“กล้องติดรถยนต์” กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการขับขี่ในปัจจุบัน เพราะสามารถบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ เอาไว้เป็นหลักฐานในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือสิ่งไม่คาดฝันขึ้นในระหว่างเดินทาง ดังจะเห็นได้จากหลายครั้งที่มีการออกข่าวว่าสามารถคลี่คลายคดีได้ด้วยอุปกรณ์นี้ โดยปัจจุบันราคาของกล้องติดรถยนต์เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ก็ทันสมัย ภาพที่ได้มีความคมชัด สำหรับผู้ที่กำลังมองหาไอเทมนี้แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือก กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี วันนี้เราคัดมาให้ถึง 10 รุ่นด้วยกัน
วิธีเลือกกล้องติดรถยนต์
ปัจจุบันมีกล้องติดรถยนต์หลายรุ่นหลายยี่ห้อ คุณสมบัติและราคาก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งการจะเลือก กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดีนั้นมีรายละเอียดที่เราต้องให้ความสำคัญเพื่อที่จะได้เลือกใช้อย่างเหมาะสม มาดูกันว่าการเลือกอุปกรณ์นี้ต้องพิจารณาจากเรื่องใดบ้าง
1. เลือกกล้องติดรถยนต์จากความละเอียดของกล้อง
เรื่องแรกเลยที่เราต้องให้ความสำคัญก็คือความละเอียดของกล้อง เพราะส่งผลต่อความคมชัดของวิดีโอที่บันทึก โดยมีให้เลือกตั้งแต่ระดับ HD Ready (720p) และ Full HD (1080p) หรือสูงกว่า แล้วแต่รุ่นและราคา ยิ่งความละเอียดสูงก็จะช่วยให้เราสามารถนำไปใช้อ้างอิงได้ง่ายขึ้นกรณีเกิดอุบัติเหตุขึ้นระหว่างเดินทาง ทั้งนี้อาจจะเลือกกล้องติดรถยนต์ที่ขายเป็นชุดสามารถเก็บภาพได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเพื่อความอุ่นใจมากขึ้น
2. เลือกกล้องติดรถยนต์จากอัตราเฟรมเรต
ข้อต่อมาในการเลือกกล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดีก็คือการดูจากอัตราเฟรมเรตหรือค่า FPS (Frame Per Second) โดยมีตั้งแต่ 60 FPS, 90FPS, 120FPS อธิบายง่ายๆ ว่ายิ่งค่านี้สูงก็จะยิ่งช่วยให้คลิปวิดีโอที่บันทึกเอาไว้ในกล้องติดรถยนต์มีความลื่นไหล ไม่กระตุก จนพลาดมุมหรือช่วงเวลาสำคัญไป อย่างไรก็ตามค่า FPS ที่สูงก็ยิ่งทำให้เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บ จึงต้องพิจารณาหน่วยความจำของกล้องหรือหน่วยความจำภายนอกที่เราเพิ่มเข้ามาว่าเพียงพอหรือไม่
3. เลือกกล้องติดรถยนต์จากมุมมองของภาพ
แน่นอนว่ามุมมองที่ได้รับจากกล้องติดรถยนต์มีความสำคัญมากกับการบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะหากพลาดไปแม้เพียงเล็กน้อยอาจทำให้ขาดความชัดเจนของหลักฐานในกรณีเกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยควรเลือกกล้องติดรถยนต์ที่ให้มุมมองภาพ 100 หรือ 120 องศาขึ้นไป เพื่อที่จะได้เก็บภาพในมุมกว้างได้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น
4. เลือกกล้องติดรถยนต์ที่มีระบบ G-Sensor
หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า G-Sensor นั้นมีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะจะช่วยแยกไฟล์ออกมาเพื่อป้องกันข้อมูลเสียหายในกรณีที่เกิดการเฉี่ยวชนหรือมีแรงกระแทกเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ป้องกันการถูกบันทึกทับหรือหน่วยความจำเต็ม ซึ่งถือว่ามีประโยชน์มากสำหรับการบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ในการเลือกซื้อจึงควรมองหากล้องติดรถยนต์ที่มีการติดตั้ง G-Sensor มาให้
