Smart Watch หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ กลายเป็นอุปกรณ์ยอดนิยมที่อยู่คู่กับผู้คนในปัจจุบันมากขึ้น ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย โดยเฉพาะกับเรื่องของการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพ เช่น การติดตามการเคลื่อนไหวและวัดผลในกีฬาประเภทต่างๆ การติดตามการนอนหลับ มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ หรือสามารถฟังเพลงได้ระหว่างออกกำลังกาย เป็นต้น ใครกำลังมองหาผู้ช่วยนี้แต่ยังไม่รู้ว่า Smart Watch รุ่นไหนดี รุ่นไหนน่าใช้ เรามัดรวมมาให้เลือกในบทความนี้ พร้อมวิธีเลือกใช้งาน
วิธีการเลือก Smart Watch
การจะเลือก Smart Watch รุ่นไหนดี เอามาไว้บนข้อมือ มีหลายเรื่องด้วยกันที่เราสามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นเราไปดูกันเลย
1. งบประมาณในกระเป๋า
Smart Watch นั้นมีผลิตออกมาหลายยี่ห้อ หลายรุ่น หลายราคา ยิ่งคุณสมบัติในการใช้งานหรือสเปคสูงขึ้นก็ยิ่งมีราคาที่แพงตามไปด้วยตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น รวมถึงยิ่งเป็นยี่ห้อดัง เทคโนโลยีล้ำสมัยราคาก็สูงเช่นกัน ดังนั้นจึงควรกำหนดงบประมาณเอาไว้ในใจจะช่วยให้สามารถกำหนดรุ่นและคุณสมบัติได้ง่ายขึ้น
2. การใช้งานที่ต้องการ
โดยพื้นฐานแล้ว Smart Watch มักนำมาใช้ใน 2 เรื่องหลักๆ ด้วยกันก็คือ การเป็นผู้ช่วยในการดูแลสุขภาพ และการออกกำลังกาย ซึ่งในส่วนของการดูแลสุขภาพนั้นมักประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์ติดตามการนอนหลับ การแจ้งเตือนให้เคลื่อนไหวร่างกาย การแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำ หรือล้างมือ การวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การช่วยในการทำสมาธิ ฯลฯ ส่วนด้านการออกกำลังกายจะเน้นการตรวจจับและบันทึกการเคลื่อนไหวร่างกาย การเผาผลาญพลังงาน ระยะทาง สามารถระบุประเภทของการออกกำลังกายได้ แชร์ผลการฝึกได้ เป็นต้น ทั้งนี้ Smart Watch บางรุ่นใช้ได้กับทั้งการดูแลสุขภาพและออกกำลังกาย แต่ราคาก็จะแพงตามไปด้วย
3. ดีไซน์การออกแบบ
ดีไซน์ของนาฬิกาอัจฉริยะก็เป็นส่วนหนึ่งที่หลายคนใช้ในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสีสัน ขนาดของตัวเรือน น้ำหนัก ชนิดของสาย โดย Smart Watch หลายรุ่นผู้ใช้สามารถเลือกจับคู่สายและตัวเรือนได้ตามต้องการ และยังสามารถเปลี่ยนการแสดงผลหน้าจอได้เป็น 100 แบบ ตามความชื่นชอบของตัวเอง ทั้งนี้อีกเรื่องที่ต้องพิจารณาก็คือชนิดของหน้าจอว่าเป็นหน้าจอแบบสัมผัสหรือไม่เพราะจะช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น รวมถึงความสว่างของหน้าจอด้วยเพราะจะช่วยให้ใช้งานกลางแจ้งได้อย่างคมชัด
4. ความทนทานและอายุการใช้งานแบตเตอรี่
เนื่องจาก Smart Watch เป็นอุปกรณ์ที่ต้องพกพาและใช้งานในระหว่างการเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งอาจจะต้องสัมผัสกับเหงื่อหรือเปียกน้ำ บางคนอาจใช้ใส่เพื่อว่ายน้ำอีกด้วย ทำให้ควรต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติในการกันน้ำว่าสามารถอยู่ในน้ำลึกได้หรือไม่ เป็นเวลาเท่าไหร่ และควรตรวจสอบเรื่องของอายุการใช้งานแบตเตอรี่ว่าสามารถใช้ได้นานที่สุดกี่วันเมื่อเปิดฟังก์ชันหลายอย่างพร้อมกัน
5. การเชื่อมต่อและแอพที่รองรับ
