28-04-2022

เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี คุณภาพดี สัญญาณแรง ราคาน่าคบหา 2023

เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี Router tp link com 1130122
ภาพจาก tp.link.com

อินเทอร์เน็ตกับวิถีชีวิตของผู้คนในปัจจุบันเรียกได้ว่าแยกกันไม่ออก บางคนถึงขนาดเปรียบเทียบว่าอยู่ในทุกอณูของชีวิตที่ขาดไม่ได้ ลองนึกภาพเครือข่ายล่มสัก 2-3 ชั่วโมงดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับการทำงานรวมถึงจิตใจของเราบ้าง ยกตัวอย่างเช่น ไม่สามารถเข้า Facebook ได้ เช็กอีเมล์ไม่ได้ ส่งงานให้ลูกค้าไม่ทัน แค่นี้ก็ดูวุ่นวายแล้วใช่ไหมล่ะ ซึ่งนอกสัญญาณจากเครือข่ายมือถือแล้วบางคนอาจต้องการความแรงมากขึ้นจึงต้องพึ่งพาเราเตอร์มาเป็นอุปกรณ์เสริม ส่วนเราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนมีคุณสมบัติน่าใช้งานบ้าง และจะเลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะสม วันนี้เรามีข้อมูลมาฝากกัน

เราเตอร์ คืออะไร จำเป็นต้องใช้หรือไม่?

เราเตอร์ (Router) คือ อุปกรณ์ที่มีหน้าที่เชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์อื่นใดก็ตาม โดยจะรับส่งสัญญาณผ่านทางระบบ Wi-Fi หรือระบบ LAN ทั้งแบบมีสายและไร้สาย ซึ่งเราเตอร์ในปัจจุบันนั้นมีการพัฒนาฟังก์ชันการทำงานให้รองรับอุปกรณ์ได้หลายเครื่องพร้อมกัน มีระบบความปลอดภัยที่ดีขึ้น ส่งสัญญาณได้ไกลและเสถียรมากขึ้น ความเร็วก็แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้หากถามว่าเราเตอร์จำเป็นหรือไม่ก็ต้องดูที่การใช้งานเป็นหลัก เช่น หากคุณเป็นคนที่ชอบเล่นเกมสัญญาณมือถือเพียงอย่างเดียวอาจไม่ตอบโจทย์ แต่ถ้าแค่เล่นโซเชียลมีเดียก็อาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อเราเตอร์หรือติดตั้งอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติมก็ได้

วิธีเลือกเราเตอร์ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

อย่างที่บอกเอาไว้ในตอนต้นว่าเราเตอร์นั้นมีมากมายหลายรุ่น หลายยี่ห้อ คุณสมบัติก็แตกต่างกันออกไป การจะเลือกเราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี เอาไว้ใช้งานจึงต้องพิจารณาจากหลายเรื่องด้วยกันเพื่อให้เหมาะสมกับเรามากที่สุด โดยสิ่งที่เราสามารถใช้เป็นเกณฑ์เบื้องต้นในการเลือกได้นั้นประกอบไปด้วย

1. ความถี่ที่รองรับ

เรื่องแรกเลยที่เราต้องพิจารณาก็คือความถี่ที่รองรับ โดยหลัก ๆ แล้วจะมีด้วยกัน 2 คลื่นความถี่ด้วยกันก็คือ 2.4GHz หรือ 5GHz

