![น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี softener](https://nunglen.com/wp-content/uploads/2021/11/softener.jpg)
หากคุณต้องการให้ผ้าสะอาด สิ่งที่ตอบโจทย์ได้ก็คือการใช้น้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอก แต่ถ้าหากต้องการให้ผ้าที่คุณซักนั้นมีความนุ่มฟู หอม รีดง่าย ตัวช่วยที่จะสามารถตอบโจทย์ในข้อนี้ได้ก็คือน้ำยาปรับผ้านุ่มนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันนี้มีน้ำยาปรับผ้านุ่มให้เราได้เลือกกันมากมายหลายยี่ห้อและมีรูปแบบการใช้งานที่เริ่มหลากหลายมากยิ่งขึ้น วันนี้เราเลยจะพามาทำความรู้จักกับน้ำยาปรับผ้านุ่มกันให้มากขึ้นรวมไปถึงวิธีเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่ม พร้อมแนะนำน้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี ที่น่าใช้และควรมีติดบ้านเอาไว้
น้ำยาปรับผ้านุ่มคืออะไร?
โดยปกติแล้วน้ำยาปรับผ้านุ่มส่วนใหญ่จะเป็นส่วนผสมของสารเคมีที่ใช้เคลือบผ้าเพื่อให้เส้นใยแต่ละชิ้นนั้นมีความลื่นตรงมากยิ่งขึ้น ช่วยลดการเกาะตัวของไฟฟ้าสถิต ลดแรงตึงผิว ทำให้ถ้ามีความนุ่มลื่น เนื้อผ้าฟูขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีการใส่น้ำหอมเป็นส่วนผสมเพื่อให้มีกลิ่นหอมติดเนื้อผ้าได้ทนนานอีกด้วย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วในน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นจะประกอบไปด้วย
- สารปรับผ้านุ่ม เป็นตัวที่เข้าไปเคลือบเส้นใยผ้าทำให้ผ้ามีความนุ่มฟู เรียบลื่น และรีดง่ายขึ้น นิยมใช้สารที่มีส่วนประกอบของซิลิโคนหรือแอมโมเนียซึ่งจะมีคุณสมบัติเป็นประจุบวกอยู่เล็กน้อยเพื่อช่วยลดการเกาะตัวของไฟฟ้าสถิตของเส้นใยผ้าที่มีประจุลบ และยังช่วยลดการดูดซับน้ำของผ้าเช็ดตัวได้อีกด้วย
- Emulsifier เป็นสารที่เข้ามาช่วยทำให้น้ำและน้ำมันละลายเข้าด้วยกันได้ โดยในน้ำยาปรับผ้านุ่มจะใช้สารอิมัลซิไฟเออร์เพื่อกระจายตัวสารปรับผ้านุ่มซึ่งมีความมันให้เข้ากับน้ำทำให้สามารถซึมเข้าสู่เนื้อผ้าได้จริงแทนที่จะลอยอยู่ด้านบนเหนือผิวน้ำ หากไม่มีการผสมสารอิมัลซิไฟเออร์นี้ตัวน้ำยาปรับผ้านุ่มก็จะถูกชะล้างออกไปตามท่อระบายน้ำทิ้งแทนที่จะซึมเข้าไปในเนื้อผ้านั่นเอง
- สารแต่งสีและกลิ่น น้ำยาปรับผ้านุ่มมักจะมีการเติมกลิ่นเข้าไปเพื่อทำให้ผ้ามีความหอมติดทนนาน บางยี่ห้อก็อาจเติมสีที่เท่ากับกลิ่นของน้ำยาปรับผ้านุ่ม อย่างเช่นสีชมพูเป็นกลิ่นกุหลาบ สีม่วงเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์ เป็นต้น ซึ่งสารแต่งสีและกลิ่นเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นส่วนผสมของสารเคมี จึงต้องคอยสังเกตดูด้วยว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มที่คุณเลือกใช้นั้นมีสารเคมีที่เป็นอันตรายกับผิวและสิ่งแวดล้อมหรือไม่
วิธีเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่ม
ในปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มออกมาให้เราได้เลือกใช้กันอย่างมากมายหลายยี่ห้อหลายแบบเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มาพร้อมกับจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ถ้าหากต้องการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับการซักผ้า แต่ไม่รู้จะเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี เราแนะนำให้มองหาน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีคุณสมบัติเบื้องต้นดังนี้
1. เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ทำให้เสื้อผ้านุ่มฟู เรียบลื่น รีดง่ายขึ้น
ในการเลือกว่าจะใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษก็คือคุณสมบัติเด่นที่น้ำยาปรับผ้านุ่มสมควรมีก็คือการช่วยทำให้เนื้อผ้ามีความนุ่มฟู เรียบลื่น ไม่ยับง่าย สามารถรีดได้ง่ายขึ้น โดยทั่วไปน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดก็สามารถทำให้เสื้อผ้านุ่มฟูได้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากต้องการเน้นคุณสมบัติในเรื่องของการปรับเนื้อผ้าให้มีความนุ่มฟูก็อาจจะเลือกแบบที่มาพร้อมกับคุณสมบัติช่วยให้ผ้านุ่มฟูเรียบลื่นเป็นพิเศษก็ได้
2. เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ไม่ทำให้สีเสื้อผ้าซีดจางหรือหม่น
หากใครที่มักจะตากผ้าท่ามกลางแสงแดดจัดอยู่เป็นประจำ แน่นอนว่าแสงแดดนั้นสามารถทำให้เสื้อผ้ามีสีซีดจางได้ หรือน้ำที่ใช้ซักผ้าอาจมีหินปูนปะปนทำให้ผ้าหมองคล้ำ แนะนำให้เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีคุณสมบัติช่วยทำให้เนื้อผ้ายังคงมีสีสันสดใสเหมือนใหม่ ไม่ซีดจางหรือหม่นหมอง
3. เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว
อีกหนึ่งข้อที่ควรให้ความสำคัญในการจะเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี นั่นก็คือจะต้องไม่มีสารเคมีที่ระคายเคืองกับผิว เพราะนั่นอาจทำให้คุณเกิดอาการแพ้หากใส่เสื้อผ้าที่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มได้ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็ก การเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มก็ควรที่จะให้ความสำคัญในข้อนี้เป็นพิเศษ
4. เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ทำให้ผ้าสามารถดูดซับน้ำได้ดี
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสามารถทำให้ผ้าขนหนูมีการดูดซับน้ำได้น้อยลง ดังนั้นถ้าหากต้องการเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่จะนำมาใช้กับผ้าขนหนู ก็ควรเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่สามารถใช้กับผ้าขนหนูได้ โดยสังเกตจากข้อมูลของผลิตภัณฑ์ที่มีการระบุเอาไว้ก่อนซื้อ
5. เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีกลิ่นหอมติดทนนาน ช่วยลดกลิ่นอับ
หลายคนชอบใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเพราะต้องการให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมติดทนนาน และลดกลิ่นอับ ดังนั้นถ้าหากอยากได้น้ำยาปรับผ้านุ่ม ที่เน้นให้กลิ่นหอมติดทนยาวนานและลดกลิ่นอับแม้ตากในที่ร่ม แนะนำให้เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษในเรื่องของการคงกลิ่นหอมเอาไว้ได้อย่างยาวนานรวมไปถึงช่วยลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของกลิ่นอับชื้น
6. เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีราคาไม่แพงจนเกินไป
การใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มก็เป็นขั้นตอนที่ทำให้เราต้องมีค่าใช้จ่ายในการซักผ้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถ้าหากมีการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มอยู่เป็นประจำทุกครั้งที่ซักผ้า การเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีราคาแพงมากจนเกินไปก็อาจทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากขึ้น ดังนั้นควรมองหาน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีราคาไม่แพงจนเกินไปและสามารถซื้อได้โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อรายจ่ายตามปกติ
7. เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ไม่ทำให้เกิดคราบเปื้อนบนเสื้อผ้าและไม่มีคราบตกค้างในเครื่องซักผ้า
ในบางครั้งสารเคมีที่ใช้ในน้ำยาปรับผ้านุ่มอาจทำให้เกิดคราบเปื้อนและคราบตกค้างในเครื่องซักผ้าได้ ซึ่งก็อาจจะลองซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ต้องการมาใช้ดูก่อนในเบื้องต้นแล้วสังเกตดูว่าหลังจากใช้แล้วเสื้อผ้ามีคราบ ดูไม่ค่อยสะอาด รวมไปถึงมีคราบตกค้างในเครื่องซักผ้าอยู่หรือไม่
8. เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
