“น้ำหอม” ไอเทมเด็ดที่จะช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดี เติมเสน่ห์ให้ชวนหลงใหล แถมเรียกคืนความมั่นใจให้หนุ่มๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะน้ำหอมผู้ชายส่วนใหญ่นั้นจะมีแนวกลิ่นที่สะอาด เพิ่มความสุขุม น่าค้นหา หรือแม้แต่กลิ่นสดชื่นแนวสปอร์ตที่จะช่วยกลบกลิ่นเหงื่อไคลจากการทำกิจกรรมต่างๆ มาตลอดทั้งวันได้ และน้ำหอมผู้ชายทุกวันนี้ก็มีให้เลือกหลากหลายแนวกลิ่น หลากหลายยี่ห้อตั้งแต่ระดับแบรนด์ดีไซน์เนอร์ราคาเข้าถึงง่าย ไปจนถึงน้ำหอมแบรนด์ Niche ที่มีกลิ่นหอมแปลกไม่เหมือนใครแถมมาในราคาที่สูงลิบลิ่ว ซึ่งหนุ่มๆ ที่หัดเข้าวงการน้ำหอมก็อาจรู้สึกสับสนได้ว่าควรจะเลือกซื้อน้ำหอมผู้ชาย ยี่ห้อไหนดี ที่จะมีแนวกลิ่นเหมาะกับบุคลิกของตัวเองมากที่สุด วันนี้เราเลยรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากพร้อมแนะนำน้ำหอมจากแบรนด์ต่างๆ ให้คุณด้วย
วิธีเลือกน้ำหอมผู้ชาย
ในการจะเลือก น้ำหอมผู้ชาย ยี่ห้อไหนดีนั้น มีองค์ประกอบหลายอย่างด้วยกันที่เราสามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์เบื้องต้นในการเลือกได้ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. เลือกน้ำหอมผู้ชายจากแนวกลิ่นที่ชอบ
เพราะเรื่องกลิ่นนั้นเป็นเรื่องปัจเจกบุคคลการจะเลือกซื้อน้ำหอมผู้ชาย ยี่ห้อไหนดี คุณจึงควรมองหาแนวกลิ่นที่ตัวเองชอบให้เจอ เพื่อที่จะได้ศึกษาน้ำหอมยี่ห้อนั้นๆ ว่ามีแนวกลิ่นที่ตรงกับกลิ่นที่ชอบหรือไม่ ซึ่งแนวกลิ่นน้ำหอมของผู้ชายก็มีหลากหลายพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นแนวกลิ่น Citrus ออกแนวสดชื่นสดใส แนวกลิ่น Woody กลิ่นไม้ให้ความอบอุ่น แนวกลิ่น Leather กลิ่นหนังให้ความรู้สึกสุขุมนุ่มลึก แนวกลิ่น Aquatic ให้ความรู้สึกสะอาดสดชื่น แนวกลิ่น Oriental กลิ่นเครื่องเทศเพิ่มเสน่ห์เย้ายวน เป็นต้น
2. เลือกน้ำหอมผู้ชายตามวาระโอกาสที่ใช้
แม้ว่าคุณจะเลือกน้ำหอมกลิ่นที่ชอบยี่ห้อที่ใช่มาได้แล้ว แต่รู้หรือไม่? ว่าบางทีการใช้น้ำหอมก็อาจต้องดูวาระโอกาส รวมไปถึงสภาพอากาศ ณ ขณะนั้นด้วย เพื่อเป็นการเสริมบุคลิกที่ดีและเพิ่มความมั่นใจได้แบบเต็มที่ เช่น หากคุณต้องการความเป็นทางการ มีมาดเป็นหนุ่มสุขุม ก็ควรเลือกใช้น้ำหอมผู้ชายแนวกลิ่น Woody แต่ถ้าต้องการฉีดน้ำหอมในวันสบายๆ หรือไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ก็ขอแนะนำให้เลือกฉีดน้ำหอมผู้ชายแนวกลิ่น Citrus หรือ Aquatic เพื่อเพิ่มความสบายจมูกทั้งแก่ตัวคุณเองและคนรอบข้าง
