จักรยานไฟฟ้า ในปัจจุบันนี้ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปไหนมาไหนในระยะใกล้ๆ เช่น ไปจ่ายตลาด หรือไปร้านค้าสะดวกซื้อใกล้บ้าน แล้วนั้น ยังเป็นนวัตกรรมที่รักษ์โลกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เนื่องจากจักรไฟฟ้าอาศัยการทำงานจากแบตเตอรีในตัวเท่านั้น ไม่มีการเผาไหม้ หรือปล่อยก๊าซพิษแต่อย่างใด โดยในท้องตลาดมีจักรยานไฟฟ้าให้เลือกใช้มากมายยี่ห้อ หลากหลายรูปแบบ จนอาจทำให้คุณตัดสินใจได้ยากว่าจะเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ที่จะสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบถ้วน วันนี้เราจึงขอแนะนำเคล็ดลับวิธีการเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้าเบื้องต้น พร้อมแนะนำจักรยานไฟฟ้า 10 รุ่น ที่กำลังเป็นที่นิยมตอนนี้
วิธีเลือกจักรยานไฟฟ้า
อย่างที่บอกว่าจักรยานไฟฟ้านั้นมีมากมายหลายรุ่น หลายแบรนด์ คุณสมบัติก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งการจะเลือกจักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีนั้น เราสามารถใช้เกณฑ์เหล่านี้มาใช้ช่วยในการตัดสินใจได้
1. เลือกซื้อจากประเภทของจักรยานไฟฟ้า
จักรยานไฟฟ้าในท้องตลาดมีหลากหลายประเภทเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น จักรยานไฟฟ้าแบบปั่นได้ ที่เมื่อแบตเตอรี่หมด เราก็สามารถเปลี่ยนโหมดเป็นปั่นจักรยานได้ทันที จักรยานไฟฟ้าแบบพับได้ ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จัดเก็บจำกัด หรือสามารถพับแล้วพกพาไปใช้ในตามสถานที่ต่างๆ ได้ จักรยานไฟฟ้าแบบสามล้อ ที่ออกแบบมาให้มีที่นั่งกว้างขวาง ทรงตัวได้ดี และเหมาะสำหรับผู้สูงอายุใช้งาน
2. คำนึงถึงกำลังมอเตอร์ของจักรยานไฟฟ้า
การที่เราเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้า เราก็หวังว่ามันจะสามารถทำความเร็วในการไปไหนมาไหนได้ดีกว่าจักรยานปั่นเท้าทั่วไป ฉะนั้นเวลาเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีเราขอแนะนำว่าให้พิจารณาถึงกำลังมอเตอร์ว่ามีค่ามากน้อยแค่ไหน โดยเฉลี่ยกำลังมอเตอร์ของจักรยานไฟฟ้าในท้องตลาดบ้านเรานั้นจะอยู่ที่ 180-400 วัตต์ ซึ่งจะสามารถทำความเร็วได้ 25-30 กิโลเมตร/ชั่วโมง ยิ่งมีค่ากำลังมอเตอร์สูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถทำความเร็วได้มากเท่านั้น
3. โครงสร้างของจักรยานไฟฟ้าต้องแข็งแรง
ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้า คุณควรพิจารณาวัสดุและโครงสร้างของจักรยานไฟฟ้าร่วมด้วย เพื่อที่ว่าจะสามารถใช้งานเขาได้นานๆ ไม่บุบสลายไปเสียก่อนเวลา โดยโครงสร้างของจักรยานไฟฟ้าส่วนใหญ่นั้นจะทำจากเหล็ก และอะลูมิเนียมซึ่งมีความแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งานทุกรูปแบบ และต้องดูการรองรับน้ำหนักของจักรยานไฟฟ้าคันนั้นๆ ร่วมด้วย ซึ่งจักรยานไฟฟ้ามักสามารถรองรับน้ำหนักได้ 100-180 กิโลกรัมเลยทีเดียว
4. ฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ขึ้นชื่อว่าเป็นจักรยานไฟฟ้า ก็แน่นอนว่าจะต้องมีความอัจฉริยะประมาณหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ระบบไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว รวมไปถึงแผงหน้าจออัจฉริยะที่อาจมาในรูปแบบของจอ LCD บอกค่าแบตเตอรี่คงเหลือ หรือระดับความเร็วที่ใช้งานอยู่ ระบบกุญแจอัจฉริยะ ที่สามารถสตาร์ท ปลดล็อก แถมมีสัญญาณกันขโมยในอันเดียว หรือแม้แต่จักรยานไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันการใช้งานแบบถอดแบตเตอรีออกมาชาร์จข้างนอกได้ เพื่อความสะดวกในการชาร์จ ไม่ต้องเสียเวลาลากสายไฟระโยงระยาง เป็นต้น
จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี
สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะเลือกจักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ตามเรามาเลยเพราะเราคัดมาให้ถึง 10 รุ่น จากแบรนด์ชั้นนำทั้ง DYU, LULAE, Ninebot, EM3, JIESUQI, SKG, ADIMAN, D Mall และ Pintech ในช่วงราคาที่คุณสามารถเลือกได้ตามงบประมาณ
1. จักรยานไฟฟ้า DYU รุ่น D3f
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| เลือกใช้งานได้ทั้งแบบปั่นเอง หรือขี่ด้วยไฟฟ้า | สามารถพับเก็บได้ |
| มีจอ LED แสดงแบตเตอรี่ ความเร็ว และรูปแบบการขี่ | สามารถติดอุปกรณ์เสริมได้ เช่น เบาะเด็ก ตระกร้าใส่ของ |
| เบาะหนาพิเศษ สามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ | |
| มีไฟหน้าและไฟท้าย |
เริ่มต้นการมองหา จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ด้วยจักรยานไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด ดีไซน์โปร่ง สามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน หรือจำเป็นต้องพกพาขึ้นใหญ่เพื่อประหยัดพื้นที่ โดดเด่นด้วยการทำความเร็ว 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง และขับได้ไกลมากถึง 40-50 กิโลเมตรต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้งเท่านั้น แถมยังใช้ระยะเวลาในการชาร์จไฟ เพียง 3-5 ชั่วโมงเท่านั้น ถือว่าระยะเวลาการชาร์จค่อนข้างสั้นเมื่อเทียบกับจักรยานไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆ ในท้องตลาด ในส่วนของการออกแบบฟีเจอร์ใช้งานอื่นๆ นั้นก็ค่อนข้างน่าประทับใจ ทั้งหน้าจอแสดงผลแบตเตอรี่ ติดตั้งไฟหน้าและไฟท้ายมาในตัว เบาะออกแบบนุ่มพิเศษและสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ เป็นต้น
2. จักรยานไฟฟ้า LULAE รุ่น V1
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| จักรยานไฟฟ้าสามารถนั่งได้ 2 คน | รองรับน้ำหนักได้มากถึง 150 กิโลกรัม |
| วิ่งได้ระยะทางไกลถึง 40 กิโลเมตร | เหมาะสำหรับการเดินทางระยะที่ไม่ไกลมาก |
| มีตะกร้าใส่ของด้านหน้า และที่วางเท้ากว้าง สามารถวางของได้ | |
| รูปทรงเก๋ มีหลายสีสันให้เลือกใช้ |
จักรยานไฟฟ้าดีไซน์เก๋ให้ความรู้สึกวินเทจเล็กน้อยที่สามารถนั่งได้ 2 คน แถมยังออกแบบที่วางเท้าให้มีความกว้างเพียงพอต่อการวางของเพิ่มเติม นอกเหนือไปจากตะกร้าใส่ของด้านหน้าจักรยาน ซึ่งสามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 150 กิโลกรัมเลยทีเดียว เหมาะอย่างยิ่งกับการขับออกไปจ่ายตลาด หรือช็อปปิ้งที่ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน และแม้จะเป็นจักรยานไฟฟ้าที่ไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่มาก แต่ก็ขับขี่ได้ค่อนข้างเสถียรดูดซับแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยโช้คหน้าและหลัง และถ้าขับขี่ตอนกลางคืนก็หายห่วง เพราะมาพร้อมกับไฟหน้า LED สูงพิเศษ ส่องสว่างขั้นสุด