ต้องทราบก่อนว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เราใช้ไม่ได้ซึมเข้าไปอยู่ในเนื้อผ้าทั้งหมด แต่ส่วนที่เหลือก็จะถูกระบายออกไปกับน้ำทิ้งของเครื่องซักผ้านั่นเอง ซึ่งน้ำเสียที่เกิดจากการซักผ้าก็จะถูกปล่อยลงไปยังแหล่งน้ำหรือสิ่งแวดล้อมภายนอก ดังนั้นการเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มจึงควรดูชนิดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
9. หากต้องการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกับเสื้อผ้าเด็กแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กโดยเฉพาะ
น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีขายกันตามท้องตลาดโดยทั่วไปก็จะเหมาะกับการซักเสื้อผ้าของผู้ใหญ่ตามปกติ หรืออาจจะมีบางยี่ห้อที่สามารถใช้กับเสื้อผ้าเด็กได้ ซึ่งถ้าหากที่บ้านมีเด็กเล็กก็ควรเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กโดยเฉพาะเพื่อความปลอดภัยจะดีกว่า หรืออาจจะหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเสื้อผ้าเด็กไปเลยก็ได้
แนะนำ น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี
1. น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้นพิเศษ ไฮยีน เอ็กซ์เพิร์ท แคร์ ไลฟ์ เนเจอร์ กลิ่นสปริง แมกโนเลีย ชนิดถุง Smart Cap ขนาด 540 ml.
![น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี Hygiene Magnolia](https://nunglen.com/wp-content/uploads/2021/11/Hygiene-Magnolia.png)
เริ่มต้นรายชื่อ น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดีกันด้วย ไฮยีน เอ็กซ์เพิร์ท แคร์ ไลฟ์ เนเจอร์ กลิ่นสปริง แมกโนเลีย ที่มาพร้อมความหอมเข้มข้นติดทนนาน กลิ่นหอมราวกับอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกสปริง แมกโนเลีย ที่เคล้าคลอไปด้วยกลิ่นแดดแรกของฤดูใบไม้ผลิ สร้างเอกลักษณ์ความหอมพิเศษด้วยนวัตกรรม LIFE NATURE นวัตกรรมใหม่ที่มีสกัดจากส่วนประกอบของธรรมชาติ 100% มีส่วนผสมหลักสกัดจากพืช 72% และย่อยสลายได้ตามธรรมชาติถึง 90% สะดวกในการใช้งานด้วยถุงบรรจุแบบ Smart Cap (สมาร์ท แคป)
2. Comfort Luxury Enchant Fabric Softener Purple ชนิดถุงเติมขนาด 540 ml. แพ็ค 4 ชิ้น
![น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี Comfort Purple](https://nunglen.com/wp-content/uploads/2021/11/Comfort-Purple.png)
ต่อกันเลยกับ Comfort Luxury Enchant Fabric Softener Purple ที่มาพร้อมเสน่ห์ความหอมยาวนานจากดอกไม้ฝรั่งเศสชั้นดี ด้วยกลิ่นหอมสุดหรูดั่งต้องมนต์จากดอกไฮเดรนเยีย รังสรรค์จากนักปรุงน้ำหอมระดับโลก ให้คุณสมบัติดูแลผ้าถึง 6 ประการด้วยเทคโนโลยีอัลตร้า แคร์ ใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ช่วยให้ผ้ายับน้อยลง ผ้าเป็นขุยน้อยลง ผ้านุ่ม คงรูปทรงสวยงาม คงสีสันสดใส พร้อมกลิ่นหอมน่าหลงใหลติดทนนาน
3. Downy น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น สูตรน้ำหอมพรีเมี่ยม Passion Perfume ชนิดถุงเติมขนาด 1.25 ลิตร x2 แพ็ค
![น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี Downy Passion Perfume](https://nunglen.com/wp-content/uploads/2021/11/Downy-Passion-Perfume.png)
หากคุณกำลังมองหาน้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี ที่ให้กลิ่นหอมติดทนนานยิ่งกว่าน้ำหอมระดับพรีเมี่ยม ลองดู Downy น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น สูตรน้ำหอมพรีเมี่ยม Passion Perfume ที่ให้คุณจุดประกายความเย้ายวนได้ในทุกวัน ช่วยป้องกันกลิ่นอับ ช่วยถนอมใยผ้า ให้ผ้านุ่ม เรียบลื่น รีดง่าย ผ่านการทดสอบทางผิวหนังอ่อนโยนกับผิวพรรณ และใช้กับเสื้อผ้าเด็กอ่อนได้ สามารถนำมาใช้ได้กับทั้งเครื่องซักผ้าทั้งแบบฝาบนและฝาหน้า
4. ESSENCE ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม เอสเซ้นซ์ สูตรเข้มข้น กลิ่น SENSUAL ROSE ชนิดถุงเติมขนาด 600 ml.
