ถ้าถามว่าเล่นเกมใช้หูฟังทั่วไปเพียงพอหรือเปล่า มันก็พอได้อยู่ครับ แต่สำหรับคนเล่นเกมจริงจังแล้ว ยังไงก็ต้องเลือกหูฟังเกมมิ่ง (Gaming Headset) ที่ดีไซน์มาเพื่อการเล่นเกมไว้ก่อน เพราะประสบการณ์ที่จะได้รับบอกเลยว่าแตกต่างชัดเจนกับการใช้หูฟังธรรมดาทั่วไปที่เน้นให้เสียงแหลมแบบ Treble เป็นหลัก ซี่งคุณภาพของเสียงในเกมส่วนใหญ่มักไม่ค่อยมีเสียงแหลม แต่หูฟังที่เป็นเกมมิ่งเกียร์จะมีคาแรกเตอร์ของเสียง Bass ที่หนักแน่นและตอบโจทย์ของคนเล่นเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบ ยิ่งถ้าเป็นเกมสาย FPS บอกเลยว่าเสียงยิงปืนมันช่างสมจริง เสียงฝีเท้า เสียงสกิล หรือเสียงจากรอบด้าน นี่คือคมชัดทุกอณู พูดได้เลยว่าหูฟังเกมมิ่งเป็นไอเทมที่มีมาเพื่อช่วยสร้างความได้เปรียบในการเล่นเกมอย่างแท้จริง
ปัจจุบันการจะหาหูฟังที่เป็น Gaming Headset ดีๆ มาสักตัวมันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะมีสินค้าจากค่ายแบรนด์เนมผลิตออกมาตอบโจทย์มากมาย แถมตามสื่อโซเชียลแพลตฟอร์มต่างๆ ยังมีการรีวิวตัวโปรดักต์ บอกข้อดีข้อเสียของสินค้าให้เราได้พิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกอีกด้วย
วันนี้เราคัดมาให้แล้วกับหูฟังเกมมิ่งแบรนด์เนมยอดฮิตติดชาร์จขายดีอันดับต้นๆ บนแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ระดับโลกอย่าง Amazon แต่จะมีรุ่นไหน ที่น่าคบหาดูใจจนต้องยอมเปย์เอาไปอยู่ด้วยนั้นก็ต้องมาดูกันครับ ส่วนถ้าเพื่อนๆ อยากไปเดินเลือก Gaming Headset ด้วยตัวเอง เราก็มีวิธีการเลือกแบบเข้าใจง่ายๆ มาแนะนำด้วยเช่นกัน
สารบัญ
แบบไหนที่เรียกว่าชุดหูฟังเกมมิ่ง (Gaming Headset)
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าว่าไอ้ที่เรียกว่าหูฟังเกมมิ่งนี่มันคือแบบไหนยังไงกันแน่ ถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดินคงต้องบอกว่า Gaming Headset ก็คือหูฟังที่ทำออกมารองรับการเล่นเกมนั่นแหละ แต่ถ้าเอาให้ชัดเจนคือ หูฟังเกมมิ่งเกียร์จะต้องมี “ไมโครโฟน” ติดมาด้วยเพื่อที่เกมเมอร์อย่างเราใช้พูดคุยกับเพื่อร่วมทีมระหว่างเล่นเกม ซึ่งเกมที่ต้องการทีมเวิร์คแน่นๆ อย่างเกมแนว MOBA หรือ FPS นี่บอกเลยว่าไมค์เป็นสิ่งจำเป็นมาก
สำหรับหูฟังที่เน้นการใช้งานทั่วไป เช่น ฟังเพลง ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่คุณภาพของเสียงเบส และเสียงแหลม แต่หูฟังเกมมิ่งจะโฟกัสไปที่ความแม่นยำ และความชัดเป๊ะของเสียงรอบทิศทางมากกว่า ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ จะมีแถมมาเพิ่มให้มากน้อยแค่ไหนก็อยู่ที่ความใจป้ำของทางค่ายผู้ผลิต โดยพื้นฐานแล้วหูฟังเกมมิ่งจะถูกปรับจูนมาให้เหล่าเกมเมอร์สามารถได้ยินแหล่งที่มาของเสียงได้แบบครบครัน และเคลียร์มากๆ เลยนั่นเอง
การใช้หูฟังที่ทำมารองรับการเล่นเกมโดยเฉพาะจะช่วยให้การเล่นเกมแนว FPS เป็นอะไรที่ง่ายกว่าเดิมเยอะ เพราะคุณภาพของเสียงที่ปรับจูนมาเป็นอย่างดีจะช่วยให้ทุกความเคลื่อนไหวของศัตรูอยู่ในสายตาของเราไม่มีพลาดแม้แต่ช็อตเดียว
เลือกหูฟังเกมมิ่งแบบไหนอย่างไร
อันดับแรกเลยนั้น การจะเลือกหูฟังเกมมิ่งให้ตรงกับความต้องการของเราให้มากที่สุดก็ต้องรู้ก่อนว่าหูฟังแต่ละชนิดถูกแบ่งออกจากกันด้วยอะไรบ้าง ที่สังเกตได้ง่ายๆ เป็นอย่งแรกก็คือรูปแบบของการเชื่อมต่อ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 1) แบบมีสาย และ 2) แบบไร้สาย
เลือกหูฟังจากรูปแบบการเชื่อมต่อ
หูฟังแบบมีสาย (Wired) ได้เสียง คุณภาพชัดเป๊ะ
ปัจจุบัน เทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ส่งสัญญาณเสียงไปยังชุดหูฟังมีอยู่ 2 วิธีคือ แบบที่ต้องพึ่งสาย (Wired) และแบบไม่ต้องมีสาย (Wireless) ซึ่งแบบแรกต้องใช้สาย Cable ในการเชื่อมต่อสัญญาณตรง ข้อดีของการแปลงสัญญาณผ่านสายโดยตรงคือคุณภาพของเสียงที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด เนื้อเสียงจะมาเต็มๆ แบบครบทุกอณู นอกจากนี้ยังตัดจบเรื่องการดีเลย์ของสัญญาณ แถมไม่ต้องกังวลว่าสัญญาณจะถูกแทรกระหว่างการใช้งานอีกต่างหาก
แต่ข้อด้อยของหูฟังที่ต้องใช้สายก็ยังมีอยู่นั่นคือทำให้การเคลื่อนไหวหรือมูฟเม้นท์ระหว่างใช้งานทำได้อย่างจำกัด แต่จะมากน้อยแค่ไหนก็อยู่ที่ความยาวของสายที่มีมาให้นั่นเอง สำหรับใครที่เล่นเกมบนเครื่องคอนโซลของ PS4 อาจจะไม่ต้องเจอกับปัญหาเรื่องความยาวสาย เพราะตัวจอยมีพอร์ตเชื่อมสัญญาณเสียงในตัว ทำให้เวลาเคลื่อนไหวทำได้อย่างมีอิสระมากกว่า
หูฟังไร้สาย (Wireless) เคลื่อนไหวไร้ขีดจำกัด
มาถึงหูฟังแบบไร้สายกันบ้าง หูฟังไร้สายจะใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ 2.4 GHz หรือสัญญาณ Bluetooth ซึ่งจะทำให้การใช้งานมีความสะดวกสบาย และคล่องตัวอย่างมาก เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ และหมดปัญหาเรื่องสายหลุดระหว่างใช้งานทันที