3. จักรยานไฟฟ้า Ninebot eMoped B65
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| จักรยานไฟฟ้าปลดล็อกด้วยระบบ Key Card | ตัวเครื่องและแบตเตอรี่กันน้ำ ปลอดภัย |
| ขับขี่ได้นุ่มนวลด้วยโช้คหน้า-หลัง | ใช้ระยะเวลาในการชาร์จค่อนข้างนาน |
| สามารถเดินทางได้ไกล 65 กิโลเมตรต่อเนื่องต่อการชาร์จ 1 ครั้ง | |
| มีโหมดป้องกันขโมย |
ถ้าคุณกำลังมองหาจักรยานไฟฟ้าคุณภาพเยี่ยมและมีงบประมาณในมือสูง แต่ก็ยังเลือกไม่ได้ว่าจักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำ Ninebot eMoped B65 จักรยานไฟฟ้าอัจฉริยะขนาดใหญ่ที่สามารถขับขี่ได้นุ่มนวลทำความเร็วได้สูงสุด 38 กิโลเมตร/ชั่วโมง และเดินทางได้ไกลมากถึง 65 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเพียง 1 ครั้งเท่านั้น โดดเด่นด้วยระบบ Smart Key และมีเซ็นเซอร์ตรวจจับผู้ขับขี่ พร้อมด้วยโหมดป้องกันขโมย รวมถึงแบตเตอรี่ทำจาก Lithium คุณภาพสูงอึด ถึก ทน และป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรได้อีกด้วย
4. จักรยานไฟฟ้า EM3 E Bike
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| จักรยานไฟฟ้า 2 ที่นั่ง ดีไซน์โล่งโปร่ง คล่องตัว | สามารถถอดแบตเตอรีออกมาชาร์จข้างนอกได้ |
| ชาร์จ 1 ครั้ง ขับขี่ได้ไกล 40-50 กิโลเมตร | รองรับน้ำหนักได้มากถึง 150 กิโลกรัม |
| มีหน้าจอดิจิทัล Smart Display บอกปริมาณแบตเตอรี่ และความเร็ว | |
| ยุดรถได้ทันทีด้วยระบบดรัมเบรคหน้าและหลัง |
จักรยานไฟฟ้า EM3 E Bike จักรยานไฟฟ้าดีไซน์โปร่งโล่งเพื่อทัศนะวิสัยที่ชัดเจนขณะขับขี่ เน้นความคล่องตัวแบบขั้นสุด สมรรถนะในการขับขี่ถือว่าทำได้ดีเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป ทั้งทำความเร็วได้สูงสุด 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขับได้ไกล 40-50 กิโลเมตรต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง หรือแม้แต่สามารถขึ้นทางลาดเอียง 30 องศาได้อย่างไร้กังวล ทั้งยังสามารถขับขี่ตอนกลางค่ำกลางคืนได้หายห่วง เพราะมีทั้งไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟท้ายสว่างจ้า รวมถึงมีหน้าจอ Smart Display บอกระดับแบตเตอรี่และความเร็วที่ใช้
5. จักรยานไฟฟ้า JIESUQI
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| จักรยานไฟฟ้าขนาดเล็กกะทัดรัด ขับขี่คล่องตัว | สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 150 กิโลกรัม |
| มี 3 โหมดการขับขี่: โหมดไฟฟ้า โหมดบูสต์ และโหมดฟิตเนส | พับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน |
| ดิสก์เบรกคู่หยุดรถเร็ว ระบายความร้อนได้ดี | |
| ขับได้ระยะไกล 30-50 กิโลเมตร |
จักรยานไฟฟ้าดีไซน์ดุดันเท่เร้าใจ มีรูปทรงสูงโปร่งทว่าเล็กกะทัดรัด ใช้งานได้คล่องตัวขับขี่ได้ทุกเส้นทางถนน โดยทำความเร็วได้สูงถึง 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง และชาร์จ 1 ครั้ง สามารถขับได้ไกลมากถึง 50 กิโลเมตร สามารถปรับโหมดขับขี่ได้ตามใจชอบ 3 โหมดด้วยกัน คือ โหมดไฟฟ้าบริสุทธิ์ ไม่ต้องเสียเวลาออกแรง โหมดบูสต์ ส่งแรงเสริมทัพการทำงานของระบบไฟฟ้าในจักรยานด้วยการใช้เท้าปั่น และสุดท้ายโหมดฟิตเนส ที่เหมาะสำหรับคนอยากใช้เท้าปั่นจักรยานไปไหนมาไหนเองโดยเฉพาะ ตอบโจทย์จักรยานไฟฟ้าใช้ออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. จักรยานไฟฟ้า SKG รุ่น SK-48v333