![น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี ESSENCE SENSUAL ROSE](https://nunglen.com/wp-content/uploads/2021/11/ESSENCE-SENSUAL-ROSE-.png)
ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม เอสเซ้นซ์ สูตรเข้มข้น กลิ่น SENSUAL ROSE มีคุณสมบัติในการช่วยปรับผ้านุ่มด้วยสูตรเข้มข้นพิเศษถึง 6 เท่า มาพร้อมความนุ่ม หอม ทุกการเคลื่อนไหว เพิ่มเสน่ห์สุดเย้ายวนใจ มอบความหอมยาวนานด้วยกลิ่นหอมคัดสรรพิเศษระดับโลก พร้อมเทคโนโลยีความหอมที่ยิ่งขยับก็ยิ่งหอมกระจาย มั่นใจและยังช่วยถนอมใยผ้าให้ผ้าลื่น รีดง่าย ยืดอายุการใช้งาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
5. ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม Hi Class สูตรมาตรฐาน กลิ่น Red Passion ชนิดถุงเติม ขนาด 550 ml.
![น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี Hi Class Red Passion](https://nunglen.com/wp-content/uploads/2021/11/Hi-Class-Red-Passion.png)
น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดีที่ทำให้ผ้านุ่มฟูเป็นพิเศษ กลิ่นหอมติดทนนานในราคาที่ไม่แพง ต้องยกให้ ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม HI CLASS สูตรมาตรฐาน กลิ่น Red Passion ด้วยกลิ่นหอมที่ผสานกลิ่นหอมสดชื่นและความหอมหวานของดอกไม้ไว้อย่างลงตัว เพิ่มอานุภาพในการเข้าถึงใยผ้าด้วยสูตร “Soft-termary” ที่ช่วยถนอมใยผ้า ให้ผ้านุ่มฟู ไม่ลีบติดตัว รีดเรียบง่าย และช่วยป้องกันกลิ่นอับชื้น
6. ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม Fineline Elegant สีดำ (JOYFUL LIFE) ชนิดถุงเติมขนาด 500 ml.
![น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี Fineline Elegant JOYFUL LIFE](https://nunglen.com/wp-content/uploads/2021/11/Fineline-Elegant-JOYFUL-LIFE.png)
ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม Fineline Elegant สีดำ กลิ่น Joyful Life ตัวเลือกที่จะมามอบกลิ่นหอมที่เต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์ เย้ายวนจากดอกไม้ที่น่าหลงใหล เพิ่มความนุ่มละมุนด้วยกลิ่นขนม และวานิลลา มาในสูตรใหม่ด้วยสารสกัดจาก Fruit Serum ที่ทำให้ผ้าหอมติดทนยาวนานขึ้น 5 เท่า ช่วยลดกลิ่นอับ ผ้ารีดเรียบง่าย พร้อมด้วยนวัตกรรม Color Lock ช่วยให้ผ้าคงสีสันสดใส อัพเสน่ห์ให้ชุด Elegant ขึ้นกว่าเดิม
7. ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม Fresh & Soft สูตรเข้มข้นพิเศษ กลิ่น Amorous สีแดง ชนิดถุงเติมขนาด 500 ml.