แต่หูฟังแบบไร้สายก็มีข้อด้อยตรงที่เราต้องยอมรับว่าปัญหาเรื่องการดีเลย์ของสัญญาณอาจเกิดได้ทุกเวลา เจอแบบนี้เกมเมอร์อย่างเรางานเข้าแน่นอน เพราะถ้าระหว่างเล่นเกมแล้วเกิดการดีเลย์ทำให้เสียงตามภาพไม่ทัน แม้แค่วินาทีเดียวก็อาจถึงขั้นแพ้เกมทันที
แต่ปัญหานี้ทางฝ่ายผู้ผลิตก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนะ ล่าสุดมีการนำเอาเทคโลยีการเชื่อมต่อผ่านสัญญาณดิจิตอลมาใช้แทนแล้ว และก็สามารถทำให้ปัญหาการดีเลย์ลดลงเยอะเลย แต่สิ่งที่ต้องแลกมาก็คือราคาของโปรดักต์ที่แพงกว่า รวมถึงตัวบอดี้ที่เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
เลือกหูฟังจากพอร์ตการเชื่อมต่อ
มารู้จักการเลือกหูฟังอีกแบบกันครับ ดูจากตัวพอร์ตเชื่อมต่อสัญญาณซึ่งจะแบ่งเป็น 1) แบบที่รองรับการเชื่อมต่อ USB และ 2) แบบที่ต้องใช้ชุดปลั๊กส่งสัญญาณ สำหรับแบบ USB นั้นมีผลิตออกมาให้เลือกหลายรุ่นหลายราคามากๆ และมีหลายแบรนด์เลยที่ทำออกมารองรับฟังก์ชั่นระบบเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทาง ต้องบอกเลยว่าเหมาะมากกับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาหูฟังเกมมิ่งมาใช้เล่นเกมเป็นตัวแรก เพราะนอกจากจะตอบโจทย์การเล่นเกมแล้วยังช่วยประหยัดงบประมาณไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องจากไม่ต้องหาซื้อซาวด์การ์ด หรือตัวแปลงสัญญาณดิจิตอลเป็นอะนาล็อก (DAC) มาเพิ่มให้วุ่นวายไปอีก
ส่วนหูฟังแบบที่ต้องใช้ปลั๊กสัญญาณจะให้ความคล่องตัวในการใช้งานที่มากกว่า นี่แหละที่น่าจะโดนใจเกมเมอร์ เพราะความสารพัดประโยชน์ของมันที่สามารถเชื่อมต่อกับมือถือ หรือจะลิงก์กับเครื่องเกมคอนโซลก็ได้นั่นเอง แถมเรื่องราคาก็ยิ่งน่าคบหา ไม่ได้แรงจนเกินเหตุ ถือเป็นชุดหูฟังเกมมิ่งที่เหมาะมากๆ สำหรับคนที่มีงบไม่มากและต้องการประหยัด
แต่ถ้าเพื่อนชอบความอิสระของหูฟังแบบไร้สายมากกว่า เราก็มีวิธีการเลือกมาแนะนำด้วยเช่นกัน นั่นก็คือเพื่อนๆ จะต้องดูก่อนเลยว่าเครื่องเกมที่เล่นอยู่รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ Bluetooth หรือ ดิจิตอล รู้แค่นี้จบเลย แต่จะแพงหรือถูกค่อยว่ากันทีหลังครับ
เลือกหูฟังจาก Performance ของไมโครโฟน
ส่วนเพื่อนๆ ที่ให้ความสำคัญกับการแชทสดระหว่างเล่นเกมก็ต้องดูเรื่องประสิทธิภาพของตัวไมโครโฟนเป็นหลักครับ ซึ่งทางเราก็มีข้อแนะนำดีๆ มาฝากเช่นกัน โดยฟีเจอร์ที่ต้องมองหาจากตัวโปรดักต์เป็นอันดับแรกก็คือ ต้องดูว่ามีฟังก์ชั่นตัดเสียงรอบข้างมาให้ด้วยหรือเปล่า เพราะถ้ามีมาให้จะช่วยเพิ่มคุณภาพของเสียงระหว่างเล่นเกมให้ออกมาเคลียร์และชัด
หรือถ้าจะลองเลือกเป็นไมค์บูม (Boom Microphone) ก็ตอบโจทย์การแชทสดกับเพื่อนร่วมทีมได้ดีมากๆ เช่นกัน เพราะเพื่อนๆ สามารถปรับตำแหน่งของตัวดูดเสียงได้ตามใจชอบเลย ไมค์บูมจะมีองศาการรับเสียงที่แคบซึ่งถือเป็นข้อดีครับ เพราะทำให้เราสามารถเจาะจงที่มาของเสียงได้ เช่น ถ้าเล็งไมค์เข้าหาตัวเราเสียงของเราจะชัด ขณะที่เสียงรอบข้างจะเบาหรืออาจไม่ได้ยินเลย ต่างกับไมค์ทั่วไปที่จะรับเสียงจากรอบทิศทาง
ข้อดีอีกอย่างคือเมื่อไม่มีการใช้งานจะมีระบบช่วยตัดเสียงความเคลื่อนไหวจากรอบข้างให้เราอัตโนมัติ ขณะที่ฟังก์ชั่น Mute เสียงยิ่งทำให้การใช้งานเป็นเรื่องที่ง่ายโดยเฉพาะกับเพื่อนๆ ที่ชอบลุกจากเก้าอี้บ่อยๆ
เลือกหูฟังจากฟังก์ชั่นเสียงเซอร์ราวด์
สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากได้ชุดหูฟังเกมมิ่งที่ให้เสียงกระหึ่มสุดสมจริงเสมือนได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ก็ต้องมองหาโปรดักต์ที่รองรับระบบเสียงเซอร์ราวด์ หรือมาพร้อมฟังก์ชั่นเสียงรอบทิศทางเป็นอันดับแรกครับ เดิมทีหูฟังทั่วไปจะมีลำโพงมาให้แค่ข้างละตัว แต่พอมีระบบเซอร์ราวด์เพิ่มเข้ามาก็จะทำให้เสียงเข้ามาได้เต็มประสิทธิภาพ จากทุกทิศทางตามแหล่งกำเนิดของเสียง หรือที่เรียกว่า เอฟเฟกต์เสียง 3D นั่นเอง
โดยรุ่นยอดนิยมที่เหล่าเกมเมอร์ปัจจุบันถามหากันมาก จะแบ่งออกเป็นแบบ 5.1 แชนเนล 7.1 แชนเนล และ 9.1 แชนเนล (ตัวเลขที่เพิ่ม หมายถึงจำนวนลำโพงที่เพิ่มเข้ามานั่นเอง เช่น 5.1 จะมีลำโพง 5 ตัวพร้อมซับวูฟเฟอร์อีก 1 ตัว)
อีกเรื่องที่ต้องดูให้ขาดก่อนตัดสินใจซื้อหูฟังแบบเสียงเซอร์ราวด์คือ ต้องดูว่ามันรองรับการใช้งานบนแพลตฟอร์เกมแบบไหน เพราะส่วนใหญ่ที่มีผลิตออกมายุคหลังๆ จะใช้เล่นเกมบน PC ได้แต่อาจไม่รองรับการเล่นบน PS4 หรือ Switch ดังนั้นห้ามลืมข้อนี้เด็ดขาดครับ
เลือกหูฟังจากชนิดของอุปกรณ์ที่รองรับ
