สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android นั้นมีผู้ใช้งานอยู่เป็นจำนวนมากเนื่องจากมีตัวเลือกที่หลากหลายตั้งแต่ระดับเริ่มต้น ระดับกลาง และระดับไฮเอนด์ รวมถึงมีหลายยี่ห้อให้ได้เลือกกัน โดยแม้ปัจจุบันทางผู้ผลิตจะพยายามเพิ่มความจุของแบตเตอรี่เพื่อให้ใช้งานได้นานขึ้นแต่สายชาร์จก็ยังเป็นอุปกรณ์เสริมที่ต้องมีติดตัวเอาไว้ และอาจต้องซื้อเพิ่มหากกรณีของเก่าชำรุดหรือเสียหาย ในบทความนี้เราเลยจะมาแนะนำ 10 รุ่น สายชาร์จ Android ยี่ห้อไหนดี ที่ชาร์จไว ถ่ายโอนข้อมูลรวดเร็ว รวมถึงใช้งานได้อย่างปลอดภัยด้วย
วิธีเลือกสายชาร์จ Android
สายชาร์จ Android นั้นมีทั้งสายแท้จากทางผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตและสายชาร์จจากผู้ผลิตอื่นหรือสายเทียบ ซึ่งในการจะเลือกสายชาร์จ Android ยี่ห้อไหนดีนั้นมีเรื่องที่เราต้องพิจารณาเพื่อให้ได้รุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานดังต่อไปนี้
1. เลือกสายชาร์จ Android จากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนโดยตรง
ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Android ในบ้านเราที่คุ้นเคยกันมีทั้ง Samsung, HUAWEI, OPPO, Vivo, Xiaomi, Realme, OnePlus และแบรนด์ทางเลือกอื่นๆ ซึ่งเบื้องต้นเราควรเลือกซื้อสายชาร์จจากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนโดยตรงเพราะแม้ราคาอาจจะแพงไปบ้างแต่ก็มั่นใจได้ในคุณภาพรวมถึงความเข้ากันได้กับสมารืทโฟนแต่ละรุ่นและเทคโนโลยีการชาร์จที่ให้มา แต่หากมีความจำเป็นต้องเลือกสายชาร์จจากผู้ผลิตที่เป็น Third Party ก็ควรเลือกจากแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน เช่น ZMI, HOCO, AUKEY,VENTION, ELOOP เป็นต้น
2. เลือกสายชาร์จ Android จากหัวชาร์จ
ข้อต่อหรือหัวชาร์จที่มากับสายชาร์จ Android นั้น หลักๆ จะมีด้วยกัน 2 แบบคือ แบบ Micro USB และแบบ USB Type-C ที่ถือว่าเป็นมาตรฐานล่าสุดที่ใช้กัน โดย สายชาร์จ Micro USB นั้นแม้จะได้รับความนิยมน้อยลงหรือกำลังจะตกรุ่นแต่ก็ยังมีความจำเป็นสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นเก่าหรือรุ่นราคาถูกรวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ เช่น หูฟัง ลำโพง แบตเตอรี่สำรอง ที่ยังคงใช้พอร์ตแบบเดิมอยู่เนื่องจากมีต้นทุนที่ต่ำกว่านั่นเอง
3. เลือกสายชาร์จ Android จากเทคโนโลยีการชาร์จ
การจะเลือกสายชาร์จ Android ยี่ห้อไหนดีสิ่งที่ต้องพิจารณาในปัจจุบันก็คือเรื่องของเทคโนโลยีในการชาร์จ ทั้งนี้แม้ว่าระบบชาร์จเร็วจะถูกนำมาใช้ในสมาร์ทโฟนมากขึ้น แต่ยังจำกัดอยู่ที่รุ่นราคากลางๆ หรือรุ่นราคาแพง ส่วนรุ่นราคาถูกก็อาจจะรองรับแต่ไม่ได้ชาร์จเร็วมากนัก ซึ่งการเลือกสายชาร์จหากเราซื้อมาแล้วไม่สามารถใช้ได้เต็มประสิทธิภาพก็จะเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของเรารองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบไหนก่อนตัดสินใจซื้อ
4. เลือกสายชาร์จ Android จากความยาวของสาย
เชื่อหรือไม่ว่าหลายคนใช้เกณฑ์ความยาวของสายเป็นตัวเลือกสายชาร์จ โดยเวลาเข้าไปที่ร้านหรือจะสั่งซื้อมักถามหาความยาวที่ตัวเองต้องการ เพราะบางครั้งต้องการความสะดวกในการเชื่อมต่อระหว่างปลั๊กไฟกับจุดที่ตัวเองใช้งาน สายชาร์จความยาว 2-3 เมตร จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมโดยเฉพาะกับการเล่นเกมไปด้วยที่ไม่สามารถปล่อยให้ขาดตอนได้ แต่ถ้าเป็นความยาวมาตรฐานจะอยู่ที่ 90, 100 และ 120 เซนติเมตร อย่างไรก็ตามความยาวของสายชาร์จนั้นเริ่มตั้งแต่ 25 เซนติเมตร หรือ 50 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานเป็นหลัก