3. คำนึงถึงระดับความเข้มข้นของน้ำหอม
น้ำหอมผู้ชายตัวไหนที่มีกลิ่นหอมติดตัวตลอดทั้งวัน? ถ้าหากว่าคุณต้องการน้ำหอมที่ติดแน่นทนนาน กลิ่นไม่จางไม่หายระหว่างวันแล้วล่ะก็ อันดับแรกคุณควรทำความเข้าใจกับระดับความเข้มข้นของน้ำหอมเสียก่อน ซึ่งระดับความเข้มข้นของน้ำหอมนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับหลักๆ คือ
- Eau de Parfum น้ำหอมเข้มข้นติดทนนานกว่า 5-12 ชั่วโมง
- Eau de Toilette น้ำหอมที่มีความฟุ้งกระจายประมาณหนึ่ง สามารถติดทนบนพื้นผิวได้ 3-5 ชั่วโมง และสุดท้ายน้ำหอมประเภท
- Eau de Cologne ระดับความเข้มข้นน้อยสุด ติดทนเพียง 1-2 ชั่วโมง สามารถฉีดเติมกลิ่นเดิม หรือเปลี่ยนกลิ่นใหม่ระหว่างวันได้
4. ลองหาน้ำหอมผู้ชายขนาดทดลองมาใช้ก่อน
ถ้ายังไม่มั่นใจว่าจะเลือกซื้อน้ำหอมผู้ชาย ยี่ห้อไหนดีที่จะมีแนวกลิ่นที่ตรงใจ หรือมีความติดทนมากน้อยแค่ไหน เราขอแนะนำว่าให้ลองหาซื้อน้ำหอมผู้ชายขนาดทดลอง หรืออาจเป็นน้ำหอมแบ่งขายมาใช้ก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจ หรือถ้าใครมีเวลาไปห้างสรรพสินค้าที่มีเคาท์เตอร์จำหน่ายน้ำหอมยี่ห้อนั้นๆ ก็สามารถขอพนักงานลองดมกลิ่น ลองฉีดน้ำหอมได้เช่นกัน
น้ำหอมผู้ชาย ยี่ห้อไหนดี
ได้ทราบกันไปแล้วว่าการจะเลือก น้ำหอมผู้ชาย ยี่ห้อไหนดีนั้น มีสิ่งใดบ้างที่เราต้องให้ความสำคัญ คราวนี้เรามาดูกันเลยว่ามีกลิ่นไหน จากแบรนด์ใด ที่น่าสนใจและอาจจะเหมาะกับคุณบ้าง
1. น้ำหอมผู้ชาย Bvlgari Aqva Homme EDT
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
น้ำหอมแนวกลิ่น Aromatic Aquatic | น้ำหอมประเภท EDT ติดทน 4-6 ชั่วโมง |
Top Note กลิ่นหอมสดชื่นจากส้มแมนดาริน | กลิ่นฉุนในช่วงแรก แนะนำฉีดทิ้งประมาณ 30 นาทีกลิ่นจะนุ่มละมุนมากขึ้น |
Middle Note กลิ่นหอมสะอาดละมุนจากดอกลาเวนเดอร์ | |
Base Note หอมนุ่มลึกจากอำพันและใบพิมเสน |
มาเริ่มต้นรายชื่อน้ำหอมผู้ชาย ยี่ห้อไหนดี กันด้วยน้ำหอมที่มีแนวกลิ่นเย็นสบายหอมละมุน กลิ่นไม่หนักมากเกินไปจนรบกวนคนรอบข้าง โดยเราขอแนะนำ Bvlgari Aqva Homme EDT น้ำหอมผู้ชายระดับตำนานที่หนุ่มๆ ควรมีติดโต๊ะเครื่องแป้ง เพราะเขาเปิดมาด้วยความหอมฉุนแน่นทว่ารู้สึกสดชื่นจากส้มแมนดาริน ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความหอมละมุนของดอกลาเวนเดอร์ และทิ้งกลิ่นหอมนุ่มลึกติดผิวกายจากอำพันและใบพิมเสน เหมาะสำหรับใช้ในทุกโอกาส โดยเฉพาะในชีวิตประจำวัน