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| จักรยานไฟฟ้า 2 ที่นั่ง พร้อมตะกร้าใส่ของด้านหน้า | ชาร์จไฟนาน 6-8 ชั่วโมง |
| ใช้ได้ทั้งแบบปั่นเท้าและแบบไฟฟ้า | รองรับน้ำหนักได้มากถึง 180 กิโลกรัม |
| มีไฟส่องทั้งด้านหน้าและไฟท้าย | |
| ชาร์จ 1 ครั้ง วิ่งได้ไกล 40 กิโลเมตร |
หมดคำถามว่าจักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี เมื่อคุณได้ลองทำความรู้จักกับ SKG รุ่น SK-48v333 จักรยานไฟฟ้ากำลังแรงและแรงดันไฟฟ้าสูง ช่วยให้คุณขับขี่โดยจักรยานไฟฟ้าคันนี้เร็วถึง 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง และไปได้ไกลสูงสุด 40 กิโลเมตรต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้งเท่านั้น หรือต่อให้แบตเตอรี่หมดคุณก็สามารถใช้เท้าปั่นแทนได้เลยไม่ต้องรอไฟฟ้าเข้าจักรยาน พร้อมด้วยระบบการทำงานของไฟหน้าและไฟท้ายแบบอัจฉริยะที่สามารถเปิดปิดง่ายเพียงปลายนิ้วบิดกุญแจ
7. จักรยานไฟฟ้า ADIMAN รุ่น V1
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| จักรยานไฟฟ้าแบบ 2 ที่นั่ง ที่วางเท้ากว้าง พร้อมตะกร้าใส่ของด้านหน้า | ใช้เวลาชาร์จนาน 8-10 ชั่วโมง |
| ปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ได้ทั้งแบบปั่นและไฟฟ้า | รองรับน้ำหนักได้มากถึง 180 กิโลกรัม |
| มีช่อง USB เสียบชาร์จมือถือได้ | |
| มีไฟเลี้ยวซ้าย-ขวา |
หากคุณกำลังมองหา จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีแบบมี 2 ที่นั่ง พร้อมด้วยตะกร้าใส่ของด้านหน้า และออกแบบให้ที่วางเท้ามีขนาดกว้างเพื่อรองรับการวางของขนาดใหญ่ ดีไซน์สวยน่าใช้งาน ในส่วนของฟังก์ชันการทำงานก็เรียกได้ว่าครบครันสมกับราคาที่จ่ายไป ด้วยระบบไฟฟ้ามอเตอร์ความแรงสูงปล่อยความเร็วได้ถึง 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับได้นาน 45-50 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อีกทั้ง และถ้าแบตเตอรี่หมดก็สามารถเปลี่ยนโหมดมาเป็นปั่นจักรยานได้ทันที ที่สำคัญเป็นจักรยานไฟฟ้าที่มาพร้อมกับช่อง USB สำหรับเสียบชาร์จมือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้อีกด้วย
8. จักรยานไฟฟ้า LULAE รุ่น V18
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| จักรยานไฟฟ้า 2 ที่นั่ง ที่วางเท้ากว้าง มีตะกร้าใส่ของ | ใช้เวลาชาร์จไม่นาน เพียง 5-6 ชั่วโมง |
| ใช้งานได้ทั้งปั่นจักรยานและระบบไฟฟ้า | เหมาะสำหรับใช้ขับขี่ทั้งกลางวันและกลางคืน |
| มีไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยว | |
| มีหน้าจอ LCD แสดงข้อมูล |
จักรยานไฟฟ้าสีสันน่าใช้งานมาพร้อมกับระบบมอเตอร์ทำความเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 35 กิโลเมตร/ชั่วโมง มอเตอร์เงียบ ขับขี่นุ่มมสมูท เมื่อแบตเตอรีหมดก็สามารถปรับเปลี่ยนมาเป็นแบบปั่นจักรยานได้ ตกแต่งด้านหน้าจักรยานด้วยไฟหน้ากลมขนาดใหญ่ ไฟเลี้ยวซ้ายขวา และหน้าจอ LCD ระบุปริมาณแบตเตอรี่และความเร็วที่ใช้ พร้อมด้วยกระจกมองข้าง และมีไฟท้ายส่งสัญญาณเวลาเบรก อีกทั้งยังสะดวกต่อการขับขี่ไปจ่ายตลาดซื้อของด้วยตะกร้าใส่ของที่ติดตั้งมาด้านหน้าของจักรยานและมีที่วางเท้าหน้าคนขับค่อนข้างกว้าง เรียกได้ว่าถ้าคุณกำลังมองหาจักรยานไฟฟ้าอยู่ล่ะก็ LULAE รุ่น V18 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