  • คลื่นความถี่ 2.4GHz เป็นคลื่นความถี่พื้นฐานที่ใช้กันมานาน สามารถกระจายสัญญาณได้ไกลพอสมควร หากเป็นการใช้งานภายในบ้านก็ได้ทั้งหลังแบบสบาย ๆ ความเสถียรก็ถือว่าน่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับมือถือ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ภายในบ้านหรือสำนักงาน แต่ข้อจำกัดของคลื่น 2.4GHz ก็คือจากการที่มีผู้ใช้งานเยอะทำให้เกิดความหนาแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนจึงเลือกไปใช้เราเตอร์ที่รองรับคลื่นความถี่ 5GHz ที่มีความเร็วมากกว่า
  • คลื่นความถี่ 5GHz เป็นคลื่นความถี่ใหม่ที่แก้ข้อบกพร่องในเรื่องความหนาแน่นของสัญญาณ ความเสถียรและความแรง จึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันที่ต้องการความลื่นไหลของสัญญาณมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ใช้ว่าคลื่นความถี่ 5GHz จะไม่มีข้อเสียเพราะไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวางจึงควรใช้งานในห้องที่เปิดโล่งถึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด หรือไม่ก็ต้องซื้อตัวขยายสัญญาณมาเพิ่ม อย่างไรก็ตามเราเตอร์หลายรุ่นก็รองรับทั้งคลื่นความถี่ 2.4GHz และ 5GHz

2. เลือกเราเตอร์จากพอร์ตการเชื่อมต่อ

การเชื่อมต่อสัญญาณระหว่างเราเตอร์กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะเลือกเราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี เอาไว้ใช้งาน ซึ่งเราเตอร์ปัจจุบันมักสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งกับสาย LAN และเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ใช้งานได้แบบไร้สาย หรือบางรุ่นอาจจะสามารถใส่ซิมได้ด้วยช่วยเพิ่มความสะดวกเพราะใช้งานง่ายไม่ต้องเดินสายติดตั้งให้วุ่นวาย ส่วนการจะเลือกแบบไหนก็ขึ้นอยู่ที่ว่าเรามีอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อมากน้อยแค่ไหน โดยหากต้องใช้สาย LAN ก็ต้องเลือกแบบที่มีพอร์ตมาให้ครบตามที่เราต้องการ ทั้งนี้ต้องตรวจสอบสเปคด้วยว่าเราเตอร์รุ่นที่เราสนใจสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกันกี่อย่าง

3. เลือกเราเตอร์ให้เหมาะกับพื้นที่การใช้งาน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในแต่ละพื้นที่ของสำนักงานหรืออาคารบ้านเรือนมักจะมีจุดอับสัญญาณ บางคนติดตั้งเราเตอร์เสร็จแต่รับสัญญาณได้ไม่ดีพอ แม้จะมีเพียงกำแพงห้องกันเอาไว้เท่านั้น ซึ่งปัญหาทางเทคนิคนั้นเราอาจจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนดูแลให้โดยตรวจสอบความแรงของสัญญาณในแต่ละจุดที่จะติดตั้ง ไม่ใช้ติดตั้งตามความสะดวกอย่างเดียว แต่ที่เราสามารถพิจารณาเองได้ก็คือจำนวนของเสาสัญญาณที่มากับเราเตอร์ โดยมีตั้งแต่ 1 เสา ไปจนถึง 7 เสา ซึ่งยิ่งเสาสัญญาณมากก็มีแนวโน้มที่จะกระจาสัญญาณได้อย่างทั่วถึงมากกว่า แต่ราคาก็อาจจะสูงขึ้นตามไปด้วย

4. เลือกจากความเร็วในการรับส่งข้อมูลและแพ็คเก็จอินเทอร์เน็ต

เรื่องความเร็วในการรับส่งข้อมูลคือหัวใจหลักของการใช้งานเราเตอร์ก็ว่าได้ หลักสำคัญก็คือต้องเลือกให้เพียงพอกับการใช้งานของเราเอง โดยพิจารณาจากความเร็วในการอัปโหลดและดาวน์โหลดของเราเตอร์แต่ละรุ่น ถ้าใช้สำหรับการสตรีมเกมก็ควรเลือกที่มีความเร็วสูงหน่อยเป็นต้น และแน่นอนว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นตามมาจึงต้องดูแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตประกอบด้วยเพื่อที่จะไม่เป็นภาระในตอนสิ้นเดือน หากคุณใช้งานทั่วไปก็อาจเลือกแค่การเชื่อมต่อที่ไม่ต้องเร็วมากก็เพียงพอแล้วและยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย

5. เลือกจากฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ

อย่างที่บอกว่าเราเตอร์นั้นมีหลายรุ่น หลายยี่ห้อ คุณสมบัติและฟังก์ชันการใช้งานก็แตกต่างกันออกไป จึงเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเพราะเมื่อซื้อมาแล้วจะได้ใช้งานได้ครบตามที่ต้องการไม่ต้องมาเปลี่ยนใหม่ในภายหลัง ยกตัวอย่างเช่น จำนวนอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกัน, การเข้ารหัสความปลอดภัยเพื่อช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ใช้, มีฟีเจอร์ลดความหน่วงของสัญญาณ, รองรับการเชื่อมต่อทั้ง2.4GHz และ 5GHz เหล่านี้ล้วนส่งผลกับการใช้งานขอิงเราทั้งสิ้น

6. ราคา การรับประกัน และบริการหลังการขาย

สุดท้ายแต่ก็สำคัญไม่แพ้ข้ออื่นนั่นก็คือราคาของเราเตอร์ ว่าลงตัวกับงบประมาณที่เรามีอยู่หรือไม่ เพราะเราเตอร์นั้นมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นขึ้นกับคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ใส่มาในแต่ละรุ่น นอกจากนี้ในการที่จะเลือกเราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี เรายังควรต้องพิจารณาจากเงื่อนไขการรับประกันรวมถึงบริการหลังการขายด้วย เพื่อที่จะใช้งานได้อย่างอุ่นใจว่าเมื่อเกิดปัญหาแล้วจะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วและยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วยในกรณีที่การชำรุดอยู่ภายใต้การรับประกัน

แนะนำ 10 อันดับ เราเตอร์ยี่ห้อไหนดี

ทำความรู้จักกับเราเตอร์กันไปแล้ว ว่าคืออะไรและควรเลือกอย่างไร คราวนี้เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลยว่ามีเราเตอร์รุ่นไหน ยี่ห้อใด ที่น่าสนใจบ้าง โดยเราคัดมาหลากรุ่นหลายราคาเพื่อให้คุณเลือกใช้กันได้ตามต้องการ

1. เราเตอร์ ASUS รุ่น RT-N12+

เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี เราเตอร์ ASUS รุ่น RT N12

เริ่มต้นรายชื่อเราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี กันด้วย เราเตอร์ ASUS รุ่น RT-N12+ เราเตอร์แบบ 3-in-1 Router/AP/Range Extender ใช้งานได้กับทั้งในสำนักงานและที่บ้าน รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบมีสายและแบบไร้สาย มาพร้อมเทคโนโลยี 2T2R MIMO และเสาอากาศแบบ 5dBi จำนวน 2 เสา ซึ่งช่วยให้สามารถกระจายสัญญาณได้อย่างทั่วถึง รองรับการโทร VoIP, การสตรีมมิ่งที่ความคมชัดระดับ HD การเล่นเกมออนไลน์ ใช้งานง่ายผ่านระบบ Quick Internet มีระบบป้องกันความปลอดภัยของเครือข่ายและข้อมูล พร้อม ASUSWRT ที่ช่วยให้การตั้งค่า UI ต่าง ๆ ทำได้อย่างง่ายดาย พร้อมเข้ารหัส VPN แบบ PPTP เพื่อสร้างพื้นที่ส่วนตัวให้คุณในโลกออนไลน์ ทั้งหมดนี้ในราคาที่บอกเลยว่าคุ้มมาก

2. เราเตอร์ D-LINK AC1200 DIR-822

เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี เราเตอร์ D LINK AC1200 DIR 822