ข้อสุดท้ายที่ถือว่าสำคัญไม่แพ้ข้ออื่นก็คือเรื่องของการเชื่อมต่อว่าสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย GPS หรืออุปกรณ์ต่างๆ ได้ด้วยตัวเองหรือว่าต้องใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันด้วย นอกจากนี้ยังมีเรื่องของแอพพลิเคชั่นที่ใช้สำหรับตั้งค่าการใช้งาน หรือแอพสำหรับการฟังเพลงว่ารองรับแอพใดบ้าง เพราะถือเป็นสิ่งที่ช่วยให้สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้นสำหรับใครหลายคน
แนะนำ Smart Watch รุ่นไหนดี 2024
1. Samsung Galaxy Watch 4 40mm (Bluetooth)
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| ขนาดหน้าจอ 1.2 นิ้ว | ของแท้รับประกันนาน 1 ปี |
| รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, NFC และ Bluetooth | |
| แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 40 ชั่วโมง | |
| มีระบบเซนเซอร์รองรับทุกกิจกรรมนอกบ้าน | |
| ดีไซน์เรียบง่ายและดูดี เหมาะสำหรับทุกคน |
เริ่มต้นรายชื่อ Smart Watch รุ่นไหนดีกันด้วย Samsung Galaxy Watch 4 รุ่นนี้ ถือว่าทำออกมาได้ตอบโจทย์สไตล์การใช้งานของคนหลายวัยได้เป็นอย่างดี ทั้งดีไซน์ที่มีความเรียบง่ายแต่ลงตัว ไม่ว่าใครก็สวมใส่ได้อย่างพอดี ในแง่การใช้งานก็ถือว่า ยกระดับจากรุ่นก่อนมาได้ค่อนข้างน่าสนใจ โดยการนำเอาระบบปฏิบัติการ “WearOS 3” จาก Google มาใช้ในผลิตภัณฑ์ของ Samsung เป็นครั้งแรก (จากเดิมที่จะใช้ Android มาตลอด) ทำให้รูปแบบการใช้งานมีความลื่นไหลและเสถียร แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมกับฟีเจอร์หลักๆ สำหรับคนรักสุขภาพ ก็ยังคงอยู่ครบถ้วน ใครกำลังเล็ง Smart Watch ของ Samsung ไว้อยู่แล้ว อย่าได้พลาดเลยครับ
2. Garmin VENU 2 Plus
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| ขนาดหน้าจอ 1.3 นิ้ว | ผลิตจากวัสดุโพลิเมอร์และสเตนเลส |
| รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, NFC และ Bluetooth | |
| แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 9-10 วัน / 24 ชั่วโมง ในโหมด GPS | |
| มีฟีเจอร์รองรับสำหรับทุกกิจกรรมที่ต้องการ | |
| ดีไซน์ของปุ่มที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย |
มาดูรุ่นที่มีฟังก์ชันการใช้งานแบบ All-Rounder ไปอีกระดับหนึ่ง กับผลิตภัณฑ์ล่าสุดจากแบรนด์ Garmin ที่เน้นครอบคลุมทุกๆ Activity ในชีวิต แบบจบในเครื่องเดียวจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น การใช้งานด้านสุขภาพ ที่เต็มไปด้วยเซนเซอร์ ตรวจจับได้ทั้ง อัตราการเต้นของหัวใจ ออกซิเจนในเลือด ไปจนถึงระดับความเครียด ให้การดูแลตนเองของคุณเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังรองรับฟีเจอร์อย่าง การสแกนจ่ายเงินแบบไร้เงินสดได้ด้วย (โดยเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนมือถืออีกที) ถือว่าออกมาตอบสนองสังคมยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี แถมยังมีดีไซน์ที่เน้นความสวยงามแบบเรียบง่าย ควบคุมการทำงานได้เพียงแต่ไม่กี่คลิกเท่านั้น
3. Amazfit Bip U Pro
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| ขนาดหน้าจอ 1.43 นิ้ว | ควรตรวจสอบเงื่อนไขการจัดส่งและการรับประกันทุกครั้ง |
| รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, NFC และ Bluetooth | |
| แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 5-9 วัน | |
| ฟีเจอร์ที่เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ | |
| ตัวเรือนบางเฉียบและน้ำหนักเบา |