2. น้ำหอมผู้ชาย Christian Dior Sauvage Eau De Toilette
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
แนวกลิ่น Aromatic Fougere | ประเภทน้ำหอม EDT |
Top Note กลิ่นหอมจัดจ้านจากมะกรูดและพริกไทย | เหมาะสำหรับวัยทำงาน |
Middle Note กลิ่นหอมละมุนสดชื่นลงตัว | |
Base Note กลิ่นหอมนุ่มลึกจาก Ambroxan และไม้ซีดาร์ |
ที่สุดของน้ำหอมผู้ชายที่หนุ่มๆ เทใจกันแบบรัวๆ ต้องยกให้กับ Sauvage น้ำหอมผู้ชายที่ได้พรีเซนต์น้ำหอมผ่านพรีเซนเตอร์อย่าง Johny Depp ได้อย่างเหมาะสม สื่อถึงความดิบๆ เซอร์ๆ แต่ไม่เถื่อน ยังคงความหรูหราน่าค้นหาอยู่ โดยมีกลิ่นจัดจ้านคลอเคลียไปตั้งแต่กลิ่นแรกจนถึงกลิ่นสุดท้าย ระหว่างทางมอบกลิ่นหอมละมุนจากดอกลาเวนเดอร์ และเพิ่มความสดชื่นเล็กๆ น้อยๆ จากใบพิมเสน พร้อมทิ้งกลิ่นหอมนุ่มลึกให้ดูน่าค้นหากว่าที่เคยจาก Ambroxan และไม้ซีดาร์ ตอบโจทย์ น้ำหอมผู้ชาย ที่หนุ่มๆ ต้องมีไว้ในครอบครอบ
3. น้ำหอมผู้ชาย Dolce & Gabbana The One EDP For Men
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
แนวกลิ่น Woody Spicy | น้ำหอมประเภท EDP กลิ่นติดทนนาน |
Top Note หอมสดชื่นโทนซิตรัสจากเกรปฟรุ๊ตและโหระพา | สเปรย์แรกจะมีความเข้มข้นสูง แนะนำปล่อย Dry Down กลิ่นจะหอมกระจาย |
Middle Note หอมกลิ่นเครื่องเทศชัดเจนจากกระวาน ขิง และเพิ่มความละมุนจากดอกส้ม | |
Base Note หอมนุ่มลึกสไตล์หนุ่มสุขุมด้วยกลิ่นของยาสูบ อำพัน และไม้ซีดาร์ |
เสริมลุคคุณชายสุดหรูออกเดตกับสาวอยู่บนตึกระฟ้า หรือจะเพิ่มความมั่นใจในวันที่ต้องทำงานอยู่ในออฟฟิศแอร์เย็นฉ่ำทั้งวัน ด้วยน้ำหอมแนวกลิ่น Woody Spicy ของ Dolce & Gabbana The One EDP For Men น้ำหอมผู้ชายสัญชาติอิตาลี ที่เปิดกลิ่นมาด้วยความหอมสดชื่นแนวซีตรัสจากเกรปฟรุ๊ตและโหระพา จากนั้นได้เวลาระเบิดความหอมจัดจ้านของเครื่องเทศแบบจัดเต็มทั้งกระวาน ขิง และคลอความหอมละมุนติดเปรี้ยวเล็กน้อยจากดอกส้ม ก่อนจะทิ้งกลิ่นหอมนุ่มสุขุมติดผิวด้วยกลิ่นของยาสูบ อำพัน และไม้ซีดาร์ เรียกได้ว่าถ้ายังไม่รู้จะเลือกน้ำหอมผู้ชาย ยี่ห้อไหนดี แล้วล่ะก็ นี่เป็นน้ำหอมที่จะช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้คุณดูดีกว่าที่เคยอย่างแน่นอน
4. น้ำหอมผู้ชาย Burberry Brit For Him EDT
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
น้ำหอมแนวกลิ่น Amber Woody | น้ำหอมประเภท EDT |