5. เลือกกล้องติดรถยนต์ที่มองเห็นในเวลากลางคืนได้ดี
ช่วงเวลากลางคืนหรือเมื่อแสงน้อยมักมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น ดังนั้นกล้องติดรถยนต์จึงควรมีคุณสมบัติในการมองเห็นได้ชัดเจนในทุกสภาพแสง ซึ่งสิ่งที่เราสามารถตรวจสอบได้ก็คือ ค่ารูรับแสงหรือค่า F เช่น F/1.6, F/1.8, F/2.2, F/2.4 โดยยิ่งมีค่าน้อยแสดงว่าสามารถเปิดรับแสงได้มากทำให้ได้ภาพที่คมชัด นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์อินฟราเรดที่ช่วยให้มองเห็นกลางคืนได้ชัดขึ้น หรือเทคโนโลยี Wide Dynamic Range ที่ให้ภาพคมชัดสวยงามแม้ในช่วงเวลากลางคืนหรือในที่มืด
6. เลือกกล้องติดรถยนต์จากฟังก์ชันการทำงาน
การจะเลือกกล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ฟังก์ชันการทำงานคือองค์ประกอบสำคัญเพราะส่งผลต่อประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการใช้งาน ซึ่งฟังก์ชันที่มักมีในอุปกรณ์ประเภทนี้ อาทิ ระบบ Motion Detection ที่ใช้ตรวจจับความเคลื่อนไหว, Parking Mode ระบบการบันทึกเมื่อเข้าจอด, ระบบแจ้งเตือนสัญญาณไฟ, รองรับการเชื่อมต่อ Mobile Application, รองรับการสั่งงานด้วยเสียง, ระบบ Loop Recording บันทึกหมุนวน, ระบบแจ้งเตือนการชน ฯลฯ เป็นต้น
7. เลือกกล้องติดรถยนต์จากยี่ห้อและการรับประกัน
การเลือกกล้องติดรถยนต์จากยี่ห้อที่ได้มาตรฐานและเป็นที่รู้จัก อาทิ DENGO, Anytek, 70mai, AZDOME, FNKvision, NUOMi, DDpai, Ucam, Transcend หรือ Aston จะช่วยให้เรามั่นใจได้ในเบื้องต้นว่าจะได้สินค้าที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพการใช้งานที่น่าพอใจ นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบระยะเวลาและเงื่อนไขการรับประกันทุกครั้ง กรณีเกิดปัญหาจะได้สามารถเคลมและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงได้
กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี
เราได้ทราบกันไปแล้วว่าการจะเลือกกล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดีมีสิ่งใดบ้างที่เราต้องให้ความสำคัญ อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนน่าจะมีไอเดียในการเลือกกันแล้ว คราวนี้เราจะมาชี้เป้า 10 รุ่นกล้องติดรถยนต์น่าใช้ให้คุณได้ใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจกัน
1. กล้องติดรถยนต์ DENGO Advance 2K LITE
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
หน้าจอ LCD ขนาด 4.1 นิ้ว | รองรับการ์ด microSD สูงสุด 64 GB (ซื้อแยก) |
กล้องหน้าคมชัดระดับ 2K Super HD | ควรใช้กับ Memory Card แบบ Class 10 ขึ้นไป |
มีระบบแจ้งเตือนการออกนอกเลนส์ | |
มาพร้อม Parking Mode |
เริ่มต้นรายชื่อ กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดีของเรากันด้วย DENGO Advance 2K LITE ที่มาครบทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมฟังก์ชันการทำงานที่ทันสมัย เริ่มจากหน้าจอแสดงผลขนาด 4.1 นิ้ว พาเนล LCD ที่ให้ภาพคมชัด ตามมาด้วยกล้องหน้ารถความละเอียด 2K Super HD มุมมอง 130 องศา กล้องหลังความละเอียด 480p เป็นเลนส์มุมกว้าง 90 องศา มีไฟ LED มา 4 ดวงช่วยเพิ่มความสว่าง รองรับการบันทึกวิดีโอด้วยไฟล์ AVI และ MOV รองรับการ์ด microSD สูงสุด 64 GB มีระบบ Parking Mode, ระบบแจ้งเตือนการออกนอกเลนส์, G-Sensor, Loop Recording, Motion Detection รองรับ HDR ปรับแสงเองเมื่ออยู่ในที่มืด สนนราคาบอกเลยว่าคุ้ม