5. เลือกสายชาร์จ Android ที่สวยงามและทนทาน
ความสวยงามและดีไซน์ที่น่าใช้ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถใช้เลือกสายชาร์จได้เช่นกัน เพราะบางคนอาจจะไม่ชอบสีพื้นฐานอย่างสีขาวหรือสีดำ แต่ชอบความสดใสในสีเหลือง แดง หรือเขียว นอกจากนี้ยังมีลวดลายพิเศษที่ทำออกมาจำกัดเพื่อส่งเสริมการขายให้นักสะสมได้แย่งกันซื้อเก็บเอาไว้ด้วย หรือบางรุ่นมาพร้อมกับข้อต่อแบบหักมุม 90 องศาเพื่อช่วยให้ใช้งานในแนวนอนได้สะดวกเช่นการเล่นเกมหรือดูคลิปวิดีโอขณะชาร์จ ทั้งนี้ที่ไม่ควรลืมก็คือเลือกสายชาร์จที่มีความทนทานอย่างสายถัก หรือสายที่คุณสมบัติในการป้องกันไฟไหม้ เป็นต้น
6. เลือกสายชาร์จ Android จากฟังก์ชันเพิ่มเติม
หากสังเกตให้ดีจะพบว่านอกจากคุณสมบัติในการชาร์จแล้ว สายชาร์จบางรุ่นยังมีฟังก์ชันเสริมหรือคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างออกไป เช่น มีไฟแสดงสถานะการทำงานหรือแสดงกระแสไฟขณะชาร์จ, มีระบบปรับกระแสไฟอัตโนมัติเพื่อการชาร์จที่เสถียรป้องกันไฟกระชาก, รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วจากผู้ผลิตรายต่างๆ อาทิ VOOC Charge จากฝั่งของ OPPO และ Realme, Quick Charge จากทาง Qualcomm หรือ Super Fast Charge 45W จาก Samsung เป็นต้น
7. เลือกสายชาร์จ Android จากยี่ห้อและการรับประกัน
เนื่องจากสายชาร์จ Android ที่มีวางขายอยู่นั้นมีทั้งสายแท้ สายเทียบ และสายเทียมหรือสายปลอม ซึ่งแบบหลังนี้ค่อนข้างอันตรายทั้งกับอุปกรณ์ที่นำมาชาร์จและตัวผู้ใช้เองเพราะเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยตามมาเหมือนที่เราเห็นกันในข่าว การเลือกซื้อสายชาร์จจากแบรนด์ที่ได้มาตรฐานและเป็นที่รู้จักจะช่วยให้เราใช้งานได้อย่างอุ่นใจมากขึ้น อาทิ ZMI, HOCO, AUKEY,VENTION, ELOOP เป็นต้น นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบเงื่อนไขและระยะเวลาในการรับประกันทุกครั้งที่ซื้อด้วย
สายชาร์จ Android ยี่ห้อไหนดี
สำหรับในบทความนี้เราได้คัดเอาสายชาร์จ Android จากแบรนด์มาตรฐานมาไว้ให้คุณได้เลือกกันทั้งหมด 10 รุ่นด้วยกัน ไปดูกันว่ามีรุ่นไหน ยี่ห้อใดที่น่าสนใจบ้าง
1. สายชาร์จ Android: Xiaomi Mi USB to Type-C Cable
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
รองรับการจ่ายไฟสูงสุด 3A | ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ก่อนซื้อ |
ถ่ายโอนข้อมูลได้ด้วยความเร็ว 480 Mbps | ความยาวสายอยู่ที่ 100 เซนติเมตร |
มีระบบควบคุมความร้อนขณะชาร์จ | |
มีประกันศูนย์ไทยนาน 6 เดือน |
มาเริ่มเปิดรายชื่อ สายชาร์จ Android ยี่ห้อไหนดีกันเลยกับ Xiaomi Mi USB to Type-C Cable สายชาร์จมาตรฐานจาก Xiaomi สำหรับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ในระบบปฏิบัติการ Android ที่รองรับ แม้ภายนอกจะดูเรียบง่ายแต่ก็มากับประสิทธิภาพที่น่าพอใจ รุ่นนี้จ่ายไฟได้สูงสุดที่ 3A ถ่ายโอนข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูงสุด 480 Mbps สายหุ้มเป็นวัสดุยาง TPE ที่มีความยืดหยุ่นและทนทาน ไม่หักงอง่าย ความยาวสายอยู่ที่ 100 เซนติเมตร จุดเด่นอย่างหนึ่งก็คือการใส่ระบบควบคุมอุณหภูมิมาช่วยดูแลปัญหาความร้อนขณะใช้งาน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังรับประกันสินค้าให้อีก 6 เดือนด้วย
