“นาฬิกาออกกำลังกาย” (Sport Watch) เป็นไอเทมที่คู่กับคนรักสุขภาพในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเลือกกิจกรรมใดก็ตาม โดยเริ่มเข้ามาแทนที่นาฬิกาแบบทั่วไปมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยจุดเด่นในเรื่องของฟังก์ชันการทำงานที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การติดตามการเคลื่อนไหว การระบุตำแหน่ง ฟีเจอร์การฟังเพลง การประเมินผลการออกกำลังกาย การติดตามการนอน การติดตามรอบเดือน การช่วยทำสมาธิ และอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับคนที่กำลังมองหาอุปกรณ์นี้มาไว้บนข้อมือแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือก นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี วันนี้เรามีมาแนะนำให้ถึง 10 รุ่นด้วยกัน
วิธีเลือกนาฬิกาออกกำลังกาย
หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้สัก 5 ปี นาฬิกาออกกำลังกายมีราคาที่ค่อนข้างสูงทีเดียว แต่ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นประกอบกับมีผู้ผลิตหน้าใหม่เข้ามาลงแข่งขันในตลาดนี้ทำให้อุปกรณ์นี้มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น คุณสมบัติก็แตกต่างกันออกไป แล้วแต่เทคโนโลยีของผู้ผลิตแต่ละราย ดังนั้นก่อนจะไปดูว่า นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับข้อมือคุณ เรามีเคล็ดลับในการเลือกนาฬิกาออกกำลังกายมาให้คุณได้ใช้เป็นแนวทางเบื้องต้นกัน
1. เลือกนาฬิกาออกกำลังกายจากราคา
เนื่องจากปัจจุบันมีนาฬิกาออกกำลังกายถูกผลิตออกมาหลายรุ่น หลายยี่ห้อด้วยกัน คุณสมบัติและราคาก็แตกต่างกันออกไป การจะเลือกนาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดีเอาไว้ใช้ข้อแรกเลยเราจึงควรที่จะมีการกำหนดงบประมาณเอาไว้ในเบื้องต้น เพื่อที่จะได้เลือกรุ่นที่พอดีกับเงินในกระเป๋า เพราะอุปกรณ์นี้มีให้เลือกตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น การกำหนดงบประมาณไว้คร่าวๆ จะช่วยให้เราตัดตัวเลือกที่นอกเหนือจากความต้องการออกไปได้แล้วมาเปรียบเทียบหารุ่นที่มีคุณสมบัติตรงตามที่เรามองหามากที่สุด
2. เลือกนาฬิกาออกกำลังกายจากฟังก์ชันการทำงาน
สิ่งที่ถือว่าสำคัญในอันต้นๆ สำหรับการเลือกนาฬิกาออกกำลังกายก็คือ ฟังก์ชันการทำงานของนาฬิกาแต่ละเรือนนั่นเอง โดยมีทั้งฟังก์ชันการติดตามการเคลื่อนไหวร่างกาย ฟังก์ชันโหมดการออกกำลังกายประเภทต่างๆ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การคำนวณระยะทาง การประเมินผลหรือตั้งเป้าหมายการฝึกฝน ฟังก์ชันติดตามการนอนหลับ ติดตามรอบเดือน การวัดความหนาแน่นของออกซิเจนในเลือก เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งมีหลายฟังก์ชันราคาก็ย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย
3. เลือกนาฬิกาออกกำลังกายจากดีไซน์และวัสดุ
นาฬิกาเป็นเครื่องประดับอย่างหนึ่งที่บ่งบอกรสนิยมของผู้สวมใส่ ดังนั้นดีไซน์การออกแบบจึงสำคัญไม่แพ้ข้ออื่นในการที่จะเลือกว่านาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดีที่น่าจะเหมาะกับข้อมือหรือไลฟ์สไตล์ของเรา โดยมีให้เลือกทั้งดีไซน์แบบสปอร์ต ดีไซน์คลาสสิก ซึ่งส่วนใหญ่สามารถตั้งค่าการแสดงผลหน้าปัดได้หลายแบบ ส่วนสีสันของสายและตัวเรือนนั้นก็มีทั้งสีเข้ม สีหวาน หรือสีสดใส เรียกว่าชอบแบบไหนก็เลือกกันตามสะดวก ทั้งนี้น้ำหนักของนาฬิการวมสายไม่ควรใส่แล้วรู้สึกว่าหนักหรือรัดแน่นจนเกินไป
4. เลือกนาฬิกาออกกำลังกายจากความทนทานและอายุการใช้งานแบตเตอรี่