เมื่อพูดถึงเราเตอร์ผู้ผลิตอย่าง D-LINK คืออีกรายที่มีมาตรฐานวางใจได้ ซึ่งเจ้า เราเตอร์ D-LINK AC1200 DIR-822 ตัวนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โดยมากับดีไซน์เรียบหรูทันสมัย มีเสาอากาศ 4 เสาช่วยให้กระจายสัญญาณได้อย่างทั่วถึง รองรับเทคโนโลยีไร้สายแบบ 802.11ac แบบ Dual Band ทั้ง 2.4GHz และ 5GHz ความเร็วสูงสุดถึง 1200 Mbps ช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์หรือสตรีมวิดีโอความละเอียด HD ได้อย่างราบรื่น มาพร้อมโหมดการควบคุมสำหรับเยาวชน การป้องกันเครือข่ายจากผู้ใช้อื่น มีแอพ QRS Mobile ที่ติดตั้งง่าย พร้อมด้วยพอร์ต LAN อีก 4 พอร์ต เพื่อการใช้งานที่เลือกได้ตามความต้องการ ใครหาเราเตอร์ดี ๆ เอาไว้ใช้ตัวนี้ก็น่าสนใจทีเดียว

3. เราเตอร์ TP-LINK Archer AX10 Wireless AX1500

เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี เราเตอร์ TP LINK Archer AX10 Wireless AX1500

พูดถึงเราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี จะขาด TP-LINK ไปได้อย่างไร โดยเจ้า TP-LINK Archer AX10 Wireless AX1500 ตัวนี้เรียกว่าครบถ้วนสำหรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่จะพาคุณท่องโลกออนไลน์ได้อย่างไม่สะดุด รองรับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 ให้ทุกการออนไลน์ลื่นไหลและเสถียรมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะกับการเล่นเกม การสตรีมเนื้อหาต่าง ๆ หรือความบันเทิงที่คุณโปรดปราน รองรับทั้งคลื่นความถี่ 2.4GHz และ 5GHz ที่ความเร็วสูงสุด 1.5 Gbps พร้อม OFDMA และ MU-MIMO ที่มาช่วยลดความหน่วง เหมาะมากกับเกมเมอร์ ตัวนี้ใช้ซีพียูแบบ Triple-Core ความเร็ว 1.5Ghz มีเสา 4 เสาที่ใช้เทคโนโลยี Beamforming ช่วยกระจายสัญญาณให้ครอบคลุมพื้นที่ ตั้งค่าง่ายผ่านแอพ Tether รวมถึงรองรับคำสั่งเสียงผ่าน Amazon Alexa อีกด้วย

4. เราเตอร์ Mi Router 4A Gigabit Edition

เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี เราเตอร์ Mi Router 4A Gigabit Edition

มาต่อกันที่เราเตอร์อย่าง Mi Router 4A Gigabit Edition กันบ้าง ที่พอเห็นชื่อยี่ห้อก็การันตีได้ในเรื่องของราคาที่เข้าถึงได้อย่างสบายกระเป๋ามากขึ้นและคุณภาพน่าพอใจ มาด้วยสีขาวดูสะอาดตาเข้ากับการตกแต่งบ้านได้หลายแบบ เป็นเราเตอร์แบบ Dual Band รองรับทั้ง 2.4GHz และ 5GHz โดยมีเสาอากาศมาให้อย่างละ 2 ต้น พร้อมเทคโนโลยีช่วยขยายสัญญาณให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ลดอาการหน่วงของสัญญาณ ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผลแบบ Dual-Core ความเร็ว 880MHz มีพอร์ต LAN มาให้ 2 พอร์ต พ่วงมาด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยปิดกั้นการเข้าใช้งานจากแหล่งไม่รู้จัก รวมถึงสามารถตั้งค่าต่าง ๆ ได้ง่ายผ่าน แอพ Mi WiFi ราคานี้ถือว่าคุ้ม

5. เราเตอร์ Tenda AC1200 Smart Dual-Band WiFi Router

เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี เราเตอร์ Tenda AC1200 Smart Dual Band WiFi Router