เพื่อให้สามารถใช้งานหูฟังเกมมิ่งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพคุ้มกับราคาที่ต้องจ่าย เพื่อนๆ ต้องเช็คให้เคลียร์ก่อนเลยว่ามีฟังก์ชั่นที่รองรับเครื่องเกมแบบไหน PC หรือคอนโซล เพราะจะมีอยู่บางรุ่นเหมือนกันที่ไม่รองรับระบบเสียงเซอร์ราวด์หรือการเชื่อมต่อไมค์ ถ้าไม่ดูให้ดีมีน้ำตาร่วงแน่ๆ
หรือถ้าเพื่อนๆ อยากได้หูฟังรุ่นที่รองรับอุปกรณ์หลายอย่างๆ ก็อยากให้จัดเป็นชุดหูฟัง Headset แบบมีสายที่สามารถรองรับขั้วอินพุตได้หลายชนิดมาใช้งานครับ
เลือกจากความสะดวกสบายขณะสวมใส่
คนที่ใช้เวลาเล่นเกมนานๆ มากกว่า 4 ชั่วโมง ควรมองหาหูฟังเกมมิ่งที่สวมใส่สบายไม่รัดแน่นจนทำให้ปวดศีรษะครับ เพราะหากโฟกัสแค่เรื่องของเสียงเบส หรืออยากได้ระดับความกระหึ่มแบบจัดเต็ม ก็ต้องแลกมาด้วยไดรเวอร์หูฟังที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมาก ซึ่งอาจปลายเป็นอุปสรรคต่อการเล่นเกมไปเลย
หากเพื่อนๆ ให้ความสำคัญกับการสวมใส่ที่ต้องเบาสบายเพื่อจะได้ไม่รู้สึกว่าถูกกดทับจนหูร้อน หรือถูกรัดแน่นจนเจ็บศีรษะ ทีมงานอยากแนะนำให้เลือกจากวัสดุที่ใช้ทำที่ครอบหูฟังว่าทำมาจากวัสดุที่มีความนุ่ม น้ำหนักเบา และสามารถระบายอากาศได้ดีหรือเปล่า ทดลองสวมใส่ดูก่อนครับว่าพอดีกับเราหรือเปล่า ยิ่งหูฟังอันไหนมีที่ครอบหูฟังที่สามารถปรับขนาดได้ก็ยิ่งดีครับ
แบรนด์ Gaming Headset ยอดนิยม
Logitech
ถ้าพูดถึง Gaming Headset ล้ำๆ ที่มาพร้อม Performance แบบจัดเต็ม เกมเมอร์บ้านเราน่าจะนึกถึงชื่อของแบรนด์ระดับโลกอย่าง Logitech เป็นอันดับแรกๆ ครับ ตัวโปรดักต์ที่เป็นชุดหูฟังเกมมิ่งจากค่ายสัญชาติสวิสมีผลิตออกหลายรุ่นหลายโมเดลมากๆ มีให้เลือกตั้งแต่ที่มีราคาเบาๆ ไปจนถึงรุ่นท็อปที่มีค่าตัวแพงๆ รวมถึงมีบางตัวที่ออกแบบมาให้สามารถใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้ด้วยนอกเหนือไปจากการเล่นเกม และก็มีอีกหลายโมเดลที่ทำให้การใช้ไมค์สำหรับแชทสดเป็นเรื่องที่ง่ายไปเลย
จากข้อมูลในโลกโซเชียลที่ทีมงานรวบรวมมาส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า Logitech คือแบรนด์ที่น่าคบหาอันดับต้นๆ ของชาวเกมเมอร์เพราะมีไลน์โปรดักต์ที่รองรับได้ทุกความต้องการจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ระดับบีกินเนอร์หรือสายโปรมืออาชีพ
Razer
ชุดหูฟังที่เป็นเกมมิ่งเกียร์โดยตรงจากค่าย Razer ของสิงคโปร์เป็นแบรนด์ที่นิยมไม่แพ้ตัวหูฟังจากฝั่ง Logitech ครับ ยิ่งเมื่อมีการนำเทคโนโลยี THX หรือระบบเสียงโฮม เธียเตอร์ มาอัปเกรดตัวโปรดักต์ให้มีความสุดไปอีกขั้นกับพลังความกระหึ่มรอบทิศครบทุกมิติแบบ 360 องศาก็ยิ่งได้ใจชาวเกมเมอร์ไปเต็มๆ จนทำให้หูฟังรุ่น Kraken Series ซึ่งเป็นตัวท็อปสุดของค่ายภายใต้ระบบ THX กลายเป็น Gaming Headset ที่กำลังขายดิบขายดีในปี 2021
Kingston
มาที่อีกแบรนด์ซึ่งไม่ได้ป๊อบแค่ในกลุ่มนักเล่นเกม PC แต่ยังเป็นที่ชื่นชอบของสาย PS4 ด้วย นั่นก็คือชุดหูฟังเกมมิ่งจากค่ายสัญชาติอเมริกันอย่าง Kingston นั่นเองครับ เพราะความที่โปรดักต์ของค่ายนี้จะเน้นเรื่องของ Performance กับราคาที่เหมาะสมกันเป็นอย่างดี ก็เลยทำให้ Kingston เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่โดนใจชาวเกมเมอร์สูงสุดติดอันดับต้นๆ
ชุดหูฟัง Kingston มีความโดดเด่นจากดีไซน์ที่ครอบหูรูปไข่ที่ให้ความรู้สึกสบายขณะสวมใส่ มีไมค์ที่สามารถถอดได้มาทำให้การใช้งานสะดวก ขณะที่วัสดุโครงสร้างของตัวโปรดักต์ก็ให้ผิวสัมผัสที่ทำให้รู้สึกได้เลยว่ามีความคุ้มค่าเกินราคา
Sennheiser
Sennheiser คือแบรนด์ตัวพ่อด้านเทคโนโลยีการผลิตชุดหูฟังและไมโครโฟนที่ได้รับการยอมรับจากสตูดิโอบันทึกเสียงและทีมโปรดักชั่นภาพยนตร์ทั่วโลก ถือเป็นอีกค่ายที่อยู่ในใจของเกมเมอร์ไม่ใช่แค่เฉพาะบ้านเราเท่านั้น เพราะแบรนด์จากเยอรมนีให้ความสำคัญกับเรื่องเสียง คุณภาพในระดับไฮ-เอนด์ และมีไลน์การผลิตของชุดหูฟังที่รองรับการใช้งานได้หลากหลายสายงานมากๆ ไม่ว่าจะเป็นงานประชุมผ่านวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ งานสายดนตรีหรือวงการบันเทิง
ส่วนชุดหูฟังที่เป็น Gaming Headset โดยตรงนั้น ทางค่ายเยอรมนีแตกแบรนด์ออกไปเป็น EPOS นะครับ ซึ่งค่ายจากเดนมาร์กจะดูแลการผลิตอุปกรณ์เสียงเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ และก็มีโปรดักต์ที่เจาะกลุ่มเกมเกมเมอร์ออกมาวางจำหน่ายให้เห็นแล้ว
10 อันดับหูฟังเกมมิ่ง (มีสาย) ขายดีบนร้านค้าออนไลน์ชั้นนำ
อันดับ 1 Razer Kraken
แบรนด์งูเขียวรุ่นยอดนิยมของบ้านเราตัวนี้มาพร้อมไดรเวอร์หูฟังแบบคัสตอมขนาด 50 มม. และให้ความแม่นยำที่มากกว่าในเรื่องทิศทางต้นกำเนิดเสียงในเกมด้วยระบบเสียง 7.1 เซอร์ราวด์ ตัวที่ครอบหูรูปไข่มีเจลเย็นช่วยระบายความร้อนฝังอยู่ด้านในช่วยยืดระยะเวลาในการเล่นเกมให้มีความต่อเนื่องเท่าที่ต้องการ