Top Note มีกลิ่นหอมสดชื่นโทนซิตรัสจากส้มแมนดาริน เกรปฟรุ๊ต กระวาน และขิง | ไม่เหมาะใช้ช่วงหน้าร้อน เนื่องจากกลิ่นมีความแน่นฟุ้งกระจาย |
Middle Note มีกลิ่นเผ็ดร้อนที่ตัดด้วยความหอมหวานจากดอกกุหลาบ | |
Base Note กลิ่นสไตล์ Woody จากไม้ซีดาร์ ถั่วทองกา พิเสน และมีความหอมละมุนจากมัสก์ |
เมื่อลมหนาวมาเยือนเมื่อไหร่ หรือหากจำเป็นต้องอยู่ในสถานที่ที่แอร์เย็นฉ่ำตลอดวัน เราขอแนะนำให้คุณลองฉีด Burberry Brit For Him EDT สัก 5-6 สเปรย์ รับรองว่ากลิ่นกายของคุณจะมีแต่ความหอมละมุนสดชื่นฟุ้งกระจายตลอดวัน แต่ยังคงไว้ถึงความแข็งแกร่งนุ่มลึกสไตล์น้ำหอมผู้ชายอยู่ โดยเป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นแนวเครื่องเทศตัดด้วยความหอมหวานของกุหลาบ และทิ้งกลิ่นติดผิวแนว Woody จากไม้ซีดาร์ พร้อมมีความละมุนเล็กน้อยจากมัสก์
5. น้ำหอมผู้ชาย Versace Eros Eau De Toilette EDT
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
แนวกลิ่น Aromatic Fougere | น้ำหอมประเภท EDT ติดทนนาน 3-5 ชั่วโมง |
Top Note กลิ่นหอมสดชื่นผ่อนคลาย | เหมาะสำหรับใช้ทุกวันและทุกโอกาส |
Middle Note กลิ่นหอมนุ่มลึก | |
Base Note ทิ้งท้ายกลิ่นหวานเล็กน้อย |
หากคุณกำลังมองหาน้ำหอมผู้ชายที่สามารถใช้ได้ทุกวันทุกโอกาส แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรเลือกน้ำหอมผู้ชาย ยี่ห้อไหนดีที่จะมีแนวกลิ่นแบบนั้น เราขอแนะนำ Versace Eros Eau De Toilette EDT อีกหนึ่งน้ำหอมระดับตำนานที่เรียกได้ว่าเป็นตัวกันตายของหนุ่มๆ เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นสดชื่นผ่อนคลายติดเขียวนิดๆ มีความอบอุ่นข่วงปลายหน่อยๆ ซึ่งเปิดกลิ่นมาด้วยความสดชื่นแนวซีตรัส คละเคล้าไปกับกลิ่นหอมนุ่มลึกจาก Ambroxan และปิดด้วยความหอมอบอุ่นแนว Woody พร้อมความหอมหวานละมุนจากวานิลลา
6. น้ำหอมผู้ชาย Tommy Hilfiger Tommy Boy EDT
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
แนวกลิ่น Citrus Aromatic | ระดับความเข้มข้นของน้ำหอม ระดับ EDT |
Top Note เพิ่มความสดชื่นผ่อนคลาย | กลิ่นหอมสบาย ไม่ฉุนเกินไป ใช้ได้ทุกโอกาส |
Middle Note มีกลิ่นติดหวานหอมเล็กน้อยของกุหลาบ | |
Base Note ทิ้งกลิ่นหอมเขียวที่มีความละมุนเล็กน้อย |
ถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบแนวกลิ่นซีตรัส หอมสดชื่นติดเปรี้ยวเล็กน้อย และเป็นแนวกลิ่นน้ำหอมที่สามารถใช้ได้ทุกวันทุกโอกาส ไม่ว่าคุณจะอยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำหรือกลางแจ้งในที่สาธารณะก็รับรองว่าไม่ทำร้ายคนรอบข้างอย่างแน่นอน ซึ่ง Tommy Hilfiger Tommy Boy EDT เป็นน้ำหอมผู้ชายที่เปิดกลิ่นแรกมาได้อย่างสดชื่นจากมินต์ เกรปฟรุ๊ต เลม่อน และตัดเข้าความหอมละมุนติดหวานเล็กน้อยจากลาเวนเดอร์ กุหลาบ ก่อนจะทิ้งกลิ่นหอมเขียวนุ่มลึกที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างกระบองเพชร อำพัน และดอกฝ้าย ถือว่าเป็นน้ำหอมผู้ชายที่ใช้ได้ทุกโอกาส
7. น้ำหอมผู้ชาย Montblanc Legend EDT
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
แนวกลิ่น Aromatic Fougere | น้ำหอมประเภท EDT |
Top Note เปิดกลิ่นหวานสดชื่นเล็กน้อย | เหมาะสำหรับเสริมลุคให้ดูสุขุม มี Class |
Middle Note เพิ่มความ Fruity เล็กน้อยด้วยกลิ่นผลไม้อบแห้ง | |
Base Note ทิ้งกลิ่นหอมนุ่มลึกผ่อนคลายจากถั่วทองกา และไม้จันทน์ |
น้ำหอมผู้ชายอีกหนึ่งยี่ห้อที่เป็นขวัญใจหนุ่มๆ ชาวไทย เนื่องด้วย Montblanc Legend EDT มีแนวกลิ่นที่ค่อนข้างสะอาดแต่ก็แฝงไปด้วยความสดชื่นจากผลไม้แนวซีตรัสจำพวกสับปะรด เลม่อน มะกรูดและมีความนุ่มลึกของถั่วทองกากับไม้จันทน์ผสมกันได้อย่างลงตัว ที่จะช่วยเสริมลุคให้คุณดูมีความสุขุมและเรียบหรูดูแพง แถมระหว่างทางยังมีกลิ่นฟรุ๊ตตี้เล็กน้อยช่วยเพิ่มลุคขี้เล่นให้หนุ่มๆ ดูมีสเน่ห์มากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
8. น้ำหอมผู้ชาย Issey Miyake L’Eau D’Issey Pour Homme EDT
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
แนวกลิ่น Woody Aquatic | น้ำหอมประเภท EDT |
Top Note เปิดด้วยกลิ่นโทนซีตรัสหอมสดชื่น | กลิ่นใช้ง่าย เหมาะใช้งานช่วงกลางวัน |
Middle Note มีความหอมละมุนของดอกไม้นานาชนิด | |
Base Note เพิ่มความหอมนุ่มลึกสไตล์น้ำหอมผู้ชาย |
อีกหนึ่งน้ำหอมผู้ชายที่ใช้ง่าย เหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆ ของเมืองไทย ต้องยกให้ Issey Miyake L’Eau D’Issey Pour Homme EDT น้ำหอมผู้ชายแนวกลิ่น Woody Aquatic กลิ่นมีความสะอาดสดชื่นจากผลไม้ซีตรัส เช่น เลม่อน ยูซุ มะกรูด ส้มแมนดาริน ตัดด้วยความหอมหวานเล็กน้อยจากดอกไม้นานาชนิด แล้วทิ้งกลิ่นกายที่มีความสะอาดทว่านุ่มลึกอบอุ่นจากหญ้าแฝก ไม้จันทน์ ซีดาร์ และอำพัน ช่วยมอบลุคให้คุณดูเป็นผู้ชายที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย
9. น้ำหอมผู้ชาย Madame Fin Classic
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
แนวกลิ่น Woody Spicy | น้ำหอมประเภท EDP |
มีส่วนผสมของเครื่องเทศ เช่น กานพลู อบเชย เพิ่มความเซ็กซี่เย้ายวน | น้ำหอม Unisex เหมาะสำหรับทุกเพศ |
หอมละมุนนุ่มลึกด้วยการผสมผสานระหว่างกลิ่นวานิลลา ดอกเจเรเนียม และอำพัน | |
ทางแบรนด์เคลมว่าติดทนนาน 10-12 ชั่วโมง |
Madame Fin Classic น้ำหอมสัญชาติไทยถูกและดีที่มาพร้อมกับแนวกลิ่น Woody Spicy อัดแน่นไปด้วยกลิ่นเครื่องเทศ เช่น กานพลู อบเชย คอยช่วยเพิ่มความเย้ายวนให้หนุ่ม ๆ แบบจัดเต็ม ไปพร้อมๆ กับเติมความหอมนุ่มลึกจากการผสมผสานระหว่างวานิลลา ดอกเจเรเนียม และอำพัน โดยทางแบรนด์เคลมไว้เลยว่าสามารถมอบกลิ่นหอมยาวนานมากถึง 10-12 ชั่วโมงและยังเป็นน้ำหอม Unisex สามารถใช้ได้กับทุกเพศอีกด้วย
10. น้ำหอมผู้ชาย Giorgio Armani Acqua di Gio Profumo for Men
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
แนวกลิ่น Aromatic Aquatic | น้ำหอมประเภท EDT |
Top Note เปิดด้วยความสดชื่นจากพืชผักผลไม้กลุ่มซีตรัส | เหมาะสำหรับฉีดช่วงซัมเมอร์ หรือใช้ช่วงกลางวัน |
Middle Note เพิ่มความสดชื่นด้วยกลิ่นไอทะเลและความหอมละมุนจากดอกไม้ | |
Base Note ปิดด้วยกลิ่นหอมละมุนนุ่มลึก |
ถ้าคุณกำลังมองหาน้ำหอมผู้ชายที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆ ของประเทศไทย แต่ก็มีตัวเลือกมากมายจนเลือกไม่ถูกว่าจะซื้อน้ำหอมผู้ชาย ยี่ห้อไหนดีที่จะมีกลิ่นสดชื่นสะอาดๆ แต่ยังคงความหอมนุ่มลึกสไตล์ผู้ชายเท่ๆ ไว้อยู่ เราขอแนะนำให้ทำความรู้จักกับ Giorgio Armani Acqua di Gio Profumo for Men น้ำหอมผู้ชายแนวกลิ่น Aromatic Aquatic เด่นด้วยกลิ่นซีตรัส ไอทะเล ตัดด้วยความละมุนของมวลดอกไม้ และมีความหอมนุ่มลึกจากอำพัน โอ๊คมอส และไม้ซีดาร์
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
ก็จบไปแล้วกับการแนะนำน้ำหอมผู้ชายทั้ง 10 ยี่ห้อที่เราคัดมาให้ทำความรู้จักกันแบบเน้นๆ ว่ามีแนวกลิ่นแบบไหน เหมาะสำหรับฉีดในช่วงวาระโอกาสใด พร้อมทั้งยังได้หยิบเอาเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ในการเลือกซื้อน้ำหอมผู้ชายมาฝากอีกด้วย เชื่อว่าอ่านจบแล้ว หนุ่มๆ จะสามารถตอบคำถามตัวเองได้ว่าควรเลือกซื้อน้ำหอมผู้ชาย ยี่ห้อไหนดีให้ได้กลิ่นที่ชอบยี่ห้อที่ใช่ เท่านี้ก็จะได้ไอเทมเด็ดมาเพิ่มเสน่ห์สร้างความมั่นใจให้ตัวเองในทุกๆ วันได้แล้วล่ะ