2. สายชาร์จ Android: Samsung USB Type-C to Type-C
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
รองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 45W | ความยาวสายอยู่ที่ 100 เซนติเมตร |
ใช้ได้กับอุปกรณ์ของ Samsung และยี่ห้ออื่นที่รองรับ | มีราคาค่อนข้างสูงเพราะเป็นสายแท้ |
มีระบบควบคุมความร้อนและกระแสไฟ | |
มีให้เลือกในสีขาวและสีดำ |
ต่อกันเลยกับ Samsung USB Type-C to Type-C สายชาร์จประสิทธิภาพสูงสำหรับอุปกรณ์ในระบบปฏิบัติการ Android ที่ใช้พอร์ต USB Type-C to Type-C เหมาะกับมือถือระดับเรือธงที่รองรับการชาร์จเร็วทั้งกำลังไฟ 25W และ 45W สามารถชาร์จได้เต็มเร็วสุดใน 60 นาที (ขึ้นกับอุปกรณ์) ตัวสายใช้วัสดุนำไฟฟ้าคุณภาพดีจ่ายไฟได้เสถียร มีระบบควบคุมไฟเกินและความร้อนช่วยดูแลความปลอดภัย สายภายนอกเป็น TPE หัวชาร์จโลหะอะลูมิเนียมแข็งแรงไม่หักง่าย มีให้เลือกในสีขาวและสีดำ
3. สายชาร์จ Android: ZMI Premium AL401
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
รองรับ Quick Charge 3.0 | ความยาวสาย 100 เซนติเมตร |
ทนต่อการงอได้มากกว่าหมื่นครั้ง | ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ก่อนซื้อ |
มีไฟแสดงสถานะการทำงาน | |
ผลิตด้วยวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน |
หากถามว่า สายชาร์จ Android ยี่ห้อไหนดีที่มากับมาตรฐานและการใช้งานที่น่าพอใจ ZMI Premium AL401 คืออีกตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีครบทั้งระบบชาร์จ ความทนทาน และความสวยงาม มีให้เลือกในสีดำ สีกรมท่า และสีแดง สายภายนอกเป็นสายถักที่ใช้วัสดุเกรดกองทัพ รับน้ำหนักได้ถึง 50 กิโลกรัม ทนต่อการงอได้กว่าหมื่นครั้ง ภายในหุ้มด้วยฉนวน 5 ชั้น ข้อต่อมีความแข็งแรงทนทานไม่หักง่าย รุ่นนี้รองรับ Quick Charge 3.0 มีไฟแสดงสถานะทำงาน ภาพรวมเทียบกับราคาแล้วถือว่าคุ้ม
4. สายชาร์จ Android: Hale รุ่น HC-11C
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
รองรับการชาร์จเร็วกำลังไฟ 22.5W | ควรใช้คู่กับหัวปลั๊กชาร์จเร็ว |
ชาร์จได้ 60% ในเวลา 30 นาที | ความยาวสายอยู่ที่ 1 เมตร |
ใช้ได้กับระบบชาร์จเร็วของหลายยี่ห้อ | |
ผลิตด้วยวัสดุที่แข็งแรงทนทาน |
Hale รุ่น HC-11C สายชาร์จสำหรับอุปกรณ์ Android และอื่นๆ ที่รองรับ ใช้ได้กับสมาร์โฟนหลายยี่ห้อไม่ว่าจะเป็น HUAWEI, Samsung, OPPO, Vivo, OnePlus, Xiaomi ที่ใช้พอร์ต USB Type-C โดยชาร์จเร็วด้วยกำลังไฟสูงสุด 22.5W ช่วยประหยัดเวลามากขึ้นเพราะชาร์จได้ 60% ในเวลาเพียง 30 นาที ด้วยกระแสไฟสูงสุด 5A ตัวสายมีความยาว 100 เซนติเมตร หุ้มด้วยวัสดุ TPE อย่างดี แข็งแรงและทนทาน มาในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป
5. สายชาร์จ Android: Eloop รุ่น S53
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
รองรับ QC3.0 และ QC4.0 | ไม่รองรับ Fast Charge 2.0 ของ Galaxy S22 Ultra |
ใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่หลากหลาย | ใช้กับพอร์ต USB Type C to Type C |
ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพทั้งภายในและภายนอก | |
มีให้เลือกในสีดำ สีฟ้า และสีแดง |
เมื่อพูดถึง สายชาร์จ Android ยี่ห้อไหนดี จะขาดยี่ห้อนี้ไปได้อย่างไร กับสายชาร์จ Eloop รุ่น S53 สินค้าจากแบรนด์สายชาร์จและอุปกรณ์ต่อพ่วงชั้นนำที่วางใจได้ในมาตรฐานและความปลอดภัย โดยรุ่นนี้รองรับพอร์ต USB Type C to Type C ใช้ได้กับหลายอุปกรณ์จากหลายยี่ห้อ ตัวสายมีความยาว 100 เซนติเมตร รองรับเทคโนโลยี QC3.0 และ QC4.0 สายไฟภายในหุ้มด้วยสายถักอลูมิเนียม ภายนอกเป็นไนลอนถัก ใช้ได้ทั้งการชาร์จและการถ่ายโอนข้อมูล มี 3 สี ให้เลือกคือ สีดำ สีฟ้า และสีแดง
6. สายชาร์จ Android: OPPO USB Type-c Cable DL143
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
จ่ายกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่ 5V/2A | ความยาวสาย 100 เซนติเมตร |
รองรับพอร์ต USB To Type C | ไม่มีสีให้เลือก |
วัสดุมีความแข็งแรงทนทาน | |
ใช้กับหูฟัง OPPO Enco Buds ได้ |
สายชาร์จ Android ยี่ห้อไหนดี รุ่นที่ 6 ของเราคือ OPPO USB Type-c Cable DL143 สายชาร์จมาตรฐานจากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแถวหน้าอีกรายของวงการที่มีเทคโนโลยีไม่ด้อยไปกกว่าใครสามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ของค่ายอื่น รวมถึงใช้กับหูฟัง OPPO Enco Buds ได้ด้วย มาพร้อมความยาวสาย 100 เซนติเมตร รุ่นนี้จ่ายไฟได้ที่ 5V/2A ภายในใช้ตัวนำไฟฟ้าคุณภาพดี ชาร์จได้เสถียร ภายนอกแข็งแรงด้วยวัสดุหุ้มแบบ PVC อายุการใช้งานยาวนาน ไม่หักง่าย ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวก OPPO หรือไม่ รุ่นนี้ก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียว
7. สายชาร์จ Android: AUKEY รุ่น CB-CD43
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
สามารถจ่ายไฟได้ที่ 5V/3A | มีให้เลือกที่ความยาว 120 และ 200 เซนติเมตร |
รองรับการชาร์จเร็วจากหลายค่าย | รองรับพอร์ต USB-A to USB-C |
ทนต่อการบิดงอได้กว่า 50,000 ครั้ง | |
ผลิตด้วยวัสดุ Kevlar Cable เกรดวัสดุกันกระสุน |
AUKEY รุ่น CB-CD43 อีกรุ่นของสายชาร์จ Android ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีครบทั้งเทคโนโลยีการชาร์จ ความสวยงาม ความทนทาน เป็นสายชาร์จพันธุ์แกร่งตัวจริงที่ผลิตด้วยวัสดุ Kevlar ที่ใช้ผลิตเกราะกันกระสุน สามารถทนต่อการหักงอได้ถึง 50,000 ครั้ง รับน้ำหนักได้เยอะ กระจายความร้อนได้ดีจึงปลอดภัยมากขึ้น ภายนอกหุ้มด้วยไนลอนถักอีก 3 ชั้น ทนและไม่พันกัน หัวชาร์จผลิตด้วย Premium Aluminium แกร่งกว่าทั่วไป 10 เท่า รุ่นนี้จ่ายไฟได้ที่ 5V/3A รองรับการชาร์จเร็วจากหลายค่ายทั้ง Qualcomm Quick Charge 2.0 / 3.0, Samsung AFC และ HUAWEI FCP มีให้เลือกที่ 120 และ 200 เซนติเมตร
8. สายชาร์จ Android: Vention PD 60W
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
รองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบบ PD กำลังไฟ 60W | มีความยาวให้เลือกตั้งแต่ 50-300 เซนติเมตร |
ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 5Gbps | รองรับพอร์ต USB-C to USB-C 3.1 |
รองรับการเชื่อมต่อระดับ 4K ที่ 60fps | |
มีระบบควบคุมกระแสไฟระหว่างชาร์จ |