Tenda AC1200 Smart Dual-Band WiFi Router เราเตอร์สวยความเร็วสูงมาในสีดำดูเรียบหรูพร้อม LED แสดงสถานะการทำงาน รุ่นนี้รองรับคลื่นความถี่ทั้ง 2.4 GHz และ 5 GHz ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 1200 Mbps บนมาตรฐาน IEEE802.11a/b/g/n/ac ติดตั้งง่ายในไม่กี่ขั้นตอน ขับเคลื่อนการทำงานด้วย CPU ระดับ 28 นาโนเมตร ความเร็ว 1.0 GHz ประมวลผลได้อย่างรวดเร็วช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน มีพอร์ต LAN มาให้ 3 พอร์ต เสาอากาศ 5dBi HG อีก 4 ต้นช่วยให้ครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น มีระบบเข้ารหัสความปลอดภัยและตั้งค่าผู้ใช้ที่ไม่ต้องการให้เข้าถึงเครือข่าย รองรับ Tenda Mobile app เพื่อควบคุมการทำงาน มีโหมดควบคุมการใช้งานของเด็ก ตั้งปิดไฟในเครื่องระหว่างนอนได้ ให้เยอะขนาดนี้ต้องรับไว้พิจารณาหน่อยแล้วล่ะ

6. เราเตอร์ Mercusys รุ่น AC12G

เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี เราเตอร์ Mercusys รุ่น AC12G

Mercusys รุ่น AC12G เราเตอร์แบบดูอัลแบนด์ Wi-Fi ประสิทธิภาพสูง ราคาเบา ๆ รองรับทั้งคลื่นความถี่ 2.4GHz และ 5GHz ความเร็วสูงสุด 867 Mbps ตัวนี้รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ถึง 60ตัวพร้อมกัน มาพร้อมเสาอากาศ 4 ต้น ให้การกระจายสัญญาณที่ทั่วถึงรองรับได้แม้กับบ้านขนาดใหญ่ มีพอร์ต LAN มาให้อีก 4 พอร์ต เพื่อการเชื่อมต่อที่ต้องการความเสถียรมากยิ่งขึ้น รองรับการใช้งานสำหรับสตรีมวิดีโอความคมชัดระดับ HD และการเล่นเกมออนไลน์ รวมถึงความบันเทิงในโลกอินเทอร์เน็ตต่างได้อย่างครบครัน นอกจากนี้ยังติดตั้งง่ายมากอีกด้วย

7. เราเตอร์ Xiaomi รุ่น AIOT AX3600

เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี เราเตอร์ Xiaomi รุ่น AIOT AX3600

ใครยังไม่รู้จะเลือกเราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ลองพิจารณา Xiaomi รุ่น AIOT AX3600 กันดูก่อน เพราะรุ่นนี้คือจัดเต็มทุกอย่างจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่สวยงาม ฟังก์ชันการทำงาน หรือความสามารถในการเชื่อมต่อและกระจายสัญญาณ รองรับทั้งคลื่นความถี่ 2.4GHz และ 5GHz บนมาตรฐาน IEEE 802.11a/b/g/n/ac/ax, 802.3/3u/3ab ให้ความเร็วสูงสุดถึง 2402 Mbps รุ่นนี้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้พร้อมกันถึง 248 เครื่อง มีเสาอากาศมา 6 ต้น และเสาพิเศษสำหรับ IoT อีก 1 ต้น พอร์ต LAN อีก 3 พอร์ต ซึ่งทางผู้ผลิตเคลมว่ากระจายสัญญาณได้มากกว่าเราเตอร์ทั่วไปถึง 155% ความพิเศษอีกอย่างก็คือ ช่วยเร่งความเร็วบนมือถือของ Xiaomi และ Redmi เพื่อการเล่นเกมที่ลื่นไหล รวมถึงรองรับ MIJIA APP อีกด้วย

8. เราเตอร์ Linksys รุ่น WRT1900ACS

เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี เราเตอร์ Linksys รุ่น WRT1900ACS