ถือเป็น Smart Watch ที่เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะครับ กับอีกรุ่นจาก Amazfit ที่บอกว่าเหมาะกับผู้หญิง เพราะเขาชูขึ้นมาเป็นฟีเจอร์หลักเลยครับว่า นี่คือ Smart Watch ที่มีฟีเจอร์ตอบสนองคุณผู้หญิงสายออกกำลังกาย กับโปรแกรมหลักที่เรียกว่า “Women’s Health Tracking” ซึ่งจริงๆ มันก็คือเซนเซอร์ตรวจจับ Activity การออกกำลังของเรา แบบเดียวกับรุ่นอื่นๆ นี่เอง แต่ต่างกันที่ ระดับการวัดค่าชีพจร อัตราการเต้นหัวใจ และเลือด ฯลฯ จะมีระดับค่าพื้นฐานที่ตั้งไว้ ให้เหมาะสมกับคุณผู้หญิงเป็นหลัก สาวๆ ที่ยังไม่รู้จะเปย์ให้กับ Smart Watch รุ่นไหนดีนี่อาจเป็นรุ่นที่คุณกำลังมองหา
4. Apple Watch SE GPS
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| ขนาดหน้าจอ 1.73 นิ้ว | รองรับอุปกรณ์ Add-Ons เฉพาะของ Apple เท่านั้น |
| รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, NFC และ Bluetooth | ผลิตจากอะลูมิเนียม ควรระมัดระวังการกระแทก |
| แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 18 ชั่วโมง | |
| เต็มไปด้วยฟีเจอร์อำนวยความสะดวกครบครัน | |
| รองรับการใช้งานร่วมกับ iPhone โดยเฉพาะ |
มาดูผลิตภัณฑ์ล่าสุด ของอีกหนึ่งแบรนด์ผู้นำเทรนด์ Smart Watch กันบ้างครับ กับ Apple Watch นั่นเอง โดย “Apple Watch SE” ที่ยังคงจุดเด่นในแบบผลิตภัณฑ์ Apple ไว้ครบทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงดีไซน์ที่เน้นความเรียบหรู ใช้งานง่าย และอุดมไปด้วยฟีเจอร์ที่สามารถพร้อมใช้ได้ในทุกๆ เวลาที่เราต้องการ ทั้งในด้านสุขภาพ และที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ส่วนที่ถูกเพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้ก็เช่น ระบบ GPS ในตัวเอง ให้เราสามารถใช้งานฟีเจอร์หลายอย่างได้ผ่าน Smart Watch ทันที โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ตลอดเวลา แต่ถ้าต้องการใช้งานร่วมกับโทรศัพท์ Apple Watch SE ก็ยังคงใช้งานได้ดีร่วมกับ iPhone (รุ่นตั้งแต่ปี 2020 ขึ้นไป) เหมือนเดิม
5. Fitbit Sense
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| ขนาดหน้าจอ 1.58 นิ้ว | ผลิตจากอะลูมิเนียม ควรระมัดระวังการกระแทก |
| รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, NFC และ Bluetooth | |
| แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 6-12 ชั่วโมง | |
| มีฟีเจอร์ที่รองรับและตอบสนองกิจกรรมได้ตลอดทั้งวัน | |
| ดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูล้ำยุค เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ |
ต่อกันด้วย Fitbit Sense ตัวนี้ มาในรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัย น่าใช้งาน สายสามารถปรับได้ค่อนข้างดีและมั่นคง น่าจะโดนใจคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันอำนวยความสะดวกของ Fitbit เอง ที่เต็มไปด้วยฟีเจอร์ที่จำเป็น สำหรับทั้งสายสุขภาพและการใช้งานในชีวิตประจำวันได้แบบครบถ้วน ถือเป็นอีกรุ่นครับที่สามารถช่วยดูแลเราได้ตั้งแต่ตอนตื่น จนกระทั่งตอนนอนเลยทีเดียว
6. HUAWEI WATCH GT 3
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| ขนาดหน้าจอ 1.43 นิ้ว | ควรตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันทุกครั้ง |
| รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, NFC และ Bluetooth | |
| แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 8-14 ชั่วโมง | |
| รองรับการใช้งานในทุกกิจกรรมตลอดวัน | |
| ได้รับการดีไซน์ให้มีความเรียบหรู ต่างจากรุ่นอื่นๆ |
หากถามว่าSmart Watch รุ่นไหนดี Huawei เองก็ถือเป็นอีกแบรนด์ที่ผลิต Smart Watch ออกมาได้อย่างน่าสนใจ และมีความโดดเด่นในแบบของตัวเองครับ โดยสำหรับรุ่น Huawei Watch GT 3 ตัวนี้ ก็ถือว่ายังคงรักษาเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ ในแบบ Huawei เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน ทั้งดีไซน์ที่ดูมีความเรียบหรู ดูเผินๆ จะมีความคล้ายกับนาฬิกาหน้าปัดแบบดั้งเดิมอย่างมาก ซึ่งเป็นดีไซน์ในแบบของ Huawei อยู่แล้ว ส่วนฟีเจอร์การใช้งานก็โดดเด่นไม่แพ้รุ่นอื่นๆ เช่น ระบบเซนเซอร์ที่เรียกว่า “TruSeen” ที่ถูกพัฒนาให้มีความแม่นยำและตอบสนองการใช้งานได้ดีมากขึ้น ไม่ว่าจะทั้ง อัตราการเต้นของหัวใจ และการวัดออกซิเจนในเลือด Huawei ยังถือว่าไว้วางใจในคุณภาพได้เป็นอย่างดีครับ
7. Garmin Fenix 7 Solar Series
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| ขนาดหน้าจอ 1.3 นิ้ว | สายเป็นซิลิโคน ควรระมัดระวังเรื่องความร้อน |
| รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, NFC และ Bluetooth | |
| แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 18 วัน / 24 ชั่วโมง ในโหมด GPS | |
| ฟีเจอร์รองรับสำหรับการผจญภัยโดยเฉพาะ | |
| ดีไซน์เน้นความเท่และดุดัน เหมาะกับคุณผู้ชาย |
Fenix Solar Smart Watch อีกรุ่นจาก Garmin ที่ดูแล้วน่าจะเหมาะกับท่านชายเป็นพิเศษเลย ด้วยรูปทรง ดีไซน์ ที่เน้นความแข็งแรง เท่ ด้วยตัวเรือนแบบสีดำขลับทั้งเรือน กับหน้าจอ DI ที่เน้นหน้าจอสีดำ ไม่ใช่สีสันสดใสแบบ Smart Watch ทั่วไป ถ้ามองในแง่ความเท่ ก็ถือว่ากินขาดสุดๆ พร้อมกับฟังก์ชันในการใช้งาน ที่เกิดมาเพื่อเป็นผู้ช่วยคู่กาย สำหรับการออกไปผจญภัย บุกป่าฝ่าดง โดยเฉพาะ ทั้งการรายงานสภาพอากาศ ตั้งแต่ความสูงจากระดับพื้น ค่าความหนาแน่นในอากาศ ที่ทำงานควบคู่ไปกับฟีเจอร์สุขภาพ ทั้งการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ กับออกซิเจนในเลือด ด้วยกันได้เป็นอย่างดี เป็นรุ่นที่เหมาะกับสายลุยอย่างแท้จริง
8. Samsung Galaxy Watch 5 Pro LTE
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| ขนาดหน้าจอ 1.36 นิ้ว | ผลิตจากวัสดุไทเทเนียม ค่อนข้างมีน้ำหนักมาก |
| รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, NFC และ Bluetooth | |
| แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 3 วัน / 24 ชั่วโมง ในโหมด GPS | |
| ฟีเจอร์รองรับสำหรับการผจญภัยโดยเฉพาะ | |
| ดีไซน์ที่เน้นความแข็งแรงทนทานเป็นหลัก |
มาถึง Smart Watch อีกหนึ่งรุ่นจาก Samsung Galaxy คราวนี้ขยับมาเป็นรุ่นที่ใหม่ขึ้นมาหน่อย นั่นคือ “Samsung Galaxy Watch 5 Pro” นั่นเอง และถือเป็นผลิตภัณฑ์ตัวล่าสุดของ Samsung ในปัจจุบัน โดยจุดเด่นที่แตกต่างจากรุ่นก่อนๆ อย่างชัดเจนก็คือ ตัวเรือนที่เน้นความแข็งแรงทนทานมากขึ้น ด้วยวัสดุที่ผลิตจากไทเทเนียมแบบทั้งเรือน สามารถกันกระแทกและป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีมาก พร้อมกับฟีเจอร์สุขภาพ ที่มาแบบรวมๆ กันในชื่อ “BioActive” ที่รวมทุกๆ ฟีเจอร์ที่จำเป็น สำหรับคนชอบออกกำลังกายโดยเฉพาะ ใครที่ยังคงเลือกไม่ถูกว่า Smart Watch รุ่นไหนดี หรือยี่ห้อไหนดี ที่น่าใช้ Samsung ก็ถือเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่เรายังคงแนะนำครับ