ข้อต่อมาที่ต้องพิจารณาก็คืออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ว่าการชาร์จ 1 ครั้ง สามารถใช้ได้นานกี่วัน ทั้งในโหมดปกติและโหมดเปิดการใช้งาน GPS ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะแตกต่างกันไปขึ้นกับชนิดและความจุของแบตเตอรี่ ส่วนในเรื่องของความทนทานนั้นสามารถพิจารณาได้จากชนิดของกระจกหน้าจอว่าแข็งแรงแค่ไหน มีความสามารถในการกันน้ำหรือไม่ เพราะนาฬิกาประเภทนี้มักต้องสัมผัสกับเหงื่อหรือมีโอกาสเปียกฝนเมื่อออกไปข้างนอก ทางที่ดีควรเลือกรุ่นที่สามารถใส่ว่ายน้ำได้ สามารถกันน้ำได้ที่ระดับ 5ATM หรือ 50 เมตร
5. เลือกนาฬิกาออกกำลังกายจากการเชื่อมต่อ
การเชื่อมต่อเป็นอีกปัจจัยที่ควรต้องให้ความสำคัญในการจะเลือกนาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดีเอาไว้ใช้งาน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะรองรับการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันของทางผู้ผลิตผ่านทางหน้าจอสมาร์ทโฟนเพื่อประเมินผลและตั้งค่าการทำงานและการแจ้งเตือนต่างๆ หรือบางรุ่นอาจรองรับการใช้งานแอปพลิเคชันเพื่อความบันเทิงอย่างการฟังเพลง หรือมี GPS ในตัวเอง โดยหากเป็นแบบ Stand Alone ราคาก็มักจะสูงกว่า
6. เลือกนาฬิกาออกกำลังกายจากยี่ห้อและการรับประกันสินค้า
อย่างที่บอกว่านาฬิกาออกกำลังกายนั้นมีหลายแบบหลายยี่ห้อ คุณภาพและราคาก็แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ ใช้งานได้คุ้มค่าเงินจึงควรเลือกจากยี่ห้อที่ได้มาตรฐานและเป็นที่รู้จัก อาทิ FITBIT, Samsung, HUAWEI, Apple, SUUNTO, Xiaomi, Garmin เป็นต้น นอกจากนี้ต้องไม่ลืมตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันด้วยว่าครอบคลุมในเรื่องใดบ้าง และนานแค่ไหน เพื่อที่หากเกิดปัญหาขึ้นเราจะได้สามารถเคลมได้นั่นเอง
แนะนำ 10 อันดับ นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี 2023
อ่านมาถึงตรงนี้น่าจะพอทำให้คุณได้ทราบถึงแนวทางในการเลือกนาฬิกาออกกำลังกายกันบ้างแล้วว่าต้องพิจารณาจากเรื่องใดบ้าง คราวนี้เรามาเข้าสู่รายชื่อของ 10 อันดับ นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี 2023 กันเลย ว่ามีเรือนไหน ยี่ห้อใดที่น่าจะเหมาะสมกับข้อมือของคุณบ้าง
1. นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อ FITBIT รุ่น Ionic
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ GPS ในตัว | ไม่รองรับ Menu ภาษาไทย |
กันน้ำได้ 5 ATM ใส่ว่ายน้ำได้ | หาสายเปลี่ยนค่อนข้างยาก |
มีโหมดการออกกำลังกายที่หลากหลาย | |
รองรับการใช้งานร่วมกับ Fitbit OS |
มาเริ่มต้นรายชื่อ นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี 2023 กันด้วย FITBIT Ionic หนึ่งในรุ่นยอดนิยมรุ่นหนึ่งก็ว่าได้เนื่องจากมีราคาที่ไม่สูงเกินเอื้อมแต่ฟีเจอร์การใช้งานครบถ้วนสำหรับคนรักการออกกำลังกาย มาพร้อมหน้าจอที่คมชัด ความสว่างสูงมองเห็นได้ชัดเจน น้ำหนักเบาใส่สบาย แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 4 วัน กันน้ำได้ที่ 5ATM ใส่ว่าน้ำได้ รองรับการใช้งานร่วมกับแอป Fitbit OS เพื่อตั้งค่าและประเมินผลการออกกำลังกาย มีโหมดโค้ชให้ใช้งาน รองรับการออกกำลังกายหลายแบบ อาทิ วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เดินบนลู่ มีโหมดแจ้งเตือนให้เคลื่อนไหว ฟีเจอร์ติดตามการนอน
2. นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อ KENTO LITE
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
เชื่อมต่อได้ทั้ง iOS และ Android | รองรับเมนูภาษาไทย |
เลือกหน้าปัดได้มากกว่า 100 แบบ | ไม่ค่อยมีสายให้เลือกปลี่ยน |
กันน้ำได้ในระดับ IP67 | |
มีฟีเจอร์ตรวจสุขภาพเบื้องต้น |