ไปให้สุดกับ Linksys รุ่น WRT1900ACS เราเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่จะช่วยให้ทุกการเชื่อมต่อบนโลกออนไลน์ของคุณเร็วแรงไม่สะดุด ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม การสตรีมมิ่ง การเล่นคอนเทนต์ออนไลน์ต่าง ๆ โดยกระจายสัญญาณได้ทั้งคลื่นความถี่ 2.4GHz และ 5GHz ได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ต้องการ โดยมีเทคโนโลยี Beamforming มาช่วยลดสัญญาณรบกวน ส่วนด้านประสิทธิภาพของตัวเราเตอร์นั้นใช้โปรเซสเซอร์ Dual-Core ความเร็ว 1.3GHz มาเป็นตัวขับเคลื่อน รุ่นนี้มีพอร์ต Gigabit LAN มาให้ 8 พอร์ต พร้อมพอร์ต USB 3.0 มาช่วยแชร์ไฟล์และเพิ่มที่เก็บข้อมูลภายนอก และเสาอากาศอีก 4 ต้น ทำให้ทุกพื้นที่ไดรับสัญญาณอย่างทั่วถึง มีแอพพลิเคชั่นจาก LINKSYS มาช่วยในการตั้งค่าต่าง ๆ พร้อมระบบความปลอดภัยที่จะช่วยปกป้องข้อมูลและเครือข่ายของคุณ

9. เราเตอร์ Yeacomm รุ่น YF-P25

เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี เราเตอร์ Yeacomm รุ่น YF P25

สำหรับเราเตอร์ Yeacomm รุ่น YF-P25 ตัวนี้เป็นเราเตอร์แบบใส่ซิมที่สามารถใช้งานได้กับซิมการ์ดของผู้ให้บริการทุกเครือข่ายในบ้านเราไม่ว่าจะเป็น AIS, True หรือ DTAC โดยข้อดีของเราเตอร์แบบนี้ก็คือไม่ต้องมีการเดินสายให้วุ่นวาย ติดตั้งและใช้งานง่ายเพียงใส่ซิมการ์ดเข้าไปในเครื่องเท่านั้น ส่วนประสิทธิภาพการทำงานนั้นรองรับ Wi-Fi มาตรฐาน IEEE 802.11 b/g/n ความเร็วสูงสุด 150 Mbps เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้พร้อมกันถึง 32 เครื่อง มีพอร์ต LAN จำนวน 1 พอร์ต และเสาอากาศ 1 เสา ใครที่ต้องการเราเตอร์ที่เรียบง่ายเอาไว้ใช้ในบ้านตัวนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย

10. เราเตอร์ Wavlink รุ่น Quantum S4 N300

เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี เราเตอร์ Wavlink รุ่น Quantum S4 N300

ส่งท้ายรายชื่อ เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี กันด้วย Wavlink รุ่น Quantum S4 N300 เราเตอร์ราคาประหยัดแต่ให้การใช้งานอย่างน่าพอใจ มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบง่ายในสีดำ ใส่เสาอากาศมา 2 ต้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายสัญญาณ รองรับมาตรฐาน IEEE 802.11 a/b/g/n ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 300 Mbps มีพอร์ต LAN มาให้ 4 พอร์ต จุดเด่นอย่างหนึ่งของเราเตอร์รุ่นนี้ก็คือเรื่องของความปลอดภัย โดยมีปุ่ม WPS เข้ารหัสความปลอดภัย และระบบป้องกันเครือข่ายอย่าง PPPoE, Dynamic IP และ WISP ให้คุณใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างอุ่นใจ ทั้งหมดนี้ในราคาที่น่าคบหาเอามาก ๆ

บทส่งท้ายจากผู้เขียน

ผ่านไปแล้วกับ 10 รุ่น เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ที่เราคัดมาให้คุณได้พิจารณากัน โดยพยายามให้มีตัวเลือกในหลายระดับราคา คุณสมบัติของแต่ละรุ่นก็มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการกระจายสัญญาณ ความแรง จำนวนเครื่องที่สามารถเชื่อมต่อได้ การตั้งค่าการใช้งาน ระบบความปลอดภัย เครือข่ายที่รองรับ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ลองเทียบกันดูอีกครั้งว่าเราเตอร์รุ่นไหนจากยี่ห้อใดที่ลงตัวกับความต้องการของคุณมากที่สุด

หมวดหมู่สินค้า