2. กล้องติดรถยนต์ Anytek G66
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
มีทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง | รองรับการ์ด microSD สูงสุด 32 GB |
ใช้เซนเซอร์ Sony IMX323 คมชัดแม้ที่แสงน้อย | |
หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว | |
แข็งแรงและทนต่อความร้อนได้ดี |
มาต่อกันด้วย กล้องติดรถยนต์ Anytek G66 อีกรุ่นที่หลายคนเลือกใช้เพราะมากับฟังก์ชันการทำงานที่ครบครันในราคาจับต้องได้ รุ่นนี้ใช้หน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว มีทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลัง ออกแบบมาให้สามารถทนความร้อนได้ดี จุดเด่นคือใช้เซนเซอร์ Sony IMX323 แบบ 6 ชิ้นเลนส์ มีเทคโนโลยี WDR ค่ารูรับแสง f/2.2 คมชัดในทุกสภาพแสง สามารถบันทึกวิดีโอพร้อมกันทั้งหน้า-หลังได้ มุมมองกล้องหน้าอยู่ที่ 170 องศา กล้องหลัง 140 องศา มีระบบ S-OVERLAP บันทึกแบบวนซ้ำ พร้อมฟังก์ชันเริ่มบันทึกเมื่อเข้าจอดหรือสตาร์ทรถ พ่วงระบบ Motion Detection และ G-Sensor ช่วยให้ไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหว ภาพรวมถือว่าลงตัวทีเดียว
3. กล้องติดรถยนต์ 70mai Pro Plus Dash Cam A500s 3K
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เซนเซอร์ Sony IMX335 คมชัดทุกสภาพแสง | ควรตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันทุกครั้ง |
รองรับการใช้งานร่วมกับแอปในสมาร์ทโฟน | |
มีระบบแจ้งเตือนระยะห่างป้องกันการชน | |
เทคโนโลยี 3D DNR และ WDR เพิ่มความคมชัด |
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะเลือก กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 70mai Pro Plus Dash Cam A500s 3K อาจจะเป็นรุ่นที่คุณกำลังมองหา เพราะมากับเทคโนโลยีการบันทึกภาพและฟังก์ชันเพื่อความปลอดภัยครบครัน ด้วยเซนเซอร์ Sony IMX335 ขนาด 5 MP ความละเอียด 1944P รูรับแสง f/1.8 ช่วยให้ได้ภาพที่คมชัดทุกสภาพแสง เสริมด้วยเทคโนโลยี 3D DNR และ WDR เพิ่มความคมชัดแม้ในเวลากลางคืน บันทึกภาพได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง มุมมอง 140 องศา มี Built-In GPS ช่วยระบุตำแหน่ง พร้อม G-Sensor, ระบบแจ้งเตือนการออกนอกเส้นทาง, ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า, รองรับการใช้งานร่วมกับแอปในสมาร์ทโฟน สามารถดูและดาวน์โหลดได้แบบเรียลไทม์
4. กล้องติดรถยนต์ AZDOME M300
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
มองเห็นได้ชัดทั้งกลางวันและกลางคืน | ควรใช้กับ Memory Card แบบ Class 10 ขึ้นไป |
ความคมชัดระดับ FHD | Voice Control ใช้ได้เฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น |
ดีไซน์สวยงามในราคาที่จับต้องได้ | |
สามารถดูและดาวน์โหลดวิดีโอผ่าน AZDOME APP ได้ |
กล้องติดรถยนต์ AZDOME BN03 อีกรุ่นที่ต้องพูดถึงเพราะมากับฟังก์ชันการทำงานที่ครบครัน มาต่อกันเลยกับกล้องติดรถยนต์ Azdome M300 ตัวนี้บอกเลยว่าไม่ควรมองข้ามเพราะมากับดีไซน์ที่สวยทันสมัยในราคาที่จับต้องได้ พ่วงมาด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นความคมชัดระดับ FHD มุมมองกว้าง 150 องศา รองรับการใช้งานผ่านแอปพลิคชัน ดูและดาวน์โหลดวิดีโอได้จาก AZDOME APP โดยไม่ต้องถอดการ์ดความจำ ออกแบบมาให้มองเห็นได้ชัดทั้งกลางวันและกลางคืน มั่นใจมากขึ้นว่าจะไม่พลาดช็อตสำคัญด้วยระบบ G-Sensor มีระบบบันทึกแบบหมุนวน รวมถึงรองรับการสั่งงานด้วยเสียง Voice Control อีกด้วย