หากกำลังมองหานาฬิกา ออกกำลังกายรุ่นไหนดีที่มีราคาเบาๆ แต่รองรับฟีเจอร์เพื่อสุขภาพพร้อมฟังก์ชันในการทำงานที่หลากหลาย ขอแนะนำ นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อ KENTO LITE ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการพื้นฐานของสมาร์ทวอชทั่วไป เชื่อมต่อได้ทั้งแอนดรอย์และ iOS รองรับการแจ้งเตือน ต่างๆ รับสายโทรเข้า ได้หมด ดีไซน์สวยงามน่าใช้ด้วยหน้าปัดขอบกลมมน เรือนบางเฉียบ สามารถเปลี่ยนดิสเพลย์ได้มากกว่า 100 แบบ แถมมีระบบดูแลสุขภาพไม่ว่าจะเป็นวัดชีพจร อัตราการเต้นหัวใจ และฟีเจอร์การออกกำลังกายทั้งในร่มและเอ้าท์ดอร์ พร้อมมาตรฐานกันน้ำ IP67 และแบตเตอรี่ขนาด 220 mAh ที่สามารถสแตนบายได้ถึง 30 วันอีกด้วย
3. นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อ SUUNTO รุ่น SUUNTO 7
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ได้หน้าจอ AMOLED ที่ทั้งสว่างและคมชัด | ไม่มีโหมด interval Training |
รองรับแอป Suunto Sport มีโหมดกีฬากว่า 70 แบบ | ไม่มีฟีเจอร์ติดตามการนอนหลับ |
ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon Wear 3100 | |
รองรับเมนูภาษาไทย |
ใครยังไม่รู้จะเลือก นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี SUUNTO 7 คือรุ่นที่ไม่ควรมองข้าม เพราะครบถ้วนทั้งการออกแบบ ฟังก์ชันการทำงาน และการประมวลผลที่รวดเร็ว โดยมากับหน้าจอแบบ AMOLED ที่ทั้งสว่างและคมชัด ประมวลผลด้วยชิป Snapdragon Wear 3100 จากทาง Qualcomm มีโหมดการออกกำลังกายมากถึง 70 ชนิด อาทิ ฟิตเนส, ว่ายน้ำ, วิ่ง, กิจกรรมผจญภัยต่างๆ มีเซ็นเซอร์และระบบ GPS ที่แม่นยำ แสดงผลแบบเรียลไทม์ ตัวเรือนกันน้ำได้ 50 เมตร แบตเตอรี่ใช้ได้ประมาณ 2 วัน รองรับทั้ง Android และ iOS งานสร้างถือว่าลงตัวเอามากๆ
4. นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อ Xiaomi รุ่น Mi Watch 2 Lite
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
หน้าจอสีขนาด 1.55 นิ้ว เปลี่ยนหน้าปัดได้หลายแบบ | รองรับการชาร์จแม่เหล็ก |
มาพร้อมโหมดการออกกำลังกาย 17 แบบ | มีเซ็นเซอร์ SPO2 |
มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ | |
มีฟีเจอร์ติดตามการนอน |
Xiaomi Mi Watch 2 Lite นาฬิกาออกกำลังกายที่มากับความคุ้มค่ามากที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดด้วยราคาที่ไม่สูงมากแต่มีลูกเล่นที่ครบครันสำหรับคนรักสุขภาพหรือต้องการนาฬิกาอัจฉริยะเอาไว้สวมใส่ มาพร้อม GPS ในตัว หน้าจอมีขนาด 1.55 นิ้ว กันน้ำได้ที่ระดับ 5 ATM โดยสามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอได้ถึง 100 รูปแบบ แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสุดที่ 10 วัน รุ่นนี้มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจและติดตามการนอนหลับ ใส่โหมดการออกกำลังกายมาถึง 17 แบบ อาทิ เคลื่อนไหวแบบ Freestyle, เดิน, วิ่ง, ว่ายน้ำ, ปั่นจักรยาน และ Cricket พร้อมคำแนะนำในการออกกำลังกาย ลองเทียบสเปคกับราคาดูว่าถูกใจคุณหรือไม่
5. นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อ Garmin รุ่น Forerunner 245
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ดีไซน์สวยงาม มีหลายสีให้เลือก | ไม่มีเซ็นเซอร์วัดระดับความสูง |
แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 1 สัปดาห์ | ไม่รองรับ Garmin Pay และ NFC |
มีโหมดการฝึกฝนสำหรับนักวิ่ง รองรับ Garmin Connect | |
มีฟังก์ชันวัดระดับออกซิเจนในเลือด |