ด้านไมโครโฟนที่ Razer Kraken เลือกมาใช้คือ Unidirectional Microphone ซึ่งเป็นไมค์ที่รับเสียงเฉพาะทิศทางสามารถรับเสียงจากด้านหน้าได้ในระยะที่ไกลกว่าไมค์แบบอื่น แต่ในขณะเดียวกันก็จะให้ซาวด์คุณภาพของเสียงในระดับที่สูงมากๆ เมื่อต้องแชทสดหรือแคสต์เกม
ส่วนพอร์ตหูฟังแบบ 3.5 มม. ก็ทำให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ นอกเหนือไปจาก PC สามารถทำได้อย่างง่ายดาย ใครที่ชอบความจัดจ้านด้าน Performance อย่าลืมมองหาแบรนด์งูเขียวรุ่นนี้ไปไว้ใช้ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
อันดับ 2 Razer Kraken V3 X RZ04-03750100-R3M1
เป็นอีกรุ่นขายดีติดชาร์จจากค่ายงูเขียวในซีรีส์ Kraken ที่มีน้ำหนักเพียง 825 กรัมเท่านั้น เบาเหมาะกับการเล่นเกมแบบข้ามวันข้ามคืนมากๆ ส่วนตัวไดรเวอร์ Razer TriForce ขนาด 40 มม. ก็ให้เสียงที่มีความเคลียร์และบาลานซ์ของเบสและเสียงแหลมที่ชัดเจน
แต่ความโดดเด่นจริงๆ ของ Razer Kraken V3 X อยู่ที่ระบบ 7.1 เซอร์ราวด์ที่ให้ความแม่นยำสุดๆ ในเรื่องทิศทางต้นกำเนิดของเสียงในเกม โดยเฉพาะเกมแนว FPS ที่เสียงยิงปืน หรือเสียงเท้า มีความสำคัญมากๆ ขณะที่ตัวครอบหัวหูฟังก็ทำมาจากวัสดุระบายอากาศสามารถรองรับการใช้งานเป็นเวลานานๆ ได้อย่างสบายๆ
อันดับ 3 Logitech PRO X Gaming Headset G-PHS-003
แบรนด์ระดับโลก Logitech PRO X ตัวนี้มีความพิเศษมากๆ ตรงที่ได้มืออาชีพในวงการ eSports มาร่วมทีมพัฒนา ถือเป็นโปรดักต์ตัวท็อปของค่ายที่ดีไซน์ออกมาเพื่อเกมเมอร์อย่างแท้จริง ตัวหูฟังรองรับระบบเสียงสเตอริโอรอบทิศทาง DTS X 2.0 จากในเกมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะเกมที่ต้องคอยฟังเสียงฝีเท้าและเสียงยิงปืนอย่าง FPS ตัวไมโครโฟนมาพร้อมเทคโนโลยี Blue VO!CE ที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งเสียงขั้นสูงได้ด้วยตัวเอง และช่วยให้เสียงสนทนาระหว่างแชทสดในเกมมีความเคลียร์แบบสุดๆ
Logitech PRO X ยังใช้วัสดสำหรับ Earpads ที่เป็นฟองน้ำระบายอากาศจากโพลียูรีเทนคุณภาพสูงหรือเมมโมรี่โฟมเพื่อลดการกดทับจากการใช้งานที่ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ ส่วนโครงสร้างบอดี้ผลิตจากวัสดุที่เป็นโลหะและอลูมิเนียมซึ่งทนทานต่อการใช้งานแบบข้ามปี
อันดับ 4 Logitech Wired 7.1 Surround Gaming Headset G433
โมเดลจาก Logitech ตัวนี้มาพร้อมระบบเสียงสเตอริโอรอบทิศทางสมจริงแบบ DTS X ที่สามารถระบุทิศทางและตำแหน่งของเสียงในเกมได้อย่างแม่นยำมากๆ มีเทคโนโลยี Pro-G ที่ให้ความหนักแน่นของเสียงเบสและเสียง Treble ได้อย่างครบถ้วนและชัดเจนสุดๆ
ตัวบอดี้มาพร้อมดีไซน์ที่ดูล้ำนำเทรนด์เหมาะกับการใช้งานนอกสถานที่ พอร์ตหูฟัง 3.5 มม. สามารถรองรับการเชื่อมต่อสำหรับการเล่นเกมได้หลายระบบไม่ว่าจะเป็น PC, PS4, Xbox One, Nintendo Switch, สมาร์ทโฟน หรือ อุปกรณ์ Smart Device อื่นๆ
ส่วนตัวไมโครโฟนที่ให้มาเป็นแบบถอดได้และสามารถรองรับการไลฟ์แชทในสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยรวมแล้วถือว่าเจ้า Logitech 7.1 Surround G433 ตัวเหมาะมากกับใครก็ตามที่ต้องการเน้นเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นหลัก
อันดับ 5 Logitech Gaming Headset G331
ชุดหูฟังเกมมิ่ง Logitech G331 รุ่นนี้ให้ความเบาสบายในการสวมใส่ ด้วยที่ครอบหูซึ่งทำจากหนังสังเคราะห์น้ำหนักเบาและสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ ทำให้การจัดเก็บหรือติดตัวไปยังที่ต่างๆ มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก
ที่โดดเด่นเป็นพิเศษอีกอย่างก็คือไดรเวอร์เสียงขนาดใหญ่ถึง 50 มม. ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ด้านเสียงในเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขณะที่ไมค์บูม 6 มม. ก็ช่วยยกระดับให้ได้เสียงที่มีคุณภาพถึงขีดสุดระหว่างการแชทสดกับเพื่อนร่วมทีม และมาพร้อมฟังก์ชั่นพลิกปิดเสียงเงียบได้เมื่อไม่ต้องการให้ใครได้ยิน
พอร์ตเชื่อมต่อ 3.5 มม. สามารถรองรับการใช้งานได้ครอบคลุมหลายแพลตฟอร์มากมากๆ Logitech G331 สามารถทำงานร่วมกับ PC, เกมคอนโซล, PS4, Nintendo Switch รวมถึงอุปรณ์สมาร์ทโฟน แต่ที่น่าคบหาสุดๆ ก็คือราคาที่มาค่อนข้างถูก ถือว่าเหมาะอย่างมากกับเพื่อนๆ ที่อยากได้เกมมิ่งเกียร์คุณภาพดีในราคาประหยัด
อันดับ 6 Audio-Technica Gaming Headset ATH-G1
Audio-Technica เป็นแบรนด์ดังอีกค่ายที่ผลิตหูฟังคุณภาพไฮเอนด์ออกมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ คาแรกเตอร์ที่โดดเด่นมากๆ ของเจ้า ATH-G1 จะอยู่ที่ไดรเวอร์เสียงขนาด 45 มม. ที่จะมาช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถได้ยินชุดข้อมูลเสียงในหลากหลายรูปแบบได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากๆ
แต่ที่ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างก็คือไมค์บูมที่สามารถถอดแยกได้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และในขณะเดียวกันก็ให้ Performance ของเสียงได้อย่างละเอียดครบและชัดเจน
ส่วนปุ่มคอนโทรลเสียงก็ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย มีฟังก์ชั่นปิดเสียงเงียบได้ด้วยมือเดียว ถ้าเพื่อนๆ กำลังมองหาหูฟังเกมมิ่งที่ให้ความสะดวกสบายในการใช้งานก็ไม่ควรมองข้ามของดีเกินราคาอย่างเจ้า ATH-G1
อันดับ 7 SteelSeries Arctis 5 2019 Edition
เจ้า SteelSeries Arctics 5 2019 Edition กับดีไซด์สวยดูดีตัวนี้เป็นที่ยอมรับอย่างมากในเรื่อง Performance ของไมโครโฟนแบบ Bidirectional Microphone ที่เน้นการรับเสียงจากด้านหน้าและด้านหลังได้ดี มีฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวนจากด้านข้างเพื่อเพิ่มความเคลียร์ของเสียงระหว่างการแชทสด จัดว่าเป็นชุดหูฟังเกมมิ่งที่เหมาะมากสำหรับนักแคสต์เกมผ่านยูทูป
หูฟัง SteelSeries Arctics 5 2019 Edition จากเจ้าพ่อเกมมิ่งเกียร์สัญชาติเดนมาร์กตัวนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกันบนหลายแพลตฟอร์มที่นอกเหนือไปจาก PC ผ่านช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. แบบ 4 Pole และ USB และที่โดดเด่นไม่แพ้กันก็คือฟีเจอร์ USB Chat Mix Dial ที่ถูกใส่เข้ามาให้เหล่าแคสเตอร์สารถปรับจูนบาลานซ์ของเสียงเกมกับเสียงแชทได้ตามใจชอบ
อันดับ 8 Sennheiser Gaming Headset GSP 107
ถ้าเพื่อนๆ กำลังมองหาหูฟังเกมมิ่งคุณภาพดีราคาไม่แรง เจ้า Sennheiser GSP 107 ถือว่าเป็นเกมมิ่งเกียร์ที่น่าคบหาไม่น้อย ตัวมันเป็นหูฟังแบบ Open Type ที่อนุญาตให้เสียงจากรอบข้างผ่านเข้ามาได้ จึงเหมาะกับผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการถูกตัดขาดจากสิ่งแวดล้อมภายนอก โดยหูฟังลักษณะนี้จะให้บรรยกาศคล้ายการฟังเพลงจากชุดลำโพงที่ตั้งอยู่ในห้องส่วนตัว ส่วนตัวบอดี้ถูกดีไซน์ให้มีน้ำหนักที่เบาเพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว
จุดเด่นอีกอย่างคือตัวไมโครโฟนที่ให้มาพร้อมฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวนซึ่งจะทำให้ระหว่างการสนทนาจะได้คุณภาพของเสียงที่เคลียร์มากๆ พร้อมตัดเสียงที่ไม่เกี่ยวข้องทิ้งไปในตัว และด้วยค่าตัวที่ถูกอย่างเหลือเชื่อก็ทำให้ Sennheiser GSP 107 เป็นชุดหูฟังเกมมิ่งที่เหมาะกับชาวเกมเมอร์มือใหม่ที่กำลังหาซื้อมาใช้งานเป็นครั้งแรก
อันดับ 9 ELECOM gaming headset HS-G60
ขายดีติดชาร์จอันดับ 9 เป็นโปรดักต์จากค่าย ELECOM กับหูฟังเกมมิ่งรุ่น HS-G60 ที่มาพร้อมไดรเวอร์เสียงขนาดใหญ่ 50 มม. เสียงมีคุณภาพสูงในระดับที่ช่วยให้สามารถแยกเสียงเอฟเฟกต์และเสียง BGM ถูกแยกออกจากกันได้แบบเคลียร์ๆ ตัวหูฟังรุ่นนี้ใช้วัสดุที่เป็นแม่เหล็กคลื่นไฟฟ้าความถี่สูงเป็นส่วนประกอบ ทำให้จะได้เสียงเบสที่คมชัดอย่างไม่น่าเชื่อ
ตัวไมค์มี Windscreen ในรูปของฟองน้ำสวมหัวไมค์ช่วยป้องกันเสียงลมหายใจแทรกขณะใช้งาน ขาไมค์มีความยืดหยุ่นสูงสามารถปรับตำแหน่งได้ง่ายทำและช่วยเพิ่มความสะดวกสบายระหว่างการแชทสนทนา ถือเป็นเกมมิ่งเกียร์คุณภาพที่มาพร้อมกับราคาที่จับต้องได้ไม่แรงเลย
อันดับ 10 Razer BlackShark V2 X RZ04-03240100-R3M1
เป็นอีกรุ่นจากค่าย Razer ที่มาพร้อมไดรเวอร์เสียง Razer TriForce ขนาด 50 มม. และความสามารถในการปรับจูนเสียงสูง กลาง ต่ำได้อย่างอิสระ พลังความกระหึ่มมาเต็มสุดๆ จากฟังก์ชั่นเสียงเซอร์ราวด์ 7.1 และฟีเจอร์ค้นหาตำแหน่งของเสียงที่มีความแม่นยำ ถือเป็นหูฟังเกมมิ่งที่ผลิตออกมาเอาใจสายเกมยิงแนว FPS เลยก็ว่าได้
ผนวกกับน้ำหนักที่เบามากเพียง 240 กรัมเท่านั้นก็ยิ่งทำให้ Razer Black Shark V2 X เป็นชุดหูฟังเกมมิ่งที่น่าคบหาไม่น้อยสำหรับชาวเกมเมอร์ ส่วนที่ครอบหูฟังก็ช่วยในการตัดเสียงรบกวนจากรอบข้างได้เป็นอย่างดี
ขณะที่พอร์ตหูฟัง 3.5 มม. ก็สามารถรองรับการเล่นเกมได้จากหลากหลายแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น PC, PS4 หรือ Nintendo Switch รวมแล้วเจ้าฉลามดำตัวนี้ถือว่ามีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบเครื่องมากๆ ครับ
10 หูฟังเกมมิ่ง (ไร้สาย) ขายดีบนร้านค้าออนไลน์ชั้นนำ
อันดับ 1 Logitech PRO X Wireless LIGHTSPEED Gaming Headset G-PHS-004WL
ขายดีอันดับหนึ่งของรุ่นไร้สายก็คือเจ้า Logitech PRO X Wireless นี่เองครับ จุดขายของมันอยู่ที่เทคโนโลยีไร้สาย LIGHTSPEED ที่จะมาช่วยยืดเวลาแห่งความเพลิดเพลินในการเล่นเกมให้ยาวนานถึง 20 ชม. เมื่อชาร์จเต็ม