5. กล้องติดรถยนต์ FNKvision
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
หน้าจอ LCD ขนาด 4 นิ้ว | รองรับการ์ด microSD สูงสุด 32 GB |
แสดงผลกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันได้ | |
มีไมโครโฟนและลำโพงในตัว | |
กล้องหน้าให้มุมมองกว้าง 170 องศา |
หากถามว่า กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี FNKvision แบรนด์ผู้ผลิตกล้องวงจรปิดยอดนิยมก็มีกล้องติดรถยนต์เอาไว้ให้เราได้ใช้งานกันด้วย โดยมีทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง สามารถบันทึกพร้อมกันได้ มีหน้าจอแสดงผลแบบ LCD ขนาด 4 นิ้ว กล้องหน้าเป็นเลนส์แบบ 6P มุมมอง 170 องศา ความละเอียด FHD ส่วนกล้องหลังความละเอียด HD และยังมีลำโพงกับไมโครโฟนในตัวสำหรับบันทึกเสียงและเล่นวิดีโอ ตามมาด้วยฟังก์ชัน Auto Recording, Motion Detector, G-Sensor และ Park Monitor ที่สำคัญราคาถือว่าน่าใช้เอามากๆ
6. กล้องติดรถยนต์ NUOMi T3000 SUPER HD
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
หน้าจอแบบสัมผัสขนาดใหญ่ 7 นิ้ว | รองรับการ์ด microSD สูงสุด 32 GB (ซื้อแยก) |
กล้องหน้า SUPER HD ความละเอียด 1296p | |
คมชัดทุกสภาพแสดงด้วยเทคโนโลยี High dynamic Range | |
ฟังก์ชันเพื่อความปลอดภัยครบครัน |
ผ่านไปแล้วครึ่งทางกับรายชื่อ กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดีที่เราคัดมาฝากกัน มาต่อกันด้วย NUOMi T3000 SUPER HD อีกรุ่นที่ราคาไม่แพงแต่สเปคจัดเต็มด้วยหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสที่ใหญ่ถึง 7 นิ้ว กล้องด้านหน้าเป็นแบบ SUPER HD ความละเอียด 1296p มุมมองกว้างถึง 170 องศา สายกล้องหลังมีความยาว 5 เมตร สะดวกต่อการติดตั้ง มาพร้อม G-Sensor ล็อกไฟล์เมื่อมีแรงกระแทก คมชัดในทุกสภาพแสงด้วยเทคโนโลยี High dynamic Range พ่วงมาด้วย Parking Mode บันทึกอัตโนมัติเมื่อเข้าจอด และ Motion Detection ตรวจจับความเคลื่อนไหววัตถุ สามารถบันทึกวนซ้ำอัตโนมัติ ลองดูว่ารุ่นนี้ถูกใจคุณหรือไม่
7. กล้องติดรถยนต์ DDpai Mini5
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เซนเซอร์ SONY IMX415 คมชัดระดับ 4K UHD | ไม่มีกล้องด้านหลัง |
รองรับ Wi-Fi ความถี่ 5GHz มี GPS ในตัว | ควรใช้การ์ดหน่วยความจำ Class 10 |
ฟังก์ชัน SR2.0 ดูและแชร์ได้แบบเรียลไทม์ | |
ระบบเฝ้าระวังแบบเรียลไทม์ |
สำหรับกล้องติดรถยนต์ DDpai รุ่น Mini5 นั้นมีจุดเด่นในเรื่องของความคมชัดและเทคโนโลยีในตัวเอง โดยใช้เซนเซอร์รับภาพ SONY IMX415 ที่มีความคมชัดระดับ 4K Ultra HD สามารถให้รายละเอียดของภาพหรือวัตถุต่างๆ ได้อย่างละเอียดครบถ้วนแม้ตัวหนังสือบนป้าย เสริมด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า Realcube ช่วยเพิ่มความสมจริงด้านสีสัน ให้ออกมาเป็นธรรมชาติ มีฟังก์ชัน SR2.0 ช่วยให้ดูและแชร์ได้แบบเรียลไทม์ เพราะรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5GHz ติดตั้ง GPS มาในตัว มีระบบแจ้งเตือนความปลอดภัย ป้องกันหมอก ป้องกันแรงกระแทก สามารถบันทึกแบบหมุนวนได้ เป็นอีกรุ่นที่น่ารับไว้พิจารณา
8. กล้องติดรถยนต์ ASTON Super 9
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
บันทึกอัตโนมัติเมื่อติดเครื่องยนต์ | รองรับ MicroSD Card ได้สูงสุด 32GB |