พูดถึง นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี จะขาด Garmin ไปได้อย่างไร เพราะเป็นแบรนด์ชั้นนำที่คนรักสุขภาพทั่วโลกต่างวางใจ สำหรับ Garmin Forerunner 245 นั้นชื่อรุ่นก็บอกอยู่ในตัวว่าสร้างขึ้นมาเพื่อนักวิ่งตัวจริงด้วยคุณสมบัติที่ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นระบบการฝึกฝนที่เหมือนมีโค้ชส่วนตัว ระบบติดตามและประเมินผลที่แม่นยำ เพื่อใช้พัฒนาการวิ่ง รองรับ Garmin Connect ให้คุณไม่โดดเดี่ยวแต่มีชุมชนที่สามารถแบ่งปันข้อมูลกันได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันวัดระดับความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด ติดตามการนอนหลับ การรายงานสภาพร่างกาย หรือจะใช้สำหรับการออกกำลังกายแบบอื่นก็สามารถทำได้เช่นกัน
6. นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อ Realme รุ่น Realme Watch S
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ดีไซน์สวยงาม น้ำหนักเบา ทนทาน | หน้าจอเป็นแบบ LCD เท่านั้น |
มีโหมดการออกกำลังกายมาให้ 16 ประเภท | ไม่มี built-in GPS |
มีเซ็นเซอร์ SpO2 วัดระดับออกซิเจนในเลือด | |
แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 15 วัน |
Realme Watch S นาฬิกาออกกำลังกายราคาประหยัดอีกรุ่นที่หลายคนใช้แล้วถูกใจ เพราะถึงราคาจะเบาแต่ฟังก์ชันจัดเต็มเพื่อคนรักสุขภาพ มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 1.3 นิ้ว ปรับความสว่างได้เอง หน้าจอและตัวเรือนผลิตด้วยโลหะและกระจกที่มีความทนทาน กันน้ำระดับ IP68 แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 15 วันด้วยกัน มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอาทิ เซ็นเซอร์ SpO2 วัดระดับออกซิเจนในเลือด, เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ติดตามการนอนหลับ, เตือนให้เคลื่อนไหวร่างกาย, เตือนให้ดื่มน้ำ, โหมดออกกำลังกายใส่มา 16 แบบ ในช่วงราคาเดียวกันบอกเลยว่าหาตัวจับยาก
7. นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อ HUAWEI รุ่น HUAWEI Watch GT2 (42 mm)
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ดีไซน์ระดับพรีเมียม ใส่แบบแฟชั่นได้ | เหมาะสำหรับข้อมือของคุณผู้หญิง |
มีโหมดกีฬามาให้ 15 แบบ | |
วัดอัตราการเต้นของหัวใจตอนว่ายน้ำได้ | |
มีฟังก์ชันวัดระดับความเครียด ติดตามการนอนหลับ |
ปฏิเสธไม่ได้ว่า HUAWEI คือหนึ่งในผู้ผลิตนาฬิกาอัจฉริยะที่โดดเด่นรายหนึ่งของวงการ ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้า HUAWEI Watch GT2 (42 mm) ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โดยมากับดีไซน์เรียบหรูทันสมัยบนตัวเรือนขนาด 42 mm เหมาะกับข้อมือของสาวๆ หน้าจอเป็นแบบ AMOLED ขนาด 1.2 นิ้ว สีสันคมชัด รองรับ HUAWEI Health สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจตอนว่ายน้ำได้ มีฟังก์ชันติดตามการนอน ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ มีโหมดออกกำลังกาย 15 แบบ กันน้ำได้ที่ 5 ATM ใครหานาฬิกาเรือนไม่ใหญ่มาก น้ำหนักเบา รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ทีเดียว
8. นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อ Amazfit รุ่น Amazfit GTS 2
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ปรับเปลี่ยนหน้าปัดได้มากกว่า 70 แบบ | ดีไซน์ไม่โดดเด่นนัก |
มีโหมดการออกกำลังกาย 60 ประเภท | |
มีเซ็นเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด | |
กันน้ำได้ที่ระดับ 5 ATM ใส่ว่ายน้ำได้ |