Vention PD 60W สายชาร์จประสิทธิภาพสูงที่มากับความน่าสนใจหลายอย่างในตัวเอง เหมาะกับผู้ที่มองหาสายชาร์จที่ทำได้หลายอย่าง ใช้งานได้กับหลายอุปกรณ์ที่รองรับพอร์ต USB-C to USB-C 3.1 โดยสามารถจ่ายไฟได้ที่ 3A รองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบบ PD กำลังไฟ 60W ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 5Gbps มีระบบควบคุมกระแสไฟระหว่างชาร์จช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุของแบตเตอรี่ มีให้เลือกตั้งแต่ความยาว 50 ไปจนถึง 300 เซนติเมตร ผลิตด้วยวัสดุที่มีความทนทานสูงทั้งภายในและภายนอก ใครยังไม่รู้จะเลือกสายชาร์จ Android ยี่ห้อไหนดี รุ่นนี้บอกเลยว่าเด็ด
9. สายชาร์จ Android: Awei CL-111T PD 60W
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
รองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบบ PD กำลังไฟ 60W | ความยาวสายอยู่ที่ 100 เซนติเมตร |
ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล 480Mbps | รองรับพอร์ต Type-C to Type-C |
ผลิตจากวัสดุคุณภาพทั้งภายในและภายนอก | |
มีให้เลือกในสีดำละสีเขียว |
รองสุดท้ายของเราในรายชื่อนี้คือ Awei CL-111T PD 60W สายชาร์จที่ดูดีมีสไตล์ ชาร์จไวทันใจ แถมราคาไม่แพง รุ่นนี้มีให้เลือกในสีดำและสีเขียว ความยาวสายอยู่ที่ 100 เซนติเมตร รองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบบ PD กำลังไฟ 60W ทั้ง HUAWEI Super Charge และ Qualcomm QC 4.0 ชาร์จเร็วทันใจแน่นอน รวมถึงมีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลอยู่ที่ 480Mbps รองรับพอร์ต Type-C to Type-C จึงใช้ได้กับอุปกรณ์รุ่นใหม่มากมายหลายรุ่น มาพร้อมความทนทานและปลอดภัยต่อผู้ใช้ เป็นอีกรุ่นที่น่ารับไว้พิจารณา
10. สายชาร์จ Android: Hoco X2 Plus King Kong
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
จ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 2.4A | ความยาวสายอยู่ที่ 100 เซนติเมตร |
ผลิตด้วยวัสดุ Nylon Fiber และ TPU ทนทานเป็นพิเศษ | เป็นสายชาร์จแบบ Micro USB |
มีราคาไม่แพง | |
มีหลายสีให้เลือก |
ส่งท้ายรายชื่อ สายชาร์จ Android ยี่ห้อไหนดีของเรากันด้วย Hoco X2 Plus King Kong Data Cable 2.4A สายชาร์จที่มากับความสดใสของสีสันและดีไซน์ เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาสายชาร์จแบบ Micro USB เอาไว้ใช้กับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้พอร์ตแบบเก่า รุ่นนี้มากับความยาวสาย 100 เซนติเมตร จ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 2.4A ผลิตด้วยวัสดุ Nylon Fiber และ TPU จึงมีความทนทานเป็นพิเศษ มีให้เลือกหลายสีด้วยกันคือ สีดำ สีเทา สีแดง สีทอง ที่สำคัญราคาไม่แพง
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
และทั้งหมดนี้ก็คือรายชื่อของ สายชาร์จ Android ยี่ห้อไหนดีทั้ง 10 รุ่นจากแบรนด์ดังทั้ง ZMI, HOCO, AUKEY,VENTION, ELOOP, AWEI, OPPO, Samsung, Xiaomi เรียกว่าหลากรุ่นหลายยี่ห้อ หลายราคา เพื่อให้คุณมีตัวเลือกครบถ้วนมากที่สุด ส่วนการจะเลือกรุ่นไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าจะนำสายชาร์จไปใช้กับอุปกรณ์ใด เพราะบางครั้งสายแท้ก็อาจจะมีราคาที่สูงเกินไป ในขณะที่สายเทียบบางรุ่นประสิทธิภาพนั้นถือว่าเพียงพอกับการใช้งาน ลองเทียบกันดูอีกครั้งว่าสายชาร์จ Android เส้นไหนที่น่าจะลงตัวกับที่คุณกำลังมองหาอยู่มากที่สุด