9. จักรยานไฟฟ้า D Mall
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| จักรยานไฟฟ้า 2 ที่นั่งขนาดกะทัดรัด พร้อมตะกร้าใส่ของด้านหน้า | เหมาะสำหรับขับขี่ระยะใกล้ๆ เช่น ไปตลาด ร้านค้าสะดวกซื้อ |
| โช้คหน้า-หลัง รองรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้ดี | รองรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 300 กิโลกรัม |
| มีไฟเลี้ยวซ้าย-ขวา ไฟหน้า และไฟท้าย | |
| ชาร์จ 1 ครั้ง วิ่งได้ไกล 30-35 กิโลเมตร |
จักรยานไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดมาพร้อมกับเบาะนั่ง 2 ที่นั่ง พร้อมตะกร้าใส่ของด้านหน้า สามารถขับขี่ในระยะใกล้ๆ ได้ เช่น ไปจ่ายตลาด หรือร้านค้าสะดวกซื้อ ขับขี่ปลอดภัยด้วยระบบโช้คหน้า-หลัง สามารถรองรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี สามารถรองรับน้ำหนักโดยรวมได้ไม่เกิน 300 กิโลกรัม และหากขับขี่บนท้องถนน หรือยามค่ำคืนก็ปลอดภัยด้วยหลอดไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยวซ้าย-ขวาที่สว่างจ้า โดยชาร์จ 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ไกล 30-35 กิโลเมตรเลยทีเดียว เห็นจิ๋วๆ อย่างนี้แต่ประสิทธิภาพก็ดีเกินตัว อย่าลืมจดเข้าลิสต์ จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี กันด้วยนะ
10. จักรยานไฟฟ้า Pintech
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| จักรยานไฟฟ้า 2 ที่นั่ง ความเร็วสูงสุด 45 กิโลเมตร/ชั่วโมง | ขับขี่ได้ปลอดภัยด้วยกระจกมองข้าง ไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยว |
| กุญแจมีฟังก์ชันหลากหลาย | รองรับน้ำหนักได้มากถึง 150 กิโลกรัม |
| แผงหน้าปัด LCD บอกตัวเลขแบตเตอรี ความเร็วชัดเจน | |
| วิ่งได้ไกล 50 กิโลเมตร |
ถ้าอยากได้ จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ที่วิ่งได้ไกลและไม่ต้องใช้แรงเยอะ ขอแนะนำ จักรยานไฟฟ้า Pintech จักรยานไฟฟ้า 2 ที่นั่ง ขับขี่ได้เร็วทันใจ 45 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทุ่นแรงในการปั่นจักรยานไปได้มากถึง 50 กิโลเมตร มีโช้คหน้า-หลังรองรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถขึ้นเนินสูง 25 องศาได้แบบสบาย ๆ มองเห็นระดับแบตเตอรี่และความเร็วชัดเจนด้วยแผงหน้าปัดแบบ LCD พร้อมด้วยกุญแจที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย ทั้งสตาร์ทรถ ค้นหารถ ปลดล็อกรถ และปุ่มสัญญาณกันขโมย
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
น่าสนใจทุกยี่ห้อเลยใช่ไหมล่ะ? กับจักรยานไฟฟ้าทั้ง 10 ยี่ห้อที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งถ้าคุณกำลังตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี อยู่ล่ะก็ อย่าลืมหยิบเอาเคล็ดลับวิธีการเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้าข้างต้นไปปรับใช้กันดูนะ รับรองว่าคุณจะได้จักรยานไฟฟ้าคันโปรดที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานอย่างแน่นอน ทั้งนี้เมื่อได้จักรยานไฟฟ้าพร้อมใช้งานลงถนนแล้ว ก็อย่าลืมขับขี่อย่างระมัดระวังและเคารพกฎหมายจราจร เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองและของคนอื่นๆ ที่ร่วมใช้ถนนกับเราด้วยนะ