ส่วนเทคเนโนโลยี Blue VO!CE ที่ติดตั้งมากับตัวไมโครโฟนที่สามารถถอดเก็บได้และให้ความคล่องตัวในการใช้งานได้ใมทุกสถานการณ์ก็จะช่วยให้เสียงสนทามีความคมชัดและเคลียร์แบบสุดๆ ขณะที่ฟังก์ชั่นเสียงเซอร์ราวด์ก็สามารถระบุทิศทางต้นกำเนิดของเสียงได้อย่างแม่นยำ
อันดับ 2 Logitech LIGHTSPEED Wireless RGB Gaming Headset G733
ที่สองยังเป็นโปรดักต์จากค่าย Logitech ในรุ่น Logitech LIGHTSPEED Wireless G733 ที่แม้จะเป็นแบบที่รองรับการใช้งานแบบไร้สายแต่บอกเลยว่าความเสถียรของสัญญาณดีมากๆ ขณะที่เทคโนโลยี LIGHTSPEED ก็ทำให้การเคลื่อนไหวในขณะสวมใส่สามารถทำได้อย่างมีอิสระ เมื่อมีระยะทางในการสื่อสารที่ไกลถึง 20 เมตรเลยทีเดียว
ส่วนตัวที่ครอบหูฟังถือว่าน่าสนใจมากเพราะมาพร้อม Headband เป็นสายคาดหัวที่มีความยืดหยุ่นกำลังพอดี แต่มีความกระชับรองรับกับรูปศีรษะทุกขนาด ในขณะเดียวกันผู้ใช้งานก็สามารถปรับขนาดได้ตามต้องการอีกด้วย ถือว่าเป็นชุดหูฟังเกมมิ่งที่เน้นการสวมใส่ที่สบายอย่างแท้จริง
อันดับ 3 SteelSeries Arctis 7 2019 Edition
ส่วนอันดับ 3 มาแรงในเรื่องความอึดของแบตเตอรี่ที่ทำให้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 24 ชม. นั่นก็คือโปรดักต์หูฟังเกมมิ่งจาก SteelSeries รุ่น Arctis 7 2019 Editon ที่นำเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านสัญญาณ low-loss Arctis 2.4G มาสร้างความเสถียรและเพิ่มคุณภาพให้ตัวสัญญาณได้เป็นอย่างดี ซึ่งเจ้าเทคโนโลยีตัวนี้เองที่จะมารีดคุณภาพของเสียงให้ออกมาในระดับสูงสุด แต่ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดเรื่องความหน่วงหรือการดีเลย์ของสัญญาณเสียงให้ลดลงมาในระดับที่ต่ำมากๆ ได้ดีด้วย
สิ่งที่น่าสนใจมากๆ จากเจ้า Arctis 7 2019 Editon ตัวนี้ก็คือ ไมค์ Arctis ClearCast ที่ให้ความเคลียร์ของเสียงเทียบเท่าระดับการใช้งานในสตูดิโอ และสามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนไดรเวอร์ลำโพง S1 Speaker นอกจากจะลดเสียงรอบข้างที่ไม่ต้องการได้ดีแล้ว มันยังสามารถเก็บรายละเอียดของเสียงในจุดที่เล็กที่สุดได้อย่างยอดเยี่ยมอีกต่างหาก
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งานร่วมกับหูฟังแบบ DTS Headphone: X ที่รองรับระบบเสียง V2.0 Surround ได้เป็นอย่างดี ซึ่งต้องบอกว่าช่วยให้การเล่นเกมแนว FPS เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ตื่นเต้นเร้าใจถึงขีดสุด ระหว่างการใช้งานจะมีเสียงจากภายนอกหลุดเข้ามายากมาก ขณะเดียวกันก็สามารถจับทิศทางต้นกำเนิดของเสียงในเกมได้อย่างแม่นยำ ซึ่งต้องยกให้เป็นหูฟังเกมมิ่งที่เน้นเรื่องคุณภาพของเสียงที่เหมาะกับการใช้เล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ
อันดับ 4 Kingston HyperX Cloud Stinger Core Wireless + 7.1 HHSS1C-BA-BK / G
แบรนด์หูฟัง เกมมิ่งจาก Kingston ที่พุ่งติดชาร์จขายดีเป็นอันดับ 4 คือรุ่น HyperX Cloud Stinger Core Wireless + 7.1 HHSS1C-BA-BK / G ครับ เจ้าตัวนี้จะปรับระบบการรับส่งสัญญาณ 2.4G ให้มีความเสถียรมากกว่ารุ่นก่อนๆ และก็มาพร้อมระบบเสียง Surround 7.1 ที่ช่วยให้ในการเล่นเกมสามารถระบุตำแหน่งของเสียงยิงปืนหรือที่มาของเสียงฝีเท้าได้อย่างแม่นยำ ส่วนตัวบอดี้ก็ใส่น้ำหนักมาให้เบาดีทีเดียวเพื่อรองรับการใช้งานที่ต่อเนื่องเป็นเวลานานนั่นเอง
ส่วนตัวครอบหูฟังทำจากวัสดุที่ระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม ให้ความรู้สึกสบายไม่กดทับหรือรัดแน่นเวลาสวมใส่ ตัวไดรเวอร์เสียงขนาด 40 มม. ช่วยขับเสียงเบสออกมาได้เต็มพลังและทำให้การเล่นเกมกลายเป็นประสบการณ์ที่สนุกตื่นเต้นสุดเหวี่ยง ถือเป็นหูฟังเกมมิ่งที่มาพร้อม Performance แบบแน่นๆ แต่ราคาถือว่าไม่แรงและคบได้สบายใจ ใช้แล้วคุ้มค่าคุ้มราคามากๆ ตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้
อันดับ 5 Corsair Gaming Headset HS70 CA-9011227-AP
ถ้าว่ากันที่เรื่องการใช้งานบนแพลตฟอร์มเกมที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น PS4, Nintendo Switch, Xbox One หรือเกม PC เจ้า Corsair Gaming Headset HS70 CA-9011227-AP ตัวนี้ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีจนทยานมาอยู่อันดับที่ 5 แบบไม่ยากเย็น
ข้อดีอย่างแรกของมันก็คือสามารถรองรับการเชื่อมต่อสัญญาณแบบมีสายและแบบไร้สายผ่านสัญญาณ Bluetooth คาแรกเตอร์เด่นอีกด้านคือความอึดและถึกมากๆ ของแบตเตอรี่ที่ทำให้สามารถใช้งานหรือเล่นเกมได้นานถึง 30 ชั่วโมงต่อเนื่องเลยทีเดียว