Amazfit GTS 2 นาฬิกาออกกำลังกายราคากลางๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับคนรักสุขภาพได้อย่างลงตัว มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.65 นิ้ว เคลือบสารป้องกันลายนิ้วมือ สามารถกันน้ำได้ถึง 50 เมตร ใส่โหมดกีฬามามากถึง 60 แบบทั้งในร่มและกลางแจ้ง เช่น แอโรบิก โยคะ ว่ายน้ำ วิ่ง พายเรือ รองรับแอปพลิเคชัน Zepp เพื่อการตรวจสอบค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อัตราการเต้นของหัวใจ, ปริมาณออกซิเจนในเลือด, ข้อมูลการเคลื่อนไหวร่างกาย, ระดับความเครียด, การนับก้าว, การติดตามการนอนหลับ มีการแจ้งเตือนหากพบว่าอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ ใครยังไม่รู้จะเลือก นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี รุ่นนี้ก็ลงตัวไม่น้อย
9. นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อ Apple รุ่น Apple Watch Series 6 GPS + Cellular
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ใช้งานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟน | ราคาค่อนข้างแพง |
ปรับปรุงการวัดค่าออกซิเจนในเลือดใหม่ | ไม่รองรับหน้าปัดจาก Third-Party |
แจ้งเตือนเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ | |
ฟังก์ชันการทำงานครบถ้วนที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด |
ไปให้สุดกับ Apple Watch Series 6 GPS + Cellular นาฬิกาออกกำลังกายจากซีรีส์ยอดนิยมแถวหน้าของวงการ ซึ่งต้องบอกว่าแม้ราคาจะค่อนข้างสูงแต่เทียบกับคุณสมบัติแล้วทำให้หลายคนเต็มใจที่จะควักกระเป๋าให้กับรุ่นนี้ โดยมาพร้อมหน้าจอแบบ Retina ที่สว่างขึ้น แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น ตัวเรือนแข็งแรง ทนทาน สามารถใส่ว่ายน้ำได้ มีการปรับปรุงเซ็นเซอร์ต่างๆ มาให้สมบูรณ์มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการวัดค่าออกซิเจนในเลือด การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การตรวจจับการลื่นล้ม ตรวจอัตราการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติพร้อมแจ้งเตือน มีโหมดการออกกำลังกายที่หลากหลาย ฟังก์ชันเพื่อความบันเทิงต่างๆ การติดต่อสื่อสาร เรียกว่าครบถ้วนที่สุดตอนนี้ก็ว่าได้
10. นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อ IMILAB รุ่น KW66
จุดเด่น | ข้อสังเกต/คำแนะนำ |
---|---|
ดีไซน์สวยงาม ราคาไม่แพง | น้ำหนักค่อนข้างเยอะ |
มีโหมดการออกกำลังกายทั้งหมด 13 แบบ | แผงหน้าจอเป็นแบบ TFT-LCD |
มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 | |
แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 30 วัน |
ปิดท้ายรายชื่อนาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี 2023 กันด้วย IMILAB KW66 ไอเทมราคาประหยัดที่บอกเลยว่าฟังก์ชันต่างๆ นั้นให้มาเยอะเกินค่าตัว โดยมากับหน้าจอแบบ TFT-LCD ขอบโค้งขนาด 1.28 นิ้ว เปลี่ยนหน้าปัดได้ 40 แบบ ทนทานด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 แบตเตอรี่สามารถใช้ได้นานสุดถึง 30 วัน ใส่โหมดออกกำลังกายมาทั้งหมด 13 แบบ รองรับแอปพลิเคชัน Only Fit ในการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ 24/7 พร้อมติดตามการนอนหลับ การนับจำนวนก้าวที่เดินในแต่ละวัน พร้อมควบคุมการเล่นเพลงได้จากนาฬิกา จะซื้อใช้เองหรือซื้อเป็นของขวัญก็ประหยัดเงินในกระเป๋า
บทส่งท้ายจากผู้เขียน
ผ่านไปแล้วกับรายชื่อ 10 อันดับ นาฬิกาออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี 2023 ที่เราคัดสรรมาให้คุณได้เลือกกันอย่างจุใจ หลากรุ่นหลายยี่ห้อ ในช่วงราคาที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้คุณมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเหมาะสมกับงบประมาณมากที่สุด ซึ่งจะเห็นได้ว่าหากเน้นการออกกำลังกายพื้นฐานหรือการติดตามการนอนหลับและวัดอัตราการเต้นของหัวใจ หลายรุ่นค่อนข้างที่จะตอบโจทย์ในราคาที่ไม่แพงมากจนเกินไปนัก ลองเปรียบเทียบกันในรายละเอียดอีกครั้งว่ารุ่นไหนที่ลงตัวกับคุณมากที่สุด