมีเมนูปรุงอาหารให้เลือกหลากหลายที่สามารถปรับการทำงานได้อย่างอิสระ มาพร้อมระบบตั้งเวลาอัตโนมัติที่สามารถตั้งเวลาทำงานได้ถึง 2 ชั่วโมง และตั้งเวลาทำงานล่วงหน้าได้ 24 ชั่วโมง ตัวหม้อด้านนอกผลิตจากสแตนเลสเคลือบเงาอย่างดี ตัวหม้อด้านในมีความหนาและแข็งแรงพร้อมเคลือบ 2 ชั้นจาก Dupont ไม่ทำให้อาหารติดตัวหม้อ มีความปลอดภัยสูงด้วยระบบล็อคแบบนี้ก็ภัย และเก็บความร้อนเอาไว้ได้นานโดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก

8. หม้ออัดแรงดันไฟฟ้า Accord Prevail รุ่น AC-4118

หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี หม้ออัดแรงดันไฟฟ้า Accord Prevail รุ่น AC 4118

ใครกำลังอยากได้หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดีที่มีขนาดเล็กกำลังดี ขอแนะนำหม้ออัดแรงดันไฟฟ้า Accord Prevail รุ่น AC-4118 ที่มาพร้อมความจุ 2.5 ลิตร สามารถประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย ทั้งนึ่ง ต้ม ตุ๋น ทำซุปหรือทำสตูว์ รวมพลังงานความร้อนสูงจากไอน้ำจึงทำให้อาหารสุกและเปื่อยได้อย่างรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาและคงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารเอาไว้ได้อย่างครบถ้วนไม่สูญเสียรสชาติ ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบควบคุมความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ผลิตจากวัสดุคุณภาพดีไม่เป็นสนิมพร้อมเคลือบดูปองท์ สามารถล้างทำความสะอาดได้ง่าย

9. หม้ออัดแรงดัน Zwilling รุ่น Eco Quick

หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี หม้ออัดแรงดัน Zwilling รุ่น Eco Quick

Zwilling รุ่น Eco Quick หม้ออัดแรงดันคุณภาพระดับพรีเมี่ยมที่มาพร้อมนวัตกรรมซิกม่าคลาสสิกของแบรนด์ Zwilling ที่มีแกนกลางเป็นอลูมิเนียมสามารถกระจายความร้อนได้ดี ในขณะที่ตัวภาชนะทำจากสแตนเลส สตีล 18/10 จึงสามารถนำความร้อนและกักเก็บความร้อนได้ สามารถดูแลรักษาได้ง่ายไม่มีรอยขีดข่วน และไม่ทิ้งกลิ่นอาหารติดภาชนะ มาพร้อมดีไซน์ที่มีความสวยงาม สามารถใช้งานร่วมกับเตาทุกประเภทรวมไปถึงเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ช่วยให้คุณทำอาหารให้สุกและเปื่อยได้อย่างรวดเร็ว ใช้พลังงานน้อย และคงคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติดั้งเดิมของอาหารเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

10. หม้ออัดแรงดัน LVNI รุ่น HM93 ขนาด 18 cm

หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี หม้ออัดแรงดัน LVNI รุ่น HM93

สำหรับใครที่กำลังอยากได้หม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดีที่ราคาเบา ๆ ขอแนะนำ LVNI หม้อตุ๋นอัดแรงดันที่ผลิตจากอลูมิเนียมคุณภาพสูง มาพร้อมคุณสมบัติที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามปริมาณและประเภทของเมนูอาหารที่ต้องการจะปรุง มาพร้อมความจุ 3.2 ลิตร สามารถใช้งานร่วมกับเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า รวมไปถึงเตาไฟฟ้าเซรามิค สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยด้วยการออกแบบฝาเปิดที่จับง่าย กันลื่น ด้ามจับทนความร้อน และฝาปิดมีซีลวงแหวนเพื่อป้องกันไม่ให้แรงดันและก๊าซภายในออกมาในระหว่างใช้งาน ช่วยให้ปรุงอาหารได้สุกและเปื่อยอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถใช้หุงข้าวหรือทำซุปทำสตูว์ได้อีกด้วย

บทส่งท้ายจากผู้เขียน

จะเห็นได้ว่าหม้ออัดแรงดันนั้นมีตั้งแต่รุ่นที่ราคาหลักพันต้น ๆ ไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งการจะเลือกหม้ออัดแรงดัน ยี่ห้อไหนดี ก็ควรที่จะพิจารณาดูความต้องการใช้งานและเมนูอาหารที่เราต้องการทำกันเสียก่อน รวมไปถึงรูปแบบของเตาปรุงอาหารที่ใช้ภายในบ้าน และสมาชิกภายในบ้าน เพื่อที่จะได้เลือกรูปแบบและคุณสมบัติของหม้ออัดแรงดันได้อย่างเหมาะสมสำหรับความต้องการให้ได้มากที่สุด

หมวดหมู่