นอกจากนี้ตัวไดรเวอร์เสียงจาก Neodymium ขนาด 50 มม. ยังปรับจูนเสียงให้มีคุณภาพที่เหนือระดับกว่า ซึ่งจะช่วยให้คุณไม่พลาดทุกเสียงฝีเท้าหรือความเคลื่อนไหวในเกมแม้แต่รายละเอียดที่เล็กน้อยมากๆ ก็จัดว่าเป็นหูฟังเกมมิ่งที่เหมาะมากๆ กับการใช้งานบนหลายแพลตฟอร์ม
อันดับ 6 Audio-Technica Wireless Gaming Headset ATH-G1WL
หูฟังเกมมิ่งโดยตรงที่เป็นแบบไร้สายของ Audio-Technica ก็ถือเป็นอีกค่ายที่สนใจไม่แพ้แบรนด์เนมค่ายไหน โดยเฉพาะในรุ่นที่ขายดีมาเป็นอันดับ 6 อย่าง Audio-Technica ATH-G1WLATH-G1WL กับไดรเวอร์เสียงขนาดใหญ่ 40 มม.ในตัวที่จะมาช่วยบอกตำแหน่งเสียงยิงและเสียงเท้าในเกม FPS ได้อย่างแม่นยำ
ความน่าโดนของเจ้าตัวนี้อยู่ที่ที่รองศีรษะและที่ครอบหูซึ่งทำมาจากวัสดุที่สามารถระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนที่คาดศีรษะก็เน้นใช้วัสดุที่เป็นโลหะเบาแต่มีความแข็งแกร่งและทนทานเป็นเลิศ ขณะที่ไมค์บูมสามารถถอดแยกชิ้นได้เพื่อให้เข้ากับการใช้งานในหลากรูปแบบ ส่วนคุณภาพของเสียงที่จะได้ระหว่างใช้สนทนาหรือแชทสดระหว่างเกมก็มีความละเอียดและเคลียร์มากๆ
แบตเตอรี่มีความอึดรองรับการใช้งานได้สูงสุด 15 ชม. ก็ถือเป็นหูฟังเกมมิ่งที่ตอบโจทย์การเล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ได้ดีตัวหนึ่งครับ
อันดับ 7 Razer Nari Essential RZ04-02690100-R3M1
เจ้าตัวนี้เป็นหูฟังเกมมิ่งรุ่นที่มาแรงสุดแล้วจากค่าย Razer ที่มาพร้อมเทคโนโลยีเสียงสุดสมจริงแบบ 360 องศา THX Spatial Audio ซึ่งสามารถขับเน้นเสียงในเกมให้มีความเป็นธรรมชาติแบบสุดๆ แถมยังระบุตำแหน่งต้นกำเนิดของเสียงย่านลึกได้อย่างแม่นยำ
Razer Nari Essential RZ04-02690100-R3M1 ตัวนี้ยังรองรับสัญญาณ 2.4G และทำให้การใช้งานสามารถทำได้ไกลถึง 12 เมตร ขณะที่การเล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ จะไม่มีปัญหาอีกต่อไป เมื่อได้ความอึดขอแบตเตอรี่มาที่ 16 ชม.สูงสุด
ส่วนตัวไมค์มีฟังก์ชั่นพลิกปิดเสียงเงียบได้ทันทีที่ไม่ต้องการให้ใครได้ยิน ถ้าเพื่อนๆ เน้นเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานในระดับสูงๆ ไม่ควรมองข้ามเจ้าตัวนี้ครับ
อันดับ 8 Kingston HyperX Cloud II Wireless HHSC2X-BA-RD / G
อีกตัวที่น่าโดนกับความเป็นหูฟังไร้สายที่แบตอึดมากๆ ก็คือเจ้า Kingston HyperX Cloud II Wireless HHSC2X-BA-RD / G ที่มีอายุการใช้งานต่อเนื่องของแบตเตอรี่สูงสุดถึง 30 ชม. และให้พลังเสียงที่ดังกระหึ่มมากๆ แม้อยู่ไกลยังได้ยินเต็มหู เพราะสามารถรับสัญญาณไร้สายได้ไกลถึง 20 เมตร
ส่วนไดรเวอร์เสียงมาใหญ่ทีเดียวที่ขนาด 53 มม. ช่วยให้ซาวด์ออกมาทรงพลังแบบสุดๆ เจ้า HyperX Cloud II ตัวนี้ยังเปลี่ยนมาใช้ระบบ Surround 7.1 ยิ่งทำให้การบอกทิศทางต้นกำเนิดของเสียงยิ่งมีความแม่นยำแบบสุดๆ ไปอีก ตัวบอดี้ทำจากวัสดุที่มีความทนทานดีเยี่ยมและสามารถใช้งานแบบข้ามปีได้สบาย
อันดับ 9 EPOS SENNHEISER GSP 670
เจ้าพ่อเกมมิ่งเกียร์จากเดนมาร์ก EPOS คือแบรนด์ที่อยู่ภายใต้ชายคาของ Sennheiser ดังนั้นหมดห่วงเรื่องคุณภาพได้เลย เพราะยี่ห้อ EPOS เน้นผลิตตัวสินค้าเพื่อเกมเมอร์อย่างแท้จริง สำหรับเจ้า EPOS SENNHEISER GSP 670 ตัวนี้เป็นหูฟังเกมมิ่งไร้สายที่มาพร้อมระบบการเชื่อสัญญาณที่ป้องกันการดีเลย์ได้เป็นอย่างดี ทำให้อาการแล็กของสัญญาณมีน้อยๆ มากจนแทบไม่เป็นอุปสรรคต่อการเล่นเกม
จุดเด่นของไมค์ที่ให้มาเป็นไมโครโฟนที่เน้นรับเสียงด้านหน้าและหลังที่เรียกว่า Bidirectional Microphone ซี่งจะช่วยให้ได้เสียงการสนทนาที่คมชัดและมีคุณภาพสูง ส่วนปุ่มคอนโทรลความดังของเสียงก็ทำมาให้สามารถปรับเสียงไมค์กับเสียงจากเกมแยกจากกันได้อย่างอิสระ
ส่วนวัสดุที่เป็นฉนวนกันเสียงก็สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้เกมเมอร์สามารถจมดิ่งไปกับเรื่องราวในเกมได้โดยมีเสียงจากภายนอกแทรกเข้ามาได้น้อยมากๆ จัดว่าเป็นหูฟังเพื่อคอเกมที่ต้องการเล่นเกมจริงจังอย่างแท้จริง
อันดับ 10 ASUS ROG STRIX GO 2.4
มาดูที่ ASUS ROG STRIX GO 2.4 กันบ้างครับ มีชื่อติดท็อป 10 หูฟังเกมมิ่งขายดีระดับโลกแบบนี้ต้องไม่ธรรมดา เจ้าตัวนี้ใช้เทคโนลีเชื่อมสัญญาณ 2.4G ใช้ได้กับที่ชาร์จ USB Type-C Receiver สามารถรองรับแพลตฟอร์มเกมได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น PC, PS4, Nintendo Switch และอื่นๆ ขณะที่เทคโนโลยีสุญญากาศที่เป็นซิกเนเจอร์เลยอย่าง Airtight Chamber ก็ยิ่งช่วยขับพลังของเสียงเบสให้ออกมาสุดเกินสุดทีเดียว
ตัวไมค์ที่ให้มามีระบบ AI ช่วยตัดเสียงรบกวนได้อย่างดีเยี่ยม เพื่อให้คุณภาพของเสียงจากการสนทนาระหว่างเกมมีความใสและเคลียร์อย่างแท้จริง เจ้า ASUS ROG STRIX GO 2.4 ยังมีระบบชาร์จเร็วติดตั้งมาให้ด้วยซึ่งทำให้การใช้งานกลายเป็นอะไรที่ง่ายมากๆ ไปเลย เพราะหากชาร์จเพียง 15 นาทีก็สามารถใช้อุปกรณ์ได้นานถึง 3 ชม.เลยนั่นเอง