9. Redmi Watch 3 Active
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| ขนาดหน้าจอ 1.83 นิ้ว | สินค้ารับประกันนาน 1 ปี |
| รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, NFC และ Bluetooth | |
| แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 8-12 วัน | |
| มีฟีเจอร์ที่เหมาะมากสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน | |
| ดีไซน์และหน้าจอ UI ที่ดูน่ารัก มีความทันสมัย |
ใครชอบอะไรน่ารักๆ อยากได้ Smart Watch ที่มีความน่ารักกะทัดรัดหน่อย ผลิตภัณฑ์ซีรีส์ Redmi จาก Xiaomi ตัวนี้ ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย ในขณะที่รุ่นอื่นๆ มักจะออกแบบหน้าจอ UI ให้มีความจริงจังและดูเป็นผู้ใหญ่ แต่ Redmi Watch 3 Active ตัวนี้ ถือว่าเป็นการทลายกรอบแบบเดิมๆ ไปเลย ด้วยรูปแบบ UI ที่เน้นความมีสไตล์ ตัวเลขใหญ่ๆ หน้าจอแบบเห็นได้เต็มตา สีสันสดใส เป็นการดีไซน์ที่เน้นเพื่อความสบายตาในการใช้งานโดยเฉพาะ น่าจะโดนใจวัยรุ่นได้ไม่มากก็น้อยเลย ส่วนฟังก์ชันการใช้งานก็ถือว่าไม่น้อยหน้ารุ่นอื่นครับ ยังคงมีครบทั้ง ฟีเจอร์สุขภาพ และการตอบสนองต่อการทำงานร่วมกับสมาร์ตโฟน สำหรับรุ่นนี้ เราเชื่อว่า แค่ในด้านดีไซน์ ก็กินขาดแล้ว ไม่ว่าใครเห็นก็คงต้องชอบแน่นอน
10. Mibro Watch Lite 2
| จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
|---|---|
| ขนาดหน้าจอ 1.3 นิ้ว | รับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไข |
| รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, NFC และ Bluetooth | |
| แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 7-12 วัน | |
| ฟีเจอร์ง่ายๆ ที่จำเป็นสำหรับการทำงานนอกบ้าน | |
| ดีไซน์ที่มีความเป็นผู้ใหญ่ สวยและเรียบหรู |
ปิดท้ายรายชื่อ Smart Watch รุ่นไหนดี แบบเน้นความเป็นผู้ใหญ่อย่างชัดเจนด้วย “Mibro Watch Lite 2” แบรนด์ที่ชื่อไม่ค่อยจะคุ้นตาเราอีกรุ่น แต่สำหรับใครที่ต้องการ Smart Watch ที่เน้นความเรียบง่าย ไม่ต้องมีฟีเจอร์พิเศษอะไรให้ต้องทำความเข้าใจเยอะ รุ่นนี้จะเหมาะกับคุณอย่างแน่นอนครับ เพราะฟังก์ชันการใช้งาน ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้สะดวก หน้าจอมาพร้อมกับระบบ “Always On Display” ให้ฟีเจอร์บางอย่างเช่น เวลา หรือวันที่ ยังสามารถโชว์อยู่บนจออยู่ แม้ว่าจะปิดหน้าจอไปแล้วก็ตาม (เป็นฟีเจอร์ที่หลายๆ รุ่นไม่มี) กับฟีเจอร์สายสุขภาพและการรองรับกิจกรรมในแต่ละวัน ที่ก็ใช้งานได้ดีไม่แพ้รุ่นอื่นๆ เลย แม้ว่าในภาพรวม จะไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากเท่ารุ่นอื่นๆ แต่ถ้าเทียบคุณภาพในการใช้งานจริง ก็ยังถือเป็น Smart Watch ที่น่าใช้อีกตัวครับ
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
Smart Watch ถือเป็นนวัตกรรมอีกอย่างที่เกิดขึ้นมา เพื่อสร้างความสะดวก และทำให้ชีวิตของใครหลายคนง่ายขึ้นได้จริงๆ จนเรียกได้ว่า Smart Watch ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบันไปแล้ว ซึ่งจะดีที่สุด หากเรามี Smart Watch ที่มั่นใจได้ในคุณภาพ สามารถใช้งานได้ยาวนาน และดีไซน์สวยโดนใจ ฉะนั้นแล้ว ใครที่ยังไม่แน่ใจว่า Smart Watch รุ่นไหนดี ถึงจะเหมาะสมกับตัวเองที่สุด ก็ลองเทียบสเปกกับราคาของแต่ละรุ่นดูก่อนได้ครับ ไม่ต้องรีบ เพื่อให้ได้สิ่งที่คู่ควรกับเราจริง ๆ