กล้องหน้ามุมมอง 140 องศา/กล้องหลัง 90 องศา | รองรับภาษาไทย, อังกฤษ, จีน, รัสเซีย |
สามารถบันทึกได้ทั้งภาพและเสียง | |
ติดตั้งง่าย ราคาไม่แพง |
หากถามว่ากล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ASTONเป็นอีกตัวเลือกของหลายคนด้วยคุณภาพที่คุ้มราคา พ่วงการรับประกันอีก 1 ปีเต็ม ตัวนี้มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 4.3 นิ้ว สามารถปรับความละเอียดได้สูงสุด 1080p ถ่ายได้ทั้งภาพนิ่ง บันทึกทั้งภาพและเสียง รองรับหน่วยความจำได้ถึง 32GB ใช้งานง่ายด้วยเมนูภาษาไทย คมชัดทั้งกลางวันและกลางคืนด้วยไฟ LED 4 ดวง ระบบปรับความสว่างอัตโนมัติ ใช้ระบบจัดเก็บแบบหมุนวน รวมถึงมีเทคโนโลยี Motion Detection คอยตรวจจับความเคลื่อนไหวและบันทึกอัตโนมัติ เมื่อพบสิ่งผิดปกติ
9. กล้องติดรถยนต์ LUTAN F9
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
คมชัดระดับ Super Full-HD 1080P | ตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันจากผู้ขาย |
ให้ภาพมุมมองกว้างถึง 170 องศา | |
เลนส์หมุนได้ 360 องศา | |
ดีไซน์สวยงาม แข็งแรง ทนความร้อนได้ดี |
สำหรับรุ่นนี้ต้องบอกว่าทางแบรนด์กล้าการันตีในเรื่องของความสว่างและความคมชัดที่มากกว่า แถมฟังก์ชันการใช้งานยังจัดเต็ม โดยมากับความละเอียดระดับ Super Full-HD 1080P มุมมองกว้างถึง 170 องศา เลนส์หมุนได้ 360 องศา มีเส้นตารางบช่วยกะระยะหน้าหลัง คมชัดทั้งกลางวันและกลางคืนด้วยโหมด Night Vision หน้าจอมีขนาด 3 นิ้วคมชัดระดับ 4K ตัวกล้องทนความร้อนได้ดี วัสดุแข็งแรง ดูหรูหรา และยังพ่วงมาด้วยระบบ G-Sensor, Parking Mode, Motion detection เทียบสเปกกับราคาแล้วยังไงก็คุ้ม
10. กล้องติดรถยนต์ Aston Ultimate X WiFi
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
กล้องหน้าคมชัดระดับ 2K | ไม่มี GPS ในตัว |
WDR Night vision ชัดเจนแม้ยามกลางคืน | รองรับการ์ด microSD สูงสุด 128 GB (ซื้อแยก) |
มีระบบ G-Sensor | |
มี Parking Mode บันทึกการเข้าจอด |
ปิดท้ายรายชื่อ กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดีของเรากันด้วย Aston Ultimate X WiFi รุ่นขายดีอันดับต้นๆ มาพร้อมหน้าจอขนาด 3 นิ้ว พาเนล LCD กล้องหน้าคมชัดระดับ 2K กล้องหลังระดับ FHD มุมมองภาพกว้าง 150 องศา ทั้งหน้าหลัง มี WDR Night Vision ช่วยให้มองเห็นได้ดีในที่มืด สามารถบันทึกได้ทั้งภาพและเสียง ใช้งานง่ายด้วยเมนูภาษาไทย ผลิตด้วยวัสดุที่ทนความร้อน มี G-Sensor และ Parking Mode สามารถบันทึกวนได้ รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi รับประกันยาวนาน 1 ปี
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
และทั้งหมดนี้ก็คือ 10 รุ่นกล้องติดรถยนต์น่าใช้ที่เราคัดมาให้คุณได้เลือกกันจากแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็น DENGO, Anytek, 70mai, AZDOME, FNKvision, NUOMi, DDpai, Ucam, Transcend และ Aston ซึ่งจะเห็นได้ว่าแต่ละรุ่นนั้นก็จะมีคุณสมบัติเด่นที่ต่างกันออกไป รวมถึงราคาค่าตัวด้วย โดยการจะเลือกกล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดีก็อยู่ที่งบประมาณของเราเป็นหลัก เพราะมีให้เลือกหลายช่วงราคาด้วยกัน ทั้งนี้ใครยังไม่มีกล้องติดรถยนต์แนะนำว่าควรหามาติดได้แล้วเพื่อความปลอดภัยและเพื่อที่จะได้มีหลักฐานเอาไว้ใช้ในยามที่เกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่างการขับขี่ขึ้นครับ