เรื่องความเบาถือว่าดีครับเพราะมีน้ำหนักเพียง 290 กรัมเท่านั้น จะพกพาติดตัวไปไหนต่อไหนนี่สบายเลยครับ
5 อันดับหูฟังเกมมิ่ง PS4 ขายดีบนร้านค้าออนไลน์ชั้นนำ
อันดับ 1 Kingston HyperX Cloud Revolver S HX-HSCRS-GM / AS
เจ้าตัวนี้เป็นหูฟังเกมมิ่งสำหรับคอเกม PS4 โดยเฉพาะครับ มาพร้อมระบบเสียง Virtual Dolby Surround 7.1 ที่ช่วยจำลองเสียงรอบทิศทางแบบ 7.1 ได้ครบทั้ง 3 ย่านเสียงหลัก ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มให้ยุ่งยาก มี USB ที่เป็น Plug and Play รองรับการเล่นเกมจากหลายแพลตฟอร์มทั้ง PS4, PS4 Pro และ PC ส่วนตัวไดรเวอร์ขนาด 50 มม.ก็ให้คุณภาพเสียงที่คมชัดมากๆ
ส่วนตัวที่ครอบหูเลือกใช้วัสดุที่เน้นเรื่องความสบายขณะสวมใส่เป็นเมมโมรี่โฟมหรือฟองน้ำที่มีความหนาแน่นสูง ซึ่งจะช่วยให้เกมเมอร์สามารถจมอยู่กับการเล่นเกมได้นานเท่าที่ต้องการ ขณะที่ตัวไมโครโฟนก็มีระบบตัดเสียงรบกวนรอบนอกได้อย่างดีเยี่ยมช่วยให้ผู้ใช้งานสื่อสารกับเพื่อนในเกมได้อย่างชัดเจน
อันดับ 2 Logitech ASTRO A40 TR MixAmp Pro TR
จุดเด่นที่ทำให้เจ้า Logitech ASTRO A40TR MixAmp Pro TR ตัวนี้ถูกถามถึงติดอันดับต้นๆ คือฟีเจอร์ MixAmp Pro TR ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อให้คอเกมสามารถคอนโทรลและปรับแต่งซาวด์ต่างๆ ได้ในทุกรูปแบบความต้องการ โดยตัวของมันเองถือว่าเป็นหูฟังสำหรับการเล่นเกมโดยตรงอยู่แล้ว ดังนั้นคุณภาพของเสียงที่จะได้รับก็จะตอบโจทย์คนเล่นเกมได้อย่างแท้จริง
ส่วนที่ครอบหูทำจากวัสดุฟองน้ำที่มีความยืดหยุ่นสูงช่วยเพิ่มความนุ่มสบายขณะสวมใส่ ด้านที่คาดหูสามารถปรับระดับให้พอดีได้กับขนาดศีรษะแบบต่างๆ ใครที่กำลังมองหาหูฟังที่ใส่สบายไม่รัดหรือกดทับจนแน่นบอกเลยว่าเจ้า ASTRO A40TR MixAmp Pro TR จาก Logitech ตัวนี้จะทำให้เล่นจนลืมเวลาไปเลย
อันดับ 3 Razer Thresher 7.1 RZ04-02230100-R3M1
หูฟัง Razer รุ่น Thresher 7.1 RZ04-02230100-R3M1 มาพร้อมความโดดเด่นของระบบเสียง Surround 7.1 และเทคโนโลยีเชื่อมต่อสัญาณแบบไร้สายในระยะ 12 เมตรที่มีปัญหาเรื่องการดีเลย์น้อยมากๆ ตัวไมค์ที่ให้มาเป็นแบบพับเก็บได้และให้เสียงสนที่คมชัดเป็นพิเศษ ตัวฟองน้ำหูฟังผลิตจากโฟมเมมโมรี่คุณภาพสูง
ส่วนที่ครอบหูใช้หนังสังเคราะห์น้ำหนักเบา ให้ความเบาสบายขณะสวมใส่ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่องได้เป็นเวลานานโดยไม่รู้สึกเจ็บ เกมเมอร์คนไหนที่เน้นเรื่องความสะดวกสบายที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการทำงานเต็มประสิทธิภาพลองพิจารณาเลือกเจ้า Razer Thresher 7.1 ไปนะครับ
อันดับ 4 SteelSeries Arctis Pro Wireless
เจ้า SteelSeries Arctis Pro Wireless ตัวนี้รองรับการเชื่อมต่อไร้สายได้ทั้งที่เป็นสัญญาณ Bluetooth และ 2.4G ความเทพของเจ้าตัวนี้คือมันสามารถรองรับการเชื่อมสัญญาณทั้งสองแบบได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งก็จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับการฟังเพลงจากสมาร์ทโฟนไปพร้อมกับการเล่นเกมได้แบบชิลๆ ไปเลย
แต่ที่โดนใจไปอีกก็คือแบตเตอรี่ที่ให้มาเป็นคู่ซึ่งช่วยให้การเล่นเกมพร้อมกับชาร์จแบตเตอรี่ไปด้วยกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายแบบสุดๆ ขณะที่ตัวคอนโทรลการส่งสัญญาณก็ดีไซน์ออกมาให้ใช้งานได้ไม่ยาก และสามารถปรับบาลานซ์ของเสียงแชทและเสียงเกมได้เพียงปลายนิ้ว ก็ถือเป็นหูฟังเกมมิ่งที่มาพร้อมกับ Performance ที่จัดเต็มจริงๆ
อันดับ 5 Logitech ASTRO A50 Wireless Headset + Base Station A50WL-002
ตัวสุดท้ายที่ขายดีติดท็อป 5 ก็คือเจ้า Logitech ASTRO A50 ที่มาพร้อมกับความล้ำของแท่นชาร์คุณภาพเยี่ยมระดับพรีเมียม โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่น Mix Amp สำหรับปรับบาลานซ์ของเสียงเกมและเสียงสนทนา ส่วนแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 15 ชม. ขณะเดียวกันก็รองรับระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Surround ที่จะช่วยให้การระบุต้นกำเนิดของเสียงในเกมทำได้อย่างแม่นยำสุดๆ
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
เป็นไงบ้างครับกับ 25 หูฟังเกมมิ่งที่ขายดีบนร้านค้าออนไลน์ระดับโลกอย่าง Amazon หวังว่าจะมีอันไหนถูกใจเพื่อนๆ บ้างนะครับ บางอันอาจจะหาซื้อยากหน่อย เพราะของขาดสต็อค แต่รับรองว่าเด็ดทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ลองพิจารณาเลือกตามประเภทเกมที่เราเล่น การใช้งาน เน้นด้านไหนจัดตัวที่เด่นด้านนั้น และแน่นอนว่าควรเลือกตามงบประมาณที่ตั้งไว้ด้วยครับ