![น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี Fresh Soft Amorous](https://nunglen.com/wp-content/uploads/2021/11/Fresh-Soft-Amorous-.png)
หากกำลังมองหาน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ช่วยเนรมิตกลิ่นหอมอันหรูหราโรแมนติก ต้องนี่เลย ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม Fresh & Soft สูตรเข้มข้นพิเศษ กลิ่น Amorous สีแดง ด้วยเทคโนโลยีเพิ่มแคปซูลน้ำหอมให้เสื้อผ้า ทำให้ได้ความหอมสดชื่นตราตรึงใจตลอดทั้งวัน หมดกังวลเรื่องกลิ่นอับและกลิ่นเหงื่อด้วยเอกสิทธิ์ของน้ำหอมเฉพาะที่มีใน Fresh & Soft ปลุกความมั่นใจในตัวคุณและสร้างความประทับใจให้กับคนใกล้ตัวได้อย่างน่าจดจำ
8. ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม De Paris สูตร Moonlight Harmony ชนิดถุงเติมขนาด 540 ml.
![น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี De Paris Moonlight Harmony](https://nunglen.com/wp-content/uploads/2021/11/De-Paris-Moonlight-Harmony.png)
ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม De Paris สูตร Moonlight Harmony มาพร้อมความหอมหรูหราสไตล์น้ำหอมชั้นสูงของฝรั่งเศส กลิ่นหอมอ่อนละมุนดุจเครื่องหอมชั้นสูง ด้วยการคัดสรรจากนักปรุงน้ำหอม พร้อมสูตรเข้มข้นพิเศษ 6 เท่า และเทคโนโลยีที่ช่วยล็อกกลิ่นหอมนาน 30 วัน ช่วยลดกลิ่นอับ ผ่านการทดสอบทางการแพทย์ว่าไม่ระคายเคือง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
9. ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มโปร กลิ่น Natural Fresh
![น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี Pro Natural Fresh](https://nunglen.com/wp-content/uploads/2021/11/Pro-Natural-Fresh.png)
หากคุณกำลังมองหาน้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดีที่ช่วยดูแลเสื้อผ้าให้นุ่ม หอมนาน ลดกลิ่นอับ และราคาประหยัด ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มโปร กลิ่น Natural Fresh ที่ให้คุณได้สัมผัสกลิ่นหอมสดชื่น สดใสของอากาศบริสุทธิ์ จากกลิ่นไอของดอกไม้ท่ามกลางทิวเขา ช่วยให้ผ้ารีดเรียบง่าย ช่วยลดกลิ่นอับด้วยเทคโนโลยี Reduce Malodor Technology ให้ผ้ากลิ่นหอมนาน นุ่มฟูสวมใส่สบายในทุกวัน
10. ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม D-nee สูตรเข้มข้นแอนตี้แบคทีเรีย ชนิดถุงเติม 500 ml.
![น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี D nee Antibacterial](https://nunglen.com/wp-content/uploads/2021/11/D-nee-Antibacterial.png)
ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก D-nee สูตรเข้มข้นแอนตี้แบคทีเรีย มาพร้อมกลิ่นหอมน่ารัก ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับชื้น นุ่ม หอม ยาวนานถึง 30 วัน อ่อนโยนด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ มีสารสกัดจากแตงกวา อ่อนโยนกับผิวไม่ระคายเคืองแม้ผิวที่บอบบาง ช่วยดูแลทั้งคุณและลูกน้อยได้อย่างอ่อนโยน เหมาะกับบ้านที่มีเด็กหรือคนที่ชื่นชอบกลิ่นหอมอ่อนๆ
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
โดยรวมแล้วต้องบอกว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการซักผ้าที่จะใช้ก็ดีหรือจะไม่ใช้ก็ได้ แต่โดยทั่วไปแล้วหลายคนก็เลือกที่จะใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเพราะต้องการให้ผ้าที่ซักมีความหอมนุ่มเรียบลื่นง่ายสวมใส่สบาย ซึ่งการเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่ม ยี่ห้อไหนดี ขอแนะนำว่าควรเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีกลิ่นหอมติดทนนาน เป็นมิตรกับผิว เนื้อผ้า สิ่งแวดล้อม และเงินในกระเป๋าจะเป็นการดีที่สุด ส่วนสูตรไหนจะโดนใจคุณมากที่สุดคงต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วล่ะ